ตอนที่ 575 ชนะแล้ว

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 575 ชนะแล้ว

หากไม่เป็นที่หมายตาขององค์รัชทายาท อย่างมากก็แค่โดนลงโทษ ทว่า หากองค์รัชทายาทถูกใจนาง ผู้ใดในตระกูลต่งจะกล้าหักหน้าองค์รัชทายาทลงโทษนางกัน ดังนั้นต่งถิงจือจึงกล้าทำเช่นนี้

เป็นจริงดั่งที่ต่งเหล่าไท่จวินกล่าว นางไม่ได้มั่นใจในความงามของตัวเอง หากกล่าวถึงความงาม…องค์หญิงเจิ้นกั๋วไป๋ชิงเหยียนซึ่งเป็นญาติผู้พี่ของนางผู้นั้นจึงจะเรียกได้ว่างดงามน่าตราตรึง นางไม่คิดว่าองค์รัชทายาทจะทรงโง่เขลาจนมองจุดประสงค์ของนางไม่ออกว่านางต้องการบอกเป็นนัยให้องค์รัชทายาทรับรู้ว่าตระกูลต่งยังมีบุตรสาวอยู่…และนางพร้อมที่จะรับใช้พระองค์

ทว่า เมื่อนางเดินออกมาจากศาลาแปดเหลี่ยม นางกลับถูกคนของหวังหมัวมัวจับตัวมาที่เรือนของต่งเหล่าไท่จวินทันที ดูเหมือนว่าต่งเหล่าไท่จวินจะไม่เปิดโอกาสให้นางทอดสะพานหาองค์รัชทายาทแน่นอน

หญิงสาวดิ้นรน อยากจะโต้เถียง อยากบอกต่งเหล่าไท่จวินว่าการส่งตัวนางไปปรนนิบัติรับใช้องค์รัชทายาทมีแต่จะเป็นผลประโยชน์ต่อตระกูลต่ง

ทว่า ต่งเหล่าไท่จวินไม่มีทีท่าจะสั่งให้คนเอาผ้าออกจากปากของนางแม้แต่น้อย นางมองไปที่ต่งถิงจือซึ่งคุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยแววตาคมกริบ “ท่านปู่ของเจ้าเคยบอกว่าวิธีที่ตระกูลไป๋ใช้ปฏิบัติต่อบุตรอนุคือวิธีที่ดี เมื่อเกิดมาไม่ให้พวกเขาได้มีโอกาสพบหน้ามารดาผู้ให้กำเนิด ส่งไปเลี้ยงดูข้างกายภรรยาเอกตั้งแต่ต้น ทว่า ข้าเองที่ใจอ่อน คิดไม่ถึงเลยว่าอี๋เหนียงของเจ้าจะเลี้ยงเจ้าจนกลายเป็นคนมีนิสัยเช่นนี้!”

เมื่อต่งถิงจือได้ยินต่งเหล่าไท่จวินกล่าวลามไปถึงอี๋เหนียงของตัวเอง นางเบิกตาโพลงทันที รีบก้มศีรษะอ้อนวอนต่งเหล่าไท่จวิน

ต่งถิงจือรู้ดีว่ามารดาของตัวเองใช้วิธีสกปรกเพื่อให้ได้เข้ามาอยู่ในจวนต่ง มารดาของนางเข้ามาในจวนต่งโดยมีท่านผู้เฒ่าสามเป็นคนเบิกทาง ยัดเยียดมารดาของนางให้แก่บิดาของนาง ดังนั้นมารดาของนางและนางจึงไม่เป็นที่โปรดปราน อี๋เหนียงมีชีวิตอยู่ในจวนอย่างยากลำบาก นางพยายามทุกวิถีทางเพราะอยากให้อี๋เหนียงมีชีวิตที่ดีกว่านี้

“ตั้งแต่เล็กจนโต เจ้าทำผิดไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ข้าเห็นว่าเจ้ายังเด็กจึงทำเพียงสั่งสอนไม่ได้ลงโทษ เจ้าจึงกลายเป็นอย่างทุกวันนี้ บัดนี้ข้าไม่อยากเสียเวลาสั่งสอนเจ้าอีกแล้ว นับแต่วันนี้พวกเจ้าสองแม่ลูก คนหนึ่งไปทำความสะอาดวัดสักระยะ อีกคนไปใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ที่นั่นเลย” ต่งเหล่าไท่จวินไม่อยากเห็นต่งถิงจืออีกจึงหลับตาลงพลางนับลูกประคำในมือ “หวังหมัวมัวนำตัวออกไปเถิด สั่งให้คนเตรียมรถม้าส่งพวกนางไปวัดบัดนี้เลย อย่าให้มีสิ่งใดผิดพลาดเป็นอันขาด”

ต่งถิงจือส่ายหน้า นางร้องไห้อ้อนวอนท่านย่า ทว่า นางถูกผ้าอุดปากแน่นจึงทำได้เพียงส่งเสียงอู้อี้ออกมา น้ำตาไหลอาบใบหน้าด้วยความหวาดกลัวสุดขีด

หวังหมัวมัวรับคำ เตรียมสั่งให้สาวใช้ข้างกายออกไปสั่งให้คนเตรียมรถม้าก็เห็นสาวใช้คนหนึ่งแหวกม่านเข้ามาด้านในอย่างรีบร้อน นางทำความเคารพอยู่ด้านนอกฉากกั้นอย่างร้อนรนพลางกล่าวขึ้น “เหล่าไท่จวิน กงกงข้างกายขององค์รัชทายาทกล่าวว่าองค์รัชทายาทมีของจะพระราชทานให้แก่คุณหนูถิงจือ เชิญให้คุณหนูถิงจือออกไปรับเจ้าค่ะ”

ต่งเหล่าไท่จวินกระชับมือที่นับลูกประคำอยู่แน่น ดวงตาคมกริบกวาดมองไปนอกฉากกั้น

องค์รัชทายาททรงเอ่ยปากด้วยตัวเอง ต่งเหล่าไท่จวินจะกล้าหักหน้าองค์รัชทายาทส่งตัวนางไปวัดอีกหรือไม่

ต่งถิงจือที่ถูกจับให้นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นใจชื้นด้วยความดีใจ สำเร็จแล้ว! นางทำสำเร็จแล้ว!

ต่งถิงจือมองไปทางต่งเหล่าไท่จวินที่นั่งสง่าอยู่บนเตียงทั้งน้ำตา ความรู้สึกดีใจจากความสำเร็จที่ได้รับเข้ามาแทนที่ความหวาดกลัวเมื่อครู่

ต่งถิงจือออกแรงสะบัดตัวหญิงชราที่จับกุมนางอยู่ นางยืดแผ่นหลังตรงมองไปทางต่งเหล่าไท่จวิน หากไม่ใช่เพราะถูกอุดปากอยู่ นางคงหัวเราะออกมาดังๆ แล้ว

ครั้งนี้นางชนะแล้ว! ขอเพียงนางกลายเป็นสนมคนโปรดขององค์รัชทายาทแม้แต่หญิงแก่ตายอยากอย่างต่งเหล่าไท่จวินก็ต้องนอบน้อมเมื่ออยู่ต่อหน้านาง

ยิ่งหากองค์รัชทายาทได้สืบทอดบัลลังก์ต่อจากฮ่องเต้ ฐานะของนางและท่านย่าผู้สูงส่งของนางก็จะแตกต่างกันลิบลับ เมื่อท่านย่าผู้นี้เจอนางก็ยังต้องโค้งกายคำนับนาง ก้มศีรษะให้นาง ฟังนางเทศนาอย่างนอบน้อม

ต่งถิงจือหันไปจ้องหวังหมัวมัวเขม็ง ส่งเสียงร้องอู้อี้ให้หวังหมัวมัวรีบปล่อยตัวนาง

“เหล่าไท่จวินเจ้าคะ” หวังหมัวมัวเริ่มประหม่าเล็กน้อย นางหันไปมองทางต่งเหล่าไท่จวินที่มีสีหน้าเคร่งเครียด

“คารวะองค์หญิงเจิ้นกั๋วพ่ะย่ะค่ะ!”

ต่งเหล่าไท่จวินยังไม่ทันเอ่ยสิ่งใดก็ได้ยินเสียงเฉวียนอวี๋กงกงกล่าวทักทายไป๋ชิงเหยียนดังขึ้นเสียก่อน

สีหน้าของต่งเหล่าไท่จวินหวั่นไหวเล็กน้อย นางหันไปมองทางหน้าต่าง

ไป๋ชิงเหยียนก้มศีรษะให้เฉวียนอวี๋ สายตาหยุดอยู่ที่ป้ายหยกในมือของเฉวียนอวี๋ กล่าวยิ้มๆ “องค์รัชทายาทพระราชทานให้ญาติผู้น้องของข้าอย่างนั้นหรือ”

“พ่ะย่ะค่ะ!” ใบหน้าของเฉวียนอวี๋เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“องค์รัชทายาททรงพระราชทานรางวัลให้ ท่านยายและญาติผู้น้องของข้าคงต้องเปลี่ยนเครื่องแต่งกายก่อนออกมารับมอบ บัดนี้องค์รัชทายาททรงประทับอยู่ในจวนต่ง จะปล่อยให้เฉวียนอวี๋กงกงมาเสียเวลารอยู่ที่นี่จนไม่มีเวลากลับไปปรนนิบัติองค์รัชทายาทมิได้ หากเฉวียนอวี๋กงกงเชื่อใจข้า ให้ข้านำของไปมอบให้ญาติผู้น้องแทนดีหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ

เฉวียนอวี๋คิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยื่นป้ายหยกในมือให้ไป๋ชิงเหยียน “เช่นนั้นรบกวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”

องค์รัชทายาทไม่ได้ตรัสว่าให้ต่งถิงจือรับมอบป้ายหยกด้วยตัวเอง องค์หญิงเจิ้นกั๋วหวังดีกลัวว่าผู้อื่นจะรับใช้องค์รัชทายาทได้ไม่ดี นางเอ่ยปากขึ้นเช่นนี้แล้ว เฉวียนอวี๋จะปฏิเสธได้อย่างไรกัน

ไป๋ชิงเหยียนรับป้ายหยกมา ก้มหน้าลูบไปที่เนื้อหยกเบาๆ จากนั้นเดินออกไปส่งเฉวียนอวี๋ที่นอกเรือน แสร้งเอ่ยถามอย่างไม่ตั้งใจ “องค์รัชทายาททรงพอพระทัยในการตกแต่งเรือนที่พักอาศัยจึงพระราชทานรางวัลให้ญาติผู้น้องหรือ”

เฉวียนอวี๋เหลือบมองสาวใช้ที่เดินตามหลังอยู่ไม่ห่างออกไปแวบหนึ่ง จากนั้นกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนเสียงเบา “วันนี้คุณหนูถิงจือบรรเลงพิณรำลึกถึงพี่ชายของนางที่ศาลาแปดเหลี่ยมใกล้ที่พักขององค์รัชทายาทองค์รัชทายาททรงชื่นชมในฝีมือและความรักพี่น้องของนางจึงพระราชทานรางวัลให้พ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า เมื่อก้าวออกจากประตูเรือนจึงกล่าวขึ้น “กงกงเดินกลับดีๆ เจ้าค่ะ”

เฉวียนอวี๋โค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียน จากนั้นพาคนเดินจากไป

ไป๋ชิงเหยียนกำป้ายหยกไว้ในมือ สายตามองนิ่งไปยังโคมไฟทองแดงนกกะเรียนที่วางอยู่สองข้างทางเดินหิน ลมพัดเย็นสบาย ใบไม้ไหวเอื่อยๆ

หญิงสาวหันไปสั่งสาวใช้ “ไปเชิญท่านน้าชายมาที่เรือนของท่านยาย!”

ไป๋ชิงเหยียนก้าวเข้าไปในห้องของต่งเหล่าไท่จวิน หญิงสาวมองดูต่งถิงจือที่ถูกมัดมือ เท้าและปากอีกทั้งโดนหญิงชรากดให้คุกเข่านิ่งอยู่บนพื้นแวบหนึ่ง จากนั้นเดินผ่านม่านและฉากกั้นเข้าไปด้านใน

ลำคอของต่งถิงจือร้อนผ่าว ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเมื่อถูกไป๋ชิงเหยียนปรายตามองเช่นนี้นางถึงรู้สึกเสียวสันหลังวาบ

“ท่านยาย” ไป๋ชิงเหยียนย่อกายทำความเคารพต่งเหล่าไท่จวิน

ใบหน้าของต่งเหล่าไท่จวินส่อแววเหนื่อยล้า นางยื่นมือให้ไป๋ชิงเหยียน

ไป๋ชิงเหยียนจับมือของต่งเหล่าไท่จวินแล้วนั่งลงข้างกายนาง

“เจ้ารู้เรื่องนี้แล้วหรือ…” ต่งเหล่าไท่จวินถอนหายใจออกมาเบาๆ เดิมทีนางอยากจัดการเรื่องนี้อย่างเงียบเชียบ ไม่ให้ไป๋ชิงเหยียนต้องเปลืองแรง

นับตั้งแต่ที่ตระกูลไป๋เกิดเรื่องขึ้น หลานสาวของนางเหมือนเดินอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบางๆ นางต้องมีสติและระวังตัวอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้คงเหนื่อยเต็มที ต่งเหล่าไท่จวินจึงไม่อยากเอาเรื่องเล็กน้อยเพียงนี้ไปกวนใจไป๋ชิงเหยียน

“เดิมทียายอยากไว้ชีวิตถิงจือและส่งนางไปที่วัด หากองค์รัชทายาทตรัสถามถึงก็อ้างว่าไปบำเพ็ญภาวนาขอพรให้หญิงแก่อย่างยาย ทว่า บัดนี้องค์รัชทายาทให้คนนำป้ายหยกมามอบให้นาง หากฝืนส่งตัวนางจากไป องค์รัชทายาทอาจทรงไม่พอพระทัย คงเริ่มหวาดระแวงในตระกูลต่งแน่” ต่งเหล่าไท่จวินกัดฟันกรอด กำลูกประคำในมือแน่น

ต่งถิงจือที่อยู่นอกฉากกั้นตัวสั่นเทาอย่างรุนแรง เดิมทีอยากไว้ชีวิตนางอย่างนั้นหรือ แล้วตอนนี้เล่า

องค์รัชทายาทตรัสเช่นนี้แล้ว ต่งเหล่าไท่จวินยังกล้าเอาชีวิตนางอีกหรือ!