กวนเซ่าเผิงเดินตามซู่จี้งยี้ไปที่ออฟฟิศของลี่จีถอง เมื่อกวนเซ่าเผิง เข้ามาในออฟฟิศ ก็เห็นลี่จีถองมองเขาด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์ ทำให้กวนเซ่าเผิงยิ่งตื่นตระหนก ยืนอยู่ตรงนั้นตลอดเวลา
ลี่จีถองไม่พูด ส่วนกวนเซ่าเผิงก็ลืมที่จะช่วยตัวเองแก้ตัว จากนั้นซู่จี้งยี้วางคอมไว้บนโต๊ะทำงานของลี่จีถอง
“กวนเซ่าเผิง ใส่รหัสคอมของคุณหน่อยสิ”
กวนเซ่าเผิงเดินเข้าไปแต่โดยดี และคีย์รหัสเข้าไป แต่เนื่องจากเขาตื่นเต้น ถึงแม้รหัสนี้ปรกติเขาจะจำแม่นยำแค่ไหน ตอนนี้เขากลับคีย์ผิดตั้งหลายครั้ง ในที่สุดกวนเซ่าเผิงก็คีย์ถูกต้องจนได้ จากนั้นดันคอมไปให้กับซู่จี้งยี้
ซู่จี้งยี้กดเข้าไปดูอีเมล ข้างในอีเมลฉบับสุดท้ายส่งออกมาเมื่อคืน เนื้อหาในนั้นเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับทางการแพทย์ด้านยาและเอกสารอื่นๆ ของโปรเจค
ซู่จี้งยี้หันหน้าจอคอมไปข้างหน้าลี่จีถอง “ประธานลี่ มีอีเมล นี่ก็คือหลักฐาน”
ลี่จีถองเหลือบไปมองคอม แล้วเหลือบไปดูกวนเซ่าเผิงที่รีบพุ่งเข้ามาดูคอม
กวนเซ่าเผิงเห็นอีเมลฉบับนั้นในกล่องเมล์ของเขา ใบหน้าที่แสดงออกคือตกใจมาก
“ประธานลี่ ผมถูกใส่ร้าย เรื่องนี้ผมไม่ได้ทำจริงๆ อีเมลฉบับนี้ผมไม่ได้เป็นคนส่ง ผมทำงานที่บริษัทมาตั้งนานหลายปี เงินเดือนค่าตอบแทนที่บริษัทให้ผมก็พอใจมาก ผมจะทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง และทำอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้ ประธานลี่ คุณต้องเชื่อผมนะ!”
ลี่จีถองเห็นท่าทางคลุ้มคลั่งเล็กน้อยของกวนเซ่าเผิงแล้ว สีหน้าเย็นชา
“อีเมลฉบับนี้หมายความว่ายังไง?”
“ประธานลี่ ผมไม่รู้เรื่องจริงๆ
“แล้วมีใครอีกที่รู้เรื่องคอมและรหัสไฟล์ของคุณอีกบ้าง?”
กวนเซ่าเผิงนึกตรึกตรองดู ไม่มีใคร แต่เมื่อคืนตอนที่เขาคีย์รหัสนั้น กู้เฟยหลินอยู่ข้างๆ แต่เธอหันหลังให้ อีกอย่างเธองดงามและไร้เดียงสามากขนาดนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะทำเรื่องแบบนี้ ดังนั้นกวนเซ่าเผิงจึงตัดเธอออกได้อัตโนมัติ
“ไม่มี ประธานลี่ รหัสของผมมีผมคนเดียวเท่านั้นที่รู้ อีกอย่าง รหัสของผมซับซ้อนมาก คนธรรมดาทั่วไปจำไม่ได้หรอก”
ลี่จีถองสังเกตท่าทางของกวนเซ่าเผิง ก็รู้แล้วว่าเขาน่าจะไม่ได้โกหก คนที่ปล่อยความลับออกไปต้องเป็นอื่นแน่นอน แต่ว่าตอนนี้ กวนเซ่าเผิงทำโปรเจคนี้ต่อไม่ได้อีกแล้ว
“เอาอย่างนี้ คุณพักงานก่อน เอาโปรเจคที่รับผิดชอบอยู่มอบหมายให้คนอื่น ถ้าไม่มีใครทำได้ ก็ส่งโปรเจคมาให้ผม ให้เรื่องผ่านไปก่อนแล้วค่อยมาคุยกันอีกที เรื่องนี้ความจริงเป็นยังไง ต้องรอให้ตรวจสอบก่อนถึงจะรู้ได้ ถ้าเรื่องนี้คุณเป็นคนทำจริง แสดงว่าคุณมีความเกี่ยวข้องในการขโมยความลับทางการค้าของบริษัท”
“ไม่ว่าจะเป็นเกลกรุ๊ปหรือเป็นคุณ ก็ต้องเข้ากระบวนการกฎหมาย นอกเหนือจากคุณสามารถหาหลักฐานได้ เพื่อมายืนยันความบริสุทธิ์ของคุณหรือยืนยันว่าเรื่องนี้คุณเป็นคนทำ”
“ประธานลี่ ไม่ใช่ผมจริงๆ” กวนเซ่าเผิงพูดออกมาอย่างร้อนรน
“ในเมื่อคุณพูดตลอดว่าคุณไม่ได้ทำ ถ้าอย่างนั้นคุณก็ให้ความร่วมมือกับบริษัทในการสืบสวนเรื่องนี้ก็แล้วกัน”
“ได้ ประธานลี่ ผมให้ความร่วมมือบริษัทในการสืบสวนเรื่องนี้อยู่แล้ว แค่หวังว่าถ้าหาหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ผมได้แล้ว ประธานลี่จะยังคงจ้างผมทำงานต่ออีก”
กวนเซ่าเผิงเห็นยังมีโอกาสอยู่ อารมณ์จึงกลับคืนสู่ปรกติเล็กน้อย
ลี่จีถองรับปากเขา จากนั้นให้ซู่จี้งยี้พากวนเซ่าเผิงเข้าไปในห้องประชุมข้างๆ เพื่อสอบสวนเขา และก่อนจะพบหลักฐาน ก็ให้กวนเซ่าเผิงพักอาศัยอยู่ที่นั่นก่อน
ซู่จี้งยี้สอบถามเขาเมื่อวันกลับบ้านประมาณกี่โมง และในเวลานั้นมีใครทำโอทีบ้าง และช่วงนี้มีใคร
เข้าใกล้คอมของเขาบ้าง
หรือมีสถานการณ์อะไรแปลกๆ เกิดขึ้นบ้าง
กวนเซ่าเผิงตอบตามความจริงทุกอย่าง แต่เขาก็ยังคงตัดกู้เฟยหลินออกไปอัตโนมัติ。
หลังจากที่สอบสวนเสร็จ ซู่จี้งยี้ได้บอกเขาเกี่ยวกับคำสั่งที่ลี่จีถองสั่งมา
“ความหมายของประธานลี่คือ ให้คุณพักที่นี่ก่อน ก่อนที่จะพบหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ของคุณ และข้างในนี้มีห้องพักผ่อนขนาดเล็กอยู่ ในนั้นมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบทุกอย่าง แค่พื้นที่เล็กไปหน่อยเท่านั้นเอง คุณก็ทนอยู่ไปก่อน และถ้าคุณต้องการอะไรเพิ่มอีก เดี๋ยวลิสท์รายการมาให้ผม ผมจะหาคนไปซื้อมาให้คุณ”
กวนเซ่าเผิงตอบตกลงแต่โดยดี
จากนั้น ซู่จี้งยี้ได้ไปที่ห้องควบคุมดูแลกล้องวงจรปิด ให้พนักงานในห้องหาวิดีโอออกมาดู เขาดูกล้องวงจรปิดตั้งแต่ต้นจนจบ แต่เขาก็ไม่เห็นความผิดปกติใดๆ
ซู่จี้งยี้ไม่เห็นความผิดปรกติอยู่แล้ว เพราะวิดีโอวงจรปิดนี้ได้มีคนมาแก้ไขก่อนแล้ว
ที่แท้ คนที่อยู่เวรห้องควบคุมกล้องวงจรปิดเมื่อคืนนี้ ได้ถูกลี่หยูนห่วนติดสินบนไปแล้ว ความจริงแล้วคนที่อยู่เวรเมื่อคืนเป็นอีกคนหนึ่ง แต่คนที่ถูกลี่หยูนห่วนติดสินบนได้ขอเปลี่ยนเวรกับคนคนนี้ ก็เพื่อจะช่วยกู้เฟยหลินให้สะดวกในการปฏิบัติภารกิจได้ดียิ่งขึ้น
หลังจากที่กู้เฟยหลินเห็นรหัสคอมพิวเตอร์ของกวนเซ่าเผิงเมื่อวันนี้ ก็โทรหาบุคคลนี้ และแจ้งให้เขาทราบโดยด่วน
เมื่อคืนนี้ หลังจากที่กู้เฟยหลินเลิกงานแล้วได้โทรหาบุคคลคนนี้ เพื่อแจ้งเขาว่าหลังจากนั้นอีกหนึ่งชั่วโมง เธอจะกลับมาอีกครั้ง เมื่อถึงเวลานั้นให้เขาเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
บุคคลคนนั้นได้ตอบตกลง และแจ้งจุดบอดกล้องวงจรของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปให้เธอทราบอีกด้วย เพื่อให้เธอสะดวกในการหลบมุมกล้อง
หลังจากที่กู้เฟยหลินกลับถึงบ้านแล้ว ได้โทรศัพท์หาอลัน
“คุณอลัน เดี๋ยวสักพักฉันจะลงมือแล้ว เดี๋ยวฉันจะส่งข้อมูลเข้าไปในอีเมลของคุณ
“คุณใช้อีเมล?งั้นก็เปิดเผยตัวตนของคุณแล้วสิ?”
“ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้น ที่จะไปใช้อีเมลของตัวเอง ฉันต้องใช้อีเมลของกวนเซ่าเผิงอยู่แล้ว ก็พอดีเลยจะได้โยนเรื่องนี้ว่าเขาเป็นคนทำ โยนเรื่องที่หมดไปที่ตัวเขา และถ้าราบรื่นอาจขจัดเขาออกไปได้ และหลังจากนี้คนที่จะขัดขวางฉันก็จะน้อยไปอีกคน”
“ฮ่าๆๆ คุณนี่ช่างโหดเหี้ยมจริงๆ แต่ผมชอบ ถ้าเช่นนั้นก็ขอให้คุณประสบความสำเร็จก่อนล่วงหน้าเลยนะ”
“ขอบคุณมากคุณอลัน เมื่อถึงเวลานั้น ก่อนที่ฉันจะเข้าไปในบริษัทฉันจะโทรแจ้งคุณก่อน คุณรอรับอีเมลได้เลย”
หลังจากที่กู้เฟยหลินโทรศัพท์เสร็จ ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ไม่ดึงดูดสายตาคนอื่นมากนัก จากนั้นเปลี่ยนการแต่งหน้า ให้ตัวเองดูธรรมดามากที่สุด และได้ฝึกท่าอีกสองสามท่าที่คิดไว้ เพื่อป้องกันเวลาที่ถูกถ่ายภาพ แกล้งทำเหมือนคนอื่นเพื่อไม่ให้ถูกจับได้
หลังจากที่เตรียมตัวพร้อมแล้วกู้เฟยหลินก็ออกเดินทางไปที่บริษัท และหลังจากเสร็จธุระแล้วได้แจ้งพนักงานที่คุมห้องกล้องวงจรปิดจากนั้นจึงกลับออกไป
หลังจากนั้น พนักงานดูแลห้องกล้องวงจรปิด รีบตัดภาพของกู้เฟยหลินออกในข้ามคืนนั้น และสามารถโยนความผิดให้กวนเซ่าเผิงได้อย่างราบรื่น
หลังจากที่ซู่จี้งยี้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเสร็จ จึงขึ้นไปรายงานลี่จีถอง
หลังจากที่ลี่จีถองฟังเสร็จ ก็ไม่รู้สึกแปลกใจเลยสักนิด
“ครั้งนี้ฝ่ายตรงข้ามเตรียมความพร้อมไว้ก่อนแล้วอย่างเห็นได้ชัด และการตรวจสอบที่ปรกติ หาจุดบกพร่องไม่เจอก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว”
“คุณบอกผมเกี่ยวกับผลที่ตรวจสอบได้ก่อน จากนั้นส่งวิดีโอของกล้องวงจรปิดให้ซิงโม่ ผมคิดว่าต้องมีคนไปทำอะไรกับวิดีโอนี้แน่นอน หลังจากนี้คุณก็แอบสืบข้อมูลในบริษัท”
“ทางด้านลูกค้า เดี๋ยวผมไปดูแลเอง ส่วนพนักงานเซลล์ในแผนกการตลาดก็ไม่ต้องไปสนใจ พวกเขาควรทำยังไงก็อย่างงั้นต่อไป”
ซู่จี้งยี้รับคำสั่ง