บทที่ 621 พาคุณไปดูละครเรื่องเด็ด

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

เจียงหยุนเอ๋อเองก็เห็นเรื่องนี้ในข่าววันนี้แล้วเช่นกัน เธอเป็นกังวลอย่างมาก แต่ก็ไม่กล้าไปรบกวนงานของลี่จุนถิงเช่นกัน

โม่เสี่ยวฮุ่ยมองดูเธอที่กำลังคิ้วขมวดเป็นปมและปลอบโยนเธอ

“อย่ากังวลไปเลย จุนถิงจัดการกับมันได้แน่ เธอดูสิว่ามีวิกฤตก่อนหน้านี้ครั้งไหนบ้างที่จุนถิงแก้ไม่ได้ ตอนนี้เธอแค่ผ่อนคลายหน่อยเถอะ”

แม้ว่าเจียงหยุนเอ๋อจะไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก แต่ในใจเธอก็ยังคงกังวล เธอเองก็รู้ดีว่าอารมณ์ของตนในตอนนี้ไม่ควรจะเป็นแบบนี้ แต่ก็ยังไม่อาจควบคุมมันได้

ตอนกลางคืน ในช่วงพักผ่อน เจียงหยุนเอ๋อก็ยังคงอดไม่ได้ที่จะถามลี่จุนถิง

“จุนถิง ตอนนี้… คุณตัดสินใจจะทำยังไง?”

ลี่จุนถิงที่กำลังนวดขาของเจียงหยุนเอ๋อ ได้ยินเข้าก็ยังไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดถึงอะไร

“หืม? อะไรนะ?”

เจียงหยุนเอ๋อกัดริมฝีปากเบาๆและถามอีกครั้ง

“ฉันหมายถึง คุณจะทำยังไงกับบริษัท”

เมื่อเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อยังคงกังวลเกี่ยวกับบริษัท ลี่จุนถิงก็วางขาของเธอลงและนั่งลงข้างเธอ สองมือประคองใบหน้าของ เจียงหยุนเอ๋อเอาไว้ ให้เธอมองดูตัวเอง

“ยัยเด็กโง่ ไม่ต้องกังวลไป สามีคุณเป็นใครกัน คุณไม่ต้องห่วง ผมมีวิธีหาฆาตกรมากมาย ยิ่งไปกว่านั้น โครงการนั้นต่อให้พวกเขาประกาศออกมาแล้วก็ไม่มีประโยชน์ ยังมีบางสูตรที่ไม่ได้รับการพัฒนาอย่างสมบูรณ์ มีข้อบกพร่องอยู่อีกมากมาย พวกเขารีบร้อนปล่อยมันออกมา คนที่โชคร้ายก็คือพวกเขาเอง คุณรอดูละครสนุกๆเถอะ”

เจียงหยุนเอ๋อถูกลี่จุนถิงจับเอาไว้จนตั้งตัวไม่ทันไปครู่หนึ่ง

คิ้วและดวงตาที่คมลึกของลี่จุนถิงล้วนสะท้อนภาพของเธอในเวลานี้ ราวกับกระแสวนที่ดึงดูดผู้คนเข้าไปจนถอนตัวไม่ขึ้น อีกทั้งยังมีรอยยิ้มบางๆประดับอยู่ ดังนั้นถึงแม้ว่าเจียงหยุนเอ๋อจะได้ยินคำอธิบายของลี่จุนถิงแล้ว แต่สมองของเธอก็ฟุ้งซ่านไปไกลก่อนแล้วและไม่เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร แต่ในเมื่อลี่จุนถิงเอ่ยอธิบายขึ้นมาแล้วเธอเองก็โล่งใจ

เมื่อลี่จุนถิงเห็นสายตาของเจียงหยุนเอ๋อที่กำลังมองตนอย่างหมกมุ่น หัวใจของเขาก็รู้สึกเต็มเปี่ยมขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดวงตาคู่นั้นกำลังเปล่งประกายเพราะเขา ดวงตาคู่นั้นที่มองเห็นเพียงเขาเท่านั้น สร้างความพอใจเต็มเปี่ยมโดยไม่มีเหตุผลขึ้นมาให้ตัวเขาอยู่เสมอ

เมื่อมองไปที่ดวงตาของเจียงหยุนเอ๋อ ลี่จุนถิงก็มีอารมณ์เล็กน้อย เขาก้มศีรษะลงและจูบริมฝีปากบางอย่างที่คิดเอาไว้มานาน เสียงที่คลุมเครือระหว่างริมฝีปากและไรฟันเปล่งแฝงความร่าเริง “เด็กโง่ มีสติได้แล้ว”

สมองของเจียงหยุนเอ๋อถูกจูบของเขาทำเอามึนงงไป บวกกับปฏิกิริยาของเธอที่หลังจากตั้งครรภ์ก็เห็นได้ชัดว่าไม่เร็วเหมือนเมื่อก่อน เธอไม่ได้ปฏิเสธ แต่กลับมีท่าทีลังเลขึ้นมา หลังจากผ่านไปชั่ววินาที เสียงหวานอ่อนก็ค่อยๆออกมาจากริมฝีปากและฟันของเธอเป็นระยะๆ

“คุณเบา เบาหน่อย” น้ำเสียงขาดห้วงราวกับแมวกำลังร้องคราง อีกทั้งยังแฝงด้วยการข่มอารมณ์และอ้อนวอน “อย่ากัดฉันสิ”

ปลายน้ำเสียงแฝงด้วยความเย้ายวนและมีเสน่ห์ที่ไม่สามารถบรรยายจนทำให้หัวใจของคนคันยุบยิบ

ดวงตาล้ำลึกของลี่จุนถิงส่องประกายวาววับราวกับหมาป่า “ไม่กัดคุณแล้วให้กัดใคร? หืม?”

เขาประคองเอวบางอ่อนของเธอ แม้ว่าเจียงหยุนเอ๋อจะตั้งครรภ์ท้องใหญ่แล้ว แต่เอวของเธอก็ยังคงทำให้คนมึนเมาอยู่ไม่วาย

ริมฝีปากที่แต่เดิมประกบปิดริมฝีปากสีแดงของเธอค่อยๆเคลื่อนตัวลงไปรอบ ๆ คาง ก่อนจะแทะเล็มเธออย่างช้าๆ “เครื่องโม่หินตัวน้อย ไม่กัดคุณแล้วจะให้กัดใคร? เรียกเสียงอ่อนขนาดนี้ คิดจะวางกับดักใส่ใครกัน?”

เจียงหยุนเอ๋อไม่ได้ฟังคำถามของลี่จุนถิงเลยสักนิด ต่อให้ฟังเธอก็ตอบไม่ได้ แต่สติของเธอยังคงจับสองประโยคที่มีความหมายเหมือนกันเอาไว้ ลี่จุนถิงจับมือและจูบเธอแรงขึ้นเล็กน้อย ตอนนั้นเองที่ค่อยมีเสียงตอบกลับอย่างอ้อนวอนอยู่บ้าง

“กัดฉัน กัดฉัน…” พูดจบมือก็ค่อยๆเอื้อมมือออกไปดึงสายชุดคลุมอาบน้ำอย่างระมัดระวัง “คุณช่วยกัดเบาๆ ได้ไหม ฉันกลัวเจ็บ”

ท่าทางน่าสงสารบวกกับน้ำตาที่ไหลออกมาจากหางตา สีหน้าที่เต็มไปด้วยความประจบเอาใจ ยิ่งทำให้ดูน่าดึงดูดกว่าเดิม

เมื่อมองไปยังเจียงหยุนเอ๋อในตอนนี้ ลี่จุนถิงก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาดูเหมือนจะเจ็บปวดมากขึ้นไปหมดทั้งบนและล่าง

“ยัยคนจุกจิก” ลี่จุนถิงเอ่ยพูด ก่อนจะจูบลงที่คางของเธออย่างอ่อนโยนราวกับปลอบโยน น้ำเสียงอ่อนทุ้มแฝงรอยยิ้มน้อยๆ “คุณภรรยา ผมทนไม่ไหวแล้ว คุณช่วยผมหน่อยได้ไหม?”

เสียงของลี่จุนถิงต่ำและแหบพร่า ส่วนเจียงหยุนเอ๋อนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาพูดอะไร จนกระทั่งลี่จุนถิงจับมือของเธอไปสัมผัสเข้ากับบางสิ่งที่ทั้งแข็งและร้อน เจียงหยุนเอ๋อถึงค่อยมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งที่ลี่จุนถิงเพิ่งพูด

เจียงหยุนเอ๋อคิดจะสลัดออกแต่ว่าความแข็งแกร่งของลี่จุนถิงนั้นมีมากอย่างยิ่งจนเธอไม่สามารถสลัดออกได้เลย เจียงหยุนเอ๋อพยายามดิ้นรนและดันคว้าบางอย่างไว้ในมือของเธอโดยไม่ทันระมัดระวังเข้าพอดี ลี่จุนถิงอดไม่ได้ที่จะร้องออกมาอย่างอึดอัด ใบหน้าเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของเจียงหยุนเอ๋อยิ่งเปลี่ยนเป็นสีแดงมากขึ้น

“หยุนเอ๋อ คุณขยับหน่อย ขยับสักหน่อยสิ”

เจียงหยุนเอ๋อขยับขึ้นลงด้วยความอับอายอย่างยิ่ง แต่หลังจากนั้นไม่นาน มือของเธอก็ปวดเมื่อยไปหมด จนเธอต้องถามอย่างระมัดระวัง

“จุนถิง คุณได้หรือยังน่ะ มือของเมื่อยไปหมดแล้ว”

“อีกแป๊บหนึ่ง ใกล้แล้ว คุณช่วยรออีกแป๊บหนึ่งนะ” เสียงของลี่จุนถิงในตอนนี้ยิ่งเริ่มแหบพร่ามากขึ้น

“คุณรีบหน่อยสิ ฉันเหนื่อยนะ”

เมื่อลี่จุนถิงได้ยินเสียงเจือความสะอื้นของเจียงหยุนเอ๋อ เขาก็รีบปล่อยมือของเจียงหยุนเอ๋ออย่างรวดเร็ว และจูบที่ริมฝีปากของเธออย่างอ่อนโยน และลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ เจียงหยุนเอ๋อที่ได้ยินเสียงในห้องน้ำก็อับอายจนถึงกับเอาหน้าซุกหมอน แต่เนื่องจากคืนนี้เธอเหนื่อยเกินไป เมื่อลี่จุนถิงออกมาอีกครั้ง เจียงหยุนเอ๋อก็หลับไปแล้ว

ลี่จุนถิงเห็นเจียงหยุนเอ๋อที่กำลังหลับใหลก็ก้มลงไปจูบเธอที่หน้าผากของเธอเบาๆ และช่วยปรับท่าทางของเธอ จากนั้นจึงโอบเธอเข้ามาในอ้อมแขนและผล็อยหลับไป

เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อลี่จุนถิงตื่นขึ้นก็รู้สึกสดชื่นปลอดโปร่ง เจียงหยุนเอ๋อในอ้อมแขนของเขาก็ตื่นแล้วเช่นกัน เมื่อนึกไปถึงเรื่องเมื่อคืนเธอก็ยังคงเขินอายอยู่บ้าง

ลี่จุนถิงยิ้มขึ้นมา ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้และพูดกับเจียงหยุนเอ๋ออย่างลึกลับว่า

“รีบลุกขึ้นเถอะ หลังทานอาหารแล้วผมจะพาคุณไปดูละครสนุกๆ”

เจียงหยุนเอ๋อสงสัยอย่างมาก แต่ลี่จุนถิงกลับปฏิเสธไม่ยอมบอกเธอก่อน ดังนั้นจึงได้แต่ต้องลุกจากเตียงอย่างไร้หนทาง

หลังอาหารเช้า ลี่จุนถิงก็โอบเจียงหยุนเอ๋อเอาไว้พร้อมกับนั่งดูข่าวในแท็บเล็ตของเขาไปด้วย เจียงหยุนเอ๋อซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขาและหลับตาพักผ่อน

แต่จู่ๆ ลี่จุนถิงก็ปลุกเธอขึ้นและยื่นแท็บเล็ตไปตรงหน้าเธอ ให้เธอดูข่าวล่าสุด

เนื้อหาหลักของข่าวคือ หน่วยงานด้านการแพทย์ออกมากล่าวว่าแม้ว่าข้อมูลทางการแพทย์ที่ออกโดยเกลกรุ๊ปหลังจากการวิจัยและพัฒนาเสร็จสิ้นจะประโยชน์ต่อมนุษยชาติ แต่ว่า สูตรปัจจุบันที่มีการเผยแพร่ออกไปนั้นยังไม่ได้เสร็จสิ้นการวิจัยอย่างสมบูรณ์ และอาจส่งผลเป็นภัยต่อชีวิตมนุษย์

มีข้อบกพร่องอยู่ในข้อมูลนี้ อีกทั้งตัวยาที่อยู่ในนั้นก็ไม่ได้ถูกจัดมาอย่างดีพอ หากตอนนี้ออกสู่ตลาดไปเท่ากับต้องการฆ่าคนกิน

ทางการยังเรียกร้องให้ประชาชนอย่าได้วางใจยาใดๆ ที่จดทะเบียนทางการค้าโดยที่ยังไม่ได้รับความร่วมมือจากสถาบันทางการแพทย์

เพียงแค่ชั่วพริบตา เกลกรุ๊ปก็ตกเข้าสู่กระแสลมปากแหลมคมของผู้คนทันที

เกลกรุ๊ปแต่เดิมที่รู้สึกดีใจยกใหญ่ที่แย่งข้อมูลนี้มาได้ คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อปล่อยออกไป จะถูกออกมาชี้แจงแบบนี้