บทที่ 591 กุ้ยสวิ้นเหอถูกจับ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 591 กุ้ยสวิ้นเหอถูกจับ

บทที่ 591 กุ้ยสวิ้นเหอถูกจับ

กุ้ยสวิ้นเหอโซเซไปมา กระโจนไปข้างหน้า ร่างกายสั่นเทาและใช้นิ้วอังจมูกภรรยา

มันคือความจริง!

กุ้ยซื่อไม่หายใจแล้วจริง ๆ!

กุ้ยสวิ้นเหอทรุดตัวลงกับพื้นด้วยความหวาดกลัว หัวใจแหลกสลายกลายเป็นขี้เถ้า เมื่อมองไปที่ร่างของกุ้ยซื่อที่เริ่มแข็งทื่อ กุ้ยสวิ้นเหอรู้สึกราวกับว่าท้องฟ้ากำลังจะถล่มลงมา

“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?” กุ้ยสวิ้นเหอกอดกุ้ยซื่อ และตะโกนด้วยความโศกเศร้า “ก่อนข้าไป แม่ของเจ้าก็ยังดี ๆ อยู่เลยไม่ใช่หรือ ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ไปได้ล่ะ?” หลังจากพูด ดูเหมือนว่ากุ้ยสวิ้นเหอจะค้นพบบางสิ่ง “ตงเหมยล่ะ? ตงเหมยอยู่ที่ไหน?”

“ท่านพ่อ ท่านแม่เข้ามาช่วยข้าเลยถูกตงเหมยทุบตีจนตาย!” กุ้ยชุนเจียวตะโกนเสียงดัง

“เจ้าพูดอะไร? แล้วตงเหมยล่ะ?” กุ้ยสวิ้นเหอเหลือบมองไปรอบ ๆ แต่เขาไม่เห็นร่างของกุ้ยตงเหมย มีเพียงชามยาที่ยังไม่ได้ดื่มอยู่ข้างเตียง

“นางไปไหนแล้ว?” กุ้ยสวิ้นเหอตะโกนด้วยความเศร้าโศกและขุ่นเคือง

จากนั้นเขาก็ตบตัวเองและร้องไห้ออกมา “ครอบครัวกุ้ยของข้าทำบาปอะไรไว้ ทำไมถึงเลี้ยงเด็กที่โหดเหี้ยมขนาดนี้ขึ้นมาได้! โอ้สวรรค์! ทำไมท่านเง็กเซียนถึงลงโทษข้าเช่นนี้!”

เมื่อกุ้ยชุนเจียวเห็นกุ้ยสวิ้นเหอตบหน้าตนเองอย่างรุนแรง นางจึงรีบคลานไปคว้ามือของกุ้ยสวิ้นเหอ แล้วพูดอย่างโศกเศร้าว่า “ท่านพ่อ ท่านพ่อ อย่าทำเช่นนี้ อย่าทำเช่นนี้!”

เมื่อเห็นท่าทางกังวลและหวาดกลัวของกุ้ยชุนเจียว กุ้ยสวิ้นเหอก็กอดกุ้ยชุนเจียวและพูดอย่างทุกข์ใจ “ชุนเจียว ข้าไปทำอะไรในชีวิตก่อนหน้านี้ ข้าถึงให้กำเนิดลูกสาวที่ชื่อกุ้ยตงเหมยออกมาได้ นางเกือบจะทำร้ายเจ้า ตงเหมยสมควรได้รับในสิ่งที่สมควรได้รับ ตอนนี้นางยังฆ่าแม่ของเจ้าอีก โอ้สวรรค์…”

“ท่านพ่อ ท่านอย่าเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตงเหมย นางก็ยังเป็นน้องสาวของข้า! ท่านพ่อรีบไปหานางเถิด นางเสียสติไปแล้ว ถ้านางถูกคนร้ายจับตัวไปอีกครั้งล่ะ!” กุ้ยชุนเจียวพูดอย่างกังวลใจ

กุ้ยชุนเจียวกังวลเรื่องความปลอดภัยของกุ้ยตงเหมยมาก ตอนนี้นางเสียสติ ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อนางวิ่งออกไปข้างนอกเช่นนี้

ทันทีที่กุ้ยสวิ้นเหอได้ยิน เขาก็เช็ดน้ำตาอย่างรวดเร็วและตอบรับทันที

เมื่อมองไปที่กุ้ยซื่อที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็ราวกับมีมีดกรีดหัวใจ

ไม่ว่ากุ้ยสวิ้นเหอจะเกลียดหรือไม่ชอบกุ้ยตงเหมยมากแค่ไหน นางก็ยังเป็นลูกสาวของเขาเอง

กุ้ยซื่อเสียชีวิตไปแล้ว นางกลับมาไม่ได้แล้ว แต่ลูกสาวของนางยังมีชีวิตอยู่!

นางได้รับความทุกข์มากจนเสียสติไปแล้ว

กุ้ยสวิ้นเหอวางแผนที่จะตามหากุ้ยตงเหมย และดูแลงานศพของกุ้ยซื่อ

แต่ความคิดนี้ก็ยุ่งเหยิงไปหลังจากกุ้ยซื่อตายได้สองวัน

มีคนจากทางการมาที่บ้าน โดยบอกว่ากุ้ยสวิ้นเหอทำร้ายร่างกายกุ้ยซื่อจนถึงแก่ชีวิต เขาถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมและถูกจับกุมโดยทางการ ปรากฏว่าคนที่ฟ้องเจ้าหน้าที่คือหมอที่รักษากุ้ยซื่อในครั้งที่แล้ว หมอได้ส่งคนไปแอบดูครอบครัวกุ้ยมาโดยตลอด คราวนี้เมื่อเห็นกุ้ยซื่อเสียชีวิต จึงนำเรื่องที่กุ้ยสวิ้นเหอทำร้ายกุ้ยซื่อจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต ในไม่ช้าเรื่องนี้ก็ถูกรายงานไปยังทางการ และเขายังได้รับรางวัลเป็นเงินอีกด้วย

กุ้ยสวิ้นเหอถูกนำตัวไปโดยทางการก่อนที่เขาจะเริ่มดูแลงานศพของกุ้ยซื่อ

กุ้ยชุนเจียวจ้องเขม็งไปที่บ้านหลังนี้ซึ่งเคยมีความสุขมาก่อน ในพริบตา การตาย เสียสติ ถูกจับ และนางถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว!

นางตื่นตระหนกอย่างสมบูรณ์

ต่อมามีผู้อาวุโสในหมู่บ้านมาช่วยดูแลงานศพของกุ้ยซื่อ กุ้ยชุนเจียวจึงฟื้นตัวได้

นางไปที่ว่าการอำเภอเพื่อช่วยกุ้ยสวิ้นเหอ แต่เงินทั้งหมดในบ้านได้ถูกใช้ไปจนหมด และก็ไม่สามารถช่วยผู้เป็นบิดาได้

กุ้ยสวิ้นเหอถูกตัดสินว่ามีความผิด และเขาจะถูกประหารชีวิตหลังฤดูใบไม้ร่วง!

กุ้ยชุนเจียวตะลึงทันที!

กุ้ยสวิ้นเหอโศกเศร้าถึงขีดสุดและขอให้นางตามหากุ้ยตงเหมย และอวยพรให้สองพี่น้องมีชีวิตที่ดีและไม่ทำร้ายกันเอง

กุ้ยชุนเจียวโศกเศร้า หากแต่ยอมตอบรับเงียบ ๆ ตามคำขอของกุ้ยสวิ้นเหอ

หลังจากนางพักอยู่ที่บ้านได้สองสามวัน นางก็หายตัวไปอย่างลึกลับ

ครอบครัวกุ้ยทั้งหมดในหมู่บ้านอู๋ซีหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

กู้เสี่ยวหวานนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลาจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวกุ้ยบ้าง

กุ้ยตงเหมยทำสิ่งที่โหดร้ายเช่นนี้ กู้หนิงอันและคนอื่น ๆ จึงไม่ต้องการสื่อสารกับผู้คนในครอบครัวกุ้ย นับประสาอะไรกับการบอกพี่สาวของพวกเขาเกี่ยวกับครอบครัวกุ้ย นั่นจะทำให้พี่สาวของเขาฟุ้งซ่านและไม่สามารถฟื้นตัวได้ดี

ในช่วงเวลานี้ เจ็ดหรือแปดวันผ่านไป

กู้เสี่ยวหวานส่งกู้หนิงอันกลับไปที่สำนักศึกษาแต่เช้า

นอกจากกุ้ยชุนเจียวและกุ้ยตงเหมยก็ไม่มีใครรู้ว่ากู้เสี่ยวหวานก็ถูกลักพาตัวเช่นกัน

เมื่อพูดกับคนภายนอก เขาบอกเพียงว่านางพบสิ่งไม่สะอาดบนภูเขาและโดนลมจนเป็นหวัด กู้หนิงอันกล่าวเช่นเดียวกันกับครอบครัวสวี

ในช่วงนี้ สวีเฉิงเจ๋ออยู่ที่เมืองรุ่ยเสียนตลอดเวลา และยังไม่กลับมา เขาจึงไม่รู้เกี่ยวกับความเจ็บป่วยของกู้เสี่ยวหวาน

ฮูหยินสวีและสวีเซียนหลินก็มาเยี่ยมกับกู้หนิงอันหนึ่งครั้ง มากล่าวคำทักทายและนำอาหารเสริมมาให้

หลี่ฝานกังวลมาก เขาแวะมาหาเป็นระยะ ๆ และนำสิ่งดี ๆ มาให้มากมาย

เมื่อกู้เสี่ยวหวานสามารถเดินได้ หลี่ฝานก็ยังมาที่นี่ เมื่อเห็นเขาส่งสิ่งของห่อใหญ่และห่อเล็กมาที่บ้าน กู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกเกรงใจเล็กน้อย “ท่านลุงหลี่ ข้าสบายดีแล้ว ท่านไม่ต้องมาแล้ว กิจการในร้านอาหารก็ยุ่งมาก ข้าเกรงว่านี่จะเป็นการถ่วงเวลาของท่าน!”

หลี่ฝานโบกมือโดยไม่คิดและพูดว่า “ไม่ต้องพูดอะไร ข้าจะไม่วางใจจนกว่าเจ้าจะมาทำบัญชีในเมืองได้ เมื่อถึงตอนนั้นข้าจะวางใจ!”

เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินสิ่งนี้ นางรู้สึกอบอุ่นใจเป็นอย่างมาก

แม้ว่านางจะไม่มีความห่วงใยและความรักจากพ่อแม่ของนาง แต่นางก็ยังมีความห่วงใยและความรักจากผู้อาวุโสอย่างลุงหลี่ ลุงจาง และป้าจาง

กู้เสี่ยวหวานเคยได้ยินกู้หนิงผิงพูดว่าในช่วงเวลาที่นางหายตัวไป หลี่ฝานแทบจะเสียสติให้ได้

ทุกคนถูกเรียกตัวมาหาเขาเพื่อให้ปกปิดข่าวที่ว่ากู้เสี่ยวหวานถูกลักพาตัวไป หลี่ฝานแทบจะเสียสติ

กู้เสี่ยวหวานรู้สึกขอบคุณมาก

แม้ว่าหลี่ฝานผู้นี้จะเป็นคนนอก แต่เขาก็เหมือนลุงแท้ ๆ ของนาง ไม่สิ เขาปฏิบัติต่อนางดีกว่าลุงแท้ ๆ ของนางเสียอีก

“ขอบคุณท่านลุงหลี่!” กู้เสี่ยวหวานกล่าวขอบคุณ

หลี่ฝานพ่นลมหายใจแต่ไม่ปฏิเสธอีกต่อไป และพูดอย่างเคร่งขรึม “เสี่ยวหวาน ดูแลตัวเองให้ดี! ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าชีวิตของเจ้าเอง!”

กู้เสี่ยวหวานพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น