บทที่ 592 โดนวิญญาณชั่วร้ายสิง

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 592 โดนวิญญาณชั่วร้ายสิง

บทที่ 592 โดนวิญญาณชั่วร้ายสิง

เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานดูเหนื่อยล้า หลี่ฝานก็เตือนกู้เสี่ยวหวานให้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และเขาก็เดินทางกลับร้าน

แต่ก่อนจะจากไป เขาคว้าตัวกู้หนิงผิงและเอ่ยถาม แต่แล้วก็ต้องประหลาดใจจนเบิกตากว้าง

“เห็นว่ามีเตียงเสริมอยู่ในบ้านเจ้า เป็นเตียงของเจ้าใช่หรือไม่?”

กู้หนิงผิงไม่คิดว่าหลี่ฝานจะเอ่ยถามประโยคนี้โดยตรง จึงไม่ได้เตรียมตัว เขาส่ายศีรษะอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า “ไม่ใช่! ไม่ใช่เตียงของข้า แต่เป็นเตียงของอาจารย์ข้า!”

ไม่ไกลมีคนได้ยินเสียงของกู้หนิงผิง และแอบสาปแช่งลับ ๆ ในใจ

เมื่อเห็นว่าการแสดงออกของหลี่ฝานค่อนข้างแปลก เขาบอกกู้หนิงผิงให้ดูแลพี่สาวของเขาอย่างดี จากนั้นเขาก็นั่งรถม้าออกไป

ฉินเย่จือออกมาจากความมืด ตอนนี้เขาซ่อนตัวอยู่หลังบ้านที่ไม่มีใครมองเห็น

เมื่อเห็นฉินเย่จือกลับเข้ามาในบ้าน กู้หนิงผิงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “อาจารย์ไปที่ไหนมา? ท่านพี่กำลังมองหาท่านอยู่!”

ฉินเย่จือกลอกตาให้เขา และเข้ามาในห้องอย่างเงียบ ๆ

กู้หนิงผิงมองเห็นความไม่พอใจในดวงตาของเขาอย่างชัดเจน กู้หนิงผิงรู้สึกงงงวยเล็กน้อยและลูบจมูกของเขาแผ่วเบา

ตนเองทำให้อาจารย์ขุ่นเคืองตอนไหนกันนะ?

กู้หนิงผิงตกตะลึงและงงงวย

ร่างกายของกู้เสี่ยวหวานดีขึ้นเรื่อย ๆ ภายใต้การดูแลของทุกคน

ในที่สุด นางก็มีชีวิตเหมือนเมื่อก่อน

เมื่อฉินเย่จือเห็นว่าในที่สุดกู้เสี่ยวหวานก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานน้ำหนักลดลงเนื่องจากเรื่องราวในครั้งนี้ ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนวิธีการตุ๋นน้ำแกง และตุ๋นยาชูกำลังให้นางดื่ม

หลังจากดื่มไปพักหนึ่ง กู้เสี่ยวหวานก็พบว่าเนื้อบนใบหน้าของนางกลับมาแล้ว และใบหน้าของนางก็มีเลือดฝาด

ร่างกายของนางไม่มีปัญหาอื่นและรู้สึกสดชื่นมาก เช่นนั้นกู้เสี่ยวหวานจึงรู้ว่าอาการป่วยของตนเองหายขาดในที่สุด

และกลับมาดำเนินชีวิตตามเดิม

ร่างกายของนางหายดีแล้ว และนางพาฉินเย่จือไปที่ร้านจิ่นฝูเพื่อทำบัญชีและไปดูมันเทศบนภูเขา

ฉินเย่จือไม่กล้าปล่อยให้กู้เสี่ยวหวานอยู่คนเดียวอีกต่อไป และมักจะบอกกู้เสี่ยวหวานเสมอว่าให้รอขึ้นภูเขาพร้อมเขา

กู้เสี่ยวหวานไม่กล้าพูดตลกเกี่ยวกับชีวิตของนางอีกต่อไป ดังนั้นจึงเห็นด้วยกับฉินเย่จือ และมักจะรอจนกระทั่งฉินเย่จืออยู่ที่นั่นและลากเขาขึ้นไปบนภูเขา

แม้ว่าฉือโถวต้องการพากู้เสี่ยวหวานขึ้นไปบนภูเขาฉินเย่จือก็ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง

ฉือโถวรู้สึกหดหู่ แต่ฉินเย่จือก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับมันมากนัก

จนกระทั่งป้าจางเห็นฉือโถวไม่สบายใจ จึงพูดอะไรบางอย่างแก่เขาและมันก็ทำให้ฉือโถวรู้สึกโล่งใจ

ในเวลานั้นที่เกิดเรื่องขึ้นกับกู้เสี่ยวหวาน สาเหตุครึ่งหนึ่งเป็นเพราะเขาไม่ได้ดูแลเสี่ยวหวานอย่างดี จนทำกู้เสี่ยวหวานเกือบจะเกิดเรื่องครั้งใหญ่

ในใจฉือโถวรู้สึกผิด แต่หลังจากได้ยินสิ่งที่มารดาพูดเขาก็โล่งใจ

อย่างไรก็ตาม หัวใจของเขายังมีเรื่องติดค้าง เมื่อเห็นว่าศิลปะการต่อสู้ของฉินเย่จือดีมาก เขาก็รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย

เรื่องใหญ่ดังกล่าวเกิดขึ้นในครอบครัวของกู้เสี่ยวหวาน หากแต่ครอบครัวกู้ฉวนลู่ก็ไม่ได้ว่าง

ซุนซื่อยังถูกขังอยู่ในห้องขัง นางไม่คิดว่าจะได้พบกับกุ้ยสวิ้นเหอและถูหมิ่นที่แขนขาดในห้องขัง

ซุนซื่อไม่รู้จักถูหมิ่น แต่รู้จักครอบครัวที่ถูหมิ่นสาปแช่ง

โดยไม่คาดคิด เมื่อกุ้ยสวิ้นเหอมาถึงในตอนหลัง เขาถูกขังรวมไว้กับถูหมิ่น

ถูหมิ่นซึ่งเสียแขนไปข้างหนึ่ง จึงเคลื่อนไหวไม่สะดวกนัก และเมื่อกุ้ยสวิ้นเหอคิดถึงความพินาศของครอบครัวและสถานการณ์ปัจจุบัน เขาก็รู้สึกโกรธเคือง และพุ่งเขาไปรัดคอถูหมิ่น หากคนของทางการไม่ได้มาพบทันเวลา ชีวิตของถูหมิ่นก็คงจะสูญสิ้น

ดังนั้นคนของทางการที่ศาลาว่าการจึงตำหนิกุ้ยสวิ้นเหอ และเมื่อพวกเขาทั้งสองสงบลง ทางการจึงขังพวกเขาไว้อีกครั้ง

ถูหมิ่นโกรธและสาปแช่งไม่หยุด เขาด่าทุกคนในครอบครัวกุ้ย ตั้งแต่กุ้ยสวิ้นเหอจนถึงกุ้ยตงเหมย

ซุนซื่อถูกขังไว้ที่อีกด้านหนึ่ง แต่ก็ได้ยินเสียงสาปแช่งของถูหมิ่นชัดเจน

ตอนนั้นเองที่ซุนซื่อรู้ว่ากุ้ยซื่อตายแล้ว

กุ้ยตงเหมยก็เสียสติ

ครอบครัวกุ้ยแตกสลาย

และทั้งหมดนี้มีความสัมพันธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้กับกู้เสี่ยวหวาน!

ซุนซื่ออยู่ในห้องขังมาเกือบครึ่งเดือนแล้ว แต่คราวนี้ไม่เป็นไร ไม่มีใครกล้าแตะต้องนางอีก คนในนั้นรู้ดีถึงชื่อเสียงของกู้ฉวนลู่ในเมือง และเขาไม่กล้าทรมานหรือทำให้นางเสียเกียรติ

มันดีกว่าในเมืองรุ่ยเสียนมาก

เมื่อซุนซื่อได้ยินสิ่งนี้ ร่างกายของนางก็สั่นสะท้าน!

กู้เสี่ยวหวานผู้นี้ช่างน่ากลัว!

วันนี้กู้เสี่ยวหวานเปรียบเสมือนเทพแห่งโรคระบาด ใครก็ตามที่โชคร้ายจะได้รับบาดเจ็บหรือตาย ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวเกินไป

เมื่อนึกถึงอะไรบางอย่างได้ ในตอนที่กู้ซินเถามาหานาง ซุนซื่อจึงบอกเรื่องในใจตนเองให้ลูกสาวฟัง และสั่งให้นางนำกลับไปบอกกู้ฉวนลู่

“ท่านแม่ ท่านหมายความว่ากู้เสี่ยวหวานถูกวิญญาณชั่วร้ายเข้าสิงหรือ?” หลังจากที่กู้ซินเถาได้ยินคำพูดของซุนซื่อ นางพลันตกใจจนใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

ปรากฏว่าความดุร้ายของกู้เสี่ยวหวานในช่วงเวลานี้ถูกครอบงำโดยวิญญาณชั่วร้าย มิน่าล่ะในช่วงเวลานี้นางถึงน่ากลัวมาก!

“ข้าเดาว่ามันต้องเป็นอย่างนี้ ซินเถาเจ้าลองคิดดู เพราะกู้เสี่ยวหวานถูกเจ้าผลักลงไปในแม่น้ำ จากนั้นนิสัยของนางก็เปลี่ยนไป! หลังจากเหตุการณ์นั้น นางยังคงรอดชีวิต มันช่างแตกต่างจากเมื่อก่อน” ซุนซื่อครุ่นคิด “กู้เสี่ยวหวานผู้นี้ยิ่งเห็นก็ยิ่งน่าหวาดกลัว!”

“ท่านแม่ อย่าทำให้ข้ากลัว!” กู้ซินเถารู้สึกกลัวเล็กน้อย!

มีตะเกียงน้ำมันเพียงไม่กี่ตะเกียงในห้องนี้ สายลมหนาวเล็ดลอดผ่านเข้ามา กู้ซินเถารู้สึกกลัวเล็กน้อยและมองไปรอบ ๆ เพราะกลัวว่าจะมีใครกระโดดออกมาจากความมืดและทำให้ตัวเองตกใจจนตาย

ยิ่งกว่านั้น หัวใจของกู้ซินเถาเต้นระรัว กู้เสี่ยวหวานเป็นคนที่นางผลักลงไปในแม่น้ำด้วยตัวเอง นั่นจึงเป็นวิธีที่ทำให้วิญญาณชั่วร้ายมาสิงร่างของกู้เสี่ยวหวานทางอ้อม

ไม่รู้ว่าวิญญาณชั่วร้ายตัวนี้จะมาหาตนเองเพื่อชำระบัญชีเมื่อไร

เมื่อเห็นความกลัวในดวงตาของกู้ซินเถา ซุนซื่อก็รีบยื่นมือผอมบางของนางออกมาตบไหล่ของกู้ซินเถาเพราะต้องการปลอบโยน!

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

สองแม่ลูกคู่นี้จะคิดแผนการชั่วร้ายอีกแล้วเหรอเนี่ย!? จองร้างจองผลาญเขาไม่หยุด!

ไหหม่า(海馬)