บทที่ 648 ถังหลี่ระบายความโกรธเพื่อซานเป่า

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

บทที่ 648 ถังหลี่ระบายความโกรธเพื่อซานเป่า

ถังหลี่ถือกล่องอยู่ในมือ ภายในนั้นมีซากงูพิษของหลูเสวี่ยนที่แยกออกสองส่วน องครักษ์เงาที่ติดตามซานเป่านั้นฉลาดมาก ในตอนที่กำลังวุ่นวายเขาเก็บซากของงูใส่กล่องมาให้ถังหลี่เพื่อดูว่ามันจะมีประโยชน์อะไรหรือไม่ เพราะมันคือหลักฐานว่าหลูเสวี่ยนปองร้ายซานเป่าจริงๆ

“นี่คือสัตว์เลี้ยงของท่านโหวน้อย เขาอวดสัตว์เลี้ยงตัวนี้ต่อหน้าเด็กหญิงตัวเล็กๆ ตอนที่มันกำลังจะโจมตีนาง โชคดีที่องครักษ์ของนางฟันขาดเป็นสองท่อน”

นายท่านหลูเกอที่นั่งฟังถังหลี่พูดเข้าใจได้ทันที แม้นางจะบอกว่ามาที่นี่เพื่อขอโทษแต่แท้จริงแล้วนางมาเพื่อแสวงหาความยุติธรรมต่างหาก ในตอนนั้นองค์หญิงอันเยว่เดินเข้ามาทักทาย เมื่อเห็นของในกล่องสีหน้าของนางเปลี่ยนไปทันที

หลูเสวี่ยนเลี้ยงงูน่ากลัวเช่นนี้หรือ? แม้จะอยากพูดแบบนั้น ก็ได้แต่กลืนคำพูดลงคอ ก่อนที่จะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ

“งูตัวนี้มีชีวิตเช่นกัน ฆ่ามันตายเช่นนี้ออกจะโหดร้ายไปเกินไป…” องค์หญิงอันเยว่มีท่าทีอ่อนโยน จิตใจดีราวกับเป็นพระโพธิสัตว์ ถังหลี่รู้ดีว่าแท้จริงนางไม่ใช่คนแบบนั้น

“งูชนิดนี้เรียกว่างูจิกตา มันจะฉกไปที่ตาของคน หากองครักษ์ลงมือไม่ทัน ลูกของข้าจะสูญเสียดวงตาไป” ถังหลี่กล่าว องค์หญิงอันเยว่ประหลาดใจ

“งูตัวนี้อันตรายมากขนาดนั้นเชียวหรือ? เสวี่ยนเอ๋อร์เป็นเด็กจิตใจดี เขาไม่มีทางเลี้ยงสัตว์ดุร้ายเช่นนี้ เขาอาจจะโดนใครหลอกมาก็เป็นได้”

“ข้าเกรงว่าคุณชายหลูจะไม่ได้ถูกหลอก เขารู้เรื่องงูตัวนี้เป็นอย่างดี เขาเปิดกล่องต่อหน้านาง” ถังหลี่กล่าว

“บุตรสาวข้ารู้สึกหวาดกลัวเลยสู้กลับ ทำให้คุณชายหลูได้รับบาดเจ็บ โปรดยกโทษให้ข้าด้วย” น้ำเสียงของถังหลี่จริงใจมาก ทำให้ใบหน้าขององค์หญิงอันเยว่ดูน่าเกลียดมากยิ่งขึ้น

เดิมทีนางต้องการให้พ่อสามีทวงความยุติธรรมให้หลานชาย อย่างไรเสียเสวี่ยนเอ๋อร์ก็เป็นท่านโหวน้อยสกุลหลู ถึงเขาจะยึดมั่นในชื่อเสียงแต่ก็หาใช่ลูกพลับนิ่มที่ใครจะรังแกได้ง่ายๆ

เมื่อถังหลี่พูดเช่นนี้ กลายเป็นว่าเสวี่ยนเอ๋อร์เป็นคนผิด

“แม้เสวี่ยนเอ๋อร์ของข้าจะผิด แต่ก็รุนแรงเกินไปที่จะทุบตีเขาจนสาหัสเช่นนั้น” องค์หญิงอันเยว่พูด สีหน้าของท่านผู้เฒ่าหลูดูย่ำแย่ เขาขัดจังหวะการพูดของนางทันที

“เขาสมควรได้รับแล้ว เขาเลี้ยงงูแล้วยังเอาไปทำร้ายคุณหนูสกุลอู่อีก!”

หากมีอะไรเกิดขึ้นมากับสกุลอู่จริงๆ ย่อมไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน ไม่ใช่เพราะเขากลัวสกุลอู่หรือสกุลกู้แต่ว่าในเรื่องนี้หลูเสวี่ยนเป็นคนผิด หากเรื่องนี้แพร่ออกไปชื่อเสียงของสกุลหลูย่อยยับแน่

“ฮูหยินอู่ เรื่องนี้เป็นความผิดของหลูเสวี่ยนท่านไม่จำเป็นต้องขอโทษ หากเขาฟื้นขึ้นมาตามกฎของตระกูลแล้วเขาจะโดนโบยยี่สิบไม้ ข้าจะเป็นคนมอบบทลงโทษให้เขาเอง” นายท่านหลูกล่าว

“ท่านพ่อ เสวี่ยนเอ๋อร์ทนถึงยี่สิบไม้ไม่ได้นะเจ้าคะ” องค์หญิงอันเยว่กล่าวอย่างกังวล

“เขาต้องทน ในเมื่อเขาทำผิด” หลูเกอพูดอย่างยุติธรรม

ถังหลี่คิดว่าเขาควรได้รับบทลงโทษมากกว่านี้ แต่การโบยยี่สิบไม้กระดานก็น่าจะทำให้เขาล้มหมอนนอนเสื่อไปหลายเดือน ยิ่งหลูเสวี่ยนมีสภาพย่ำแย่มากเท่าไหร่ นางยิ่งพอใจมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อนางได้รับคำตอบที่พอใจแล้วถังหลี่จึงกลับไป องค์หญิงอันเยว่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

“ท่านพ่อ..”

“ข้าเหนื่อยแล้วเจ้ากลับไปเถอะ” เขาไม่ต้องการที่จะพูดคุยกับนางอีก เมื่อองค์หญิงอันเยว่เดินกลับไปที่ผิงหยางโหว นางเล่าเรื่องนี้ในสามีฟัง

“เสวี่ยนเอ๋อร์เป็นหลานของท่านพ่อแท้ๆ ทั้งที่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุใดท่านจึงไม่ทวงคืนความยุติธรรมให้ แต่กลับลงโทษด้วยการโบยถึงยี่สิบไม้เช่นนี้”

หลูอันได้ฟังภรรยาตัดพ้อเขาตอบทันที

“ไม่ใช่ว่าท่านพ่อไม่รักเสวี่ยนเอ๋อร์ แต่เขาเห็นแก่ชื่อเสียงตระกูล เสวี่ยนเอ๋อร์ใช้งูพิษทำร้ายคุณหนูอู่และยังทิ้งหลักฐานไว้ การที่นางเอาหลักฐานมาปาใส่หน้าเรา ยิ่งทำให้ท่านพ่อต้องลงโทษเขาตามกฎของตระกูลเพื่อรักษาหน้าสกุลหลูไว้”

ดวงตาขององค์หญิงอันหยางเปลี่ยนเป็นสีแดง

“ชื่อเสียงของสกุลหลูสำคัญกว่าเสวี่ยนเอ๋อร์อีกหรือ?”

หลูอันถอนหายใจเงียบๆ เขารู้สึกเสียใจไม่น้อยกับเรื่องนี้แต่สำหรับบิดาของเขาแล้วชื่อเสียงของสกุลหลูย่อมสำคัญที่สุด

“เสวี่ยนเอ๋อร์หุนหันพลันแล่นเกินไป”

“เสวี่ยนเอ๋อร์ถูกรังแกมาก่อนหน้านี้ มันทำให้เขาคับข้องใจจึงอยากระบายความโกรธ…”

“มีวิธีอีกมากมายในการล้างแค้น ตราบใดที่มันไม่ทำให้ชื่อเสียงของสกุลหลูแปดเปื้อนข้าย่อมมองข้าม” หลูอันกล่าว

ตอนนี้หลูเสวี่ยนถูกคนจับตามองเพราะกลัวว่าเขาจะทำอะไรหุนหันพลันแล่น การที่บุตรชายเขาทำอะไรบ้าบิ่นเช่นนี้ ทำให้เขาต้องจับตาบุตรชายมากยิ่งขึ้น

“เสวี่ยนเอ๋อร์จะถูกกักบริเวณสองเดือน” หลูอันกล่าว

“ทั้งๆ ที่เสวี่ยนเอ๋อร์บาดเจ็บขนาดนี้ ท่านยังช่วยคนนอกซ้ำเติมเขา ทั้งๆ ที่เขาเป็นบุตรชายตระกูลหลู..”

“องค์หญิง เพื่อตัวของเสวี่ยนเอ๋อร์เอง ตอนนี้หากปล่อยไป อารมณ์ที่ยุ่งเหยิงของเขาจะทำให้เกิดเรื่องใหญ่มากกว่านี้ตามมา” หลูอันกล่าว

องค์หญิงอันเยว่กัดฟันความโกรธที่ประทุขึ้นในหัวใจ พวกเขาไม่สนใจเสวี่ยนเอ๋อร์เลยแม้เขาจะบาดเจ็บ… เมื่อเห็นบุตรชายต้องเจ็บทั้งตัวและหัวใจยิ่งทำให้องค์หญิงอันเยว่เจ็บแค้น นางไม่สามารถกล้ำกลืนมันลงไปได้อีก

…..

ถังหลี่พาซานเป่ากลับมาที่จวนอู่โหว บังเอิญเจอเว่ยฉิงที่กลับมาจากกรมอาญาเข้าพอดี เมื่อเขาเห็นสองแม่ลูกเขา เขาโอบบุตรสาวข้างหนึ่ง และโอบภรรยาด้วยแขนอีกข้างหนึ่ง

“ฮูหยินไปไหนมาหรือ?” เว่ยฉิงถา

“ไปที่จวนหลูคุยกับท่านผู้เฒ่าหลูเกอ”

“เกิดอะไรขึ้น” เว่ยฉิงสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ

“ไอ้เด็กสารเลวคนนั้นมันรังแกซานเป่า” ถังหลี่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นใส่เขาฟัง ใบหน้าของเว่ยฉิงเปลี่ยนไปทันที

“ข้าจะทุบไอ้เด็กสารเลวนั่น”

เขาถูกทั้งสองคนแม่ลูกห้ามไว้

“ท่านพ่อ ข้าจัดการเขาไปแล้ว อีกอย่างท่านแม่ก็ไปทวงความยุติธรรมให้ข้าแล้ว ท่านไม่ต้องไปอีกแล้วเจ้าค่ะ”

“ใช่ หากเจ้าไปทุบมันอีก ไอ้เด็กเลวนั่นตายคามือเจ้าแน่ สกุลหลูคงไม่ยอม” ถังหลี่กล่าว

สามีของนางเป็นคนอำมหิต เขาสามารถตีเด็กคนนั้นจนตายได้

“ข้าไม่กลัว” เว่ยฉิงพูดด้วยใบหน้าเย็นชา

“ไม่คุ้มเลยกับการมีข้อหาฆ่าไอ้คนสารเลวติดตัว อีกอย่างการตีเขาจนตายมันง่ายเกินไป เขาต้องทุกข์ทรมานแบบที่เคยทำไว้กับคนอื่นก่อน” ถังหลี่กล่าว

ทั้งคู่กลับไปที่เรือนพักของตัวเอง ในขณะที่ซานเป่าแยกออกไป เมื่อประตูปิดลงถังหลี่นำอาหารอร่อยๆ มาปลอบใจเว่ยฉิง ชายหนุ่มสูดลมหายใจเขาปอดระงับความโกรธที่มี มองภรรยาที่อยู่ในอ้อมแขนของตน

“ข้ามันไร้ประโยชน์จริงๆ”

เขาเป็นชายอกสามศอก แต่ไม่อาจปกป้องภรรยาและบุตรสาวได้ ซ้ำยังเกือบทำให้นางเดือดร้อน ถังหลี่ลูบศีรษะเขา

“สามีท่านคิดมากไปแล้ว ซานเป่าสบายดี นี่เป็นความผิดของหลูเสวี่ยนท่านอย่าโทษตัวเองสิ”

เว่ยฉิงเอาหน้าซุกไปที่ลำคอของภรรยา พูดด้วยเสียงอู้อี้ว่า

“ฮูหยิน ข้าจะตรวจสอบสกุลหลู ข้าจะไม่ปล่อยพวกเขาไปเป็นอันขาด” เว่ยฉิงสัญญา

“ข้าจะตั้งตารอให้ท่านทวงคืนความยุติธรรมให้กับซานเป่าของเรา”

ถังหลี่พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น