ตอนที่ 584 ห้ามมีข้อผิดพลาด

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 584 ห้ามมีข้อผิดพลาด

“องค์ชาย องค์หญิงเจิ้นกั๋ว เรื่องนี้ต้องมีลับลมคมนัยแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายได้โปรดสั่งให้คนห้ามเลือดให้ท่านแม่ทัพก่อนแล้วค่อยสอบสวนภายหลังเถิดพ่ะย่ะค่ะ” รองแม่ทัพของฝูรั่วซีคุกเข่าทั้งสองข้างลงบนพื้น กล่าวอย่างร้อนใจ

“องค์ชายได้โปรดช่วยชีวิตคนก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” ลูกน้องของฝูรั่วซีใช้มือกดห้ามเลือดที่บ่าของฝูรั่วซีเอาไว้ ก้มศีรษะแนบพื้นขอร้องรัชทายาทและไป๋ชิงเหยียน

รัชทายาทตกใจกับการจู่โจมของฝูรั่วซีจนทำตัวไม่ถูก เขาไม่มีเวลาสนใจภาพลักษณ์ของตัวเองแล้ว บัดนี้ใบหน้าของเขาซีดเผือด ร่างทั้งร่างสั่นเทา ขาสองข้างอ่อนยวบจนไม่มีแรงทรงตัว

ฟางเหล่าที่ผมเผ้ายุ่งเหยิง เลือดซึมที่หน้าผากรีบคลานขึ้นมาจากพื้น ตวาดลั่น “ฝูรั่วซีลอบสังหารองค์รัชทายาท ทุกคนล้วนประจักษ์แก่สายตา! ต่อให้ถูกฟันสักร้อยแผลก็ไม่เกินไป องค์หญิงเจิ้นกั๋วยังลังเลสิ่งใดอยู่อีก ท่านควรรีบสังหารฝูรั่วซีผู้นี้เสียให้สิ้นซาก!”

ได้ยินเสียงตวาดลั่นด้วยความโมโหของฟางเหล่า รองแม่ทัพของฝูรั่วซีตกใจจนเบิกตาโพลง “องค์ชาย องค์หญิงเจิ้นกั๋วได้โปรดให้โอกาสแม่ทัพของข้าได้อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นเถิดพ่ะย่ะค่ะ พวกเข้าติดตามรับใช้แม่ทัพมานาน พวกข้าไม่เชื่อว่าท่านแม่ทัพจะเป็นกบฏ ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดอันใดแน่พ่ะย่ะค่ะ! ท่านแม่ทัพรีบกล่าวสิ่งใดสักหน่อยเถิดขอรับ!”

ฝูรั่วซีเจ็บปวดจนแทบหมดสติไปเดี๋ยวนั้น เขาขบกรามแน่น ไม่กล้าขยับแม้แต่น้อยเพราะดาบของหลูผิงยังจ่ออยู่ที่คอของเขาอยู่

ลูกน้องต่างอ้อนวอนขอให้ฝูรั่วซีกล่าวแก้ตัว ทว่า เขาจะแก้ตัวได้อย่างไรกัน เขาจะอธิบายเรื่องที่พุ่งดาบใส่รัชทายาทได้อย่างไรกัน

หากตอนนี้ฝูรั่วซีอ้างว่าฮ่องเต้ส่งจดหมายลับให้เขาสังหารรัชทายาท เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดเชื่อคำกล่าวของเขาแล้ว หากรัชทายาทมีราชโองการที่ฮ่องเต้ส่งมาเรียกตัวรัชทายาทกลับเมืองหลวงอยู่ในมือ คำแก้ตัวของเขาก็ไม่มีประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น ทหารผิงอันจะเลือกติดตามเขาต่อทั้งๆ ที่มีรัชทายาทเป็นตัวเลือกทางอย่างนั้นหรือ

ฝูรั่วซีมีทั้งความลังเลและหวาดกลัว ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะปิดปากเงียบ

“องค์ชาย องค์หญิงเจิ้นกั๋วได้โปรดสั่งให้คนห้ามเลือดให้ท่านแม่ทัพก่อนแล้วค่อยสอบสวนภายหลังเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

“องค์ชายได้โปรดช่วยชีวิตคนก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”

ไป๋ชิงเหยียนเก็บดาบเข้าฝัก ทิ้งดาบที่ดึงมาจากเอวของลูกน้องฝูรั่วซีลงพื้น หันไปสั่ง “ไปตามหมอทหารมา!”

“ขอบพระทัยองค์หญิงเจิ้นกั๋ว ขอบพระทัยองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ!” รองแม่ทัพของฝูรั่วซีก้มศีรษะคำนับไป๋ชิงเหยียนและรัชทายาท

“องค์หญิงเจิ้นกั๋ว!” ฟางเหล่าก้าวเข้าไปตวาดลั่น “ฝูรั่วซีคิดสังหารองค์รัชทายาท ทุกคนต่างเหตุการณ์ มีหลักฐานและพยานแน่นหนา ไม่สังหารเขาตอนนี้แล้วจะรอสังหารเขาเมื่อใดกัน! จะรอให้ฝูรั่วซีลอบสังหารองค์รัชทายาทอีกครั้งท่านถึงจะพอใจอย่างนั้นหรือ!”

ไป๋ชิงเหยียนหันกลับไปโค้งคำนับรัชทายาท “องค์ชาย แม้ฝูรั่วซีจะลอบสังหารองค์ชาย ทว่า ยังไม่ได้มีการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างแน่ชัด ที่สำคัญคนส่งจดหมายเสียชีวิตไปแล้ว เราพวกเราจึงไม่ทราบว่าฝูรั่วซีถูกบังคับหรือมีความจำเป็นใดจึงต้องทำเช่นนี้ แม้ฝูรั่วซีจะมีความผิดจนต้องโทษประหาร ทว่า อย่างน้อยก็ควรนำตัวเขากลับไปสอบสวนตามกระบวนการแล้วค่อยตัดสินโทษเพคะ เรื่องกบฏคือเรื่องใหญ่ ที่สำคัญครอบครัวของแม่ทัพฝูล้วนอยู่ที่เมืองหลวง ไป๋ชิงเหยียนไม่เชื่อว่าแม่ทัพฝูจะลอบสังหารองค์ชายโดยไม่มีสาเหตุเช่นนี้เพคะ แม่ทัพฝูแขนขาดไปข้างหนึ่งแล้ว เขาไม่อาจลอบสังหารองค์รัชทายาทได้อีกเพคะ ไป๋ชิงเหยียนเคยร่วมรบกับแม่ทัพฝูที่เป่ยเจียงมาก่อน หม่อมฉันยินดีกุมตัวเขากลับไปสอบสวนที่เมืองหลวงด้วยตัวเอง ไม่มีทางปล่อยให้เขามีโอกาสสังหารองค์รัชทายาทอีกแน่นอนเพคะ”

ใบหน้าที่เหยเกเพราะความเจ็บปวดของฝูรั่วซีค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นชาวาบทันทีที่ไป๋ชิงเหยียนกล่าวว่า ‘ครอบครัวของแม่ทัพฝูล้วนอยู่ที่เมืองหลวง’ คำกล่าวนี้ทำให้ฝูรั่วซีลืมความเจ็บปวด ร่างทั้งร่างชาวาบ ร่างของเขาโชกไปด้วยเลือด ใจเย็นเฉียบ ความรู้สึกหวาดกลัวถาโถมเข้ามาในใจ เขาวู่วามคิดถึงแต่ฮองเฮาจนลืมนึกถึงความปลอดภัยของคนในตระกูลฝูไปเลย

รัชทายาทจับแขนของคนที่ช่วยประคองเขาแน่น นึกถึงคำกล่าวของไป๋ชิงเหยียนที่เคยกล่าวว่ายังสังหารฝูรั่วซีในตอนนี้ไม่ได้ รัชทายาทฝืนหยัดกายตรง พยักหน้า “องหญิงเจิ้นกั๋วกล่าวมีเหตุผล”

“องค์ชาย!” ฟางเหล่าอยากกล่าวขัด ทว่า ถูกรัชทายาทยกมือห้ามไว้เสียก่อน

“แม้วันนี้แม่ทัพฝูจะลอบสังหารเรา ทว่า เห็นแก่ที่เขาเคยสร้างผลงานปกป้องชายแดนของต้าจิ้นเอาไว้ ครั้งนี้เราจะให้โอกาสแม่ทัพฝูกลับไปแก้ตัวที่เมืองหลวง” รัชทายาทมองไปทางฝูรั่วซี “ทุกคนในเมืองหลวงต่างรับรู้ว่าแม่ทัพฝูเป็นคนกตัญญู เรา…ไม่เคยทำร้ายแม่ทัพฝู เราไม่เชื่อว่าแม่ทัพฝูลงมือสังหารเราโดยไม่สนใจความปลอดภัยของมารดา ภรรยา บุตรและพี่น้องของตนเช่นนี้ เราก็อยากรู้เหมือนกันว่าเหตุใดแม่ทัพใหญ่ที่จงรักภักดีและช่วยปกป้องคุ้มกันชายแดนของต้าจิ้นจึงอยากเอาชีวิตของเรา”

กล่าวจบ รัชทายาทหันไปกล่าวกับองครักษ์ที่ช่วยประคองตัวเอง “พาเราเข้าไปพักผ่อน เรื่องที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ขององค์หญิงเจิ้นกั๋วจัดการ ฟางเหล่าเข้ามาด้านในกับเรา”

ไป๋ชิงเหยียนโค้งกายทำความเคารพรัชทายาท

หลังจากที่รัชทายาทเข้าไปในกระโจม หมอทหารมาถึง เมื่อหมอทหารเห็นฝูรั่วซีแขนขาด เขาตกใจจนแทบลมจับ รีบเข้าไปช่วยห้ามเลือดให้ฝูรั่วซีอย่างกล้าๆ กลัวๆ

รองแม่ทัพฝูรั่วซีประคองศีรษะของฝูรั่วซีเอาไว้ ลูกน้องคนอื่นๆ คุกเข่าอยู่ข้างกายฝูรั่วซี ต่างส่งสายตาอ้อนวอนให้ฝูรั่วซีบอกเหตุผลออกมา

“ขอบพระทัยองค์หญิงเจิ้นกั๋วที่ไว้ชีวิตพะย่ะค่ะ” รองแม่ทัพฝูรั่วซีเงยหน้ากล่าวขอบคุณไป๋ชิงเหยียนด้วยเสียงสะอื้น

ดาบของไป๋ชิงเหยียนรวดเร็ว แค่พลิกปลายดาบก็สามารถตัดแขนของฝูรั่วซีจนขาด

ทุกคนในเหตุการณ์ล้วนรู้ดีว่าเมื่อครู่ไป๋ชิงเหยียนรับดาบที่พุ่งไปหารัชทายาทของฝูรั่วซีไว้ได้แล้ว

ตอนนั้นดาบของหญิงสาวสามารถฟันคอของฝูรั่วซีได้ ทว่า ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้เอาชีวิตของฝูรั่วซี กลับขอให้รัชทายาทไว้ชีวิตของเขาแทน สิ่งนี้ทำให้ลูกน้องทุกคนของฝูรั่วซีซาบซึ้งในน้ำใจของไป๋ชิงเหยียนมาก

“ท่านปู่ของข้าเคยถูกซิ่นอ๋องใส่ร้ายว่าดึงดันออกรบ ใส่ร้ายว่าท่านเป็นกบฏเพื่อทำลายตระกูลไป๋ ตระกูลไป๋ของข้าเกือบจบสิ้นทั้งตระกูล เราเกิดมาในตระกูลนักรบเหมือนกัน ไม่ว่าแม่ทัพฝูจะถูกบังคับหรือมีแผนอื่นในใจ ข้าก็ไม่อยากเห็นตระกูลฝูถูกประหารทั้งตระกูล แม่ทัพฝู ชีวิตของท่านไม่ใช่ของท่านเพียงคนเดียว มันเกี่ยวพันกับคนทั้งตระกูลฝู แม่ทัพฝูจงคิดไตร่ตรองเรื่องนี้ให้ดี!”

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบก็หันไปมองทางหลูผิง “รีบส่งคนไปยังเติงโจวบอกให้ผู้ตรวจการเมืองเติงโจวต่งชิงเยว่รีบเดินทางมารับช่วงต่อดูแลค่ายผิงอันทันที ห้ามมีข้อผิดพลาดเด็ดขาด ก่อนที่ผู้ตรวจการเติงโจวจะเดินทางมาถึง เจ้ารับหน้าที่ดูแลทุกอย่างของค่ายผิงอันแทนไปก่อน”

หลูผิงรับคำ

หลังเกิดเหตุการณ์เมื่อครู่ บัดนี้ลูกน้องทุกคนของฝูรั่วซีไม่มีผู้ใดกล้าคัดค้านแม้แต่คนเดียว

“ทุกท่านคือแม่ทัพที่แข็งแกร่งของแม่ทัพฝู พวกท่านจงคุ้มกันองค์รัชทายาทกลับไปยังเมืองหลวง และไปเป็นพยานในเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางฝูรั่วซี “หมอทหารรักษาแม่ทัพฝูตามลำพัง หากหมอทหารต้องการสิ่งใดจงนำไปส่งให้เขา ห้ามผู้ใดเข้าเยี่ยมแม่ทัพฝูเด็ดขาด!”

“องค์หญิงเจิ้นกั๋ว!” รองแม่ทัพฝูรั่วซีอยากกล่าวสิ่งใดอีก ทว่า ถูกไป๋ชิงเหยียนขัดขึ้นเสียก่อน “หากพวกเจ้าหวังดีต่อแม่ทัพฝูจริงๆ ก็จงอย่าไปพบหน้าเขาอีก มิเช่นนั้นองค์รัชทายาทอาจสงสัยว่าพวกเจ้าเตรียมคำให้การไว้ล่วงหน้าแล้ว มันไม่เป็นผลดีต่อแม่ทัพฝู”

หมอทหารคือคนเก่าแก่ที่ติดตามแม่ทัพฝูมานาน เขากล่าวกับทุกคน “ทุกท่านไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะดูแลแม่ทัพฝูให้ดีที่สุด!”

“ฝากท่านด้วย!” รองแม่ทัพฝูรั่วซีกำหมัดคาราวะหมอทหาร

“แบกคนไปยังกระโจมรักษาตัว รีบรักษาอย่างเร่วด่วน หากต้องการสิ่งใดบอกได้ทันที” ไป๋ชิงเหยียนกำชับ

บรรดาลูกน้องของฝูรั่วซีมองฝูรั่วซีที่กำลังเจ็บปวดถูกแบกจากไป มองไปรอบๆ กระโจมที่ถูกกองทัพเติงโจวรายล้อมไว้อย่างแน่นหนา จากนั้นต่างพากันหันไปมองไป๋ชิงเหยียน