ตอนที่ 651 เช่าอาคาร

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่​ 651 เช่าอาคาร​

เมื่อ​พวกเขา​ทั้ง​สี่ตอบ​ตกลง​ หลิน​ม่าย​ก็​ทำการ​ยื่นข้อเสนอ​ และ​ใน​ท้ายที่สุด​พวกเขา​ก็​ทำ​การซื้อขาย​ไป​ใน​ราคา​สอง​แสน​หก​หมื่น​หยวน​

หลิน​ม่าย​ซื้อ​ลานบ้าน​ทันที​ใน​บ่าย​วันนั้น​

พี่น้อง​ทั้ง​สี่ทำ​การต่อเติม​และ​ซ่อมแซม​บ้าน​จาก​ภายใน​สู่ภายนอก​เพื่อให้​ง่าย​ต่อ​การ​ขาย​ เพียง​มอง​แวบ​แรก​ก็​ดูเหมือน​บ้าน​ใหม่​

หลิน​ม่าย​ต้องการ​เพียง​เพิ่ม​ห้อง​สุขา​สอง​ห้อง​ ติดตั้ง​โทรศัพท์​ และ​เพิ่ม​เฟอร์นิเจอร์​

บ้าน​หลัง​นี้​ถูก​สร้าง​ขึ้น​ใน​สมัย​ราชวงศ์​ชิง ดังนั้น​ต้อง​ตกแต่ง​ด้วย​เฟอร์นิเจอร์​คลาสสิก​ให้​เข้ากับ​ยุค​จีน​โบราณ​ หลิน​ม่าย​จึงไป​ยัง​ตลาดนัด​เพื่อ​ซื้อ​เฟอร์นิเจอร์​คลาสสิก​ไม้หง​มู่จำนวนมาก​

แม้ว่า​จะต้อง​ใช้เงิน​ประมาณ​หนึ่ง​หมื่น​หยวน​ใน​การ​ซื้อ​เฟอร์นิเจอร์​ แต่​เธอ​ก็​คิด​ว่า​มัน​คุ้มค่า​

เฟอร์นิเจอร์​เหล่านี้​มาจาก​ราชวงศ์​หมิง​และ​ราชวงศ์​ชิงแล้ว​ และ​มีค่า​สำหรับ​การ​สะสมอยู่แล้ว​

ไม้เปลือย​เป็น​ไม้หง​มู่ ซึ่งจะมีมูลค่า​มาก​ใน​อีก​ไม่กี่​ทศวรรษ​

สิ่งที่​ทำให้​หลิน​ม่าย​มีความสุข​มาก​ที่สุด​ก็​คือ​ เธอ​พบ​เตียง​ที่​ทำ​จาก​ไม้หนาน​มู่สีทอง​ใน​ตลาด​เฟอร์นิเจอร์​มือสอง​

นอกจาก​การ​ซื้อ​เฟอร์นิเจอร์​ใน​ตลาด​เฟอร์นิเจอร์​มือสอง​แล้ว​ หลิน​ม่าย​ยัง​ซื้อ​งาน​ประดิษฐ์​ตัวอักษร​ ภาพวาด​ เครื่องลายคราม​ และ​ของเก่า​ต่าง ๆ​ เพื่อ​ตกแต่ง​บ้าน​อีกด้วย​

แม้ว่า​ยุคสมัย​จะเปลี่ยนไป​แล้ว​ และ​เหล่า​นายทุน​ไม่ต้อง​การครอบครอง​สิ่งเหล่านี้​อีกต่อไป​ และ​ทรัพย์สิน​ โบราณวัตถุ​ ภาพเขียน​ และ​ภาพวาด​ก็​ถูก​ส่งคืนให้​กับ​เจ้าของเดิม​

อย่างไรก็ตาม​ หลาย​คน​ยังคง​มีความกลัว​อยู่​ หลังจาก​ได้รับ​เครื่องลายคราม​ ภาพเขียน​พู่กัน​ ภาพวาด​ และ​โบราณวัตถุ​ต่าง ๆ​ คืน​ พวกเขา​แทบ​รอ​ไม่ไหว​ที่จะ​ขาย​มัน​ใน​ตลาด​มือสอง​

แน่นอน​ว่า​พวกเขา​ต้องการ​เปลี่ยน​สิ่งเหล่านี้​เป็น​เงิน​เพื่อ​ไม่ให้​ตัวเอง​เดือดร้อน​

ดังนั้น​จึงมีงาน​ประดิษฐ์​ตัวอักษร​และ​ภาพวาด​โบราณ​มากมาย​ใน​ท้องตลาด​ และ​ราคา​ก็​ยัง​ถูก​อีกด้วย​

หลิน​ม่าย​ไม่ค่อย​รู้เรื่อง​เครื่องลายคราม​ ของเก่า​สะสม งานเขียน​พู่กัน​ และ​ภาพวาด​ ดังนั้น​เธอ​จึงซื้อ​มาทั้งหมด​

ของเก่า​ประเภท​เซรามิก​ ภาพเขียน​พู่กัน​ และ​ภาพวาด​บน​สินค้า​มือสอง​โดย​พื้นฐาน​แล้​วจะ​ขาย​ใน​ราคา​กะหล่ำปลี​ จึงไม่มีใคร​พยายาม​ทำ​ของปลอม​ออกมา​ขาย​ เพราะ​มัน​ไม่คุ้มค่า​

หลิน​ม่าย​จึงไม่กังวล​เกี่ยวกับ​การ​ซื้อ​ของปลอม​

แต่​ถึงจะซื้อ​ของปลอม​ หลิน​ม่าย​ก็​ไม่สนใจ​

เนื่องจาก​ของปลอม​เหล่านั้น​เป็น​ของปลอม​จาก​ราชวงศ์​หมิง​และ​ราชวงศ์​ชิงด้วย​ และ​มีค่า​พอกัน​หลังจาก​หลาย​ทศวรรษ​

ของปลอม​ยัง​แบ่ง​ออก​เป็น​ระดับ​ด้วย​

หลังจากที่​เรือน​สี่ประสาน​ได้รับ​การจัดแต่ง​อย่าง​ครบครัน​ ห้องน้ำ​สอง​ห้อง​ก็​ถูก​สร้าง​เสร็จสิ้น​ ตอนนี้​เธอ​สามารถ​หิ้ว​กระเป๋า​เข้า​อยู่​ได้​เลย​

หลิน​ม่าย​ย้าย​จาก​โรงแรม​มายัง​เรือน​สี่ประสาน​สามวง​

คืน​นั้น​เธอ​เชิญคุณปู่​ไป๋​ คุณย่า​ไป๋​ พ่อ​ไป๋​ และ​คนอื่น​ ๆ รวมถึง​คุณตา​และ​คุณยาย​ มารับประทาน​อาหารเย็น​ที่​บ้าน​ของ​เธอ​

แม้ว่า​แม่ไป๋​จะปฏิบัติ​ต่อ​หลิน​ม่าย​ไม่ดี​ แต่​ปู่ย่าตายาย​ก็​ปฏิบัติ​ต่อ​หลิน​ม่าย​เป็น​อย่าง​ดี​

ดังนั้น​เมื่อ​หลิน​ม่าย​ย้าย​ไป​อยู่​บ้าน​หลัง​ใหม่​ เธอ​จึงเชิญพวกเขา​ไป​รับประทาน​อาหาร​เพื่อ​เป็น​การเฉลิมฉลอง​

สำหรับ​แม่ไป๋​และ​ไป๋​ซวง​ แน่นอน​ว่า​หลิน​ม่าย​ไม่ได้​เชิญชวน​พวก​หล่อน​

เมื่อ​ถึงเวลา​ห้า​โมงเย็น​ คุณปู่​ไป๋​และ​คนอื่น​ ๆ ก็​มารวมตัวกัน​

ไป๋​เหยียน​ซึ่งเป็น​พี่สาว​คนโต​ก็​เดินทาง​มาที่นี่​พร้อมกับ​เถียนเถียน​และ​สามีของ​เธอ​

นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​หลิน​ม่าย​เห็น​พี่เขย​ของ​เธอ​

พี่เขย​ดู​เป็น​คน​ซื่อตรง​ ซื่อสัตย์​ และ​ดูแล​ลูก​ ๆ ด้วยตัวเอง​ ทำให้​ไป๋​เหยียน​ได้​มีเวลา​พูดคุย​กับ​น้อง​อย่าง​มีความสุข​

คุณปู่​ไป๋​และ​คนอื่น​ ๆ ตกใจ​มาก​เมื่อ​เห็น​ว่า​หลิน​ม่าย​ซื้อ​เรือน​สี่ประสาน​หลัง​ใหญ่​

เมื่อ​คิด​ว่า​ฟางจั๋ว​หรา​น​ซื้อ​เรือน​สี่ประสาน​หลัง​นี้​ให้​เธอ​ พวกเขา​ต่าง​ก็​ชื่นชม​ฟางจั๋ว​หรา​น​ที่​ใจดี​กับ​หลิน​ม่าย​

หลิน​ม่าย​ไม่อธิบาย​อะไร​ ปล่อย​ให้​พวกเขา​เข้าใจผิด​ไป​อย่างนั้น​

เธอ​เตรียม​อาหาร​มื้อ​ใหญ่​ให้​พ่อ​ไป๋​และ​คนอื่น​ ๆ

ลูกชิ้น​ทอด​ ทอด​มันปลา​ และ​เฝิ่นเจิง​โร่​ว​ที่​เหมาะสำหรับ​ผู้สูงอายุ​โดยเฉพาะ​

ผู้อาวุโส​ทุกคน​กิน​อย่าง​มีความสุข​และ​ชื่นชม​ทักษะ​การ​ทำอาหาร​ของ​หลิน​ม่าย​

หลัง​อาหารเย็น​ ทุกคน​ก็​ลังเล​ที่จะ​จากไป​ เหล่า​ผู้สูงวัย​เดิน​ชมบ้าน​อย่าง​มีความสุข​

พี่สาว​คนโต​และ​สามีของ​เธอ​กำลัง​ตี​พุทรา​ใน​สวน​ด้วย​ไม้ไผ่​ยาว​ เพื่อ​จะนำ​กลับ​ไป​ทำ​ของหวาน​ให้​เถียนเถียน​กิน​

เถียนเถียน​เด็ก​วัย​หัด​เดิน​กำลัง​พูดพล่าม​อย่าง​มีความสุข​

เหล่า​ผู้อาวุโส​ชี้ไป​ยัง​ลานบ้าน​และ​พูดคุย​เกี่ยวกับ​สวน​นั้น​ โดย​บอ​กว่า​มีต้น​ล่า​เหมย​และ​ดอก​โบตั๋น​สอง​กระถาง​ใน​สวน​ด้วย​

ผู้อาวุโส​เดิน​ช้า ๆ ข้างหน้า​ โดย​มีหลิน​ม่าย​และ​ไป๋​เซี่ย​เดิน​ตามหลัง​

หลิน​ม่าย​ถามสอง​พี่น้อง​ไป๋​อย่าง​แผ่วเบา​ว่า​มีการเคลื่อนไหว​ใด​ ๆ จาก​ไป๋​ซวง​หรือไม่​?

พี่น้อง​ทั้งสอง​ส่าย​ศีรษะ​ “ยัง​ไม่มี~”

หลิน​ม่าย​สงสัย​ “ทำไม​ไม่มีการเคลื่อนไหว​ใด​ ๆ ทั้งที่​นาน​มาก​แล้ว​?”

ไป๋​เซี่ย​อธิบาย​ “เหตุผล​หลัก​คือ​มีคนใช้​อยู่​ที่​บ้าน​ และ​เรา​ทุกคน​ก็​อยู่​บ้าน​ใน​ช่วง​สุดสัปดาห์​ ดังนั้น​ไป๋​ซวง​จึงไม่มีโอกาส​”

ไป๋​ลู่​ตบ​ไหล่​หลิน​ม่าย​ “อย่า​กังวล​ พ่อ​วางแผน​ไว้​แล้ว​โดย​ บอ​กว่า​วันอาทิตย์​หน้า​ครอบครัว​เรา​จะไป​พักผ่อน​ที่​เซียง​ซาน​ คนรับใช้​ก็​ไม่มาทำงาน​ พ่อ​วางแผน​ทุกอย่าง​เพื่อให้​ไป๋​ซวง​และ​พ่อแม่​ของหล่อน​ทำการ​ลักขโมย​”

หลิน​ม่าย​เอ่ย​ถาม “ทำไม​ไม่ไป​เซียง​ซาน​สัปดาห์​นี้​เลย​ล่ะ​? ทำไม​ต้อง​รอ​จนถึง​สุดสัปดาห์​หน้า​?”

เธอ​ต้องการ​ให้​ขับไล่​ไป๋​ซวง​ออกจาก​บ้าน​ของ​ตระกูล​โดยเร็ว​ที่สุด​

ไป่​ลู่​กล่าว​ “เรา​ต้อง​ใช้เวลา​ใน​อาทิตย์​นี้​เพื่อ​เตรียมงาน​ พ่อ​จะจัด​งานเลี้ยง​ให้​เธอ​เพื่อ​เฉลิมฉลอง​การ​เข้า​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​ และ​เขา​จะแนะนำ​เธอ​ให้​ญาติ​และ​เพื่อน ๆ​ ทุก​คนรู้จัก​ ดังนั้น​เรา​จึงไม่สามารถ​ไป​เซียง​ซาน​ใน​สัปดาห์​นี้​ได้​”

หลิน​ม่าย​ยิ้ม​ “พ่อ​ยัง​ไม่ได้​พูดถึง​เรื่อง​นี้​กับ​ฉัน​เลย​”

“พ่อ​จะพูดถึง​เรื่อง​นี้​ให้​เธอ​ฟังใน​ภายหลัง​” ไป๋​ลู่​กล่าว​

หลังจากนั้น​ ก่อนที่​พวกเขา​จะเดินทาง​กลับ​ พ่อ​ไป๋​ก็​บอก​หลิน​ม่าย​ว่า​เขา​จะจัด​งานเลี้ยง​ให้​เธอ​ใน​สัปดาห์​นี้​

เขา​หยิบ​สร้อยคอ​ทองคำ​และ​เงิน​สอง​ร้อย​หยวน​ออก​มาจาก​กระเป๋า​แล้ว​ส่งให้​หลิน​ม่าย​

“สร้อยคอ​ทองคำ​เส้น​นี้​ถูก​ซื้อ​ให้​กับ​หลิน​เพ่​ย​ที่​ปลอมตัว​เป็น​ลูก​ แต่​แท้จริง​แล้ว​มัน​เป็น​ของ​ลูก​ และ​ตอนนี้​มัน​กำลัง​ถูก​ส่งคืนให้​กับ​เจ้าของเดิม​แล้ว​ ลูก​จงนำ​เงิน​สอง​ร้อย​หยวน​นี่​ไป​ซื้อ​ชุด​สวย​ ๆ สำหรับ​ใส่ใน​งานเลี้ยง​เถอะ​”

หลิน​ม่าย​รับ​เพียง​สร้อยคอ​ทองคำ​เท่านั้น​ และ​ไม่ต้อง​การเงิน​สอง​ร้อย​หยวน​ เพราะ​เธอ​มีเสื้อผ้า​สวย​ ๆ มากมาย​

แม้ว่า​คราวนี้​เธอ​จะนำ​ชุด​มาเพียง​เจ็ด​หรือ​แปด​ชุด​ แต่​ก็​เพียงพอ​สำหรับ​งานเลี้ยง​

พ่อ​ไป๋​ยัดเยียด​เงิน​สอง​ร้อย​หยวน​ให้​เธอ​ “พ่อ​ให้​แล้ว​ เอา​ไป​เถอะ​ เสื้อผ้า​ของ​ลูก​เป็น​ของ​ลูก​ แต่​นี่​เป็น​เงิน​ที่​พ่อ​ตั้งใจ​จะมอบให้​ลูก​เพื่อ​นำ​ไป​ซื้อ​เสื้อผ้า​ใหม่​”

หลิน​ม่าย​เห็น​ว่า​เขา​พูด​อย่าง​จริงใจ​ ส่วน​พี่สาว​และ​พี่ชาย​ของ​เธอ​ก็​เกลี้ยกล่อม​ให้​เธอ​รับเงิน​ ดังนั้น​หลิน​ม่าย​จึงยอม​รับเงิน​สอง​ร้อย​หยวน​อย่าง​เต็มใจ​

ไป๋​ลู่​จับมือ​หลิน​ม่าย​และ​แสดงออก​อย่าง​ตื่นเต้น​ว่า​ต้องการ​ไป​ห้างสรรพสินค้า​และ​ซื้อ​เสื้อผ้า​ตอนเที่ยง​วันพรุ่งนี้​

ชุด​จะต้อง​ซื้อ​ใน​วันพรุ่งนี้​ เพราะ​มะรืน​นี้​เป็น​วันอาทิตย์​และ​มีงานเลี้ยง​จึงไม่มีเวลา​ซื้อ​

ไป๋​เซี่ย​อาสา​ที่จะ​ติดตาม​พวกเขา​และ​คอย​เป็น​กุลี​แบก​ของ​ให้​พวกเขา​

แม้ว่า​หลิน​ม่าย​และ​ไป๋​ลู่​จะไม่ต้องการ​กุลี​ แต่​พวก​เธอ​ก็​ยัง​เห็นด้วย​

หลังจาก​ส่งพ่อ​ไป๋​และ​คนอื่น​ ๆ ไป​แล้ว​ หลิน​ม่าย​ก็​เขียนจดหมาย​ถึงฟางจั๋ว​หรา​น​

เธอ​บอก​เขา​ว่า​เธอ​ซื้อ​เรือน​สี่ประสาน​สามวงใน​เมืองหลวง​แล้ว​ ขอให้​เขา​บอก​คุณปู่​และ​คุณย่า​ฟางว่า​ หาก​มีเวลา​ก็​ให้​เดินทาง​มาเยี่ยม​เธอ​ที่​เมืองหลวง​

เช้าวันรุ่งขึ้น​ หลิน​ม่าย​ลุกขึ้น​และ​นึ่ง​ซาลาเปา​ เธอ​กิน​คนเดียว​สอง​ลูก​ และ​ที่​เหลืออยู่​ก็​แจกจ่าย​ให้​กับ​คนอื่น​

ปู่ย่าตายาย​ประทับใจ​มาก​และ​ขอให้​เธอ​ไม่ต้อง​เหนื่อย​ทำ​สิ่งใด​เพื่อ​พวกเขา​อีก​ในอนาคต​

หลิน​ม่าย​เพียง​ให้​พวกเขา​ชิมซาลาเปา​นึ่ง​ของ​เธอ​ แต่​ไม่ได้คิด​จะนึ่ง​ให้​พวกเขา​กินใน​ทุกวัน​

เหล่า​วัยชรา​หลาย​คน​ชื่นชม​ซาลาเปา​นึ่ง​ของ​เธอ​หลังจาก​กิน​เข้าไป​

หลิน​ม่าย​คิด​กับ​ตัวเอง​ว่า​ผู้เฒ่า​ทั้ง​สี่ชื่นชม​ความ​อร่อย​ของ​ซาลาเปา​เหล่านี้​ตามมารยาท​

หาก​เธอ​ทำ​ซาลาเปา​ที่​เจือ​กะปิ​ในไส้​ พวกเขา​จะยัง​ชื่นชม​ว่า​เอร็ดอร่อย​อยู่​หรือไม่​?

เนื่องจาก​ผู้เฒ่า​ทั้ง​สี่ชื่นชม​ใน​ความ​อร่อย​ หลิน​ม่าย​จึงวางแผน​ที่จะ​ซื้อ​ร้าน​ใกล้​มหาวิทยาลัย​เพื่อ​ขาย​ซาลาเปา​และ​ขนมจีบ​

เมื่อ​ซาลาเปา​และ​ขนมจีบ​ของ​เธอ​เป็นที่ยอมรับ​ของ​นักศึกษา​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​และ​มหาวิทยาลัย​ปักกิ่ง​ รวมถึง​ผู้อยู่อาศัย​ใน​บริเวณ​ใกล้เคียง​ เธอ​ก็​จะเปิด​สาขา​ร้าน​เปา​ห่า​วชือ​ใน​เมืองหลวง​

เธอ​ระมัดระวัง​มาก​เพราะ​รู้​ว่า​ใน​เมืองหลวง​มีร้าน​ซาลาเปา​เก่าแก่​สอง​แห่ง​

แม้ว่า​ร้าน​ซาลาเปา​เก่าแก่​ทั้งสอง​แห่ง​นี้​จะไม่เป็นที่รู้จัก​ทั่วประเทศ​ แต่​ก็​มีชื่อเสียง​มาก​ใน​ท้องถิ่น​

ใน​ชีวิต​ที่แล้ว​ เครือ​ร้าน​ซาลาเปา​หลาย​ร้าน​พ่ายแพ้​ต่อ​ร้าน​ซาลาเปา​สอง​ร้าน​นี้​ที่​มีชื่อเสียง​มาอย่าง​ยาวนาน​

ไม่รู้​ทำไม​ แต่​คน​ท้องถิ่น​ล้วน​ซื้อ​ซาลาเปา​จากร้าน​ที่​มีชื่อเสียง​ทั้งสอง​ร้าน​นี้​ แม้จะมีราคาแพง​มาก​ก็ตาม​

นอกจากนี้​ หลังจากที่​ได้​รับประทาน​ซาลาเปา​จากร้าน​ซาลาเปา​ทั้งสอง​แห่ง​นี้​แล้ว​ ผู้บริโภค​จำนวนมาก​ก็​รู้สึก​ถึงความ​อร่อย​เหนือกว่า​ร้าน​อื่น​

เนื่องจาก​หลิน​ม่าย​ต้องการ​เปิด​สาขา​ร้าน​เปา​ห่า​วชือ​ใน​เมืองหลวง​ ก่อนอื่น​เธอ​จึงต้อง​ทดสอบ​ตลาด​ของ​ซาลาเปา​นึ่ง​ใน​เมืองหลวง​ก่อน​

เพื่อ​ความสะดวก​ใน​การ​จัดการ​ เธอ​จึงคิด​จะเปิด​สาขา​ร้าน​เปา​ห่า​วชือ​ใกล้​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​เท่านั้น​

หลิน​ม่าย​ไป​ยัง​บริเวณ​ใกล้เคียง​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​เพื่อ​หา​อาคาร​ที่​เหมาะสม​

คน​สมัยนี้​ไม่ใส่ใจใน​การ​ทำ​ธุรกิจ​เหมือน​ใน​อีก​หลาย​สิบ​ปี​ให้หลัง​ และ​การ​หา​หน้า​ร้าน​ก็​ไม่ใช่เรื่อง​ยาก​

หลิน​ม่าย​สำรวจ​อาคาร​หลาย​หลัง​และ​สนทนา​ขอ​ซื้อขาย​อาคาร​เหล่านั้น​

แต่​ไม่มีใคร​ยอม​ขาย​ พวกเขา​ทำได้​เพียง​ให้เช่า​เท่านั้น​

อันที่จริง​การ​ปล่อย​เช่าก็​ไม่ใช่ปัญหา​สำหรับ​หลิน​ม่าย​ แต่​การเช่า​อาคาร​มีอายุ​สัญญาเพียง​หนึ่ง​ปี​ เธอ​จึงกลัว​ว่า​เจ้าของ​อาคาร​จะทำ​การขึ้นราคา​เมื่อ​ต่อสัญญา​ครั้ง​ใหม่​

แน่นอน​ว่า​ไม่ใช่เรื่อง​ดี​ที่จะ​เช่าอาคาร​ซึ่งมีราคาแพง​ขึ้น​ทุกปี​

หลังจาก​หลิน​ม่าย​พูดคุย​กับ​พวกเขา​ ก็​มีเจ้าของบ้าน​เพียง​ราย​เดียว​ที่​ยินดี​เซ็นสัญญา​สี่ปี​ตาม​ข้อกำหนด​ของ​เธอ​

แต่​ค่าเช่า​ที่​เจ้าของ​อาคาร​เสนอ​นั้น​แพ​งก​ว่าที่​เจ้าของ​อาคาร​ราย​อื่น​เสนอ​

เจ้าของ​อาคาร​หลัง​นี้​มีแผน​ของ​เขา​ แม้ราคา​จะไม่เพิ่มขึ้น​ใน​ทุกปี​ แต่​การ​เพิ่ม​ค่าเช่า​ทุก​สี่ปี​ก็​ถือว่า​เป็น​กำไร​

แต่​หลิน​ม่าย​ก็​รู้สึก​ว่า​หาก​เขา​ขึ้น​ค่าเช่า​ก็​ไม่ใช่เงิน​มากมาย​สำหรับ​หลิน​ม่าย​

เพราะ​หา​กลอง​คิด​ให้​ดี​ คน​ก็​จะยิ่ง​ตระหนัก​ได้​ว่าการ​ประกอบอาชีพ​อิสระ​นั้น​ให้​ผลกำไร​มาก​เพียงใด​

หาก​สินค้า​ได้รับ​ความนิยม​มากขึ้น​เรื่อย ๆ​ ค่าเช่า​จะเพิ่มขึ้น​เป็น​สองเท่า​

แม้ว่า​เจ้าของบ้าน​จะเก็บ​ค่าเช่า​สูง แต่​หลิน​ม่าย​ก็​ต่อรองราคา​และ​ลด​ค่าเช่า​ให้​ต่ำ​ลง​ได้​

แม้ว่า​เจ้าของบ้าน​จะไม่พอใจ​ แต่​ราคา​ก็​อยู่​ใน​ขอบเขต​ที่ยอมรับ​ได้​ ดังนั้น​ทั้งสองฝ่าย​จึงลงนาม​ใน​สัญญา

ใน​ธุรกิจ​ซาลาเปา​จะหวัง​พึ่ง​หลิน​ม่าย​เพียง​อย่าง​เดียว​ไม่ได้​

หลิน​ม่าย​วางแผน​ที่จะ​จ้างพ่อครัว​ทำ​ซาลาเปา​และ​บริกร​ที่​ดูแล​การ​ขาย​ซาลาเปา​ ดังนั้น​จึงเขียน​ประกาศ​รับสมัคร​และ​ติด​ไว้​ที่​ประตู​ร้าน​

หลังจาก​เสร็จสิ้น​ทั้งหมด​นี้​ เธอ​จึงไป​ยัง​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​เพื่อ​สอบถาม​และ​รู้​ว่า​เมื่อ​บ่าย​วาน​นี้​ ว่าน​ฮุ่ย​มารายงานตัว​ที่​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​โดย​ปลอม​เป็น​เธอ​

มุมปาก​ของ​หลิน​ม่าย​โค้ง​ขึ้น​เล็กน้อย​ ในที่สุด​อีก​ฝ่าย​ก็​ติดกับดัก​

…………………………………………………………………………………………………………………………

สาร​จาก​ผู้แปล​

ซื้อ​บ้านเช่า​ร้าน​ง่าย​เหมือน​เสก​เอาเลย​แฮะ เอา​เวลา​ที่ไหน​ไป​จัดการ​เนี่ย​ม่าย​จื่อ​ ปกติ​กว่า​จะซื้อ​ได้​ก็​ใช้เวลา​เป็น​วัน​นะ​ หรือว่า​ใน​เมือง​ที่​เจริญ​แล้ว​มัน​ซื้อ​ง่าย​ขนาด​นี้​จริงๆ​?

ไหหม่า​(海馬)