ภาค-4-ดรุณีสีเพลิง ตอนที่ 29 ชุมนุม ณ จิ้งไห่ (3)

ตำนานสุยอวิ๋นยอดกุนซือ

ตอนที่ 29 ชุมนุม ณ จิ้งไห่ (3)

ขณะที่หลี่เสี่ยนวิตกกังวลอยู่ องครักษ์ข้างกายเขาก็เข้ามารายงาน “องค์ชาย คุณหนูโหรวหลันมาส่งเทียบเชิญแทนท่านเจียง เชิญองค์ชายร่วมงานฉลองครบขวบของคุณชายน้อยที่จวนจิ้งไห่”
หลี่เสี่ยนมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันใด ในที่สุดก็มีคำเชิญอย่างเป็นทางการมาแล้ว เขายิ้มแย้มตอบว่า “ให้โหรวหลันเข้ามา”
โหรวหลันเดินเข้ามาเห็นหลี่เสี่ยนพลันก้าวเข้าไปคำนับอย่างน่ารักน่าชัง ครั้งก่อนพบหน้ากันบนเรือ ฐานะของหลี่เสี่ยนยังไม่เปิดเผย ย่อมไม่มีผู้ใดบอกฐานะของฉีอ๋องกับโหรวหลัน แม้ในอดีตนางเคยพบฉีอ๋องในพระราชวังต้ายง แต่ยามนั้นโหรวหลันอายุยังน้อยย่อมจดจำหน้าตาของฉีอ๋องไม่ได้ ยามนี้ฐานะเผยชัด โหรวหลันมาพบหลี่เสี่ยนครั้งนี้จึงคารวะตามธรรมเนียม ตั้งแต่เล็กนางถูกเลี้ยงดูโดยพระชายาของยงอ๋อง แล้วยังเคยเข้าวังอีกหลายครั้ง ธรรมเนียมมารยาทเหล่านี้ย่อมคุ้นเคยดี จึงค้อมศีรษะคำนับอย่างลื่นไหลเป็นธรรมชาติ
หลี่เสี่ยนยิ้มแย้มกล่าวว่า “โหรวหลัน รีบลุกขึ้นเถิด ตอนนี้เจ้าเป็นบุตรสาวของฉางเล่อย่อมสมควรเรียกข้าว่าท่านลุง ไหนเลยยังต้องมากพิธีรีตองเช่นนี้” พูดพลางก็อุ้มโหรวหลันขึ้นมาบนตักแล้วถามว่า “ท่านพ่อกับท่านแม่ของเจ้าสุขภาพแข็งแรงหรือไม่ ได้ยินว่าพวกเขามีบุตรชายแล้ว พวกเขาสองคนต่างร่างกายอ่อนแอ ไม่รู้ว่าน้องเล็กของเจ้าร่างกายแข็งแรงดีหรือไม่”
โหรวหลันตอบอย่างตื่นเต้น “น้องเล็กแข็งแรงยิ่งนัก แล้วก็ไม่ชอบร้องไห้ ท่านปู่ทวดบอกว่าร่างกายของท่านแม่ได้รับการบำรุงจนแข็งแรงดีแล้ว น้องเล็กจึงแข็งแรงอย่างยิ่ง ท่านพ่อกับท่านแม่องค์หญิงล้วนสบายดี ยังออกไปล่องเรือกันบ่อยๆ แต่เส้นผมของท่านพ่อกลายเป็นสีเทาซีดหมดแล้ว ได้ยินท่านปู่ทวดบอกว่าเพราะถูกฤทธิ์ยากระตุ้น แต่หลังจากนี้ท่านพ่อไม่ต้องกังวลว่าจะโรคเก่ากำเริบอีกแล้ว”
หลี่เสี่ยนถามอย่างสงสัยใคร่รู้ “ท่านปู่ทวดของเจ้าหมายถึงผู้ใดหรือ”
โหรวหลันกะพริบดวงตากลมโตทันทีแล้วตอบว่า “ท่านลุงไม่รู้หรือ ท่านปู่ทวดแซ่ซัง ท่านพ่อกับท่านแม่ถือว่าเขาเป็นเสมือนท่านปู่”
หลี่เสี่ยนคลี่ยิ้มเอ่ยว่า “ที่แท้ก็หมอเทวดาซังนี่เอง คิดแล้วก็ถูก ตอนสุยอวิ๋นออกจากเมืองหลวง เรียกว่าสภาพร่อแร่ก็ไม่เกินไปนัก มีเพียงท่านหมอซังจึงจะช่วยเขาได้จริงๆ”
โหรวหลันส่ายหน้า บอกว่า “ท่านปู่ทวดบอกว่าท่านพ่อก็รักษาตัวเองให้หายดีได้ แต่คงต้องใช้เวลาเพิ่มสักหลายปี ยิ่งกว่านั้นผลลัพธ์ก็คงไม่ดีเท่านี้”
หลี่เสี่ยนถามขึ้นมาเหมือนไม่ใส่ใจ “บิดาของเจ้าเชิญชิ่งอ่องหรือไม่”
โหรวหลันตอบ “ท่านอาซุ่นบอกว่าชิ่งอ๋องเป็นราชทูตของฝ่าบาท ข้าไปส่งเทียบเชิญจะเสียมารยาทเกินไป ดังนั้นท่านอาซุ่นจึงไปเอง”
หลี่เสี่ยนยิ้มอย่างเข้าใจความนัย ดูท่าในสายตาของเจียงเจ๋อ ชิ่งอ๋องเป็นเพียงคนนอก ในใจคิดขึ้นว่า ต่อให้หลังจากวันนี้ชิ่งอ๋องคิดเล่นงานตน ตนก็มีกองหนุนที่ทรงพลังแล้ว
เวลานี้เอง หางตาของหลี่เสี่ยนก็เห็นเงาร่างเล็กๆ ร่างหนึ่งหลบอยู่ที่ประตูห้องด้านในละล้าละลังไม่กล้าออกมา หลี่เสี่ยนอดขำไม่ได้ แม้ภายนอกหลินเอ๋อร์จะทำท่าเย็นชาและรำคาญอยู่หน่อยๆ แต่ดูท่าเขาคงอยากสนิทกับโหรวหลันตัวน้อยยิ่งนัก แต่ตอนนี้ดึกเกินไป โหรวหลันเองต้องกลับไปพักผ่อนแล้ว หลี่เสี่ยนจึงได้แต่แสร้งทำเป็นไม่เห็น เขาถามสัพเพเหระกับโหรวหลันอีกสองสามคำก็ให้คนส่งโหรวหลันกลับ เมื่อส่งโหรวหลันจากไปแล้ว หลี่เสี่ยนพลันเต็มไปด้วยความคาดหวัง ดูท่าการชุมนุมที่จิ้งไห่ ตนคงจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
เย่ว์ชิงเยียนผู้อยู่ในเรือนหอกังวลยิ่งนัก หลังดื่มสุรามงคลเสร็จ เจียงไห่เทาก็ไปจัดการสะสางเรื่องที่เกิดขึ้น เย่ว์ชิงเยียนทราบดีว่าก่อนตนแก้พิษกู่ได้ มิอาจร่วมหอ แต่นางรู้สึกว่ายามเจียงไห่เทาอยู่ในเรือนหอสีหน้าเย็นชาเล็กน้อยอยู่ตลอด ในใจจึงอดกังวลไม่ได้ เวลานี้เองเซวียชิวเสวี่ยก็เดินเข้ามา เมื่อเห็นเย่ว์ชิงเยียนทำหน้าวิตกก็คลี่ยิ้มเอ่ยว่า “เป็นอะไรไปจึงกังวลเช่นนี้ ข้ามาช่วยเจ้าถอดชุด วันนี้เจ้าบ่าวไม่สะดวกเข้ามาแล้ว ท่านน้าจึงให้ข้ามาอยู่เป็นเพื่อนเจ้า ไม่ให้เจ้าเดียวดาย”
เย่ว์ชิงเยียนฝืนยิ้ม เซวียชิวเสวี่ยช่วยนางปลดปิ่น ต่างหูกับมงกุฎหงส์ นางเอ่ยอย่างหวาดวิตก “พี่สะใภ้ ท่านว่าสามีจะยังโกรธข้าอยู่หรือไม่”
เซวียชิวเสวี่ยหัวเราะดังพรืด ตอบว่า “เจ้าเด็กโง่ ในเมื่อท่านโหวน้อยไม่ปฏิเสธการแต่งงานกับเจ้าต่อหน้า ย่อมหมายความว่าในใจชอบเจ้าอยู่ เพียงแต่ยังมิทันเข้าหอ เจ้าก็ทำเจ้าบ่าวสลบกองกับพื้นเสียแล้ว เสียหน้าเช่นนี้คงทำใจลำบาก หลังเสร็จสิ้นพิธี ตบแต่งคนมาอยู่ในมือแล้ว เจ้าบ่าวผู้วางใจจึงอดมิได้นึกถึงหนี้แค้นเก่าขึ้นมา บุรุษเหล่านี้น่ะ ไม่มีคนใดไม่รักหน้าตา พี่ชายเจ้าก็มิใช่มึนตึงกับข้าเพราะข้าขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพเผยหรอกหรือ”
เย่ว์ชิงเยียนเอ่ยอย่างขัดเขิน “พี่สะใภ้ พี่ชายหึงต่างหาก หากมิใช่ท่านคิดหาวิธีได้ เกรงว่าครอบครัวเราคงบ้านแตกสาแหรกขาด ตกตายไร้ชีวิต พี่ชายไม่มีทางทะเลาะกันท่านนานนักหรอก นึกถึงตอนพี่ชายตามเกี้ยวท่าน ขาดก็แต่ควักหัวใจมาให้ท่านดูเท่านั้น”
ดวงตาของเซวียชิวเสวี่ยทอประกายขัดเขินหวานเชื่อม แต่จากนั้นแววตาก็จริงจังขึ้นมาแล้วเอ่ยว่า “ชิงเยียน มีเรื่องหนึ่งพี่ชายเจ้าให้ข้ามากำชับเจ้าไว้ ยามนี้วิกฤติตระกูลเย่ว์ยังไม่ผ่านพ้น แม้พรรคพวกของเย่ว์อู๋จิวกว่าครึ่งตายอยู่ที่ตงไห่ แต่ภายในตระกูลเย่ว์ยังมีคนของเขาอยู่
อีกทั้งพวกเจ้าตระกูลก็อยู่ในมือของลู่ช่าน พวกเรารับน้ำใจจากลู่ช่าน น้ำใจจากผู้อื่นช้าเร็วย่อมต้องคืน ต้ายงกับหนานฉู่มิอาจอยู่ร่วมกันอย่างสงบ ถึงเวลาพวกเราตระกูลเย่ว์ก็ต้องเลือก ครั้งนี้กลับไปพี่ชายของเจ้าจะสืบต่อตำแหน่งเจ้าตระกูลแล้วกวาดล้างภายในตระกูล อำนาจของหนานฉู่ในหนานหมิ่นคงจะแข็งแกร่งขึ้น
แม้พี่ชายเจ้าบรรลุข้อตกลงกับตระกูลไห่จนได้แบบเรือกับแผนที่ทะเลแล้ว แต่ก็ถูกบีบให้มอบกิจการเดินเรือส่วนหนึ่งให้ตระกูลไห่ เมื่อเป็นเช่นนี้ ภายในเวลาสิบกว่าปี พวกเราไม่มีทางกดตระกูลไห่ได้ จุดนี้พี่ชายเจ้าไม่กังวล แต่เมื่อต้ายงกับหนานฉู่เริ่มสงครามกัน ตระกูลไห่ย่อมจงรักภักดีติดตามตงไห่ พวกเรากลับเอียงซ้ายเอนขวา สุดท้ายเกรงว่าคงต้องตัดใจสละแขนสักข้างจึงจะรักษาตระกูลเย่ว์ให้ปลอดภัยได้ ดังนั้นเส้นทางนับจากวันนี้ของตระกูลเย่ว์คงลำบากยิ่งนัก”
เย่ว์ชิงเยียนมีสีหน้าร้อนใจเอ่ยขึ้นว่า “ถ้าเช่นนั้นพี่ชายอยากให้ข้าทำสิ่งใด”
เซวียชิวเสวี่ยตอบอย่างหนักแน่น “ชิงเยียน พี่ชายของเจ้าบอกว่าเขาต้องการให้เจ้าทำเพียงเรื่องเดียว นั่นก็คือสงบใจเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลเจียง ไม่ต้องทำเรื่องใดที่ทำร้ายตระกูลเจียงเพื่อตระกูลเย่ว์ และไม่ต้องแย่งชิงผลประโยชน์ใดให้ตระกูลเย่ว์ นี่เป็นเรื่องของบุรุษ เจ้าทำหน้าที่ของบุตรสาว ของน้องสาวอย่างเต็มที่แล้ว ตอนนี้เจ้าคือสะใภ้ของตระกูลเจียง อนาคตจะเป็นมารดาของลูกๆ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องขบคิดเพื่อตระกูลเจียง”
ดวงตาสุกสกาวของเย่ว์ชิงเยียนมีน้ำตาคลอเบ้า เอ่ยว่า “พี่สะใภ้ แต่ข้าทนมองพี่ชายเป็นทุกข์มิได้!”
เซวียชิวเสวี่ยเอ่ยปลอบ “เด็กโง่ เจ้าลืมแล้วหรือ ถึงอย่างไรตระกูลเจียงกับตระกูลเย่ว์ก็เกี่ยวดองกัน ขอเพียงเจ้าได้ความเคารพนับถือและความรักจากพวกเขา พวกเขาย่อมดูแลตระกูลเย่ว์เพื่อเจ้า หากเจ้าสูญเสียความรักจากสามี ถ้าเป็นเช่นนั้นเจ้าจึงช่วยตระกูลเย่ว์มิได้ ดังนั้นจงจำไว้ เจ้าเพียงเป็นภรรยาที่ดีก็เพียงพอ อีกอย่าง ตระกูลเย่ว์เองก็มิใช่ว่าจะล้มง่ายดายปานนั้นเสียเมื่อไร”
เย่ว์ชิงเยียนพยักหน้าแรงๆ แล้วตอบว่า “พี่สะใภ้โปรดวางใจ ชิงเยียนจะไม่ถูกผู้ใดหลอกใช้อีกแล้ว หากวันหน้าตระกูลเจียงคิดแค้น มิยอมช่วยเหลือตระกูลเย่ว์ อย่างมากชิงเยียนก็แค่ร่วมเป็นร่วมตายกับตระกูลเย่ว์เท่านั้น ชิงเยียนจะไม่ทำเรื่องผิดต่อคุณธรรมของภรรยาเด็ดขาด”
เซวียชิวเสวี่ยคลี่ยิ้มเอ่ยอีกว่า “พวกเราเองก็ได้รับคำเชิญเข้าร่วมงานชุมนุมที่จวนจิ้งไห่เช่นกัน ถึงเวลาเจ้าก็คงได้ไปคารวะผู้มีพระคุณของเจียงไห่เทาด้วยกันกับเขา พิษกู่ของเจ้าก็ต้องให้เขาคิดหาวิธีให้ ดังนั้นเจ้าต้องพักผ่อนให้ดี ฐานะของคนผู้นั้นสูงส่งนัก หากได้รับการยอมรับจากเขา ตำแหน่งในตระกูลเจียงของเจ้าจะเปลี่ยนไปมาก”
ดวงตาของเย่ว์ชิงเยียนฉายประกายคาดหวังเล็กน้อย แล้วเอ่ยว่า “พี่สะใภ้ ข้าก็อยากพบท่านเจียงกับองค์หญิงฉางเล่อมากเช่นกัน ได้ยินว่าพวกเขาเป็นดั่งเทวาเคียงคู่เทพธิดา”
เซวียชิวเสวี่ยคลี่ยิ้มตอบว่า “ไม่นานเจ้าก็จะได้พบแล้ว แต่อย่าได้ลืม คนผู้นั้นสติปัญญาไม่เป็นสองรองผู้ใด กล่าวได้ว่าเป็นคนที่น่ากลัวที่สุดในใต้หล้า”
ตอนต่อไป