ตอนที่ 627 เร้าโทสะ

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

ณ​ ​ตำหนัก​อวี​้​เฉวียน​ ​เสียน​เฟ​ยปวด​ศีรษะ​อย่างรุนแรง​เกิน​จะ​ทนทาน​ ​ฝ่าย​เจียง​ซื่อ​เดิน​ออกจาก​รั้ว​วัง​หลวง​ ​นานๆ​ ​ที​จะ​มีโอกาส​ระบาย​ความหดหู่​ตลอด​หลาย​วันที่​ผ่าน​มา​ ​นาง​จึง​พ่นลม​ขุ่นมัว​ใส่​ฟ้า​สีคราม

ก็​เสียน​เฟย​แกล้ง​ป่วย​มิใช่​หรือ​ ​ก็​ช่วย​สนอง​นาง​เสียหน่อย

เดิมที​เจียง​ซื่อ​ไม่​อยาก​ใช้​ศาสตร์​วิชา​มนต์​ดำ​สุ่มสี่สุ่มห้า​ ​เนื่องจาก​นาง​เคย​แสดง​อภินิหาร​มากมาย​ต่อหน้า​ฮ่องเต้​และ​ฮองเฮา​ ​หาก​นาง​ใช้​คาถาอาคม​กับ​คนใน​วัง​ก็​อาจ​สาว​มาถึง​ตัวนาง​ได้​ง่าย​ ​มี​ได้​ก็​ย่อม​มี​เสีย​เป็นธรรมดา​ ​นาง​เข้าใจ​สัจธรรม​ข้อนี​้​เป็น​อย่างดี

แค่​ไม่​คิด​เลย​ว่า​เสียน​เฟย​จะ​แกล้ง​ป่วย​ ​อีกทั้ง​ยัง​ติดสินบน​หมอ​หลวง​ ​ฉะนั้น​นาง​ก็​ไม่มี​ความจำเป็น​จะ​ต้อง​ออม​มือ​ ​ในเมื่อ​เสียน​เฟย​บอก​เอง​ว่า​ตน​มี​อาการ​ปวดศีรษะ​และ​เป็นไข้​ ​นาง​ก็​แค่​ช่วย​ทำให้​สมจริง​ยิ่งขึ้น​ ​ให้​เสียน​เฟย​ได้​ลิ้มรส​ชาติ​ผลกรรม​ที่​ก่อ​ไว้​เสียบ​้าง

ความ​ประจวบเหมาะ​ยิ่งกว่านั้น​คือ​ ​นาง​ไม่ต้อง​กังวล​เลย​ว่า​ฮ่องเต้​และ​ฮองเฮา​จะ​สงสัย​ว่า​เป็นฝี​มือ​นาง​ ​เพราะ​เสียน​เฟ​ยป​ระ​ชวร​ก่อนที่​นาง​จะเข้า​วัง​มา​เยี่ยม

เมื่อ​คิดได้​ดังนั้น​ ​มุม​ปากของ​เจียง​ซื่อ​ก็​ยก​ยิ้ม​ขึ้น​เล็กน้อย​ ​พร้อมกับ​สายตา​ที่​ขับ​ประกาย​เย็นชา

อาการ​เวียน​ศีรษะ​และ​เป็นไข้​ถือเป็น​บทเรียน​เล็ก​ๆ​ ​แก่​เสียน​เฟย​เท่านั้น​ ​ส่วน​เรื่อง​ที่​เสียน​เฟย​เป็นสาเหตุ​ที่​ทำให้​นาง​เสียชีวิต​ยัง​ไม่​เริ่ม​!

พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​ที่​เดิน​นำหน้า​หันหลัง​กลับมา​พลาง​ถาม​ด้วย​ความสงสัย​ ​“​น้อง​สะใภ้​เจ็ด​ ​เหตุใด​จึง​ไม่​เดิน​มา​เล่า​”

เจียง​ซื่อ​ปรับ​สีหน้า​ให้​ราบเรียบ​เป็นปกติ​ ​พลาง​มอง​ไป​ที่​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​ด้วย​สายตา​ไร้อารมณ์

พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​ที่​ถูก​มอง​เช่นนั้น​เริ่ม​รู้สึก​ประหม่า​ ​นาง​เอ่ย​กลบเกลื่อน​ ​“​น้อง​สะใภ้​เจ็ด​เป็น​อะไร​ไป​หรือ​”

เจียง​ซื่อ​ผุด​ยิ้ม​ ​“​หม่อมฉัน​แค่​รู้สึก​ว่า​พี่สะใภ้​สี่​เป็น​คนดี​เหลือเกิน​เพ​คะ​ ​หม่อมฉัน​พูด​อะไร​ ​พี่สะใภ้​สี่​ก็​มิได้​ถือสา​”

อาการ​ของ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​กระอักกระอ่วน​อย่างเห็นได้ชัด

พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​นี่​เหลือเกิน​จริงๆ​ ​นาง​อุตส่าห์​แสดง​ความโอบอ้อมอารี​ ​แต่​นาง​กลับ​ไม่เคย​รักษา​น้ำใจ

เมื่อ​คิดถึง​แผนการ​วัน​มะรืน​ ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​ก็​พยายาม​ข่ม​กลั้น​ความ​อัดอั้น​เอาไว้​ ​นาง​หัวเราะ​แห้ง​ ​“​น้อง​สะใภ้​สี่​ยัง​เด็ก​ ​ข้า​จึง​ไม่ถือสา​เป็นธรรมดา​”

เจียง​ซื่อ​พยักหน้า​รับ​พลาง​ถอนหายใจ​ ​“​พี่สะใภ้​สี่​ช่าง​ใจกว้าง​เหลือเกิน​เพ​คะ​ ​หม่อมฉัน​ได้ยิน​มา​ว่า​พี่​สี่​มี​อนุภรรยา​ตั้ง​หลาย​สิบ​คน​ ​ถึงขนาด​ที่​จวน​ฉี​อ๋อง​แทบจะ​รองรับ​ไม่ไหว​ ​ทั้งหมด​ทั้งมวล​คงจะ​เป็นคุณู​ปการ​ของ​ท่าน​พี่สะใภ้​สี่​สินะ​เพ​คะ​”

ใบหน้า​ของ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​แข็งทื่อ​ ​นาง​กำมือ​แน่น​เพื่อ​ระงับ​ความโกรธ​มิ​ให้​ปากของ​ตน​พ่น​ถ้อยคำ​สาปส่ง​ออก​ไป

นาง​คนชั่ว​ ​ตั้งใจ​พูดจา​แทงใจดำ​กัน​ชัดๆ

มี​ภรรยา​ที่ไหน​ไม่​อยาก​ใช้ชีวิต​กับ​สามี​แบบ​ผัว​เดียว​เมีย​เดียว​ ​เจียง​ซื่อ​คง​เห็น​ว่า​เยี​่​ยน​อ๋อง​คอย​ถือหาง​ถึง​ได้​ทำตัว​เหิมเกริม​ ​จึง​กล้า​เยาะเย้ย​จุดด้อย​ของ​นาง​เช่นนี้​ ​น่า​หงุดหงิด​เสีย​จริง

เจียง​ซื่อ​มิได้​สนใจ​ว่า​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​จะ​โกรธแค้น​เพียงใด​ ​เพราะ​วัน​มะรืน​ก็​คือ​วัน​มะรืน​ ​วันนี้​นาง​ขอมี​ความสุข​ก่อน​ก็แล้วกัน

การ​ได้​เห็น​คู่ปรับ​ของ​นาง​มีท​่า​ที​ทุกข์ใจ​ทำให้​นาง​รู้สึก​สบายใจ​อย่างยิ่งยวด

รอยยิ้ม​ไม่​ยี่หระ​ของ​เจียง​ซื่อ​สื่อ​ชัดเจน​ว่านาง​ตั้งใจ​พูดจา​แทงใจดำ​ ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​จึง​ทำได้​เพียง​กัดฟัน​โต้ตอบ​ ​“​พวก​บุรุษ​แตกต่าง​จาก​สตรี​อย่าง​เรา​ๆ​ ​ตอน​เพิ่ง​ออกเรือน​ใหม่​ๆ​ ​ก็​รักเดียว​ใจเดียว​ ​ไม่ต้องการ​ให้​บุคคลที่สาม​มา​แทรก​กลาง​ระหว่าง​ความสัมพันธ์​ ​แต่​เมื่อ​ความสด​ใหม่​เหล่านั้น​จางหาย​ไป​แล้ว​ ​ต่อให้​ภรรยา​ใน​บ้าน​จะ​งาม​กว่านาง​สวรรค์​ ​แต่​สายตา​ของ​บุรุษ​ก็​อด​มอง​สาว​สะพรั่ง​ตาม​ท้องถนน​มิได้​…​หึๆ​ ​น้อง​สะใภ้​สี่​ยัง​เด็ก​นัก​ ​รอ​อีก​สัก​สอง​สาม​ปีก​็​จะเข้า​ใจ​เอง​…​”

อาหมา​นที​่​ยืน​อยู่​ข้างหลัง​เจียง​ซื่อ​แอบ​กลอกตา

ข้า​ล่ะ​เกลียด​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​จริงๆ​ ​ทำ​มา​เป็น​พูดว่า​ต่อให้​ภรรยา​งาม​กว่านาง​สวรรค์​ก็​ยัง​สู้​หญิง​สามัญ​ข้าง​ถนน​ไม่ได้​ ​นี่​คง​กำลัง​พูดถึง​นาย​หญิง​อยู่​ล่ะ​สิ

เหอะ​ ​บุรุษ​ของ​ตัวเอง​เจ้าชู้​มักมาก​ ​ถึง​ได้​มองไม่เห็น​ความรัก​ของ​นาย​หญิง​และ​ท่าน​อ๋อง​ ​ช่าง​น่าสมเพช​เหลือเกิน

ใน​วินาที​นั้น​ ​หญิง​รับใช้​ก็​ออกตัว​แทน​เจ้านาย​ของ​ตัวเอง​ไป​เป็น​ที่​เรียบร้อย​

อะไร​กัน​ ​นาย​หญิง​ของ​นาง​เป็น​คน​เริ่ม​ก่อน​แล้ว​อย่างไร

ถุ​้ย​ ​แล้ว​นาย​หญิง​ของ​นาง​เป็น​คนดี​ปานนี้​จะ​เป็น​ฝ่าย​เริ่ม​ก่อน​ได้​อย่างไร​ ​ในเมื่อ​พฤติการณ์​ของ​อีก​ฝ่าย​ชั่วช้า​เกิน​กว่า​ที่​ใคร​จะ​รับ​ไหว​ ​คน​ประเภท​นี้​ไม่​ตอกกลับ​จะ​ให้​กล้ำกลืน​ฝืนทน​ฟัง​ไป​เรื่อยๆ​ ​งั้น​หรือ

สาว​รับใช้​กลอกตา​อย่าง​ไม่​กลัวเกรง​ ​หาก​มิใช่​เพราะ​เพิ่ง​ก้าว​เท้า​ออกจาก​ประตู​วัง​หลวง​ ​มี​คน​จับตาดู​อยู่​รอบ​ทิศ​ ​นาง​คง​ไป​ยืน​กลอกตา​ใส่​หน้า​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​แล้ว

เมื่อ​กล่าว​จบ​ ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​ก็​เฝ้ารอ​ให้​อีก​ฝ่าย​แสดง​สีหน้า​ไม่พอใจ​ด้วย​รอยยิ้ม​เยาะเย้ย​ใน​ใจ

นาง​ไม่เชื่อ​ว่า​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​ได้ยิน​ถ้อยคำ​เหล่านี้​แล้ว​จะ​ไม่​หวั่นไหว​ ​ความรักใคร่​เสน่หา​ที่​ลด​น้อย​ถอย​ลง​เป็น​วิสัย​ของ​พวก​บุรุษ​ ​สตรี​ส่วนใหญ่​ล้วน​ต้อง​พบ​เจอ​เรื่อง​ทุกข์ใจ​เดียว​ๆ​ ​กัน

แต่​ใคร​จะ​คิด​ว่า​แม้​เจียง​ซื่อ​จะ​ได้ยิน​เช่นนั้น​ ​ทว่า​เปลือกตา​ของ​นาง​ยังคง​นิ่ง​ ​แต่​นาง​กลับ​ถาม​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​จริง​สิ​ ​หม่อมฉัน​ได้ยิน​มา​ว่าการ​ดูแล​อนุภรรยา​มากมาย​ถึง​เพียงนั้น​ ​ลำพัง​แค่​เงิน​เบี้ยหวัด​รายปี​ของ​ท่าน​พี่​สี่​คง​ไม่พอ​ ​เห็น​ว่า​ต้อง​พึ่งพา​สินเดิม​ของ​พี่สะใภ้​สี่​ด้วย​อีก​แรง​มิใช่​หรือ​เพ​คะ​”

หัวใจ​หลัก​ของ​การ​จะ​โจมตี​คู่ต่อสู้​คือ​ต้อง​ไม่​ออม​มือ​ ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​ช่าง​ไร้เดียงสา​ ​คิด​ว่า​เบี่ยงเบน​ประเด็น​แล้ว​นาง​จะ​หลงกล​อย่างนั้น​หรือ​ ​ไม่มีทาง​ ​วันนี้​นาง​จะ​เร้า​โทสะ​ให้​นาง​อกแตก​ตาย​ไป​เลย

ส่วน​เรื่อง​เงิน​เบี้ยหวัด​ของ​ฉี​อ๋อง​ไม่พอ​เลี้ยงดู​อนุภรรยา​จน​ต้อง​หยิบยืม​สินเดิม​ของ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​เป็นเรื่อง​ที่​เจียง​ซื่อ​คาดเดา​เอา​เอง​เท่านั้น

ขนาด​อาจิ​่​นที​่​มีนาง​เพียง​คนเดียว​ ​ปัจจุบัน​ยัง​ต้อง​ใช้​เบี้ย​รายปี​ของ​เอ้อร​์​หนิว​และ​อา​ฮวน​ ​ฉี​อ๋อง​เลี้ยงดู​อนุภรรยา​เป็น​โขยง​ ​เงิน​เบี้ยหวัด​รายปี​จะ​ไป​พอได้​อย่างไร

ธิดา​ของ​ฉี​อ๋อง​มิได้​มียศ​เป็นจ​วิ​้น​จู่​ ​ฉะนั้น​เงิน​เบี้ยเลี้ยง​รายปี​ก็​คง​ไม่มีทาง​มาก​ไป​กว่า​ของ​อา​ฮวน​ ​อีกทั้ง​ยัง​ไม่มี​เจ้า​สุนัข​ที่​ได้รับ​เงิน​เบี้ยเลี้ยง​ ​หาก​ไม่ใช่​สินเดิม​ของ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​แล้ว​ ​จะ​เอา​เงิน​ที่ไหน​ใช้

การคาด​เดา​ตาม​สมมติฐาน​ของ​เจียง​ซื่อ​เป็น​ประหนึ่ง​ศร​แหลม​ที่​ทิ่มแทง​หัวใจ​ของ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง

สีหน้า​ของ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​เปลี่ยนไป​โดยสิ้นเชิง​ ​เล็บมือ​ของ​นาง​ฝังตัว​เข้าไป​ใน​ฝ่ามือ​จน​เกิด​รอย​เลือด

ใน​จวน​ค่าใช้จ่าย​มากมาย​ปาน​นั้น​ ​ลำพัง​แค่​เงิน​เบี้ยหวัด​รายปี​ของ​ท่าน​อ๋อง​บวก​กับ​ผลผลิต​ที่​ทำกำไร​ยัง​ไม่​เพียงพอ​ใช้จ่าย​ ​ฉะนั้น​เงินสนับสนุน​ส่วนหนึ่ง​จึง​มาจาก​สินเดิม​ของ​นาง​ ​แต่​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​ทราบ​เรื่อง​นี้​ได้​อย่างไร

หาก​คน​ได้ยิน​ว่า​ภรรยา​ใช้​เงิน​สินเดิม​ของ​ตัวเอง​เลี้ยงดู​อนุภรรยา​ของ​สามี​คงชื่น​ชม​ว่านาง​เป็น​สตรี​ผู้​มี​จิตใจ​กว้างขวาง​สูงส่ง​ ​แต่​มี​เพียง​นาง​เท่านั้น​ที่​รู้​ว่าความ​รู้สึก​อัปยศ​เป็น​เช่นไร

หาก​มิใช่​เพราะ​ต้องการ​ให้ท่า​นอ​๋​อง​มีโอ​รส​โดยเร็ว​ ​เพื่อ​จะ​ได้​ประสบความสำเร็จ​ ​นาง​คง​ไม่​ปล่อย​ให้​ตัวเอง​ต้อง​รู้สึก​เช่นนั้น

ครั้น​เห็นท่า​ที​ของ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​ ​เจียง​ซื่อ​ก็​เลิก​คิ้ว​สูง

เดา​ถูก​จริง​ด้วย​!

ในเมื่อ​นาง​เดา​ถูก​ ​งั้น​นาง​ก็​ใส่​เต็มที่​เลย​แล้วกัน​!​

เจียง​ซื่อ​กะพริบตา​ปริบๆ​ ​พร้อม​แสดงทีท่า​เห็นใจ​ ​นาง​กล่าว​ร้อง​ด้วย​น้ำเสียง​ประหลาดใจ​ ​“​ที่แท้​ก็​เป็นเรื่อง​จริง​หรือ​นี่​ ​พี่สะใภ้​สี่​ใช้​สินเดิม​ของ​ตัวเอง​เลี้ยงดู​ผู้หญิง​ของ​ท่าน​พี่​สี่​จริง​หรือ​เพ​คะ​”

“​น้อง​สะใภ้​เจ็ด​ไป​ได้ยิน​มาจาก​ที่ใด​”​ ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​ถาม​ด้วย​ความสงสัย

เจียง​ซื่อ​ยก​ยิ้ม​ ​“​ได้ยิน​มาจาก​ที่ใด​คง​ไม่สำคัญ​ ​ท่าน​พี่สะใภ้​สี่​ช่าง​ใจ​จิต​กว้างขวาง​เสีย​เหลือเกิน​ ​เพียงแต่​หม่อมฉัน​จะ​บอกอะ​ไร​อย่าง​นะ​เพ​คะ​ ​การทุ่มเท​ลงแรง​เพื่อ​ผู้ใด​จำต้อง​วิเคราะห์​ให้​ดี​ว่า​คุ้มค่า​หรือไม่​ ​คน​บางคน​จดจำ​ความดี​ของ​เรา​ไว้​ใน​ใจ​ ​อย่างเช่น​ท่าน​อ๋อง​ ​แต่​ก็​มี​คน​บางคน​เคยชิน​กับ​การ​ที่​คนอื่น​ยื่นมือ​เข้ามา​ช่วย​ ​โดย​มิได้​เห็น​ว่า​คนที​่​ช่วย​ต้อง​เสียสละ​สิ่งใด​บาง​ ​แต่​เขา​กลับ​ถือว่า​เป็นผล​ประโยชน์​สำหรับ​ตน​ ​วันหนึ่ง​หาก​ไม่​เหลือ​ผลประโยชน์​อีกแล้ว​ ​นอกจาก​เขา​จะ​ไม่​ซาบซึ้ง​ใน​ความพยายาม​ของ​เรา​ ​เขา​อาจจะ​โทษ​ที่​เรา​ไม่​ช่วย​เขา​ให้​ถึงที่สุด​นะ​เพ​คะ​”

พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​ได้ยิน​ถึงกับ​ชะงักงัน​นิ่งอึ้ง

เจียง​ซื่อ​ผุด​ยิ้ม​ลุ่มลึก​ ​“​ความเคยชิน​ของ​มนุษย์​น่ากลัว​เป็น​ที่สุด​ ​พี่สะใภ้​สี่​ว่า​จริง​ไหม​เพ​คะ​”

เจียง​ซื่อ​คลี่​ยิ้ม​และ​เดินผ่าน​ไป​โดย​ไม่​รอคำ​ตอบ​จาก​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง

อาหมาน​เดินตาม​ไป​ติดๆ​ ​หลังจาก​เดิน​ห่าง​ออก​ไป​ประมาณ​หนึ่ง​แล้ว​ ​นาง​ก็​หันหลัง​กลับ​ไป​มอง​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​ที่​กำลัง​ยัง​งง​อยู่​ที่​เก่า​ด้วย​ใบหน้า​สับสน​เต็มประดา

“​อาหมาน​ ​ชักช้า​อยู่​ไย​”​ ​เจียง​ซื่อ​เอ่ย​ราบเรียบ

อาหมา​นรีบ​วิ่ง​ตาม​ไป​ ​รอ​จน​ขึ้นไป​บน​รถม้า​แล้ว​นาง​ถึง​เผย​รอยยิ้ม​พลาง​ออกปาก​ชม​ ​“​นาย​หญิง​ช่าง​เก่งกาจ​เหลือเกิน​เพ​คะ​ ​ตอกกลับ​พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​จน​พระนาง​พูดไม่ออก​เลย​ทีเดียว​”

เสียแรง​ที่นา​งอุต​ส่าห์​เป็นห่วง​ว่านาย​หญิง​จะ​เป็น​ฝ่าย​พ่ายแพ้​จึง​รีบ​ตามมา​สมทบ​ ​ที่ไหนได้​ ​นาง​ลืม​ไป​ว่านาย​หญิง​ของ​นาง​เป็น​หญิง​แกร่ง​ที่​กล้า​แม้แต่​ปลิด​ชีพ​ชายหนุ่ม

“​ข้า​ก็​แค่​พูดความจริง​”​ ​เจียง​ซื่อ​ตอบ​เสียง​เรียบ

“​…​”