บทที่ 658 องค์หญิงอันเยว่ถูกโจมตี

“สามี ข้าจะตรวจสอบคนรับใช้ที่อยู่ในจวนอู่โหวทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่รอบกายเด็กๆ” ถังหลี่พูดขึ้น

“เรื่องยังคงไม่จบแค่นี้แน่…” นางทำท่าครุ่นคิดหาวิธีจัดการกับองค์หญิงอันเย่ว..นางต้องทำความเข้าในอุปนิสัยของหญิงผู้นี้เพื่อที่จะหาจุดอ่อนและโจมตีนาง คงจะดีถ้านางใช้ดาบฆ่าคนตายได้โดยไม่ต้องรับโทษ

“ฮูหยิน ข้าวางแผนที่จะจัดการกับพวกสกุลหลู” เว่ยฉิงว่า

“องค์หญิงอันเยว่ทำให้ลูกๆ ของข้าต้องหวาดกลัว นอกจากนี้ยังมีเรื่องในอดีตของสกุลเซียวด้วย เราต้องจัดการพวกเขา นายท่านหลูเกอไม่ใช่คนดิบดีอะไร หลูเสวี่ยนก็คือหลานชายของเขาที่เป็นคนสกุลหลู ลึกๆแล้วเขาต้องแค้นใจมาก จนอยากหาทางเล่นงานกลับ พวกเราคงต้องชิงลงมือก่อน”

“ได้สามี ข้าจะเชื่อเจ้า” ถ้งหลี่พูด “แต่ก่อนอื่นเราควรเอาผ้าเปื้อนเลือดนี้คืนให้องค์หญิงอันเยว่เสียก่อน”

เว่ยฉิงพยักหน้าอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา

“ฮึ่ม! นางชอบผ้าเปื้อนเลือดมากใช่หรือไม่? ได้! ข้าจะเอาไปปิดหน้านางเอง”

ทำให้นางตกใจกลัวเสียบ้างเพื่อระบายความโกรธของภรรยาเขา !

วันถัดมา ที่จวนผิงหยางโหว

เมื่อองค์หญิงอันเยว่ตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล นางรู้สึกถึงความผิดปกติ จมูกได้กลิ่นคาวเลือดอย่างรุนแรง เมื่อนางลืมตาขึ้นดวงตาของนางเป็นสีแดงสด บนใบหน้ามีบางอย่างเหนียวหนืดน่าขยะแขยง ไม่นานนักนางก็ตระหนักได้ว่า มีบางอย่างอยู่บนใบหน้าของตน เมื่อองค์หญิงอันเยว่หยิบขึ้นมา นางพบว่าเป็นผ้าเช็ดหน้าที่เปื้อนเลือดชุ่มโชกไปทั้งผืน

นางกรีดร้องออกมาทันที โยนผ้าลงกับพื้น

ใครกันที่ทำเรื่องชั่วช้าเช่นนี้! กล้าดีอย่างไรเอาผ้าโชกไปด้วยเลือดมาคลุมหน้านาง!

“ใครเป็นคนนำมันเข้ามา!” องค์หญิงอันเยว่ชี้ไปยังผ้าเปื้อนเลือดบนพื้น บ่าวรับใช้ได้แต่คุกเข่าตัวสั่นไม่มีใครปริปาก ได้แต่ส่ายหัวไปมา องค์หญิงอันเยว่จ้องไปที่ผ้าเปื้อนเลือดผืนนั้น พลันนางนึกได้ถึงบางอย่าง

งานเลี้ยงวันเกิดขวบปีแรกของสกุลอู่ นางให้ผ้าหน้าเปื้อนเลือดผืนนี้เป็น ‘ของขวัญแสดงความยินดี’ แก่สกุลอู่

ในขณะที่บุตรชายของนางทรมานอยู่ในคุก แต่บุตรชายหญิงฝาแฝดของถังหลี่กลับได้ฉลองวันเกิดอย่างมีความสุข นางจึงลงมือนำโชคร้ายให้มาเยือนงานฉลองขวบปีแรกของบุตรฝาแฝดของถังหลี่

ผ้าเปื้อนเลือดผืนนี้คือการแก้แค้นจากสกุลอู่ใช่หรือไม่?

แต่จะเป็นไปได้อย่างไรกัน? แม้ว่าสกุลอู่จะมีความสามารถแต่พวกเขาไม่ควรผ่านเวรยามของจวนผิงหยางโหวและนำผ้าเปื้อนเลือดมาปิดใบหน้าของนางได้ แต่ถ้าสกุลอู่มีความสามารถถึงเพียงนี้ ต่อไปเขาอาจจะปลิดชีวิตนางได้อย่างไม่รู้ตัวสินะ!

องค์หญิงอันเยว่อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น นางสั่งบ่าวรับใช้ไปสืบหาว่าผ้าผืนนี้มาปรากฏที่ห้องของนางได้อย่างไร ?

ในเวลาเดียวกัน จวนผิงหวางโหวก็เพิ่มกำลังคนเฝ้ายามให้แน่นหนาขึ้น แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ไม่พบผู้กระทำผิดในครั้งนี้เลย นอกจากนี้ยังมีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นภายในจวนบ่อยครั้ง

จู่ๆ มีรองเท้าเด็กและรองเท้าผู้หญิงปรากฏขึ้นภายในห้องของนาง ข้างในรองเท้ามีจดหมายซ่อนอยู่ เป็นข้อความที่เขียนด้วยเลือดว่า

“คืนชีวิตให้เราสองแม่ลูก” ถ้าหากว่านางไม่ได้ทำผิด การกระทำแบบนี้ถือเป็นเรื่องข่มขู่กันเท่านั้น แต่น่าเสียดายที่องค์หญิงอันเยว่มีชนักติดหลัง

ย้อนกลับไปก่อนที่นางจะแต่งงานกับหลูอัน แต่เดิมหลูอันมีคนรักอยู่ก่อนหน้านั้น แต่ด้วยสถานะที่ต้อยต่ำทำให้ครอบครัวหลู่ขัดขวางการแต่งงานของพวกเขา

องค์หญิงอันเยว่หลงรักหลูอันตั้งแต่แรกเห็น นางทูลขอสมรสพระราชทานต่อฮ่องเต้ อันเยว่รู้ว่าชายหนุ่มมีคนรักอยู่แล้วอีกทั้งสตรีผู้นั้นกำลังตั้งท้อง! แต่องค์หญิงหลงรักหลูอันอย่างจริงจัง นางจึงลงมือฆ่าคนรักของหลูอัน พร้อมกับเขียนจดหมายปลอมลายมือของนางมอบให้หลูอันว่า

“สามี ข้าเปลี่ยนใจแต่งงานกับชายอื่นแล้ว”

หลังจากที่หลูอันได้อ่านจดหมายฉบับนั้น เขาจึงยอมแพ้และยอมรับสมรสพระราชทานในที่สุด

ด้วยเหตุนี้องค์หญิงอันเยว่จึงฝันร้ายติดกันหลายครั้ง เมื่อได้อ่านจดหมายเลือดฉบับนี้ยิ่งทำให้อดีตดำมืดของนางถูกขุดคุ้ยขึ้นมาอีกครั้ง

องค์หญิงอันเยว่หน้าซีดเซียว นางรีบเผาจดหมายเปื้อนเลือด สั่งให้บ่าวรับใช้นำรองเท้าไปเผาทันที อันเยว่รู้สึกไม่สบายใจแต่นางไม่กล้าปริปากพูดเรื่องนี้กับหลูอัน ได้แค่กล้ำกลืนลงท้องไป

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ไม่ได้จบเพียงเท่านี้ ยังคงมีของใช้ของเด็กและสตรีมาปรากฏอยู่ในห้องนางบ่อยครั้ง ทั้งเสื้อผ้า ของเล่นเด็ก แม้กระทั่งปิ่นปักผม นางตื่นตระหนกมาก ในช่วงสองวันผ่านไปใบหน้าของนางยิ่งซีดเซียวมากขึ้น

ไม่กี่วันต่อมาข่าวร้ายที่ได้รับกลับกลายเป็นอาวุธสังหารองค์หญิงอันเยว่ทันที นั่นคือหลูเสวี่ยนเสียชีวิตในคุก

“เป็นไปไม่ได้ ท่านโกหกข้า!” องค์หญิงอันเยว่ไม่เชื่อ นางดูแลความเป็นอยู่ของบุตรชายที่อยู่ในคุกเป็นอย่างดี เขามีทั้งอาหารและเครื่องดื่มบำรุงร่างกาย ซ้ำยังไม่ต้องทำงานหนักอีก เขาจะเสียชีวิตในคุกได้อย่างไร?

“เขาอารมณ์ไม่ดีเลยทะเลาะกับคนในนั้น ทั้งคู่ต่อสู้กัน ศีรษะของเสวี่ยนเอ๋อร์ชนเข้ากับกำแพง”

ใบหน้าของหลูอันซีดเซียว เขาพ่นลมหายใจเย็นๆ ออกมา หลังจากพูดจบเขาปิดหน้าก้มหัวลงด้วยท่าทางที่เศร้าสร้อย เขาทนไม่ได้ที่บุตรชายคนเดียวของตนจากไปอย่างกระทันหันเช่นนี้

“ข้าไม่เชื่อ ข้าจะไปพบเสวี่ยนเอ๋อร์!” องค์หญิงอันเยว่ร้อง

ร่างของหลูเสวี่ยนถูกส่งกลับมาทยังจวนสกุลหลูแล้ว เมื่อเห็นร่างที่ไร้วิญญาณของบุตรชายนอนแข็งทื่ออยู่บนเตียง นางจึงตระหนักได้ว่าบุตรชายได้จากนางไปเสียแล้ว

ในตอนนี้นางเป็นเพียงสตรีธรรมดาทั่วไปที่สูญเสียบุตรชายที่รักไปเท่านั้น องค์หญิงอันเยว่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า

“เสวี่ยนเอ๋อร์ เสวี่ยนเอ๋อร์ของแม่ เหตุใดเจ้าทิ้งแม่ไว้แบบนี้!”

“ถ้าแม่รู้…แม่จะไม่มีทางยอมให้เจ้าเข้าคุก แม่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเจ้า”

“แม่ใจจะขาดแล้ว”

นางร้องไห้โฮออกมา หลูอันนั่งเคียงข้าง ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงและมีน้ำตาไหลออกมาเงียบงัน

“ใครฆ่าเสวี่ยนเอ๋อร์” องค์หญิงอันเยว่ถาม

“นักโทษคนหนึ่ง เสวี่ยนเอ๋อร์ใช้มีดฟันไปที่คอของเขา ตอนนี้เขาตายไปแล้ว” หลูอันกล่าว

“ครอบครัวของเขาอยู่ไหน?” องค์หญิงอันเยว่มองไปที่หลูอันด้วยแววตาวาวโรจน์ เขาหันไปมองภรรยาอย่างประหลาดใจ

“ข้าจะทำให้คนในครอบครัวของมันต้องตกเป็นทาสหลายชั่วอายุคน!!” องค์หญิงอันเยว่กัดฟันแน่น ดวงตาของนางฉายแววความเกลียดชัง

“ไร้สาระ บุตรชายของเจ้าเป็นคนเริ่มก่อน เขาฝ่าฝืนกฎหมายของต้าโจวซ้ำยังถูกจับเข้าคุก ตีกับนักโทษข้างใน เรื่องนี้แพร่กระจายไปจนสกุลหลูต้องแปดเปื้อนเพราะหลานที่ไม่เอาไหนอย่างลูกชายของเจ้า!” ใบหน้าของหลูเกอขึ้งโกรธ แต่เดิมองค์หญิงอันเยว่เคารพและเกรงกลัวพ่อสามีมาตลอด แต่ตอนนี้นางไม่กลัวเขาอีกต่อไป ท่าทีของนางเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

“ท่านพ่อ ชื่อเสียงของสกุลหลูสำคัญกว่าชีวิตของหลานชายท่านอีกหรือ? ไร้สาระเกินไปหรือไม่ เหอะ !สกุลหลูที่ร่ำรวยใหญ่โตแต่ไม่สามารถช่วยชีวิตหลานชายคนโตได้!”

เพี้ยะ!

หลูอันตบไปที่หน้าขององค์หญิงอันเยว่ทันที นางหันไปมองสามีด้วยความไม่เชื่อสายตา หลูอันไม่ยอมสบตากับนาง

“องค์หญิง เหตุใดเจ้าถึงโทษว่าเป็นความผิดของคนอื่น? เจ้าไม่คิดถึงความผิดพลาดของเจ้าบ้าง หากเจ้าไม่ตามใจเขามากเกินไปเขาคงไม่เป็นคนท้าทายกฎหมายจนต้องติดคุกเช่นนี้ สุดท้ายมีเรื่องกับคนในคุก แล้ว…” หลูอันไม่สามารถพูดต่อไปได้อีก เขาก้มหน้าลงอย่างสลดใจ

องค์หญิงอันเยว่เอามือกุมใบหน้ าดวงตาเบิกกว้าง เหตุใดใครๆ จึงบอกว่าเป็นความผิดของนางเล่า?

นี่นางผิดจริงๆ หรือ?

——————————-