ตอนที่ 599 สุนัขรับใช้หนึ่งตัว

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 599 สุนัขรับใช้หนึ่งตัว

“ถึงแล้ว ที่นี่ขอรับ…” ผู้คุมคุกของศาลต้าหลี่เปิดประตูคุกออก กล่าวกับฝูเหล่าไท่จวินอย่างนอบน้อม

“ขอบใจมาก” ฝูเหล่าไท่จวินสื่อให้หมัวมัวข้างกายตบรางวัลให้ผู้คุม จากนั้นกล่าวยิ้มๆ “ลำบากท่านแล้ว เอาไว้ดื่มน้ำชา!”

ฝูรั่วซีที่ขาทั้งสองข้างถูกล่ามโซ่นั่งคุกเข่าอยู่บนกองฟาง แขนของเขาขาดไปข้างหนึ่ง ใบหน้ามอมแมมไปด้วยสิ่งสกปรก เขาเงยหน้าขึ้น อาศัยแสงไฟริบหรี่ในคุกของศาลต้าหลี่มองเห็นใบหน้าที่เข้มงวดของมารดา ฝูรั่วซีกำมือที่วางอยู่บนหัวเข่าแน่น เม้มริมฝีปากที่แตกแห้งแน่น

ผู้คุมทดสอบน้ำหนักของเงินในถุงเงิน จากนั้นยัดใส่หน้าอกด้วยรอยยิ้ม “ฝูเหล่าไท่จวินกล่าวอันใดเช่นนี้ขอรับ พวกเราจะกล้าไม่ทำตามคำสั่งขององค์รัชทายาทได้อย่างไรขอรับ พวกท่านเชิญสนทนากันตามสบาย ข้าขอตัวก่อนขอรับ!”

ฝูเหล่าไท่จวินพยักหน้าให้ผู้คุมยิ้มๆ กล่าวกับหมัวมัวข้างกาย “หากมีคนมาช่วยบอกข้าด้วย”

“เจ้าค่ะ” หมัวมัวย่อกายทำความเคารพ จากนั้นหลบไปยืนอยู่ด้านข้าง

ฝูเหล่าไท่จวินเดินเข้าไปด้านในห้องขัง มองไปทางฝูรั่วซีด้วยแววตาวาวโรจน์

ลำคอของฝูรั่วซีร้อนผ่าว ยันมือข้างหนึ่งลงบนกองฟาง เสียงโซ่ที่ข้อเท้ากระทบกันดังขึ้น เขาก้มหน้าลงไม่กล้าสบตาคมกริบของฝูเหล่าไท่จวิน ทำเพียงโขกศีรษะลงบนพื้นอย่างแรง

มองดูแขนเสื้อที่ไร้ซึ่งแขนของบุตรชาย น้ำตาของฝูเหล่าไท่จวินไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ นางยืนถือไม้เท้าตัวตรง เอ่ยขึ้น “เพื่อฮองเฮาแล้ว เจ้ากล้าทำทุกอย่างเลยสินะ! เจ้าไม่สนใจคนแก่อย่างข้า ไม่สนใจน้องชาย หลานชายของเจ้า! เจ้าสามารถไม่สนใจได้แม้แต่เมียของเจ้า ทว่า ลูกชายทั้งสองคนของเจ้าเล่า เจ้าต้องการให้พวกเขาตายเพราะฮองเฮาอย่างนั้นหรือ!”

ฝูรั่วซีได้ยินเสียงโมโหปนสะอื้นของฝูเหล่าไท่จวิน เขายิ่งหมอบต่ำยิ่งกว่าเดิม

“ท่านแม่ ฮองเฮา นาง…นางตั้งครรภ์ลูกของข้า…”

ฝูรั่วซียังไม่ทันเอ่ยจบ ฝูเหล่าไท่จวินยกไม้เท้าตีไปที่ร่างของฝูรั่วซีจนเขาเผลอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

น้ำตาของฝูเหล่าไท่จวินไหลพราก กัดฟันกรอด ใช้ไม้เท้าตีไปที่ร่างของบุตรชายอีกหลายครั้ง ฝูรั่วซีใช้มือเพียงข้างเดียวค้ำยันพื้นเพื่อทรงตัว เขากำฟางบนพื้นแน่น ปล่อยให้มารดาตีโดยไม่ส่งเสียงใดๆ ทั้งสิ้นจนร่างเกือบล้มลงบนพื้น

ไม่รู้ว่าฝูเหล่าไท่จวินตีบุตรชายของตัวเองทั้งหมดกี่ครั้ง นางตีจนไม่มีแรง ไม้เท้าหลุดออกจากมือที่สั่นเทาของตน

ฝูเหล่าไท่จวินนั่งคุกเข่าร้องไห้อยู่บนพื้นเช่นเดียวกัน นางกำบ่าทั้งสองข้างของฝูรั่วซีแน่น “เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไร เจ้ารู้หรือไม่ว่าหากคำกล่าวนี้หลุดออกไป คนทั้งตระกูลฝูจะมีจุดจบเช่นไรบ้าง เจ้ายอมทำเพื่อสตรีอย่างจงเส้าหรงได้ทุกอย่างโดยไม่สนใจสิ่งใดจริงๆ อย่างนั้นหรือ ร้อยกว่าชีวิตในตระกูลฝู ลูกชายทั้งสองคนของเจ้า พวกเขาทำสิ่งใดผิดกันถึงต้องจบชีวิตเพราะผู้หญิงคนนั้น! เจ้ายินดีให้ทุกคนในตระกูลฝูตั้งแต่เด็กเล็กยันคนแก่ชราขึ้นไปบนแท่นประหารเพื่อปูทางให้ผู้หญิงคนนั้นจริงๆ หรือ!”

ฝูรั่วซีนึกถึงรอยยิ้มที่บริสุทธิ์ของบุตรชายคนเล็ก เขาหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด

“เจ้าลองนึกย้อนถึงคดีของเจี่ยงฉงเหวิน หลานชายคนเล็กของผู้ตรวจการสูงสุดอายุเพียงสี่ขวบ เขาต้องขึ้นไปบนแท่นประหารด้วย ปากเอาแต่บ่นว่าอยากกินลูกอม ตอนนั้นเจ้าเคยกล่าวไว้ว่าอย่างไร เจ้าจำได้หรือไม่ เจ้าสงสารเด็กของตระกูลอื่น ทว่า ลูกชายของเจ้าเพิ่งอายุเพียงหกขวบ หกขวบเท่านั้น! เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!” ฝูเหล่าไท่จวินกระชากคอเสื้อของฝูรั่วซี ร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด

หวนนึกถึงตอนที่หลานชายคนเล็กของผู้ตรวจการสูงสุดถูกจับตัวขึ้นไปบนแท่นประหาร เขากล่าวกับมารดาว่าอยากกินลูกอม ตอนนั้นฝูรั่วซีรู้สึกโกรธแค้นจนน้ำตาไหลพราก

ตอนนั้นที่เขาได้ยินคำกล่าวของเด็กเพียงสี่ขวบ เขาเกือบทนไม่ไหวบุกเข้าไปในวังหลวง ขอให้ฮ่องเต้ปล่อยเด็กที่ยังไม่รู้ความไป

ทว่า บัดนี้เขาถูกความรักและความรู้สึกผิดครอบงำจนไม่สนใจชีวิตของมารดา ภรรยาและบุตรชายของตัวเอง

“ท่านแม่…” ฝูรั่วซีร้องไห้ออกมา “ท่านแม่ ลูก ลูกทำผิดต่อท่านแม่ ทำผิดต่อน้องชายและภรรยาของตัวเอง”

ฝูเหล่าไท่จวินสะอื้น นางสูดลมหายใจเข้าปอด จับบ่าของบุตรชายแน่น กล่าวออกมาอย่างจริงจัง “ลูกชาย แม่ช่วยชีวิตเจ้าไว้ไม่ได้ ทว่า อย่างน้อยแม่สามารถปกป้องชีวิตคนที่เหลือในตระกูลได้ ปกป้องเมียและลูกของเจ้าได้! เจ้าสารภาพเรื่องที่ฮองเฮาหลอกใช้เจ้าให้คุ้มครองซิ่นอ๋องขึ้นครองบัลลังก์ออกมา บอกว่าฮองเฮาบังคับเจ้า องค์รัชทายาทจะปกป้องคนที่เหลือในตระกูลฝูเอง”

“ท่านแม่ เราไม่สามารถเชื่อคำขององค์รัชทายาทได้ขอรับ” ฝูรั่วซีกล่าว

“องค์รัชทายาทเชื่อไม่ได้ องค์หญิงเจิ้นกั๋วก็เชื่อไม่ได้อย่างนั้นหรือ! ข้าไปหาองค์หญิงเจิ้นกั๋วก่อน องค์หญิงเจิ้นกั๋วบอกให้ข้าไปพบองค์รัชทายาท!” ฝูเหล่าไท่จวินกัดฟันกรอด กล่าวเสียงเบา “องค์หญิงเจิ้นกั๋วสื่อว่านางช่วยเจ้าไม่ได้ ทว่า สามารถช่วยลูกๆ ของเจ้าได้ ขอเพียงพวกเราเตรียมการล่วงหน้า ใช้เงินซื้อความสบายให้พวกเด็กๆ เมื่อองค์รัชทายาทได้ขึ้นครองราชย์ พวกเด็กๆ จะได้กลับมาเมืองหลวงอีกครั้ง”

ฝูรั่วซีเชื่อใจไป๋ชิงเหยียน

ฝูรั่วซีไม่ใช่คนไม่รู้จักบุญคุณคน เขารู้ว่าวันนั้นไป๋ชิงเหยียนตัดแขนของเขาข้างหนึ่ง ทว่า ไม่คิดเอาชีวิตเขา นางใช้ตระกูลฝูมาเตือนสติเขาเพราะต้องการเหลือทางรอดให้ตระกูลฝูที่อยู่ในเมืองหลวง

มิเช่นนั้น หากเขาเสียชีวิตในวันนั้นเท่ากับเป็นการยอมรับว่าเขาจงใจสังหารองค์รัชทายาท แม้อาจไม่โดนประหารเจ็ดชั่วโคตร ทว่า คนในตระกูลฝูที่เมืองหลวงคงไม่อาจมีชีวิตรอด

แค่เรื่องนี้ ฝูรั่วซีก็เชื่อใจไป๋ชิงเหยียนแล้ว

ทว่า หากใส่ร้ายว่าฮองเฮาใช้ชีวิตของคนในตระกูลฝูมาข่มขู่เขา ฮองเฮาจะมีชีวิตรอดอย่างนั้นหรือ

“ลูกชาย เจ้าจะลังเลไม่ได้อีกแล้ว!” ใบหน้าที่เหี่ยวย่นของฝูเหล่าไท่จวินเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาและความร้อนใจ

“ท่านแม่ หากใต้เท้าหลู่ผู้พิพากษาศาลต้าหลี่มาสืบสวน ลูกจะบอกออกไปตามความจริง ให้ลูกใส่ร้ายฮองเฮา ลูกทำไม่ได้ขอรับ” ฝูรั่วซีสะอื้น

“ดี! ดี! เจ้าช่างเป็นลูกชายที่ดีของข้า! เป็นสามีที่ดี! เป็นพ่อที่ดีจริงๆ !” ฝูเหล่าไท่จวินส่ายหน้า ลุกขึ้นยืนอย่างโซเซ “ชีวิตคนในตระกูลฝูไม่สำคัญ มีเพียงจงเส้าหรงที่สำคัญ! ข้าคลอดสุนัขรับใช้ที่ดีตัวหนึ่งให้แก่จงเส้าหรงจริงๆ ข้าทำผิดต่อลูกสะใภ้ ต่อหลานชายของข้า หากรู้เช่นนี้ข้าคงไม่ให้เจ้าแต่งงานมีครอบครัว ข้าไม่เพียงทำลายชีวิตของสตรีคนหนึ่ง ข้ายังทำลายชีวิตหลานชายของตัวเองอีกด้วย ข้าทำผิดต่อตระกูลลูกสะใภ้ ทำผิดต่อลูกสะใภ้ข้าจริงๆ !”

น้ำเสียงของฝูเหล่าไท่จวินอ่อนแรง “มารดาของลูกสะใภ้ฝากนางไว้กับข้าก่อนนางจะสิ้นใจ หวังว่าตระกูลของเราจะปกป้องลูกสาวคนเล็กของของพวกเขาให้มีชีวิตอย่างมีความสุข ข้าแอบปิดบังเรื่องระหว่างเจ้าและจงเส้าหรงเอาไว้ ให้เจ้าแต่งงานกับนางอย่างคนเห็นแก่ตัว หลายปีมานี้เจ้าไม่อยู่ในเมืองหลวง เมียของเจ้าดูแลจวนฝูเป็นอย่างดี ดูแลแม่สามีอย่างข้าเป็นอย่างดี ลูกสะใภ้ที่ดีเช่นนี้ หลานชายที่ดีเช่นนี้ กลับต้องมาตายเพราะลูกชายที่ไม่ยอมตัดความสัมพันธ์กับคนรักเก่าของตัวเองของข้า…”

“ท่านแม่…” ฝูรั่วซีกำหมัดแน่น สะอื้นจนตัวโยน

“อย่ามาเรียกข้าว่าแม่ ข้าไม่ใช่แม่ของเจ้า!” ฝูเหล่าไท่จวินทุบอก ร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด