ตอนที่ 600 เหตุใดจึงโหดร้ายเพียงนี้

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 600 เหตุใดจึงโหดร้ายเพียงนี้

“สวรรค์ เหตุใดข้าจึงคลอดบุตรเช่นนี้ออกมา! ในหัวของเขามีแต่สตรีนามว่าจงเส้าหรงผู้นั้น ไม่สนใจความปลอดภัยของตระกูลฝูเลยสักนิด!” ฝูเหล่าไท่จวินกำชายเสื้อบริเวณหน้าอกแน่นพลางทุบไปที่อกของตัวเอง “ข้าทำผิดต่อท่านพี่ ทำผิดต่อตระกูลฝู ทำผิดต่อลูกสะใภ้ ทำผิดต่อหลานชายและทำผิดต่อมารดาของลูกสะใภ้ที่ล่วงลับไปแล้ว!”

“ท่านแม่…” ฝูรั่วซีคลานเข่าเข้าไปหา เขาเอื้อมมือที่สั่นเทาออกไป หวังสัมผัสชายกระโปรงของมารดา ทว่า ถูกฝูเหล่าไท่จวินสะบัดออกอย่างแรง

“ข้าไม่อาจทนเห็นหลานชายของข้าถูกประหารชีวิตได้ ข้าขอล่วงหน้าไปรับผิดกับท่านพี่ ต่อมารดาของลูกสะใภ้ในปรโลกก่อนก็แล้วกัน!”

ฝูเหล่าไท่จวินกล่าวจบก็วิ่งเอาศีรษะชนกำแพงของคุกต้าหลี่อย่างแรง เลือดสดกระจายทั่วบริเวณ

“ท่านแม่!” ฝูรั่วซีเบิกตาโพลง ถลาไปด้านหน้า ประคองตัวของมารดาที่ล้มลงขึ้นมาด้วยมือที่เหลือเพียงข้าง เดียว “ผู้ใดก็ได้! รีบมานี่เร็ว! รีบมาเร็ว ท่านแม่ ท่านแม่ ลูกผิดไปแล้ว ลูกจะทำตามที่ท่านแม่สั่งทุกอย่างขอรับ ท่านแม่!”

หมัวมัวชราที่เฝ้าอยู่ทางด้านนอกได้ยินเสียงจึงรีบเดินเข้ามา เมื่อเห็นฝูเหล่าไท่จวินที่ศีรษะเต็มไปด้วยเลือด นางตกใจจนเกือบทรุดลงบนพื้น รีบตะโกนเสียงดังลั่น “เร็วเข้า! เกิดเรื่องแล้ว! ผู้ใดก็ได้มาที่นี่หน่อย!”

ไม่นาน คุกของศาลต้าหลี่เกิดความวุ่นวายขึ้นทันที พวกเขารีบแบกร่างของฝูเหล่าไท่จวินออกไปด้านนอก

ผู้คุมคนหนึ่งวิ่งออกจากคุกของศาลต้าหลี่ไปยังซอยลับที่อยู่ไม่ห่างจากคุกเท่าใดนัก เขาทำความเคารพรัชทายาทที่นั่งอยู่ในรถม้าโดยมีองค์รักษ์จวนรัชทายาทคอยคุ้มกัน จากนั้นกล่าวขึ้น “องค์รัชทายาท ฝูเหล่าไท่จวินวิ่งชนกำแพงแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

รัชทายาทที่นั่งอยู่ในรถม้าลูบแหวนหยกปานจื่อที่นิ้วของตัวเอง ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ดี ใต้เท้าหลู่มาถึงแล้วหรือไม่”

“ใกล้ถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

รัชทายาทพยักหน้า จากนั้นลงจากรถม้า พาคนเดินเข้าไปยังคุกของศาลต้าหลี่

รัชทายาทกำลัง ก้าวเท้าเข้าขึ้นไปบนบันไดของคุกศาลต้าหลี่ ก็เห็นหลู่จิ้นวิ่งมาถึงอย่างร้อนรน รัชทายาทชะงักฝีเท้า “ใต้เท้าหลู่…”

หลู่จิ้นรีบทำความเคารพรัชทายาท “องค์รัชทายาท!”

“เหตุใดจึงรีบร้อนถึงเพียงนี้!” รัชทายาทแสร้งทำเป็นไขสือ

“ทูลองค์ชาย องค์ชายทรงพระราชทานอนุญาตให้ฝูเหล่าไท่จวินมาเยี่ยมแม่ทัพฝู ทว่า ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น ฝูเหล่าไท่จวินจึงวิ่งเอาศีรษะโขกกำแพง กระหม่อมจึงต้องรีบมาดูพ่ะย่ะค่ะ“ หลู่จิ้นกล่าวอย่างเหนื่อยหอบ

“ว่าอย่างไรนะ!” รัชทายาทตกใจ รีบถลกชายชุดเดินเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว

หลู่จิ้นเดินตามหลังรัชทายาทเข้าไปในคุกศาลต้าหลี่อย่างรีบร้อนเช่นกัน

บัดนี้ผู้คุมแบกร่างของฝูเหล่าไท่จวินออกมาด้านนอกแล้ว หมอเพิ่งมาถึงไม่นาน เขากำลังตรวจออาการและห้ามเลือดให้ฝูเหล่าไท่จวิน

รัชทายาทก้าวเข้าไปในคุกที่อับชื้นและเต็มไปด้วยกลิ่นไม่พึงประสงค์ เดินตรงเข้าไปหาฝูเหล่าไท่จวิน เอ่ยถามเสียงดังลั่น “ฝูเหล่าไท่จวินเป็นเช่นไรบ้าง!”

เสียงดังของรัชทายาททำให้ฝูเหล่าไท่จวินที่กำลังหลับตาอยู่เริ่มขยับนิ้วมือ จากนั้นค่อยๆ ลืมตาขึ้น

ฝูเหล่าไท่จวินมาพบฝูรั่วซีในวันนี้ไม่ใช่เพราะมาเยี่ยมบุตรชาย ทว่า มาเพื่อแสดงละครฉากนี้

ละครฉากสุดท้ายของฝูเหล่าไท่จวินคือฉากที่มีรัชทายาทและหลู่จิ้น หากนางแสดงละครฉากนี้ต่อหน้าหลู่จิ้นได้ดี บุตรชายคนโต คนเล็ก หลานชายและลูกสะใภ้ของนางจึงจะรอดชีวิต

บุตรชายของนางถูกความรักครอบงำ ถูกฮองเฮาปั่นหัว เช่นนั้นหญิงแก่อย่างนางก็จะใช้ชีวิตของนางปูทางให้บุตรชายและหลานชายของตัวเอง อย่างน้อยก็สามารถปกป้องชีวิตของพวกเขาไว้ได้

ดังนั้นฝูเหล่าไท่จวินจึงฝืนลมหายใจเฮือกสุดท้ายลืมตาขึ้น เอื้อมมือไปทางรัชทายาท กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่าและอ่อนแรง “องค์ชาย…”

“เหล่าไท่จวิน!” รัชทายาทรับเดินเข้าไปกุมมือของฝูเหล่าไท่วินเอาไว้ เอ่ยถามหมอ “ฝูเหล่าไท่จวินเป็นเช่นไรบ้าง”

มือที่เหลืออยู่ข้างหนึ่งของฝูรั่วซีกำกรงของห้องขังแน่น เขาอยากมองออกไปด้านนอก ทว่า ไม่ว่ามองอย่างไรก็มองไม่เห็น เขาตะโกนร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด “ท่านแม่! ท่านหมอได้โปรดช่วยท่านแม่ของข้าด้วยเถิด! ช่วยท่านแม่ของข้าด้วยเถิด!”

หมอผู้นี้เป็นเพียงหมอรักษาชาวบ้านธรรมดา เขาไม่เคยพบคนสูงศักดิ์ดั่งรัชทายาทจึงตกใจจนรีบคุกเข่าลงบนพื้น กล่าวเสียงสั่นระริก “ทูล ทูลองค์ชาย ข้ามีความรู้น้อยนิด ทำได้เพียงช่วยห้ามเลือด ไม่กล้าวินิจฉัยพ่ะย่ะค่ะ”

“รีบไปตามหมอหลวงหวงมาเร็ว!” รัชทายาทหันไปสั่งองครักษ์ที่อยู่ทางด้านหลัง

องครักษ์กำหมัดรับคำแล้วเดินออกจากคุกไปอย่างรวดเร็ว หลู่จิ้นก้าวไปด้านหน้า เมื่อเห็นฝูเหล่าไท่จวินที่ร่างโชกเลือด เขาตะลึงงันไปชั่วขณะ

“องค์ชาย…” ฝูเหล่าไท่จวินกำมือของรัชทายาทแน่น “องค์ชาย หม่อมฉันทำผิดต่อองค์ชาย เมื่อครู่หม่อมฉันสอบถามเรื่องราวจากบุตรเนรคุณของหม่อมฉันแล้ว ฮองเฮาใช้ชีวิตของหม่อมฉันและคนในตระกูลฝูข่มขู่บุตรของหม่อมฉันเพคะ”

“ว่าอย่างไรนะ!” รัชทายาทตะลึง

หลู่จิ้นหน้าเปลี่ยนสีเช่นเดียวกัน

“ไม่กล้าปิดบังองค์ชาย ก่อนฮองเฮาจะแต่งงานกับฝ่าบาท นางเคยหมั้นหมายกับบุตรชายของหม่อมฉันมาก่อน ต่อมานางวางแผนเพื่อให้ได้รับความสนใจจากอดีตฮ่องเต้ เมื่อรู้ว่าบุตรของหม่อมฉันเสียใจจนไปเข้าร่วมกองทัพ จากนั้นจึงแสร้งทำเป็นมาขอให้บุตรของหม่อมฉันไปสู่ขอนาง บุตรของหม่อมฉันไม่ยินยอม ฮองเฮาจึงร้องไห้ตัดพ้อว่าบุตรของหม่อมฉันเป็นหนี้นางเพคะ”

ฝูรั่วซีขนลุกซู่ไปทั้งร่าง เขารู้จักมารดาของตัวเองดีที่สุด นางกล่าวเรื่องนี้ออกมา แสดงว่านางต้องการดึงฮองเฮาลงเหวไปด้วยกัน ฝูรั่วซีตะโกนเสียงดังลั่น “ท่านแม่!”

ผู้คุมซึ่งยืนอยู่ด้านข้างสูดหายใจเข้าปอดลึก หากนี่คือเรื่องจริงเท่ากับว่าพวกเขาบังเอิญล่วงรู้เรื่องโสมมของราชวงศ์เข้าให้แล้ว พวกเขาต่างคิดว่าควรจะหลบฉากไปดีหรือไม่

รัชทายาททำเป็นไม่ได้ยินเสียงตะโกนของฝูรั่วซี แสร้งมองไปทางฝูเหล่าไท่จวินอย่างตกตะลึง ทว่า สายตากลับเหลือบมองหลู่จิ้นที่กำลังอยู่ในอาการตกใจ

“คราวก่อนบุตรชายของหม่อมฉันรบชนะกลับมาจากสงครามที่เป่ยเจียง ฝ่าบาททรงเรียกเขาเข้าพบ เมื่อออกมาจากห้องทรงอักษรของฝ่าบาท บุตรของหม่อมฉันพบกับนางกำนัลข้างกายของฮองเฮา นางผู้นั้นขอให้บุตรชายหม่อมฉันตามนางไปพบฮองเฮา บุตรชายหม่อมฉันรู้สึกผิดต่อฮองเฮาในเรื่องอดีตจึงตามไป ผู้ใดจะคิดว่าฮองเฮาทรงต้องการให้บุตรชายของหม่อมฉันช่วยเหลือให้ซิ่นอ๋องได้ขึ้นครองราชย์เพคะ!”

หลู่จิ้นกำมือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อแน่น แววตานิ่งขรึมลง

“บุตรชายของหม่อมฉันจงรักภักดีต่อต้าจิ้น จงรักภักดีต่อฝ่าบาทจึงโน้มน้าวไม่ให้ฮองเฮาทำเช่นนั้น ขอเพียงฮองเฮายอมอยู่อย่างสงบ เห็นแก่ความสัมพันธ์ครั้งเก่า บุตรชายของหม่อมฉันจะไม่เปิดโปงฮองเฮา”

น้ำตาของฝูเหล่าไท่จวินไหลอาบหน้า นางเงยหน้าขึ้น กล่าวเสียงสะอื้น “ผู้ใดจะคิดว่าฝ่าบาทจะทรงประสบอุบัติเหตุจนต้องฝากให้เหลียงอ๋องช่วยดูแลบ้านเมือง ฮองเฮาจึงสั่งให้ทหารหน่วยกล้าตายส่งจดหมายลับไปให้บุตรชายของหม่อมฉัน กล่าวว่าทรงวางยาพิษหม่อมฉัน ฝ่าบาทรงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ฮองเฮาอยากให้บุตรชายของหม่อมฉันยกทัพกลับเมืองหลวงเพื่อคุ้มครองซิ่นอ๋องขึ้นครองบัลลังก์ หากเขาไม่ทำตาม นางจะสังหารหม่อมฉันเพคะ!”

น้ำเสียงของฝูเหล่าไท่จวินเต็มไปด้วยความโกรธแค้น นางกุมมือของรัชทายาทแน่นพลางเบิกตาโพลง กล่าวเสียงสะอื้น “ฮองเฮาตรัสว่าหากบุตรชายของหม่อมฉันไม่สนใจแม้แต่ชีวิตของมารดาตัวเอง เอาแต่คิดจงรักภักดีต่อบ้านเมือง นางจะทำให้ตระกูลฝูล่มจมไปพร้อมกัน นางจะประกาศกับคนทั้งแผ่นดินว่าหลังจากที่บุตรชายของหม่อมฉันรบชนะกลับมาจากเป่ยเจียงถูกฝ่าบาทเรียกตัวเข้าพบ เขาขืนใจฮองเฮา เด็กในท้องของฮองเฮาก็คือสายเลือดของบุตรชายของหม่อมฉัน นางจะทำให้ตระกูลฝูถูกประหารเจ็ดชั่วโคตร ช่างอำมหิตอันใดถึงเพียงนี้!”

ฝูรั่วซีที่ถูกขังอยู่ในห้องขังได้ยินคำกล่าวของมารดาจึงเบิกตาโพลง ถ้อยคำจุกอยู่ที่ลำคอ กล่าวสิ่งใดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

กล่าวถึงตรงนี้ ฝูเหล่าไท่จวินได้ยินเสียงโซ่กระทบกันอย่างร้อนรนของบุตรชาย นางโมโหจนดวงตาแดงฉาน