ตอนที่ 626 เพียงแค่พลังฝ่ามือเดียว

My Disciples Are All Villains

ที่ด้านนอกป่าทางทิศตะวันตกของคูเมืองสวรรค์ ณ ค่ายพักแรมของชาวลัวหลาน ทุกคนกําลังไว้อาลัยให้กับการเสียชีวิตของบาซี

ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาของชาวลั่วหลานกว่าหลายคนต่างก็ถูกจี้เหลียงดึงดูดสายตาเข้าให้…

เหนือต้นไม้ที่สูงตระหง่าน กีบเท้าของเหลียงส่องสว่างในขณะที่วิ่งผ่านท้องฟ้าไป

“นั่นมันม้าของดาบปีศาจ! จับมันเร็วเข้า!”

ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาที่มีสายตาอันแหลมคมจดจ่าจี้เหลียงได้

มันคือม้าที่พาทุกคนเข้าไปในป่าลึก

การตายของวีรบุรุษแห่งพรมแดนแม่ทัพบาซี่จะต้องเกี่ยวข้องกับผู้เป็นเจ้านายของม้าตัวนี้ไม่ผิดแน่

เพียงแค่ช่วงเวลาเดียวผู้ใช้เวทมนตร์คาถากว่าหลายคนก็มารวมตัวกัน เมื่อรวมตัวกันมากขึ้นมันเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ไม่มีใครกล้าพอที่จะเผชิญหน้ากับม้าตามลำพัง

ผู้ใช้เวทมนตร์คาถากว่าหลายร้อยคนบินไปทางคูสวรรค์ด้วยความเร็วเต็มที่

ในเวลาเดียวกันชาวรั่วหรี่และชาวลั่วหลานจํานวนมาก ต่างก็ประจําการอยู่ที่เชิงเขาฝั่งตะวันออกของคูสวรรค์

ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาลั่วหลานพยายามบินเพื่อล้อมรอบจี้เหลียงเอาไว้

ทุกคนต่างก็เพิ่มระดับความสูงในเวลาเดียวกัน

ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาฝั่งตะวันตกกําลังเดินหน้าเข้ามา ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาฝั่งตะวันออกเองก็กําลังเดินหน้าตรงมาเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้เองจี้เหลียงจึงจะต้องวิ่งฝ่าชาวลั่วหลาน

จี้เหลียงที่กําลังจะวิ่งฝ่าสังเกตเห็นถึงความผิดปกติได้ และเพราะแบบนั้นมันจึงหยุดวิ่งอย่างกะทันหัน ผู้ใช้เวทมนตร์ที่ขวางทางต่างก็ถือลูกแก้วสีม่วงเอาไว้ในมือ พวกเขายังสวมเสื้อคลุมสีม่วงอีกด้วย ก๊าซสีม่วงค่อยๆ ไหลออกมาจากฝ่ามือของพวกเขา ดูเหมือนว่าลูกแก้วสีม่วงในมือของทุกคนจะถูกเชื่อมต่อกันด้วยก๊าซสีม่วง

ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาด้านหลังขี้เหลียงเองก็ใช้พลังเช่นกัน

ทุกคนหมายมั่นที่จะจับจี้เหลียง ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีทางให้หนีซะแล้ว

จี้เหลียงฉลาดมาก มันตัดสินใจจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างรวดเร็ว จี้เหลียงเลือกที่จะวิ่งให้สูงขึ้น

“ไม่แปลกเลยที่ดาบปีศาจจะมาถึงรั่วหรี่และใจกลางดินแดนของลั่วหลานได้…ช่างเป็นม้าที่วิเศษจริงๆ”

“พวกเราจะต้องจับมันให้ได้ ถ้าหากทําให้มันเชื่องได้พวกเราจะต้องใช้งานมันได้แน่ ถ้าหากไม่สามารถทําให้มันเชื่องได้ก็จงฆ่ามันซะ!”

“รับทราบ!”

เหล่าคนทรงต่างก็บินสูงขึ้นไปอีก

ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาทั้งสองแถวต่างก็บินตามจี้เหลียงขึ้นไป

ก๊าซสีม่วงก่อตัวกันจนเหมือนเมฆ มันเริ่มหนาขึ้นและหนาขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วมันก็เริ่มปกคลุมท้องฟ้า บนท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆสีม่วง

จี้เหลี่ยงไม่ได้หวั่นไหวแต่อย่างใด มันมาถึงจุดสูงสุดของคูเมืองสวรรค์ได้ด้วยความเร็วสูงสุด

นี่ไม่ใช่ทางใต้ของคูสวรรค์ ดูเหมือนว่าจี้เหลียงจะรู้ตัวดี มันไม่สามารถสลัดผู้ใช้เวทมนตร์คาถาเหล่านี้ไปได้ ดังนั้นสิ่งที่มันเลือกก็คือการบินให้สูงขึ้น เมื่อถึงระดับความสูงที่เหมาะสม ที่ตรงนั้นจะมีอากาศและพลังธรรมชาติที่เบาบาง…

“พวกเราไปไกลกว่านี้ไม่ได้แล้ว! ที่นี่อยู่ยากเกินไป!”

ถ้าหากเหล่าผู้ใช้เวทมนตร์บินขึ้นไปอีก พวกเขาก็จะไม่สามารถโคจรพลังลมปราณได้ และถ้าหากไม่มีพลังลมปราณ ทุกคนก็คงไม่ต่างอะไรจากมนุษย์ธรรมดาทั่วไป

จี้เหลียงดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมเลย…มันยังคงวิ่งต่อไป ไม่นานนัก มันก็ได้วิ่งข้ามผ่านสิ่งกีดขวางของเหล่าผู้ใช้เวทมนตร์คาถา

“หยุดมัน!”

“โจมตีมันเร็ว!”

ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาต่างก็โยนลูกแก้วสีม่วงออกมา

ลูกแก้วสีม่วงได้ปลดปล่อยเวทมนตร์คาถาไปในอากาศ

จี้เหลียงได้หลบหลีกการโจมตีอย่างรวดเร็วก่อนที่จะบินให้สูงขึ้น

ม้าในตํานานสามารถควบคุมตัวเองในระดับความสูงเช่นนี้ได้อย่างง่ายดาย ดวงตาของมันส่องประกายสีทองออกมาอย่างมุ่งมั่น จี้เหลียงก้าวต่อไปอย่างกล้าหาญ เป้าหมายของมันมีเพียงแค่แห่งเดียวเท่านั้น จี้เหลียงวิ่งไปทางดินแดนหยานอย่างไม่หยุดยั้ง

พรึบ!

จี้เหลียงข้ามคูสวรรค์ทั้งๆ ที่ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาพยายามที่จะหยุดมัน

ที่ระดับความสูงขนาดนี้มันง่ายมากที่จี้เหลียงจะข้ามคูสวรรค์ไป

เหนือคูสวรรค์มีพายุหิมะที่โหมกระหน่ํา

เสียงลมดังก้องอยู่ภายในหูของจี้เหลียง การมองเห็นของมันก็ถูกบดบังไปด้วยเกล็ดหิมะนับไม่ถ้วน

เหล่าคนทรงรีบจัดตาแหน่งก่อนจะเริ่มไล่ตามอีกครั้ง

“พวกเราจะปล่อยให้มันหนีไม่ได้!”

“พวกเราจะต้องล้างแค้นให้กับท่านบาซี!”

“ล้างแค้น!”

ความเกลียดชังในใจของทุกคนเพิ่มสูงขึ้น

แม่ทัพบาซีคือคนทรงผู้ยิ่งใหญ่ ในสายตาของเหล่าผู้ใช้เวทมนตร์คาถาจากลั่วหลาน บาซี่ก็ไม่ต่างอะไรจากวีรบุรุษ เป็นเหมือนกับตัวตนที่ทุกคนให้ความเคารพนับถือ

ผู้ใช้เวทมนตร์คาถากว่าร้อยคนไล่ล่าขี้เหลียงต่อไป ทุกคนต่างก็ทํางานร่วมกันเป็นอย่างดี แต่ความเร็วที่ขี้เหลียงมีมันรวดเร็วจนเกินไป แม้ว่าทุกคนจะใช้เวทมนตร์คาถาสนับสนุนกันแล้วก็ตาม แต่ความเร็วของเวทมนตร์ที่ใช้ก็ยังเทียบไม่ได้กับความเร็วของจี้เหลียงอยู่ดี

ในขณะเดียวกัน ชาวรั่วหรี่มองดูท้องฟ้าจากค่ายพักแรม

แม่ทัพคาร์รอลรู้สึกถึงกับความโกลาหลครั้งใหญ่นี้ เขาลอยขึ้นไปบนอากาศก่อนที่จะมองไปยังผู้ใช้เวทมนตร์คาถาที่อยู่ในระยะไกล หลังจากนั้นคาร์รอลก็ถอนหายใจออกมา “แม้ว่าข้าจะไม่ถูกกับบาซี่ แต่ข้าก็ชื่นชมและเคารพในความสามารถเขา ผู้คนจํานวนมากเต็มใจที่จะล้างแค้นให้กับเจ้านั่น นี่ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี เห็นทีข้าก็คงจะพ่ายแพ้ให้กับบาซี่ซะแล้วล่ะ”

ทันทีที่พูดจบทหารรับใช้ที่อยู่ใกล้ก็เริ่มโค้งคํานับให้ “ท่านแม่ทัพ ก่อนที่บาจะตาย เขาได้นํา คนกดดันให้ดาบปีศาจถอยไปยังดินแดนของชาวรั่วหรี่เป็นการส่วนตัว ดูเหมือนว่าเขาจะมีเป้าหมายใส่ร้ายชาวรั่วหรี่ บาซ่วางแผนให้การตายของยู่ฉางตงเกิดสงครามระหว่างดินแดนหยานกับรั่วหรี่”

“เป็นอย่างงั้นเองเหรอ?” คาร์รอลขมวดคิ้ว

“ท่านสามารถตรวจสอบเรื่องนี้ได้เลย ท่านแม่ทัพ เขายังพูดไว้อีก…ว่าชาวลั่วหลานไม่ต้องการ…ศะ” ทหารรับใช้พูดจาติดๆขัดๆ เขาไม่แน่ใจว่าควรจะพูดต่อดีไหม

“พูดต่อซะ ข้าไม่ลงโทษเจ้าหรอก”

“ชาวลั่วหลานไม่ต้องการ…เศษขยะแบบท่าน ล่าพังตัวเขาเขาก็สามารถฆ่ายฉางตงได้ด้วยตัว เองได้”

เมื่อคาร์รอลได้ฟังแบบนั้น ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยเปลวไฟแห่งความโกรธ “หึ เจ้า นั่นน่ะมันสมควรตายแล้ว”

เมื่อพูดจบเขาก็เดินจากไป

ทหารรับใช้เดินตามไป สิ่งที่เขาพูดถือเป็นเรื่องจริงไปโดยปริยาย ยังไงซะคนตายก็ไม่สามารถแก้ตัวได้อยู่ดี

กลุ่มผู้ใช้เวทมนตร์คาถายังคงไล่ตามจี้เหลียงอย่างดุเดือด

บางที่อาจจะเป็นเพราะการเดินทางระหว่างบังโคลนและคูสวรรค์ที่ผ่านมา และนอกจากนี้ยังมีความสูงและอุปสรรคจากพายุหิมะ เพราะแบบนั้นแล้วความเร็วของจี้เหลียงจึงช้ากว่าปกติเล็กน้อย

“ฆ่ามันซะ!”

“มันหนีไม่รอดแน่!”

ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาหลายคนสังเกตเห็นถึงความเร็วที่ลดลงของเหลียงได้ เพราะแบบนั้น พวกเขาจึงตั้งใจใช้เวทมนตร์คาถาให้มากขึ้น

จี้เหลียงยังคงเดินหน้าต่อไป มันเดินทางข้ามผ่าน ภูเขา แม่น้ํา และป่าไม่ไป

“จัดการมันซะ!”

“รับทราบ!”

ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาต่างก็ก้าวไปที่ด้านหน้า ก๊าซสีม่วงมาบรรจบกันก่อนที่จะก่อตัวขึ้น ไม่นานนักคันธนูสีม่วงก็ถูกสร้างขึ้นบนมือของชายผู้เป็นผู้นํา

“เจ้าสัตว์ชั้นต่ํา! มาดูกันว่าแกจะหนีรอดไปได้ไกลแค่ไหน!” ชายผู้นําได้ปลดปล่อยลูกศรให้ลอยไปในอากาศ

ตู้ม!

ลูกศรและคันธนูที่เกิดขึ้นเกิดมาจากเวทมนตร์คาถาที่ทุกคนใช้ร่วมกัน

ลูกศรพุ่งเข้าหาเป้าหมายอย่างรวดเร็ว

ในตอนที่ลูกศรกําลังจะพุ่งชนมัน จี้เหลียงยกกีบเท้าขึ้น

ทุกๆคนต่างก็มั่นใจว่าการโจมตีในครั้งนี้จะต้องโดนตัวของจี้เหลียง…

ซูวว!

มีเสียงสะท้อนอะไรบางอย่างดังขึ้น

“ใครกันที่กล้าโจมตีม้าของข้า!”

ชายคนหนึ่งปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของจี้เหลียง ชายคนนั้นได้ยกฝ่ามือเอาไว้ที่นิ้วของเขาเต็ม ไปด้วยประกายแสงสีฟ้า ฝ่ามือที่เห็นได้จับลูกศรเวทมนตร์คาถาไว้ได้ แม้ว่าชายคนนั้นจะดูแก่แต่ดวงตาของเขาก็ยังดูมีชีวิตชีวาอยู่

ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาจากลั่วหลานไม่คิดเลยว่าจะมีใครสามารถจับลูกศรเวทมนตร์คาถาด้วยมือเปล่าได้ เมื่อทุกคนเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสีหน้าก็เปลี่ยนแปลงไป ทุกคนรู้ดีว่าคงไม่มีชายชราอ่อนแอที่ไหนที่สามารถจับลูกศรได้ด้วยมือเปล่า

“ไม่จริง พวกเรามาไกลเกินไป…ถอยเร็วเข้า!”

ทุกคนรู้ตัวแล้วว่าเข้าสู่เขตแดนของดินแดนหยานโดยที่ไม่รู้ตัว ทุกคนหมกมุ่นอยู่กับการไล่ล่ามากเกินไป

“ใจเย็นไว้ก่อน ผู้ฝึกยุทธจากดินแดนหยานเป็นศัตรูของเรา รักษารูปแบบทัพก่อนที่จะถอยกลับซะ!”

“ลูกศรนั่นจะต้องทําให้เขาไม่มีเวลามาไล่ตามแน่ ถอยกลับเร็วเข้า!”

ในตอนนั้นเองชายชราผู้เอามือจับลูกศรก็ได้ปล่อยพลังฝ่ามือออกมา

ตุ้ม!

พลังลูกศรที่มาจากเวทมนตร์คาถาของคนทรงกว่าหลายร้อยคนถูกทําลายโดยพลังฝ่ามือสีฟ้า พลังฝ่ามือสีฟ้าทําลายเวทมนตร์คาถาก่อนที่จะพุ่งไปหาเหล่าคนทรง

ผู้นําของเหล่าคนทรงสังเกตเห็นพลังฝ่ามือตรงหน้าอย่างชัดเจน “ป้องกันพลังนั่นซะ!”