ตอนที่ 1215 พี่ชายตัวเล็ก / ตอนที่ 1216 รัฐจิ้ว (1)
ตอนที่ 1215 พี่ชายตัวเล็ก
ฮ่องเต้น้อยนั่งยองๆ เอามือเท้าคาง มองดูใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะกับกระต่ายโลหิตเล็มหญ้ารอบๆ เท้าของจวินอู๋เสียอย่างตั้งอกตั้งใจ ท่าทางเงียบๆ และเชื่อฟังทำให้เขาดูน่ารักเป็นอย่างมาก ขนาดคนเย็นชาและไม่แยแสใครอย่างจวินอู๋เสียยังอดชมฮ่องเต้น้อยอยู่ในใจไม่ได้
เป็นเด็กที่ง่ายๆ สบายๆ จริงๆ แต่นิสัยแบบนั้นไม่เหมาะจะเป็นฮ่องเต้
“พี่ชายตัวเล็ก สัตว์วิญญาณสองตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของท่านหรือ” ฮ่องเต้น้อยถามพร้อมกับมองจวินอู๋เสีย ตอนแรกเขากลัวนางอยู่หน่อยๆ เนื่องจากจวินอู๋เสียมักจะทำหน้าเย็นชาและเฉยเมยอยู่เสมอ แต่หลังจากผ่านไปไม่กี่วัน เขาก็เริ่มรู้สึกว่าพี่ชายตัวเล็กไม่ได้เข้าหายากถึงขนาดนั้น
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้” จวินอู๋เสียตอบเบาๆ
“พวกมันจะโตขึ้นกว่านี้อีกหรือเปล่า” ฮ่องเต้น้อยถามจวินอู๋เสียอย่างไร้เดียงสา
“ก็คงอย่างนั้น” นางไม่รู้ว่าใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะโตเต็มวัยหรือยัง แต่กระต่ายโลหิตยังเป็นแค่สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติในวัยเด็กเท่านั้น
“ดีจัง ข้าก็อยากเลี้ยงไว้สักตัวเหมือนกัน แต่ท่านราชครูไม่อนุญาต ท่านบอกว่าข้าเป็นฮ่องเต้แห่งรัฐเฉียว ข้าต้องรักษาภาพลักษณ์ของฮ่องเต้ แต่ข้าไม่ชอบเป็นฮ่องเต้นี่ ข้าเคยมีความฝันนะ ว่าข้าอยากจะไปที่เมืองพันอสูร! ข้าได้ยินว่าในเมืองพันอสูรมีสัตว์วิญญาณอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งเลย ถ้าข้าได้เป็นผู้ฝึกสัตว์วิญญาณ มันจะยอดเยี่ยมสักแค่ไหน…” ฮ่องเต้น้อยมองสัตว์เลี้ยงตัวน้อยน่ารักทั้งสองอย่างหลงใหล “พี่ชายเป็นผู้ฝึกสัตว์วิญญาณหรือ”
จวินอู๋เสียส่ายหน้า
“แต่ข้าคิดว่าพี่ชายตัวเล็กสุดยอดกว่าผู้ฝึกสัตว์วิญญาณอีก ข้าได้ยินว่าคนในเมืองพันอสูรสามารถฝึกสัตว์วิญญาณได้แค่ครั้งละตัวเท่านั้น แต่พี่ชายมีตั้งสองตัว แถมน้องหนึ่งกับน้องสองก็เชื่องมากด้วย พี่ชายฝึกมันได้ดีจริงๆ” ฮ่องเต้น้อยพูดพร้อมหัวเราะ ลักยิ้มที่แก้มทั้งสองข้างทำให้เขาดูน่ารักมาก
น้องหนึ่ง…น้องสอง…
ได้ยินชื่อที่ฮ่องเต้น้อยตั้งให้สัตว์วิญญาณซื่อบื้อทั้งสองแล้ว จวินอู๋เสียก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
“พี่ชายตัวเล็ก ถ้าวันหน้าท่านมีโอกาสไปที่รัฐเฉียว ท่านจะไปหาข้าหรือไม่ สอนวิธีฝึกสัตว์วิญญาณให้ข้า…ไม่สิ…สอนข้าว่าจะเป็นสหายกับสัตว์วิญญาณได้อย่างไรให้หน่อยได้หรือไม่” ฮ่องเต้น้อยถาม ดวงตากลมโตบริสุทธิ์มองไปที่จวินอู๋เสียอย่างจริงจัง ในสายตาเขา อำนาจฮ่องเต้และความร่ำรวยนั้น เทียบไม่ได้เลยกับสัตว์วิญญาณสองตัวที่กำลังก้มหัวเคี้ยวหญ้าอยู่ตรงหน้าพวกเขา
จวินอู๋เสียไม่ตอบ นางไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการฝึกสัตว์วิญญาณเลย ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะกับกระต่ายโลหิตตามติดนางด้วยความตั้งใจของตัวเอง
ในอนาคตเมื่อจวินอู๋เสียคิดย้อนกลับไปถึงคำที่ฮ่องเต้น้อยพูดกับนางวันนี้ นางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่า มันจะดีแค่ไหนนะถ้านางตกลงรับปากกับคำขอร้องของฮ่องเต้น้อยในตอนนี้
ในขณะที่การเดินทางคืบหน้าไป ฮ่องเต้น้อยก็ติดจวินอู๋เสียมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจวินอู๋เสียจะอายุน้อย แต่นางก็มีบุคลิกที่หนักแน่นมั่นคง ทำให้ฮ่องเต้น้อยชอบวนเวียนอยู่ใกล้ๆ นาง และเรียกนางว่า ‘พี่ชายตัวเล็ก’ อย่างต่อเนื่อง
ไม่นาน ขบวนเดินทางของรัฐเฉียวก็มาถึงเมืองหลวงของรัฐจิ้ว หลังจากเข้าเมือง จวินอู๋เสียก็จะแยกทางกับฮ่องเต้น้อยและคนของเขา นางต้องไปตามหาเฉียวฉู่กับคนอื่นๆ
ตอนที่พวกเขาแยกจากกัน ฮ่องเต้น้อยไม่เต็มใจอย่างมาก เขาหันกลับมามองทุกๆ ก้าวเลย ไม่สามารถทำใจให้แยกจากสัตว์วิญญาณน่ารักทั้งสองและ ‘พี่ชายตัวเล็ก’ ของเขาได้
ทันใดนั้น เขาก็กระโดดลงมาจากรถม้า วิ่งไล่ตามหลังจวินอู๋เสียที่กำลังจากไป
จวินอู๋เสียหยุดเดินอยู่ท่ามกลางฝูงชน และหันกลับมาเห็นฮ่องเต้น้อยกำลังหอบอย่างหนักจากการวิ่งตามมา
“พี่ชายตัวเล็ก ข้าอยากมอบจี้หยกอันนี้ให้ท่าน” ฮ่องเต้น้อยพูดขณะยัดจี้หยกที่สลักตัวอักษรว่า ‘เจว๋’ ใส่มือของจวินอู๋เสีย
“พี่ชายตัวเล็ก ถ้าท่านมีโอกาสไปที่รัฐเฉียว ท่านต้องไปหาข้านะ ต้องไปจริงๆ นะ!” พูดจบ ฮ่องเต้น้อยก็หันกลับแล้ววิ่งออกไป
จวินอู๋เสียมองด้านหลังของฮ่องเต้น้อยที่ค่อยๆ ไกลออกไปเรื่อยๆ จี้หยกในมือนางยังคงอุ่นอยู่เล็กน้อย
ไม่ว่าอย่างไร การแยกจากกันนี่มัน…
…..
อิงซู่: เจ้าเรียกข้าออกมาที่ไหนเนี่ย
ผู้แต่งเป่ย: มีคนบอกว่าอยากเห็นท่าน ‘ถอด’ ก่อน พวกเขาถึงจะยอมโหวตตั๋วเดือนให้ รีบๆ ถอ… เฮ้ย อะไรเนี่ย!! ข้าขอให้ถอดเสื้อ ทำไมไปถอดกางเกง!! หยุดเดี๋ยวนี้! ไอ้คนลามก! ไม่ต้องถอดอะไรแล้ว!!!
[เกมเล็กๆ อีกรอบของเรา ลั้ลๆ ลา ตอนอยู่นอกสำนักศึกษาเฟิงหัว พี่ฮวาปลอมตัวเป็นใครเพื่อขายโอสถวิเศษ]
ตอนที่ 1216 รัฐจิ้ว (1)
เมืองหลวงของรัฐจิ้ว เมื่อเทียบกับรัฐเหยียนแล้วก็ไม่ได้ด้อยกว่ามากนัก ในเมืองคึกคักวุ่นวาย จวินอู๋เสียเดินค้นหาสัญญาณลับที่เฉียวฉู่กับคนอื่นๆ ทิ้งไว้ ท่ามกลางฝูงชนที่พลุกพล่าน จวินอู๋เสียสังเกตเห็นเรื่องแปลกหนึ่งอย่าง คนบางคนห้อยดาบเอาไว้ที่สะโพกขณะเดินผ่านฝูงชนไปตามถนนกว้าง แม้ว่าพวกเขาจะแต่งกายเรียบง่ายไม่มีเครื่องประดับตกแต่งอะไร แต่ก็เห็นได้ไม่ยากว่าพวกเขาเป็นคนของกองทัพ
เห็นได้ชัดว่าคนพวกนี้ไม่ใช่ทหารของรัฐจิ้ว
จวินอู๋เสียพบสัญญาณลับที่เฉียวฉู่กับพรรพวกทิ้งไว้ด้านนอกร้านอาหารและโรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่ง นางจึงเดินเข้าไปทันที
ในห้องพักแขกบนชั้นสอง จวินอู๋เสียเห็นเฉียวฉู่กับคนอื่นๆ นั่งเบียดเสียดคุยกันอยู่
“เฮ้! น้องเสีย! ในที่สุดก็มาได้เสียที!” เฉียวฉู่หัวเราะพร้อมกับตบบ่าจวินอู๋เสีย
“หรงรั่วเล่า” จวินอู๋เสียมองไปรอบๆ ห้อง ไม่เห็นวี่แววของหรงรั่วเลย
เฟยเยียนที่อยู่ด้านข้างยืนขึ้นตอบ “นางบอกว่าจะกลับไปพักที่ห้อง ข้าจะไปพานางมา” พูดแล้วเฟยเยียนก็หันหลังจะจากไป กระโปรงสีน้ำเงินอ่อนปัดผ่านหน้าทุกคนขณะที่เขาเดินผ่าน
เฉียวฉู่ลูบคางมองด้านหลังที่ ‘มีเสน่ห์’ ของเฟยเยียน พลางส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ
“หน้าตากับรูปร่างอ่อนช้อยของเสี่ยวเยียนนี่ ถ้าเป็นสตรีจริงๆ จะทำให้พวกชายหนุ่มอกหักไปมากขนาดไหนกันนะ” แม้ว่าพวกเขาสองคนจะตีฝีปากกันเป็นประจำ แต่เฉียวฉู่มีความต้านทานต่อความงามแทบเป็นศูนย์ ทำให้บางครั้งเขาก็มองว่าเฟยเยียน ‘งดงามดั่งบุปผาและจันทรา’ อย่างเช่นครั้งนี้ ขนาดเขายังต้องยอมรับว่าเจ้าอันธพาลน้อยนั่นมีความเป็นสตรีมากกว่าสตรีจริงๆ เสียอีก…
“ถ้าเขาได้ยินคำพูดพวกนี้ของเจ้า เจ้าได้โดนอัดอีกแน่” ฟ่านจัวพูดพร้อมหัวเราะ
เฉียวฉู่ยิ้มเจื่อนๆ พลางเกาหัว “ข้าสงสัยว่าเขามีพละกำลังน่ากลัวขนาดนั้นได้อย่างไร ทั้งๆ ที่มีหน้าตาแบบนั้น นั่นมันบ้าเกินไปแล้ว”
ฮวาเหยาชำเลืองมองเฉียวฉู่ด้วยหางตาแล้วพูดว่า “เจ้าคิดว่าภูติวานรยักษ์ของเขามาได้อย่างไรเล่า”
โดยปกติภูติวิญญาณจะจับคู่กับเจ้าของที่มีลักษณะเฉพาะเหมือนกันกับพวกมัน อย่างเช่นเผ่าเคลื่อนกระดูก ภูติวิญญาณเกือบทั้งหมดจะเกี่ยวข้องกับกระดูก เฟยเยียนภายนอกดูผอมและอ่อนแอ แต่ที่จริงเขาแค่หุ่นดีสมส่วน ความแข็งแรงที่เขาซ่อนเอาไว้ภายในคือพลังที่คนธรรมดาไม่อาจหยุดยั้งได้ ภูติวิญญาณของเฟยเยียนก็เหมือนกัน วานรยักษ์นั้นโดดเด่นในเรื่องของพละกำลัง
“ก็จริงนะ น่าเสียดายที่กุ๋นกุ่นของข้าไม่ใช่ประเภทที่โดดเด่นเรื่องพละกำลัง แต่เรื่องหน้าตาดีเนี่ย มันถอดแบบข้ามาเลยเล่า” เฉียวฉู่โม้อย่างหน้าไม่อาย
จวินอู๋เสียฟังพวกเขาคุยกัน แล้วจู่ๆ ก็นึกถึงฮ่องเต้น้อยแห่งรัฐเฉียวขึ้นมา นิสัยของเขาคล้ายกับกระต่ายจริงๆ ไม่แปลกที่จะมีภูติวิญญาณแบบนั้น แต่พอคิดอย่างนั้นแล้ว นางก็สังเกตเห็นช่องโหว่ขึ้นมา
“น้องเสีย มีอะไรหรือ ทำไมดูหน้าซีดๆ” เฉียวฉู่สังเกตเห็นจวินอู๋เสียหน้าซีดขาวก็รีบถาม
จวินอู๋เสียส่ายหน้า ตอนที่นางนึกถึงฮ่องเต้น้อย นางก็จำหางกระต่ายเล็กๆ ที่ด้านหลังของเขาได้ ราชครูเหอบอกว่ามันคือภูติวิญญาณของเขา และจวินอู๋เสียก็ไม่ได้คิดอะไรมากในตอนนั้น แต่จู่ๆ นางก็นึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ และรู้สึกว่ามันค่อนข้างแปลก!
ตั้งแต่นางมาเกิดใหม่ที่นี่ ก็แค่หนึ่งปีเท่านั้น แม้ว่านางจะพยายามเรียนรู้ซึมซับทุกสิ่งที่สามารถทำได้เกี่ยวกับโลกใบนี้ แต่ก็มีบางอย่างที่ถูกผลักเข้าไปในมุมหนึ่งของสมอง จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่นางจะจำเรื่องพวกนั้นได้ และครั้งนี้นางก็พลาดและมองข้ามไปจริงๆ!
มันก็คือเรื่องภูติวิญญาณของฮ่องเต้น้อย!
ฮ่องเต้น้อยดูเหมือนจะอายุแค่แปดเก้าขวบเท่านั้น แล้วเขาจะมีภูติวิญญาณได้อย่างไร ภูติวิญญาณจะตื่นขึ้นตอนอายุสิบสี่ปีเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ภูติวิญญาณของฮ่องเต้น้อยจะตื่นขึ้นมาในตอนนี้!