บทที่ 576 จุดจบของจูเลียน

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

วารุณีมีความประทับใจต่อเธอค่อนข้างมาก เขาว่าเธอเป็นดีไซเนอร์ที่ค่อนข้างมีความสามารถ แล้วเธอก็เก่งเรื่องการใช้องค์ประกอบของเสื้อผ้าจากประเทศของตัวเอง วันหนึ่ง สามารถเป็นนักออกแบบระดับโลกคนแรกในแอฟริกาใต้

ดีไซเนอร์วัยรุ่นที่มีความสามารถและพรสวรรค์ แต่ยังไม่สามารถครอบงำความมืดมิดในหัวใจของตัวเองได้ ก็เลยทำเรื่องแบบนี้เอาไป

“เห้อ……”วารุณส่ายหน้า แล้วก็ถอนหายใจออกมายังเสียดาย

ลีน่าถามออกมา “ทำไมหรอ?”

“ฉันแค่เสียใจที่ในอนาคตอุตสาหกรรมการออกแบบแฟชั่น จะเสียดาวดวงใหม่ดวงหนึ่งไป”วารุณีมองจูเลียนเราพูดออกมา

ถึงแม้ว่าจูเลียนจะมีทั้งพรสวรรค์และความสามารถ แต่ว่าเธอกลับเลือกทำอะไรแบบนี้

ถ้าอย่างนั้นมันก็ถูกกำหนดไว้แล้วแหละว่าตลอดชีวิตเธอก็ทำได้แค่นี้ ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้สูงกว่านี้

ลีน่าเบะปาก “มีอะไรให้น่าเสียดายกัน มันคือทางที่เธอเลือกเดินเอง ในเมื่อเลือกไปแล้ว ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาให้ได้”

“เธอพูดก็ถูก”วารุณียิ้มพร้อมกับพยักหน้า

ลีน่าถามอีกครั้ง “ใช่สิวารุณี เธอวางแผนจัดการเธอยังไงหรอ?”

วารุณีกำลังจะพูด เสียงของเจ้าภาพก็ดังขึ้นมา “โอเค ในเมื่อทุกท่านได้ส่งแบบราบเรียบร้อยแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็แยกย้ายกันเถอะครับ ผมหวังว่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปออกมาภายใน 1 สัปดาห์”

พอพูดจบ เจ้าภาพก็เดินออกไป

ดีไซเนอร์ที่อยู่ในสถานที่นี้ก็ค่อยๆยืนขึ้น เตรียมจะออกไปเหมือนกัน

โดยเฉพาะจูเลียน เธอลุกขึ้นไวมาก แทบจะยืนขึ้นในวินาทีนั้นเลย ยังไม่ทันจะยืนอย่างมั่นคง ก็แทบจะวิ่งไปที่ประตู อยากจะออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

เมื่อกี้วารุณีกับลีน่ามองมาที่เธอตั้งหลายครั้ง แถมสายตาเย็นชามาก เธอก็เข้าใจในทันทีว่า เพราะเธอรู้แล้วว่าเธอเป็นคนสาดน้ำ

ดังนั้นเธอจะอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นใครจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

จูเลียนวิ่งไปถึงประตูห้องประชุมเป็นคนแรก

ลีน่ากระทืบเท้า “วารุณี เธอจะหนี!”

วารุณีหรี่ตาลง “ไม่ต้องห่วง เธอหนีไม่ได้หรอก”

จูเลียนไม่ใช่นิรุตติ์กับนวิยาที่มีอำนาจ ที่จะสามารถหลบให้ค้นหาตัวไม่เจอได้

เธอเชื่อว่า ถ้าเกิดจูเลียนวิ่งออกจากประตูห้องโถงไป ผ่านไปไม่นานก็จะถูกจับอย่างแน่นอน

ลีน่าเห็นท่าทางที่แน่วแน่ของวารุณี ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วเธอก็รู้สึกผ่อนคลาย “โอเค ถ้าอย่างนั้นก็ให้เธอวิ่งไปเถอะ อินทรีย์จับลูกไก่ก็ดูน่าสนใจดีเหมือนกัน”

วารุณียิ้มแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

แล้วทั้งสองคนก็มองไปที่จูเลียนที่จะวิ่งหนีออกไปข้างนอก ทันใดนั้นก็ค่อยๆถอยหลังกลับเข้ามาด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว ไม่ใช่เพียงแค่เท่านี้ พวกดีไซเนอร์ที่เตรียมจะออกไปพร้อมกับจูเลียน ก็ค่อยๆถอยหลังกลับเข้ามาเหมือนกัน

“เรื่องอะไรกัน?”ลีน่ายืดหลังตรง ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย

วารุณีส่ายหน้า แสดงให้เห็นว่าเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือเรื่องอะไร

แต่ว่าไม่นาน ทั้งสองคนก็เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

จูเลียนที่เดิมวิ่งออกไปจากห้องประชุมนั้น ตอนที่กำลังดีใจที่ตัวเองจะได้ออกมาในที่สุด ก็เห็นบอดี้การ์ดร่างสูงหลายคนยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เราก็เดินเข้ามาหาเธอด้วยใบหน้าที่เย็นชา

แล้วด้านหน้าสุดของบอดี้การ์ดพวกนั้นมีชาวตะวันออกคนหนึ่ง ผู้ชายคนนั้นดูแข็งแกร่ง ทั้งร่างกายของเขามีแต่ความรู้สึกกดดันที่แผ่ออกมา ทำให้เธอรู้สึกหายใจไม่ออก

เธอรู้จักผู้ชายคนนั้น เขาเป็นสามีของวารุณี

วินาทีนั้น จูเลียนก็เข้าใจในทันที ว่าวารุณีเป็นคนเล่าสถานการณ์ แล้วสามีของเธอก็พาคนมาที่นี่

แล้วก็เพราะเหตุผลนี้ จูเลียนก็รู้ว่าตัวเองหนีไปไหนไม่ได้แล้ว ก็เลยค่อยๆถอยหลังกลับมาที่ห้องประชุมด้วยความหวาดกลัว

“วารุณี ประธานนัทธี” ลีน่ามองดูนัทธีกับบอดี้การ์ดหลายคนเดินเข้ามา เธอตื่นเต้นจนกุมมือของวารุณีเอาไว้ “ประธานนัทธีต้องสืบเจอเหมือนกันแน่เลยว่าเป็นฝีมือของจูเลียน ดังนั้นก็เลยตั้งใจพาคนมา”

วารุณีถูกจับมือจนเจ็บเล็กน้อย แต่ว่าพอเห็นท่าทางที่ดีใจขนาดนี้ของเธอ ก็เลยปล่อยเธอไป

ทางฝั่งนั้น บอดี้การ์ดของนัทธีเราอยู่ที่หน้าประตู แม้แต่แมลงวันตัวเดียวก็บินออกไปไม่ได้ แล้วนัทธีก็มองมาที่วารุณี

วารุณีเดินเข้าไป “เพราะจูเลียน?”

นัทธีพยักหน้า “ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะคนอื่นที่จะมีจิตใจไม่ซื่อสัตย์ด้วย”

พอพูดจบ สายตาพี่คมกริบของเขาก็มองไปที่ดีไซเนอร์ทุกคนที่อยู่ในห้อง

ดีไซเนอร์บางคนเมื่อได้สัมผัสกับสายตาที่เย็นชาและดุเดือดของเขา ก็ก้มหน้าลงในทันที แต่ก็มีบางส่วนที่ทำท่าทางเหมือนไม่ได้มีอะไร เผชิญหน้าอย่างใจเย็น

นัทธีจำพวกคนที่ก้มหน้าเอาไว้ได้หมดแล้ว ตัดสินใจว่าเดี๋ยวจะไปเสริมเกี่ยวกับคนพวกนั้นหน่อย

เขาเชื่อว่าคนพวกนี้ต้องมีปัญหาอะไรแน่นอน ไม่อย่างนั้นทำไมถึงต้องกินปูนร้อนท้องด้วย

ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเขายังจะไม่ทำอะไร กินปูนร้อนท้องก็หมายความว่าพวกเขามีจิตใจที่ไม่ดีอย่างแน่นอน

“ประธานนัทธี นี่มันเรื่องอะไรกันครับ? มีใครมาทำอะไรคุณนายอีกอย่างนั้นหรอ?”ตอนนี้เอง พอเจ้าภาพได้ยินเสียงก็รีบตามมาจากห้องทำงานในทันที

พอไปเห็นกองทัพใหญ่ขณะนี้ เขาก็เข้าใจทันที ว่าต้องมีคนตาบอดทำผิดต่อวารุณีอีกอย่างนะนอน

ตอนนี้ในแวดวงนี้ไม่มีใครไม่รู้ ว่าราชาแห่งอาณาจักรหรูหราแห่งเดียวในตะวันออกรักภรรยาของเขามาก ทนเห็นภรรยาของเขาต้องรับความไม่เป็นธรรมแม้แต่นิดเดียวไม่ได้

ถ้าเกิดว่าภรรยาของเขาต้องได้รับความไม่เป็นธรรมเมื่อไหร่ พระราชาท่านนั้นก็ต้องจัดการกับคนที่ทำกับภรรยาของเขาเหมือนดั่งฟ้าร้อง

ถึงแม้ว่าประโยคนี้มันจะดูเกินจริงไปบ้าง แต่ว่ามันก็คือความจริง

ดังนั้นเจ้าภาพก็เลยไม่กล้าเฉยเมย ยิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายยังเป็นเสี่ยเลี้ยงอีกด้วย

ลีน่ายิ้มแล้วก็ผลักวารุณีเบาๆ “วารุณี ได้ยินหรือยัง? เมื่อกี้เจ้าภาพพูดว่าใครทำผิดต่อคุณนายอีก ดูเหมือนว่าเขาเคยมีประสบการณ์มาแล้วนะ ถ้าเกิดว่าประธานนัทธีมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ หมายความว่ามีคนทำผิดต่อเธอ”

วารุณีกลอกตา “ไป ฟังว่านัทธีจะพูดยังไง”

ลีน่ารีบพยักหน้าในทันที เธอเงียบเชียบไม่พูดอะไรต่อ

สายตาของนัทธีมองไปที่กลุ่มคน และสุดท้ายสายตาก็ของเขาก็หยุดอยู่ที่จูเลียนที่ยืนตัวสั่นอยู่เล็กน้อย

เจ้าภาพก็มองตามไป แล้วก็เข้าใจในทันทีพร้อมกับถามว่า “ประธานนัทธี เธองั้นหรอครับ?”

“เมื่อเช้าของวันนี้ ภรรยาของผมและคู่ของเธอมาที่นี่เพื่อส่งแบบล้างออกแบบ เมื่อตอนที่อยู่หน้าประตูงั้น ถูกน้ำเย็นสาดใส่ถึงสองถัง เป้าหมายของคนคนนั้นก็คือแบบร่างของพวกเธอ ทำให้พวกเธอส่งแบบร่างไม่ทันแล้วก็ถูกคัดออก”นัทธีขยับปากเบาๆและผู้ใหญ่เย็นชา

สีหน้าของเจ้าภาพเคร่งขรึมขึ้นในทันที“มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรอครับ?”

“มีแน่นอนค่ะ มันเป็นเหตุผลที่ฉันกับวารุณีปรากฏตัวขึ้นในนาทีสุดท้ายไงคะ”ลีน่าพูดเสริม

เจ้าภาพมองใบหน้าของจูเลียนที่ซีดลงเรื่อยๆ “ประธานนัทธี เป็นฝีมือของเธอหรอครับ?”

“ ใช่แล้วครับ ถึงแม้ว่าสำนักงานที่เธอเข้าไปนานจะไม่มีกล้องวงจรปิด บอกว่ามันก็มีกล้องวงจรปิดที่ซ่อนอยู่ในทางเดิน ผมเห็นจากกล้องวงจรปิด ว่าเธอใช้ถังน้ำสีเดียวกัน 2 ถังเติมน้ำเย็นเข้าไป แล้วผมก็หาถังน้ำทั้ง 2 ถังนั้นเจอแล้ว เอาไปตรวจดูก็พบว่ามีลายนิ้วมือของเธออยู่” นัทธีพูดอย่างเย็นชา

เมื่อเอากล้องวงจรปิดกับลายนิ้วมือมารวมกัน ก็เลยตัดสินใจว่าจูเลียนเป็นคนทำ

จูเลียนทิ้งตัวลงนั่งที่พื้นในทันที เธอปากเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอมีบุคลิกเย่อหยิ่งและมักจะเงียบขรึม ดังนั้นต่อให้คำพูดมากองอยู่ที่ปากแล้ว เธอก็พูดอะไรไม่ออก

โดยเฉพาะดวงตาที่ทุกคนมองมาที่เธอ ทำให้เธอเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความอัปยศอดสู ทำให้เธอยิ่งพูดไม่ออกไปกันใหญ่

“ผมเข้าใจแล้วครับประธานนัทธี เดี๋ยวผมจะจัดการให้เรียบร้อย ไม่ให้คุณต้องผิดหวัง”เจ้าภาพมองไปที่จูเลียนอย่างเยือกเย็นและพูดออกมา

นัทธีพยักหน้า “ครับ งั้นผมฝากเธอด้วยนะ”

“วางใจได้เลยครับประธานนัทธี。”เจ้าภาพด้านแว่นตาของเขา

นัทธีมองไปที่ดีไซเนอร์คนอื่นๆ เขาเพิ่มเสียงและพูดว่า “ทุกคนเห็นจุดจบของจูเลียนแล้วใช่ไหม ผมบอกว่าพวกคุณจะได้รับคำเตือน และอย่าทำเรื่องแบบเดียวกันเพราะว่าจิตใจสกปรก เพราะว่าไม่ว่าอย่างนั้น ไม่ใช่แค่หน้าที่การงานของคุณเท่านั้นที่จะพังทลาย แต่ว่าประเทศบ้านเกิดที่อยู่เบื้องหลังของคุณก็จะละอายไปด้วย”

เขาชะงักไปแล้วพูดต่อว่า “ผมหวังว่าทุกคนจะจำคำพูดคำว่าให้ดี ถ้าเกิดผมเห็นว่ามีใครมาทำร้ายภรรยาผมอีก หรือจะสู้กับดีไซเนอร์คนอื่นเพื่อคว้าแชมป์ไปครอง ก็อย่าว่าผมที่สั่งแบนนะ! ”

หลังจากพูดจบ สายตาของเขาก็มองไปที่เจสัน ดีไซเนอร์ที่เป็นคนดำ

เจสันได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าพูดอะไร