บทที่ 577 รับเลี้ยงถวิต

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

เขารู้ว่า ชาวตะวันตกคนนี้มีตัวตนที่ไม่ธรรมดา นอกจากจะเตือนทุกคนแล้ว ก็เป็นการเตือนเขาด้วยเหมือนกัน

“พาตัวไป!”นัทธีละสายตากลับมาและมองมาที่เจ้าภาพ

เจ้าภาพพยักหน้า หลังจากนั้นก็พาตัวจูเลียนตกไป

ตั้งแต่ต้นจนจบ จูเลียนไม่ร้องขอความเมตตาเลยแม้แต่นิดเดียว จากนิสัยที่แหกคอกของเธอทำให้เธอพูดอะไรแบบนี้ไม่เป็น

จึงทำได้เพียงตามไปรับโทษอย่างเชื่อฟังเท่านั้น

หลังจากที่ดีไซเนอร์คนอื่นๆ ได้ผ่านเหตุการณ์นี้ไป หัวใจที่เป็นกังวลของพวกเขาก็ค่อยๆสงบลง

โดยเฉพาะบางคนที่มีความคิดจะลงมือ ก็ปัดความคิดนี้ทิ้งไปอย่างเงียบๆ

ส่วนดีไซเนอร์บางคนที่ไม่ได้มีความคิดแย่ๆ แต่ก็กลัวว่าจะมีคนมาจัดการกับพวกเขา ก็ต้องรู้สึกโล่งใจเพราะเรื่องพวกนี้

ยังไงคำพูดนี้ของนัทธี ก็ทำให้พวกเขารู้สึกได้ถึงความสบายใจ

“วารุณี ผู้ชายของเธอเท่ห์มากเลย!”ลีน่ากอดแขนของวารุณี แล้วก็เอ่ยปากชม

วารุณียิ้ม “ใช่ เขาเท่ห์มากเลย”

เธอยังจำตอนที่ตัวเองเพิ่งกลับประเทศมาได้ ที่เธอถูกพิชญาใส่ร้ายและขโมยสร้อยคอของเมธาวี ตอนนั้น ทั้งๆที่เขายังไม่คุ้นเคยกับเธอเลย แต่เขาก็ยืนขึ้นเพื่อช่วยเหลือเธอ

แล้วผู้ชายที่แสนดี แล้วไม่เคยทำผิดอะไรเลยนั้นจะไม่หล่อเท่ห์ได้ยังไง

“โอเค พวกคุณไปได้แล้ว”นัทธีโบกมือ ส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่หน้าห้องถอยออกไป

แต่ว่าก็ไม่มีดีไซเนอร์คนไหนเดินออกไปเลย

ทุกคนต่างยังคงอยู่ที่นี่ ไม่มีใครกล้าเดินออกไปเป็นคนแรก

วารุณีได้ยินเสียงพึมพำของติ๊นาที่อยู่ข้างๆเธอ ก็เม้มปากหัวเราะ หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปดึงมือของนัทธี “นัทธี พวกเราไปกันก่อนเถอะ”

นัทธีจับมือของเธอ “ไปกันเถอะ”

พอพูดจบ เขาก็จูงมือเธอออกนอกประตูไป ลีน่าก็เดินตามมาด้านหลังด้วย

หลังจากที่ทั้งสามคนไปแล้ว ดีไซเนอร์คนอื่นๆถึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แล้วต่างคนก็เริ่มแยกย้าย

บนรถ วารุณีมองไปที่ผู้ชายที่อยู่ด้านข้างของตัวเองแล้วก็พูดว่า “ไม่คิดเลยว่าคุณจะมาด้วยตัวเอง”

“ภรรยาของผมถูกรังแก ในฐานะที่เป็นสามี ก็ต้องออกมาสนับสนุนคนสิ” นัทธีลูบท้องของเธอแล้วก็พูด

วารุณีรู้สึกอบอุ่นหัวใจ “สามี คุณนี่เยี่ยมไปเลย”

“เพิ่งรู้ตอนนี้หรอ?”นัทธีเลิกคิ้วขึ้น ตั้งใจจะแย่เธอ

วารุณีเอาหัวซบอยู่ตรงหน้าอกของเขา “ไม่หรอก ฉันรู้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าบนโลกใบนี้ ไม่มีใครคนไหนดีกว่าสามีของฉันอีกแล้ว”

นัทธีรู้สึกสุขกายสบายใจกับคำพูดนี้ เขาเชิดหน้าขึ้น มีรอยยิ้มที่มุมปาก ดูก็รู้ว่าเขากำลังอารมณ์ดี

ตอนนี้เอง โทรศัพท์ของนัทธีก็ดังขึ้น

วารุณีไม่รบกวนเขาคุยโทรศัพท์ ก็เลยถอยออกมาจากอ้อมอกของเขา

นัทธีหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วก็เห็นว่ามารุตเป็นคนโทรมา เขาเอาโทรศัพท์แนบหูและรับสาย “มีเรื่องอะไรหรอ?”

“ท่านประธานครับ เมื่อกี้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าโทรหาผม บอกว่ามีครอบครัวหนึ่งอยากรับเลี้ยงถวิต” มารุตตอบคำถาม

นัทธีหรี่ตาลง “รับเลี้ยงถวิต?”

“ใช่ครับ”มารุตพยักหน้า

วารุณีมองไปที่นัทธี “นัทธี เรื่องอะไรหรอ?”

“มีครอบครัวหนึ่งอย่างรับเลี้ยงถวิต”นัทธีตอบคำถามของเธอ

วารุณีกะพริบตาปริบๆ “รับเลี้ยงอย่างนั้นหรอ ในข้อมูลของถวิตเขามีพ่อ น่าจะอยู่ในรายการรับเลี้ยง สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้บอกอีกฝ่ายหรอ?”

นัทธีรีบถามคำถามนี้กับมารุตในทันที

มารุตอธิบาย “คณบดีสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าบอกเขาแล้ว แถมยังบอกอีกว่าตอนนี้พ่อของถวิตอยู่ในคุก แล้วก็มีความเป็นไปได้ว่าเราจะออกจากคุกมาแล้วเขาจะไม่สนใจถวิต ดังนั้นคณบดีก็หวังว่าจะมีคนรับถวิตไปเลี้ยง ดังนั้นก็เลยเอาชื่อของถวิตไปใส่ไว้ในรายชื่อของเด็กที่ต้องการการรับเลี้ยง”

“คณบดีรู้ได้ยังไงว่าหลังจากที่ปวิชออกจากคุกมาแล้ว เขาจะไม่เลี้ยงถวิต?”นัทธีขมวดคิ้ว

วารุณีก็รู้สึกสงสัยมากเหมือนกัน

มารุตถอนหายใจออกมา “ช่วงนี้ น้อยครั้งมากที่ถวิตจะเรียกหาพ่อ หลังจากงานคณบดีก็เลยพาเขาไปที่คุก ไปเยี่ยมพ่อของเขาปวิช เดิมทีคณบดีอยากจะให้ปวิชเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่อยู่ข้างในนั้น มุ่งมั่นบำเพ็ญเพียรบำเพ็ญกุศล แบบนี้จะได้ออกมาก่อนเวลา แล้วก็พาถวิตไปเลี้ยง แต่ว่าแปลว่าปวิชปฏิเสธ เขา……”

“พูดมา!”นัทธีออกคำสั่งยังไม่พอใจ

ยึกยักไปยึกยักมา ทำให้คนที่อยากรู้

มารุตตอบรับแล้วก็พูดต่อว่า “ปวิชบอกว่าขยานีเสียชีวิตไปแล้ว แล้วมรดกของสุภัทรก็ไม่ได้มาที่เขาเลย ก่อนหน้านี้ขยานีมาบ้านแล้วลดให้กับเขา ก็เพราะว่าเงินของสุภัทร แล้วก็ถูกศาลบังคับยึดกลับ ดังนั้นตอนนี้ปวิชก็เป็นคนหมดเนื้อหมดตัว แต่ว่าเขายังหน้าตาดี วางแผนว่าถ้าออกไปแล้ว จะไปจับหญิงชราที่มีฐานะ แล้วจะไม่เอาตัวถ่วงอย่างถวิตไปด้วยหรอก”

พอวารุณีได้ยินดังนี้ ก็เบะปากในทันที “หญิงชราที่มีฐานะงั้นรอ……ช่างคิดได้เนาะ!”

แต่ว่าสิ่งที่ทำให้เขาสะอึกมากกว่านั้นก็คือ ความรู้สึกที่ปวิชมีต่อถวิต มันก็เบาๆแค่นี้แหละ

ก่อนหน้านี้ตอนที่เห็นที่โรงพยาบาลปวิชชอบถวิตมาก ตอนนี้เธอฉันเพิ่งเข้าใจว่า ต่อให้เป็นพ่อกับลูกแท้ๆแล้วจะยังไงกัน ถ้าเกิดว่าไม่มีเงิน ความรักในครอบครัวก็เท่านั้นแหละ

ก็จริง เพราะว่าแต่ไหนแต่ไรเธอไม่เคยได้ยินปวิชถามถึงพิชญามาก่อนเลย

ไม่ว่าจะยังไงก็ตามขยานีก็เคยถามอยู่หลายครั้ง แต่ว่าปวิชมันไม่เคยเลย เธอควรจะเข้าใจตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ว่าปวิชเป็นคนที่เห็นแก่ตัวเป็นอย่างมาก ตอนที่มีเงิน เขาก็สามารถบริจาคให้กับครอบครัวตัวเองได้ แต่ว่าตอนที่ไม่มีเงิน ความรักระหว่างคนในครอบครัวเป็นเพียงแค่สิ่งกีดขวางทางของเขาเท่านั้น

เขาแทบรอไม่ไหวที่จะเตะมันออกไป เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อความร่ำรวยของเขา

“แล้วถวิต คุณคิดยังไงกับเขา?”นัทธีมองมาที่เธอ

วารุณีนวดขมับของตัวเอง “ในเมื่อต่อไปปวิชจะไปจับหญิงแก่ที่ร่ำรวย แล้วไม่คิดจะเลี้ยงถวิตอีก ถ้ายังไงก็ปล่อยให้คนอื่นรับเลี้ยงถวิตไปเถอะ ไม่อย่างนั้นถ้าอยู่กับพ่อแบบนี้ เขาก็จะมีแต่ความขมขื่น แต่ว่าตอนก่อนที่จะลำเลียงไปนั้น ให้คณบดีบอกความคิดของปวิชให้ถวิตได้รับรู้ด้วย แล้วถวิตก็จะยินยอมที่จะไปกับครอบครัวอุปถัมภ์เอง แล้วก็ทิ้งปวิชเอาไว้”

“โอเค”นัทธีพยักหน้า

ทันใดนั้นวารุณีก็คิดอะไรขึ้นได้แล้วก็พูดออกมา “ใช่สิ มารุตสื่อเกี่ยวกับครอบครัวที่จะมารับเหรอถวิตหน่อย ถ้าเกิดว่าครอบครัวนั้นเป็นคนดีก็ไม่มีอะไร แต่ว่าถ้าเกิดเป็นคนไม่ดี ก็จะให้เขาเอาตัวถวิตไปไม่ได้เด็ดขาด ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับเด็กถวิตคนนี้ แต่ในฐานะแม่คนหนึ่ง ฉันก็ไม่อยากจะเห็นเด็กที่อายุพอๆกับอารัณต้องได้เจอกับความขมขื่น”

นี่คือสิ่งเดียวที่เธอจะสามารถทำเพื่อถวิตได้

“คุณใจดีมาก”นัทธีลูบผมของวารุณีอ่อนโยน

วารุณียิ้มเบาๆ “คุณเองก็เหมือนกัน ก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้ว่าจะจัดการกับถวิตยังไงดี แต่ว่าคุณกับคิดออก ดังนั้นคุณเองก็ใจดีมากเหมือนกัน”

นัทธีหัวเราะเบาๆ แล้วก็บอกความคิดของวารุณีให้มารุตได้รับทราบ

มารุตได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า “เข้าใจแล้วครับ เดี๋ยวผมจะแจ้งให้คณบดีและทีมสอบสวนทราบ”

“อืม”นัทธีตอบรับ

วารุณีกอดแขนของเขา “ให้บอดี้การ์ดไปที่โรงพยาบาลจิตเวช แล้วก็บอกเรื่องนี้ให้พิชญาดูหน่อยแล้วกัน ยังไงก็เป็นน้องชายแท้ๆของเธอ”

“ OK”นัทธีตกลงกับเธอทุกอย่าง

แต่ว่าหลังจากที่พิชญาได้รู้เรื่องนี้ ก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรที่มากมาย

เธอก็ไม่ได้รักน้องชายอย่างถวิตอยู่แล้ว

ดังนั้นสำหรับเรื่องที่ว่าถวิตจะไปอยู่ที่ไหน เธอไม่ใส่ใจเลยแม้แต่นิดเดียว

ตอนนี้สิ่งที่เธออยากรู้มากที่สุดก็คือ นวิยาอยู่ที่ไหน

“กลับไปบอกคุณนายของพวกนาย ว่าจะส่งนวิยามาที่นี่เมื่อไหร่กันแน่!”พิชญาพูดกับบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม

แล้วบอดี้การ์ดพวกนั้นก็เอาคำพูดของเธอมารายงานให้วารุณีทราบอย่างรวดเร็ว

วารุณีกุมขมับ “เธอยังจำได้อีกแล้วเนี่ย”

“อะไรนะ?”นัทธีเทนมมาให้เธอ

หลังจากที่วารุณีรับไป ก็ดื่มนมลงไปแล้วก็ตอบว่า “ทางฝั่งนี้ ตอนที่พิชญาถูกขังไว้ในโรงพยาบาลจิตเวชนั้น ฉันเคยบอกกับเธอว่า ให้เธอพยายามยื้อเอาไว้ อย่าเป็นบ้าไปจริงๆ รอให้ส่งนวิยามาที่นี่ได้เมื่อไหร่ เธอก็จะสามารถแก้แค้นนวิยาได้ เพราะยังไงนวิยาก็เป็นคนให้เธอไปทำศัลยกรรม แต่ไม่คิดเลยว่านวิยาจะหนีไปได้ ไม่สามารถนำตัวเธอมาส่งได้ พิชญาถึงได้ทำแบบนี้”