บทที่ 655 อย่าให้นางแต่งงานใหม่เร็วเกินไป
บทที่ 655 อย่าให้นางแต่งงานใหม่เร็วเกินไป
ซ่างเชียนกำลังจะระเบิดอารมณ์ แต่พ่อของเขาดึงแขนเสื้อไว้ “นั่ง!”
“แต่…” ซ่างเชียนกำลังตื่นตระหนกจริง ๆ
ซ่างหงพูดอย่างเย็นชาว่า “เจ้าคิดว่าอ๋องเหลียงโง่งั้นหรือไง? อ๋องเหลียงจะไม่จัดการแบบนั้นหรอก ซูอันแค่ต้องการยั่วยุเจ้าเท่านั้น อย่าทำให้ตัวเองกลายเป็นตัวตลกให้คนอื่นหัวเราะ เจ้ากำลังทำให้ตระกูลซ่างของเราอับอาย! ”
อ๋องเหลียงยังคงลังเล แม้ว่าการจับคู่เจิ้งตานกับซ่างเชียน หรือซ่างหงจะค่อนข้างไม่เหมาะสม แต่การจับคู่นางกับซูอันก็ไม่เหมาะสมเหมือนกัน!
ซูอันพูดเสียงเบาว่า “ท่านอ๋องคิดว่าข้าจะทำอะไรที่อันตรายเท่ากับการเก็บคัมภีร์วิชาวัฏจักรหงส์อมตะไว้กับตัวเองหรือไม่?”
“ย่อมไม่” อ๋องเหลียงตอบโดยไม่จำเป็นต้องคิดซ้ำ ทูตยุทธ์เสื้อแพรได้ตรวจค้นร่างกายของซูอันแล้วและไม่พบอะไรเลย
“ไม่มีใครเก็บของมีค่าไว้กับตัวหรอกใช่ไหม? เพื่อความปลอดภัยของตัวข้าเอง ข้าจำมันทั้งหมดไว้ในหัวและทำลายคัมภีร์ทิ้งไปแล้ว” ซูอันกล่าวพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ
อ๋องเหลียงขมวดคิ้ว “ทำไมเจ้าถึงมาบอกข้าตอนนี้?”
เขาเข้าใจฐานะของตัวเองดีพอ วิชาวัฏจักรหงส์อมตะไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองจะอาจเอื้อม เมื่อเขามอบเด็กคนนี้ให้จักรพรรดิ งานของเขาก็จบลง
ส่วนจักรพรรดิจะเอาวิชาลับนี้ออกจากปากของซูอันด้วยวิธีไหนนั้นไม่ใช่เรื่องของเขา
ซูอันหัวเราะเบา ๆ “ข้าแค่อยากเตือนท่านว่ามนุษย์เรานั้นช่างเปราะบางนัก ในบางครั้งความรู้สึกกระวนกระวายใจ ไม่มีความสุข หรือประสบกับอารมณ์ด้านลบอื่น ๆ ผลกระทบก็อาจทำให้พวกเขาจำอะไรผิดได้ หรือแม้กระทั่ง ลืมเลือนมันไป ซึ่งถ้ามันเป็นเช่นนั้นและจักรพรรดิทรงทราบว่าสาเหตุมาจาก…”
สีหน้าของอ๋องเหลียงเปลี่ยนไปในทันที เขารู้ว่าซูอันพยายามจะพูดอะไร เขาสูดลมหายใจและชี้ไปที่รถกรงขังของเจิ้งตาน “ขังซูอันไว้ในรถม้านี้ เราเสียเวลามามากพอแล้ว เราจะออกเดินทางทันที!”
ซ่างเชียนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง!
ซ่างหงก็อ้าปากค้างเช่นกัน
ซ่างเชียนอดไม่ได้ที่จะมองไปที่พ่อของเขา “ท่านพ่อ! ไหนท่านบอกว่ามันจะไม่จบลงแบบนี้ไม่ใช่เหรอ!?”
ใบหน้าของซ่างหงแดงซ่าน “ข้าไม่รู้ว่าทำไมเรื่องนี้ถึงเกิดขึ้นเช่นกัน อ๋องเหลียงกำลังวางแผนบ้าอะไรอยู่?”
ซ่างเชียนกำลังจะพูดอย่างอื่น แต่ลูกน้องของอ๋องเหลียงได้รับคำสั่งแล้ว พวกเขาปิดผนึกจุดชีพจรทั้งพ่อและลูกชายตระกูลซ่างไม่ให้พูดอะไรอีกต่อไป
ซ่างหงขมวดคิ้ว เขาจ้องไปที่อ๋องเหลียงด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
ซูอันยิ้มให้เจิ้งตานเมื่อเขาเข้าไปในรถม้า หัวใจของเจิ้งตานเต้นผิดจังหวะ นางรีบย้ายไปนั่งที่อีกด้านหนึ่งของรถม้า โดยอยู่ห่างจากเขาให้มากที่สุด
การกระทำของนางได้รับคำชมจากคนอื่น ๆ “แม่นางเจิ้งช่างเป็นแบบอย่างของกุลสตรีซึ่งรักนวลสงวนตัว นางยังคงรักษาระยะห่างจากผู้ชายคนอื่น ๆ แม้ในสถานการณ์เช่นนี้”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ซ่างเชียนก็ใจชื้นขึ้นเล็กน้อย
“อาซู!” ฉู่จงเทียนและฉินหว่านหรูรีบวิ่งมา พวกเขาพบว่ามันยากที่จะยอมรับความเป็นจริงนี้
ซูอันโบกมือ “ท่านพ่อตา ท่านแม่ยาย โปรดอย่ารู้สึกกังวลไปเลย ใครจะไปรู้ ข้าอาจจะได้กลับมาพบพวกท่านอีกครั้งในไม่ช้านี้”
ฉินหว่านหรูน้ำตารื้น “นี่เจ้าอยากให้พวกเราเป็นห่วงจนตายงั้นเหรอ?”
ในสายตาของคนส่วนใหญ่ ซูอันดูเหมือนจะถึงคราวตายแล้ว
ซูอันหัวเราะ “ย่อมไม่ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อชูเหยียนกลับมา บอกนางว่าอย่าแต่งงานใหม่เร็วเกินไป ข้ายังคงวางแผนที่จะกลับมาแต่งงานกับนางอีกครั้ง!”
คู่สามีภรรยาของตระกูลฉู่รู้ดีว่าหากซูอันจะหลบหนีไป มันคงไม่ได้ยากอะไรเลย แต่เขากลับเปิดเผยตัวเพราะต้องการช่วยตระกูลฉู่ ฉินหว่านหรูน้ำตาไหลและกล่าวว่า “ถ้าเจ้าจัดการทุกอย่างได้และกลับมาอย่างปลอดภัย เราจะจัดพิธีให้ชูเหยียนกับเจ้าอีกครั้งอย่างแน่นอน!”
ซูอันกล่าวต่ออีกรอบ “ใช่จริงด้วย อย่าให้ฮวนเจาแต่งงานเร็วเกินไปอีกคน เพราะเมื่อข้ากลับมา…”
แต่แล้วเมื่อเขาเห็นคิ้วของฉินหว่านหรูเริ่มขมวดแน่น เขาก็รีบพูดแก้ทันที “เพราะข้าจะต้องตรวจสอบคู่ครองของนางเพื่อให้แน่ใจว่านางมีคู่ครองที่ดีซะก่อน ท่านแม่ยายอย่าได้เข้าใจข้าผิดไป ฮ่า…ฮ่า… ฮ่า…”
ฉินหว่านหรูหัวเราะออกมาเช่นกัน “ไอ้เจ้าเด็กปากเหม็น ปากของเจ้านี่มันเหลือเกินจริง ๆ!”
อย่างไรก็ตาม นางรู้ดีว่าแทบไม่มีทางเลยที่เขาจะรอดกลับมาได้ เขากำลังพูดเพียงเพื่อปลอบใจทุกคน
นางรู้สึกแย่มากและเช็ดน้ำตาอย่างต่อเนื่อง
ฉู่จงเทียนถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล
“ท่านอ๋องและฮูหยิน เราจะปล่อยให้นายน้อยถูกพาตัวไปเช่นนี้จริง ๆ งั้นเหรอ?” เยว่ซานได้เข้ามายืนข้างพวกเขาอย่างเงียบ ๆ รวมไปถึงคนอื่นที่โกรธเคืองต่อความอยุติธรรมนี้เช่น เฉิงโซวผิง เจียวซานเหอ และเหล่าทหารอื่น ๆ
ฉู่จงเทียนถอนหายใจ “พวกเราไม่สามารถเอาชีวิตของคนอื่น ๆ ในตระกูลมาเสี่ยงได้ อาซูได้เสียสละตัวเองเพื่อพวกเรา ดังนั้นเราทุกคนควรถนอมชีวิตของเราเองให้ดีที่สุด”
ทุกคนในตระกูลฉู่รู้สึกเศร้าใจเมื่อได้ยินประโยคนี้ แม้แต่ฉู่ฮงไฉที่ยังคงไม่พอใจกับการตายของพ่อตนเองก็ยังลืมเลือนความแค้นของเขาจนแทบจะหมดสิ้นไป เขาไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าหาญขนาดนี้ได้ถ้าเขาอยู่ในสถานการณ์เดียวกับซูอัน
ฉินหว่านหรูกล่าวว่า “ไม่ต้องห่วง พวกเราจะพยายามช่วยอาซูอย่างถึงที่สุด ตระกูลฉู่ก็มีอิทธิพลในเมืองหลวงอยู่บ้างเช่นกัน”
แม้นางจะพูดเช่นนี้ แต่นางก็รู้ว่าความหวังนั้นริบหรี่เหลือเกิน
ทันใดนั้น ฉู่จงเทียนก็เกิดความคิดขึ้นมาทันที “ไม่ใช่ว่าชูเหยียนยังอยู่ในเมืองหลวงเหรอ? เราควรจะให้นางเตรียมการและดูว่านางจะทำอะไรกับเรื่องนี้ได้บ้าง!”
ฉินหว่านหรูส่ายหัว “นางน่าจะกำลังเดินทางกลับเมืองจันทร์กระจ่างแล้ว อีกทั้งข้าให้ซูอันยืมกระจกไป ดังนั้นเราจึงไม่มีทางติดต่อกับนางได้”
ฉู่จงเทียนขมวดคิ้วแน่นก่อนจะถอนหายใจ “หรือว่านี่คือชะตากรรม?”
…
ในขณะที่ตระกูลฉู่ตกอยู่ในความสิ้นหวัง กลุ่มอิทธิพลอื่น ๆ ต่างเต็มไปด้วยความตื่นตัว
เซี่ยอี้เอ่ยคำอำลาหลังจากพูดบางสิ่งกับฉู่จงเทียน จากนั้นเขารีบไปรายงานเรื่องวิชาวัฏจักรหงส์อมตะต่อราชันฉี
มีคนจำนวนไม่น้อยที่มีความคิดคล้ายคลึงกัน แม้ว่าพวกเขาจะมาจากขั้วอำนาจต่างกันก็ตาม
เจียงลั่วฝูจ้องมองไปทางรถม้า คิ้วที่งดงามของนางขมวดเข้าหากัน นี่เป็นปัญหาที่ยากมาก
“เด็กคนนี้ทำให้คนอื่นเป็นห่วงเก่งจริง ๆ!” นางพูดเสียงแหบแห้ง จากนั้นนางก็หายวับไป
ภายในอาคารอีกหลังหนึ่ง ร่างที่สวยงามยืนอยู่หลังหน้าต่าง
เพ่ยเหมียนหมานใช้นิ้วม้วนผมไปมาอย่างใจลอย นางพึมพำกับตัวเอง “ผู้ชายคนนี้ไม่เคยพลาดที่จะทำให้ข้าประหลาดใจ เฮ้อ…ถ้าข้ารู้ว่าเรื่องจะออกมาเป็นอย่างนี้…แต่ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยข้าก็ไม่ต้องสู้กับชูเหยียนเพื่อเขาอีกต่อไปแล้ว”
แต่แล้ว รอยยิ้มของนางก็หายไปอย่างรวดเร็ว การต่อสู้กับจักรพรรดินั้นยากกว่ามาก
“ดูเหมือนว่าข้าต้องกลับไปขอความช่วยเหลือจากตระกูล ข้าแน่ใจว่าพวกเขาจะต้องสนใจ” จากนั้นนางก็หันหลังเดินจากไปโดยไม่ทิ้งอะไรไว้นอกจากกลิ่นหอมจาง ๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศ
ในเวลาเดียวกัน ภายในสถาบันจันทร์กระจ่าง หญิงสาวคนหนึ่งนั่งเท้าคางอย่างเบื่อหน่าย “พี่เขยหน้าเหม็น มันนานมากแล้วนะ ทำไมท่านยังไม่กลับมาอีก?”