ตอนที่ 1231 ต้องฆ่า (4) ตอนที่ 1232 ต้องฆ่า (5)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 1231 ต้องฆ่า (4) / ตอนที่ 1232 ต้องฆ่า (5)
ตอนที่ 1231 ต้องฆ่า (4)

โลหิตและน้ำผสมรวมกันไปตลอดทาง ใบหน้าของจวินอู๋เสียเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ทหารรัฐจิ้วพวกนั้นซุกตัวอยู่ที่มุม ตัวสั่นงันงกด้วยความหวาดกลัว ปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้ฝันร้ายนี้สิ้นสุดลง แต่แล้วพวกเขาก็เห็นร่างของปีศาจร้ายที่น่ากลัวเข้ามาใกล้ภายใต้แสงสว่างวาบจากสายฟ้า

เห็นได้ชัดว่ามันเป็นแค่เด็กหนุ่มคนหนึ่งเท่านั้น แต่ก็ทำให้ทหารที่ผ่านสงครามในสนามรบมารู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งสันหลัง

ดวงตาเย็นชาคู่นั้นกวาดผ่านสายฝน มองเหล่าทหารที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังด้วยความกลัว ริมฝีปากบางขยับเล็กน้อย

“อย่าให้รอดแม้แต่คนเดียว”

ทันทีที่สิ้นเสียง สัตว์ร้ายสีดำตัวใหญ่ก็กระโจนเข้าใส่ทหารรัฐจิ้วที่กำลังคิดจะวิ่งหนีเอาตัวรอด

จวินอู๋เสียเดินหน้าต่อไปโดยที่ฝีเท้าไม่ได้ช้าลงเลยแม้แต่น้อย เสียงร้องอย่างเจ็บปวดและหวาดกลัวดังขึ้นด้านหลังนาง กลิ่นโลหิตคาวคลุ้งทำให้นางหายใจช้าลง

แม้ว่าจะวางคนคุ้มกันที่นั่นเอาไว้อย่างแน่นหนา แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถหยุดการโจมตีที่ดุร้ายจากสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติทั้งสองตัวได้!

สุนัขขี้ขลาดของรัฐจิ้วที่ใช้อำนาจและตำแหน่งของตัวเองข่มเหงผู้อื่น บัดนี้ความตายได้มาเยือนพวกมันแล้ว

เมื่อโลหิตชโลมทั่วพื้นดิน เหล่าทหารของรัฐจิ้วทุกคนก็ถูกกำจัดจนสิ้น จวินอู๋เสียก้าวเข้าไปในลานบ้าน ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะกับกระต่ายโลหิตขวางทางเข้าจากด้านนอก ยืนเฝ้าอยู่เหนือพื้นที่บริเวณนั้น

ขณะที่เดินเข้าไปในลานบ้าน จวินอู๋เสียก็ได้กลิ่นเหม็นน่ารังเกียจ ทางข้างหน้ามีทหารรัฐเฉียวจำนวนมากนอนเกลื่อนกลาดอยู่รอบๆ โลหิตของพวกเขาไหลนองพื้น นางมองไปตามทางและเห็นรอยเท้าเปื้อนโลหิตเดินเข้าไปข้างใน!

เสียงคำรามดังจากภายในลานบ้านอย่างต่อเนื่อง เสียงของการต่อสู้ กลิ่นโลหิตเข้มข้นลอยอยู่ในลานกว้าง

จวินอู๋เสียเดินเข้าไปข้างในเรื่อยๆ แล้วทันใดนั้นนางก็เห็นภาพที่น่าตกใจ

ชายหนุ่มคนหนึ่งมีกล้ามเนื้อโป่งพองออกมาอย่างน่ากลัว ใบหน้ามีเส้นโลหิตสีเขียวปูดโปน ลูกธนูแทงทะลุทั่วร่างของเขา มีบาดแผลนับไม่ถ้วนเต็มตัวไปหมด เขาถูกทหารรัฐจิ้วกลุ่มหนึ่งล้อมเอาไว้ ทหารพวกนั้นฟันดาบใส่เขาอย่างต่อเนื่อง

ชายหนุ่มคนนั้นเพียงแค่คุกเข่าอยู่กับที่และคำรามใส่ทหารพวกนั้น ดวงตาของเขาไร้ชีวิตชีวา ดูเหมือนจะตอบสนองไปตามสัญชาตญาณเท่านั้น

และเหตุผลที่เขาไม่สามารถตอบโต้และไม่สามารถหนีไปได้นั้นก็อยู่ในอ้อมแขนของเขา…

ในอ้อมแขนของเขาอุ้มเด็กตัวเล็กผมสีแดงคนหนึ่งเอาไว้ เด็กคนนั้นมีดวงตาสีดำ ดวงตาคู่นั้นเบิกกว้างมองไปข้างหน้าอย่างว่างเปล่า เขานิ่งอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม ไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย ดวงตาคู่นั้นเหมือนคนตาย ไร้ชีวิตชีวาเช่นเดียวกับชายหนุ่มคนนั้น

แต่ใบหน้านั้น เป็นใบหน้าที่จวินอู๋เสียจะไม่มีวันลืม

เขาคือฮ่องเต้น้อยแห่งรัฐเฉียว!

เด็กน้อยที่ถูกอุ้มอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่มคือฮ่องเต้น้อยแห่งรัฐเฉียวที่หายตัวไป!

“เวรเอ๊ย! ไอ้นั่นมันโผล่มาจากไหนวะ ไปปล่อยพวกคนพิษคนอื่นๆ มาเร็ว!” ทหารรัฐจิ้วคนหนึ่งตะโกนด้วยความโกรธแค้น ต้องเผชิญหน้ากับคนพิษที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงผ่านการทดลองพิษมาแล้ว พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้เลยสักนิด ถ้าไม่ใช่เพราะเขากำลังปกป้องเด็กอยู่ละก็ พวกเขาก็คงตายกันหมดแล้ว

เมื่อได้ยินคำสั่ง ทหารรัฐจิ้วอีกคนก็หันกลับไปทันที ตั้งใจจะไปเอากำลังเสริมมาช่วย

แต่ทันทีที่เขาหันไป มือเล็กๆ ขาวเนียนคู่หนึ่งก็โอบรอบหัวของเขาทันที!

กร๊อบ!

หัวของทหารคนนั้นถูกดึงออกมาด้วยมือคู่นั้น

โลหิตสีแดงสดพ่นออกมาจากแผลที่ถูกฉีกเปิดออก ภายใต้ฉากนองเลือดนั่น ทหารรัฐจิ้วทุกคนพากันตัวแข็งทื่อทันที

พวกเขาปากอ้าตาค้าง จ้องมองไปที่เด็กหนุ่มตัวเล็กที่เปียกโชกไปด้วยโลหิตด้วยความตกใจและงุนงง

จวินอู๋เสียโยนหัวที่นางดึงออกมาลงกับพื้นอย่างไม่แยแส และยกเท้าขึ้นเหยียบมัน บดขยี้หัวนั้นจนโลหิตสาดกระจาย!

“ใคร…เจ้าเป็นใคร” ทหารรัฐจิ้วสับสนปั่นป่วนขึ้นมาทันที เด็กหนุ่มร่างเล็กตรงหน้าทำให้พวกเขารู้สึกถึงความหนาวเย็นอันยิ่งใหญ่ เจตนาฆ่าที่รุนแรงที่ออกมาจากเด็กหนุ่มคนนั้นเกือบทำให้พวกเขาหายใจไม่ออก

จวินอู๋เสียหรี่ตา “คนที่จะส่งพวกเจ้าลงนรก”

ตอนที่ 1232 ต้องฆ่า (5)

ทหารพวกนั้นยังไม่ทันได้สติ พลังวิญญาณขั้นสีม่วงก็ส่องแสงออกจากร่างของจวินอู๋เสีย

เมื่อพลังวิญญาณขั้นสีม่วงสำแดงพลังออกมา ตาของทหารพวกนั้นก็แทบจะถลนออกมานอกเบ้า

พลังวิญญาณขั้นสีม่วง!

เด็กหนุ่มคนนี้เป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วง!

ความสิ้นหวังอย่างถึงที่สุดเกือบบดขยี้หัวใจของพวกเขา พวกเขาไม่ทันได้เปล่งเสียงร้อง ร่างที่ส่องสว่างด้วยแสงสีม่วงของจวินอู๋เสียก็กลายเป็นสายฟ้ากวาดไปทั่วลานด้วยความเร็วที่น่าตกใจ!

เมื่อร่างของจวินอู๋เสียปรากฏขึ้นอีกครั้งเบื้องหลังทหารของรัฐจิ้ว ทหารพวกนั้นก็ดูเหมือนจะแข็งทื่ออยู่กับที่

แสงสีม่วงค่อยๆ หายไปจากร่างของจวินอู๋เสีย หลังจากนั้นเสียงอะไรบางอย่างสาดกระเซ็นก็ดังตามมา!

หัวของทหารสิบกว่าคนร่วงหล่นจากร่าง โลหิตอุ่นๆ พุ่งขึ้นไปในอากาศเป็นสาย แล้วตกลงมาเหมือนฝนโลหิต ครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง

ภายใต้ฝนโลหิตสีแดงนั้น จวินอู๋เสียค่อยๆ เดินเข้าไปหาฮ่องเต้น้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่มคนนั้นอย่างช้าๆ

ผมสีแดงและดวงตาสีแดงคู่นั้น นางไม่คุ้นเคย ในแววตาคู่นั้น ไม่มีความใสซื่อไร้เดียงสาที่เคยมี

ชายหนุ่มที่อุ้มฮ่องเต้น้อยเอาไว้ไม่ขยับเคลื่อนไหวใดๆ ร่างกายของเขาแข็งทื่ออยู่ภายใต้ฝนโลหิตขณะที่ส่งเสียงคำรามขู่จวินอู๋เสีย

“ข้าจะไม่ทำร้ายเขา” จวินอู๋เสียพูดเบาๆ

นางไม่รู้ว่าชายหนุ่มเป็นใคร แต่นางจำเสียงนั้นได้

ในรถม้าคันสุดท้ายของขบวนเดินทางรัฐเฉียว เสียงคำรามที่ดังออกมาเป็นระยะมาจากบุรุษผู้นี้

ทหารของรัฐเฉียวถูกสังหารหมดสิ้นแล้ว และชายหนุ่มคนนี้ก็ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ปกป้องฮ่องเต้น้อย

จวินอู๋เสียเชื่อว่า ชายหนุ่มมีส่วนเกี่ยวข้องกับฮ่องเต้น้อยทางใดทางหนึ่ง

เสียงคำรามของชายหนุ่มเบาลงเรื่อยๆ ดวงตาไร้ชีวิตชีวาคู่นั้นไม่ส่องประกายใดๆ แต่เขาก็ค่อยๆ ปล่อยตัวฮ่องเต้น้อยที่เขาอุ้มเอาไว้ลง ร่างสูงใหญ่กำยำของเขาไม่อาจต้านทานอุ้งมือแห่งความตายที่เข้าเกาะกุมได้อีกแล้ว ลูกธนูจำนวนมากแทงลึกเข้าไปในหลังเขา บาดแผลนับไม่ถ้วนได้สูบเอาพลังชีวิตของเขาไปหมด มือของเขาค่อยๆ คลาย และร่างสูงใหญ่ของเขาก็ล้มลงบนพื้น…

ฮ่องเต้น้อยยังคงนิ่งอยู่กับที่ จ้องมองไปข้างหน้าอย่างว่างเปล่า ดูเหมือนไม่รับรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น ยังคงนิ่งเป็นหินอยู่เช่นนั้น

จวินอู๋เสียรีบก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ตั้งใจจะตรวจอาการบาดเจ็บของชายหนุ่ม แต่ทันทีที่ตรวจสอบ นางก็ต้องตกใจกับสิ่งที่ค้นพบ ชายหนุ่มดูเหมือนแข็งแกร่งอย่างไม่มีผู้ใดต้านได้ แต่ลมปราณทั่วร่างกลับปั่นป่วน ภายใต้พลังที่แข็งแกร่งนั่น ร่างกายของเขาถูกใช้จนไม่เหลืออะไรแล้ว

จวินอู๋เสียนึกถึงสิ่งที่ฟ่านจัวพูดขึ้นมาได้ เรื่องการทดลองอันโลหิตเย็นที่สิบสองตำหนักได้คิดค้นพัฒนาขึ้น

ถ้านางเดาไม่ผิด ชายหนุ่มคนนี้คงโดนสิ่งนั้น

แต่พิษได้เข้าไปลึกเกินไป มันเข้าไปลึกถึงกระดูก และวิญญาณของเขาก็ถูกสังเวยไปแล้วอย่างสมบูรณ์ ทำให้ชายหนุ่มเป็นเพียงร่างที่ว่างเปล่า เหมือนตุ๊กตาที่ปราศจากจิตสำนึกและความคิดจิตใจของตัวเอง เพื่อที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของร่างกาย พลังชีวิตของเขาได้ถูกสูบเอาไปใช้จนหมดสิ้น เนื้อในร่างกายของเขาหดตัวด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจนเหลือเพียงผิวหนังและกระดูก

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากและกะทันหันเกินไป จวินอู๋เสียไม่ได้เตรียมตัวสำหรับสถานการณ์เช่นนี้ แม้ว่าในใจนางอยากจะช่วยเขา แต่นางก็ไม่อาจต่อต้านสวรรค์ได้

เนื้อบางๆ ของชายหนุ่มแห้งไปอย่างรวดเร็ว แต่ดวงตาคู่นั้นกลับทอประกายขึ้นมา เขามองไปที่หลังของฮ่องเต้น้อยโดยไม่ละสายตา ราวกับว่าเขามีหลายพันหลายหมื่นคำที่อยากจะพูด แต่เขาก็ไม่มีเรี่ยวแรงหลงเหลืออีกแล้ว และไม่มีเวลาแล้วด้วย

“ข้าจะดูแลเขาเอง” เมื่อจวินอู๋เสียมองเข้าไปในดวงตาของชายหนุ่มคนนั้น นางก็พลันนึกถึงจวินชิงขึ้นมา ความรู้สึกนั้นมีเพียงญาติสนิทที่สุดของนางเท่านั้นที่จะแสดงออกมา ทำให้นางรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก

ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มออกมาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะหลับตาลงอย่างช้าๆ