บทที่ 655 สะเทือนใจมาก

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

ได้ยินเช่นนี้!

เย่แจ๋หยิ่งมองหลานเยาเยา

บัดนี้ตัวอยู่ชายแดน ด้านนอกมีศัตรูตัวฉกาจ ต่อให้เขาอยากที่จะอยู่ด้วยกันกับคนตรงหน้าตลอดเวลา เขาก็ต้องคิดถึงในระยะยาว

จำเป็นต้องแก้ไขการบุกรุกของข้าศึกก่อน จึงจะสามารถให้ชีวิตที่ปราศจากความขัดแย้งและสงครามกับนาง

จึงเดินไปตรงหน้าของหลานเยาเยาด้วยฝีเท้าที่เร็ว หันหน้าไปทางลม ชายผ้าพลิ้วไหว น้ำเสียงที่กังวานส่งออกมาอย่างช้าๆ

พักผ่อนให้ดี!

อ๋องเย่อยากที่จะเอาหลานเยาเยาแขวนไว้ตรงเข็มขัดไปด้วย เห็นความเหนื่อยล้าตรงหว่างคิ้วของนาง ทนไม่ได้ที่จะให้นางไปๆมาๆกับเขา ทำได้เพียงให้นางไปนอนก่อน กลัวจะเหนื่อยเกินไป

ไม่ว่ายังไงก็หนีไม่รอด

ต่อให้หนีไป ไม่ว่าจะสุดหล้าฟ้าเขียวเขาก็ต้องไปตามกลับมา

“ได้ ท่านไปเถอะ!” หลานเยาเยาพยักหน้า

เดินทางมาก็เหนื่อยมากแล้ว วันนี้ก็ได้รักษาผู้บาดเจ็บไปทั้งวัน นางอยากจะดื่มกินของอร่อย แล้วก็นอนหลับอย่างสบายสักตื่น ก็ไม่มีความต้องการอื่นแล้ว

เมื่อถึงกลางดึก

ห้องที่หลานเยาเยาอยู่ ประตูห้องถูกเปิดพร้อมกับ “เสียงดังเอี๊ยด” ในเสียงที่ระมัดระวังแฝงไว้ด้วยความเร่งรีบ

ก็มีร่างร่างหนึ่ง สวมชุดสีดำ ก้าวเดินด้วยฝีเท้าที่เร็วและเบา เดินไปที่เตียงทีละก้าวพร้อมกับมีดคมในมือ…

ทันใดนั้น!

ร่างที่แข็งแรงได้ทะลุเข้ามาทางหน้าต่าง กลิ้งลงบนพื้น และเข้ามาใกล้เท้าของชายชุดดำในทันที ยื่นมือออกไปใช้อาวุธมีคมในมือของเขาแทงเข้าไปในท้องของชายชุดดำโดยตรง

ท่าทางพลิ้วไหวเหมือนสายน้ำ รวดเร็วและแม่นยำมาก

จากนั้นเขาก็ยืนอยู่ข้างๆ จ้องมองชายชุดดำอย่างเย็นชา เพื่อดูว่าเขาตายแล้วหรือไม่ และถ้าไม่ เขาจะก้าวไปข้างหน้าและแทงซ้ำอีกหนึ่งที

แน่นอน!

ไม่ใช่ว่าชีวิตของชายชุดดำจะไม่แข็งเหมือนกับที่นางคิด

หลังจากถูกแทงที่ท้อง เลือดก็ไหลไม่หยุด คนชุดดำกุมแผลที่ท้องเอาไว้ ฝืนได้ไม่นานก็ล้มลงบนพื้น สิ้นใจในไม่ช้า

เวลานี้!

เทียนในห้องก็ถูกจุดขึ้นมาทันที ทำให้ห้องที่มืดสลัวสว่างขึ้นมาในพริบตา

หลานเยาเยาที่อยู่ในชุดนอน บนไหล่คลุมด้วยเสื้อคลุมสีอ่อนที่นางมักใช้เป็นประจำ เธอยืนอยู่ข้างขอบเชิงเทียน ถือกระดาษจุดไฟไว้ในมือ สายตาจ้องไปที่คนที่ฆ่าชายชุดดำ

คนผู้นั้นไม่ใช่ใครอื่น

แต่เป็นฮัวหยู่อันที่นิสัยเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล

วันนี้ที่รักษาทหารที่บาดเจ็บนั้น นางก็อยู่ในนั้นด้วย ไม่รู้ว่าจะเห็นกระบวนการทั้งหมดหรือไม่ หลานเยาเยาก็ไม่รู้ แต่นางพอที่จะเดาความคิดที่อยู่ในใจฮัวหยู่อันได้แล้ว

หลานเยาเยาที่เงยหน้ามองนาง

แววตาของฮัวหยู่อันเต็มไปด้วยความสับสน เดิมมีคำพูดจะพูด แต่เมื่อถึงปากก็กลืนมาลงไป

ฮัวหยู่อันก้มหน้าลง หันหลังจะเดินจากไป จากนั้นก็มีเสียงที่คุ้นเคยและทั้งห่างเหินของหลานเยาเยาดังตามหลัง

“เสี่ยวฮัวฮัว!’

เพียงแค่ตัวอักษรไม่กี่ตัวนี้ ก็ทำให้หัวใจของฮัวหยู่อันสั่นไหวโดยตรง

เสียงเรียกที่หายไปนาน จนรู้สึกห่างเหิน กลับทำให้น้ำตาของนางไหลออกมา นางหันหลังกลับมา มองหลานเยาเยาในชุดผู้ชายที่งดงาม ยังคงมีความรู้สึกที่ผสมปนเปอยู่ในใจ

คือหลานเยาเยา……..

แต่ก็ไม่ใช่หลานเยาเยาคนก่อน……….

นางสูงกว่าร่างเก่าที่เคยเป็น ใบหน้าที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหญิงงามของประเทศไม่มีอีกต่อไป แต่เป็นใบหน้าที่กล้าหาญ และสวยงามไม่มีใครเทียบได้

หลานเยาเยาที่ทั้งสวยทั้งหล่อแบบนี้ ทั้งๆที่ดีเหลือเกิน แต่นางก็ยังคงอยากจะร้องไห้

“ทำไมต้องปิดบัง?”

เป็นไปได้ยังไงที่คนคนหนึ่งจะเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาโดยที่ไม่มีเหตุผล การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่หลวง นอกเสียจากว่านางได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังจากที่ประสบกับการสิ้นหวังมาครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ได้รับการคุ้มครองจากสวรรค์ ทำให้นางกลายเป็นอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้

“ปีนั้น เจ้าไปตายที่ไหนแล้ว?”

นี่คือคำถามที่ฮัวหยู่อันถามหลังจากที่แน่ใจแล้วว่าคนตรงหน้าก็คือหลานเยาเยา

นางอยากรู้อย่างมาก ว่าหลานเยาเยานั้นประสบกับอะไรมาบ้าง

“การเดินทางไปทะเลทราย ที่เป็นเหมือนพระราชวังลวงตา เราเอาชนะราชครูเทียนเวิงได้ แต่เราก็สูญเสียกองกำลังของเรา สูญเสียผู้คนเป็นจำนวนมาก และสูญเสียกองทัพไปทั้งหมด

ข้าตกลงไปในคลื่นทะเลทราย สลบไปเป็นเวลานาน ข้าคิดว่าชีวิตของข้าก็จะถูกฝังอยู่ในทะเลทรายสีทองแบบนี้

ใครจะไปรู้ สวรรค์เมตตา เป็นอาส้งที่ช่วยข้าไว้ ไม่รู้ว่าใช้วิธีอะไร ตื่นขึ้นมาก็เป็นเช่นนี้แล้ว ต่อให้เป็นเช่นนี้ ข้ารู้สึกว่าร่างนี้เหมาะกับข้ามากกว่า

เมื่อเทียบกับการข้ามภพที่ไม่เคยได้ยินกันมาก่อน

บางทีการอธิบายเช่นนี้อาจจะทำให้ฮัวหยู่อันรับได้ง่ายกว่า

อย่างไรเสีย!

ส้งเย่นกุยที่ลึกลับคาดเดายาก เดิมก็แปลกมากแล้ว ขอให้เป็นคนต่างก็สามารถมองออก

ประกอบกับที่ฮัวหยู่อันก็รู้จักคนหลายคนที่เคยไปที่ทะเลทรายและรอดชีวิตกลับมา ก็ต้องรู้ความลึกลับของส้งเย่นกุยเป็นธรรมชาติ

แม้ว่าคำพูดของนางจะไร้สาระมากก็ตาม

แต่ก็เป็นคำพูดที่ดีที่สุด ที่สามารถทำให้ฟังยอมรับ

ฮัวหยู่อันรู้สึกเหลือเชื่อ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ นางนึกถึงส้งเย่นกุยที่เหมือนจะแยกตัวจากโลก แล้วนึกถึงตอนที่นางอยู่ในถ้ำคนนอกประเทศที่ใหญ่เท่าภูเขา

ก็เลยเชื่อ!

โลกที่กว้างใหญ่ไพศาลเรื่องแปลกๆอะไรก็มี ไม่ว่ายังไงขอเพียงมีชีวิตอยู่ก็ดีแล้ว

นางก็ไม่ได้ถามความเจ็บปวดทุกข์ทรมานในนั้นอีก

รู้เพียงว่านางยังมีชีวิตอยู่ ชีวิตเป็นๆยืนอยู่ตรงหน้าของนาง

เห็นฮัวหยู่อันไม่พูด

หลานเยาเยาหัวเราะเจื่อนๆ “มันเหลือเชื่อเกินไปใช่มั้ย?”

“นอกจากนี้ก็ไม่มีคำอธิบายที่ดีกว่านี้แล้ว!”

ฮัวหยู่อันเดินไปข้างหน้า มาถึงตรงหน้าของหลานเยาเยา นางอยากจะเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของหลานเยาเยา ดูว่าใบหน้านี้ได้แปลงโฉมมาหรือเปล่า

ผลลัพธ์

หลานเยาเยาได้คว้ามือของนางเอาไว้ก่อน วางไปบนแก้มของตัวเอง กล่าวอย่างเรียบเฉย

“เป็นของจริง ความจริงที่ไม่เคยมีมาก่อน”

และแล้วในเวลานี้

ได้ยินการเคลื่อนไหวของคนที่ข้างใน ก็บุกเข้ามา กลุ่มคนพรึบๆพลับๆ เรียงกันเข้ามา เหมือนกับได้นัดกันเอาไว้

พวกเขาบังเอิญเห็นชายหญิงกำลังมีท่าทางที่ใกล้ชิดสนิทสนมกัน

ทุกคนตกใจจนหน้าถอดสี!

เนื่องจากกลุ่มคนที่บุกเข้ามา มีหลายคนที่เป็นแม่ทัพที่สมคบคิดวางแผนเพื่อแยกหลานเยาเยาและอ๋องเย่ออกในวันนี้

ดังนั้นเมื่อเห็นท่าทางหลานเยาเยากับฮัวหยู่อัน แม้แต่ศพชายชุดดำที่อยู่บนพื้นยังถูกละเลยไปแล้ว และสายตาของเขาก็จับจ้องไปที่คนสองคนที่อยู่ใกล้ชิดกันมาก

“โอ้สวรรค์ คุณชายซ่างกวง กลางคืนดึกๆดื่นๆ พวกเจ้ากำลังทำอะไร?”

แม่ทัพคนหนึ่งหลังจากที่ได้สติ ปรับโทนเสียงให้สูงแล้วตะโกน อยากที่จะให้เสียงนั้นดังเข้าไปถึงในหูของอ๋องเย่

ฮัวอันหยู่ก็ดึงรีบมือกลับมาทันที

เพราะในกลุ่มคนที่บุกเข้ามา นางเห็นร่างที่เหนื่อยล้าจนไม่รับรู้อะไรแล้วร่างหนึ่ง นั่นก็คือคุณชายเหลียงเฉิน

ช่วงเวลานี้คุณชายเหลียงเฉินรับผิดชอบจัดหาเสบียงให้กับกองทัพมาโดยตลอด รวบรวมเสบียงแล้วรีบส่งไปที่ด้าน ก็เพราะกลัวว่าเมื่อด่านเกิดศึกสงคราม แล้วเสบียงจะไม่พอ

มันเป็นงานที่ค่อนข้างหนัก โม่เหลียงเฉินไม่อยากให้ฮันหยู่นางอันต้องมาลำบากกับเขา

แต่คิดยังไงก็คิดไม่ถึง

คืนนี้เขาเพิ่มจะส่งเสบียงมาถึงที่ชายแดน ก็ได้ยินว่านางก็มาถึงที่ชายแดนแล้ว ก็ดีใจเป็นอย่างมาก ไม่แม้กระทั่งที่จะพัก ก็เพื่อจะมาเจอนางโดยเร็ว

แต่ใครจะไปรู้……..

สิ่งที่เห็นคือภาพแบบนี้

นางกลับชอบซ่างกวงหนานซู่ ผู้ชายคนที่เพิ่งจะรู้จักได้ไม่นาน

มันทำให้โม่เหลียงเฉินสะเทือนใจมาก

เหมือนหัวใจถูกแทงด้วยมีด แล้วใช้มีดกรีดที่หัวใจของเขา ทำให้เขาเจ็บจนเกือบจะหยุดหายใจแล้ว

โม่เหลียงเฉินหันหลังทันทีและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว อยากจะหลีกหนีสถานที่ที่ทำให้หัวใจเขาสลาย กลับพบว่าในสมองได้บันทึก ภาพมือคู่นั้นของฮัวหยู่อันที่ไม่เนียนละเอียดแล้วแต่ยังคงขาวบอบบาง กำลังสัมผัสใบหน้าที่งดงามของชายหนุ่มอย่างเสน่หา

ตอนนี้เวลานี้โม่เหลียงเฉินถึงจะเข้าใจอย่างแท้จริง

เมื่อเทียบกับการได้เห็นฮัวหยู่อันที่ทำร้ายตัวเอง มีแต่ความคิดที่อยากจะแก้แค้นอย่างเดียว ทำให้เขาทั้งเจ็บปวดทั้งละอายใจและโทษตัวเอง

ตอนนี้มันยิ่งกว่าเอาชีวิตของเขาเสียอีก!