War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 1975
ตอนที่ 1,975 : เจ้าแพ้แล้ว!

เปรี๊ยงงงง!!

เสียงปะทะดังสนั่นปานจะกึกก้องไปทั่วหล้า เป็นฝ่ามือพลังของต้วนหลิงเทียนปะทะกับหมัดพลังของหงชวีอย่างรุนแรง!

หลังปะทะกัน มวลพลัง 2 ขุมก็ปลดปล่อยอำนาจทำลายล้างหมายหักหาญสยบพลังอีกฝ่าย!

ทันใดนั้นความว่างเปล่าพลันสะท้านสะเทือน มองไกลๆคล้ายภาพเรื่องราวมีม่านน้ำฉาบบัง จุดศูนย์กลางการปะทะของสองขุมพลังอุบัติคลื่นพลังสะท้อนมหาศาลพาลให้มวลอากาศโดยรอบถูกบีบเค้นถึงขีดสุด! ในที่สุดมันก็แตกระเบิดก่อเกิดคลื่นกระแทกซัดกวาดออกไปดั่งมหาพายุ!!

แรงลมที่กวาดซัดออกมายังคมกริบปานคมมีด พาลให้เหล่าศิษย์ที่มีพลังฝึกปรืออ่อนด้อยถึงกับต้องล่าถอยออกไปอย่างไม่อาจขืน!

ปง! ปง! ปง! ปง!

……

และเมื่อมวลพลังสองขุมปะทะกันจนถึงแตกหัก เสียงระเบิดสนั่นพลันดังกึกก้องออกมาระรัวอีกครั้ง พาลให้แก้วหูของผู้ที่ชมดูอยู่อดสะท้านไปเสียไม่ได้!

ซัววว!!

ภายใต้สายตาของทุกคน เมื่อแรงลมจากการระเบิดของพลังจางหาย ปรากฏร่างหงชวียืนตระหง่านอยู่ที่เดิม

ตรงกันข้าม ฝ่ายต้วนหลิงเทียนกลับกระเด็นล่าถอยออกไปหลายก้าวใหญ่ เร่งสลายคลื่นพลังสะท้อนที่กำลังเคี่ยวกรำเข้ามาไม่หยุดหย่อน เห็นได้ชัดว่าการปะทะกันตรงๆครั้งแรกต้วนหลิงเทียนเป็นฝ่ายปราชัย!

ท้ายที่สุดแล้วหงชวีจะอย่างไรก็คือผู้ที่บรรลุถึงขอบเขตเซียนนภาขั้นเชี่ยวชาญ และหมัดที่มันผนึกควบพลังจากทั่วร่าง ก็เปี่ยมล้นไปด้วยพลังอำนาจทำลายล้างของเซียนนภาขั้นเชี่ยวชาญ!

ส่วนพลังเซยีนสุริยันของต้วนหลิงเทียนนั้น แม้จะได้รับการเพิ่มพูนส่งเสริมจากปฐมเวทย์กลืนกินแล้ว แต่อย่างไรก็ยังเทียบได้กับเซียนนภาขั้นกลางเท่านั้น!

เช่นนั้นการปะทะพลังตรงๆ ก็ยังคงเป็นเขาที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ แม้จะชิงลงมือก่อนก็ตามที!

“พลังของเซียนนภาขั้นเชี่ยวชาญร้ายกาจขนาดนี้เชียวหรือ!?”

เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนแพ้พ่ายจนต้องล่าถอยออกไป เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจกลัว ด้วยไม่คิดว่าพลังที่หงชวีเร่งเร้าขึ้นมารับมือในฉับพลันยังจะคงความแข็งแกร่งได้ขนาดนี้!

แน่นอนว่าแม้พวกมันจะเห็นชัดว่าพลังของหงชวีนั้นกล้าแข็งกว่าของต้วนหลิงเทียน แต่พวกมันก็ไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนจะแพ้พ่ายง่ายๆเพียงเท่านี้

เพราะสุดท้ายแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ยังเข้าใจเวทย์พลังขั้นสูงถึง 3 สาย!

หนึ่งในเวทย์พลังขั้นสูงที่ว่าย่อมมีเวทย์พลังสายจู่โจมขั้นสูง!

และเหลือเพียงเวทย์พลังสายจู่โจมขั้นสูงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ที่ต้วนหลิงเทียนยังไม่ใช้ให้พวกมันเห็นกับตา!

‘ก็นะ…คิดปะทะพลังดิบเถื่อนกับมันตรงๆ ข้ายังด้อยกว่ามันอยู่หลายส่วน…’

ต้วนหลิงเทียนมองหงชวีที่ลอยอยู่ไกลห่างลอบคิดในใจ หากแต่เขายังไม่ได้ย่นย่ออะไร

นั่นเพราะเขาสามารถปลดปล่อยพลังโจมตีที่รุนแรงกว่านี้ได้

“แสดงเวทย์พลังสายจู่โจมขั้นสูงที่เจ้ามีออกมาเสีย…หาไม่แล้วเจ้ายังมิใช่คู่มือข้า!”

หงชวีที่เป็นฝ่ายกำชัยในการปะทะครั้งแรก แม้หมัดพลังของมันจะซัดต้วนหลิงเทียนจนล่าถอยไปหลายก้าวใหญ่ แต่มันก็ไม่ได้ติดตามเข้าไปลงมือซ้ำแต่อย่างไร

ไม่ใช่ว่ามันไม่คิดลงมือซ้ำ

แต่หากต้วนหลิงเทียนสำแดงเวทย์พลังเสริมเคลื่อนไหวนั่นอีกครั้ง มันก็ไร้หนทางจะไล่ต้วนหลิงเทียนได้ทัน!

ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนใช้เวทย์พลังสนับสนุนขั้นสูงพร้อมด้วยเวทย์พลังเสริมท่าร่างขั้นสูงออกมาเมื่อครู่ ทำให้มันรู้ตัวดี…หากมันคิดไล่ตามต้วนหลิงเทียนให้ทัน นับเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย! เพราะความเร็วที่ต้วนหลิงเทียนระเบิดออกมาเมื่อครู่มันแตะขอบเขตเซียนนภาขั้นสูงสุดเข้าไปแล้ว! กระทั่งอาจจะรวดเร็วกว่าเซียนนภาขั้นสูงสุดส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ!!

ด้วยเหตุนี้ทำให้มันทำได้แค่รอต้านรับอย่างอดทน!

เพราะมันไม่มีปัญญาไล่ตามต้วนหลิงเทียนได้ทัน!

ตราบใดที่มันสามารถต้านทานรับมือต้วนหลิงเทียนได้ จนถึงเวลาที่เวทย์พลังสนับสนุนของต้วนหลิงเทียนสิ้นระยะเวลาแสดงผลล่ะก็…โอกาสของมันจะมาถึง!

ถึงตอนนั้นคิดฆ่าต้วนหลิงเทียนก็เป็นเรื่องง่ายดายนัก!

“ตามที่เจ้าต้องการ!”

ลูกตาต้วนหลิงเทียนหดเล็กลงทันใดเมื่อได้ยินวาจาท้าทายของหงชวี หลังจากที่กล่าวตอบหงชวีแล้ว ปีกอีกาทองคำที่ด้านหลังพลันกระพืออีกครั้ง ส่งร่างเขาให้พุ่งทะยานเข้าใส่หงชวีปานอัสนีฟาด!

เห็นต้วนหลิงเทียนทะยานเข้ามาด้วยความเร็วสูงล้ำ สีหน้าหงชวีเผยความเคร่งขรึมจริงจัง มวลพลังเซียนถูกเร่งเร้าออกมาผนึกตรึงไว้ทั่วกายรอคอยเวลาปะทุปลดปล่อย!

ตอนนี้…ก่อนที่ผลของเวทย์พลังสนับสนุนต้วนหลิงเทียนจะหายไป ระดับพลังย่อมเทียบได้กับเซียนนภาขั้นกลาง!

ยอดฝีมือขอบเขตเซียนนภาขั้นกลางที่มีเวทย์พลังสายจู่โจมขั้นสูง เป็นอะไรที่มันก็ไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย!

ปงงงง!!

เมื่อต้วนหลิงเทียนทะยานเจียนบรรลุถึงตัวหงชวี พลันมีเสียงระเบิดดังหนึ่งลั่นขึ้นอีกครั้ง เป็นต้วนหลิงเทียนกระทืบเท้าย่ำอากาศอย่างแรงส่งร่างคนให้พุ่งตั้งฉากขึ้นไปบนฟ้าในแนวดิ่งด้วยความเร็วสูง!

ปีกอีกาทองคำ!

เซียนอมตะข้ามภพ!

เวทย์พลังเสริมเคลื่อนไหวพร้อมด้วยเวทย์พลังสายจู่โจมขั้นสูง ถูกต้วนหลิงเทียนใช้ออกด้วยพลังสูงสุดอย่างพร้อมเพรียง! ยังผลให้ร่างของต้วนหลิงเทียนที่ฉากขึ้นฟ้าอยู่ดีๆก็สลายหายไปดั่งเงาเลือน คนทั้งคนอันตรธานหายไปต่อหน้าต่อตาหงชวี!!

เห็นฉากดังกล่าวหงชวีพลันชักสีหน้าเคร่งเครียดทันที เร่งแหงนมองขึ้นไปบนฟ้าอย่างตื่นตัว! ความเร็วเมื่อครู่นั้นมันมองแทบไม่ทัน!!

“นั่นคือเวทย์พลังสายจู่โจมขั้นสูงของศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนรึ”

ขณะเดียวกันเหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ก็เร่งแหงนมองขึ้นฟ้าทันที

“มาแล้ว!”

ทันใดนั้นไม่ทรบเป็นใครที่ตะโกนดังขึ้น!

ภายใต้สายตาของทุกคน ร่างต้วนหลิงเทียนที่อันตรธานหายไป บัดนี้ได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ราวกับคนพึ่งทะลวงแหวกหมู่เมฆลงมา!

อย่างไรก็ตามต้วนหลิงเทียนที่คล้ายจะทะลวงแหวกหมู่เมฆลงมากลับไม่ได้มีแค่คนเดียว…กลับมีถึง 5!

“ช่างร้ายกาจสมดั่งคำร่ำลือนัก!!”

เห็นฉากดังกล่าว สองตาของเหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ถึงกับลุกวาวขึ้นมาทันใด

ก่อนหน้านี้พวกมันเคยได้ยินลักษณะการจู่โจมของเวทย์พลังขั้นสูงสายจู่โจมของต้วนหลิงเทียนมาบ้าง

ตอนนี้เมื่อต้องเผชิญกับต้วนหลิงเทียนทั้ง 5 ที่เสมือนตัวจริงจนไม่อาจแยกแยะ พวกมันก็ตระหนักได้ทันที ว่าต้วนหลิงเทียนใช้ออกด้วยเวทย์พลังสายจู่โจมขั้นสูงแล้วจริงๆ!!

ยามต้วนหลิงเทียนทั้ง 5 ทะลวงแหวกฟ้าลงมาเสื้อคลุมโบกสะบัดสั่นไหวพร้อมไอพลังน่าพรั่นพรึง ให้บรรยากาศน่าเกรงขามประหนึ่งเซียนอมตะข้ามภพลงมาจากแดนสรวงเพื่อล้างผลาญโลกมนุษย์!

แถมยังเป็น 5 เซียนอมตะ!

แม้จะแลดูสง่างามน่าเกรงขาม หากแต่กลิ่นอายพลังที่เปล่งออกจากกระบี่ยังเสียดแทงคมกล้าอย่างน่ากลัว

กลิ่นอายเสียดแทงคมกล้าน่ากลัวดังกล่าวยังเปล่งออกจากกระบี่ทั้ง 5 ของต้วนหลิงเทียนทั้ง 5 ร่าง!

นอกเหนือจากปลดปล่อยเวทย์พลังเซียนอมตะข้ามภพเต็มกำลังแล้ว ต้วนหลิงเทียนยังใช้ออกด้วยเคล็ดพลังลี้ลับของยอดใจกระบี่ที่เจียนบรรลุขั้นที่ 3 เต็มทีออกมา

ดั่งต้วนหลิงเทียนได้ปลดปล่อยวรยุทธ์เซียนสายกระบี่ระดับนภาโดดเด่น!

วู้มมม!

ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ในมือของหงชวีปรากฏดาบเล่มหนึ่งมากระชับแน่น ยามนี้เมื่อแลเห็นร่างทั้ง 5 ของต้วนหลิงเทียนจี้กระบี่ทิ่มแทงลงมาด้วยสภาวะน่าเกรงขามปานเทพเซียน ด้าบในมือหงชวีก็กู่ร้องออกมา ทั้งเริ่มสั่นไหวสะท้าน!

แน่นอนว่าตัวดาบไม่ใช่อยู่ดีๆก็สั่นขึ้นมาเอง

เหตุผลที่มันกู่ร้องพร้อมสั่นไหวอย่างรุนแรงแบบนี้ เพราะหงชวีได้ผนึกพลังเซียนชั่วชีวิตลงสู่ดาบ!

ดาบในมือของหงชวีก็เป็นศาสตรา 100 อาคมเซียนเช่นกัน และเป็นสกุลหงที่แทบจะรีดเลือดหยดสุดท้ายของตระกูลออกมา เพื่อร้องขอให้ปรมาจารย์จารึกเซียนสลักอาคมที่เหมาะสมให้แก่มัน!

เช่นนั้นการประมือกับต้วนหลิงเทียนวันนี้ ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องอื่น แต่ในแง่ของศาสตราเซียนแล้ว หงชวีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันแน่นอน

“ประทับราชันดาบ!”

เผชิญหน้ากับเวทย์พลังอันน่าพรั่นพรึงอย่าง ‘เซียนอมตะข้ามภพ’ ของต้วนหลิงเทียน หงชวีพลันคำรามออกมาเสียงเหี้ยม

หลังจากนั้นพลังเซียนที่ปกคลุมทั่วร่างก็คล้ายจะถูกเร่งเร้าให้ลุกโชนขึ้นมาปานเพลิงไฟ มวลพลังแผ่กำจายออกไปอย่างทะลักทลายก่อเกิดเป็นร่างปีศาจมหึมาตัวเขื่องครอบคลุมมันเอาไว้

เป็นปีศาจที่แลดูมีรูปลักษณ์คล้ายมนุษย์ ยังควบแน่นจนแทบมีสภาพให้ผู้คนเห็นได้ชัดเจน ว่าเงาร่างปีศาจนี้มันน่าเกรงขามปานใด!

ในมือของเงาร่างปีศาจตัวเขื่องยังถือดาบมหึมาเล่มหนึ่ง กลิ่นอายพลังดุดันคมกล้ายังปะทุแผ่ออกมาอย่างไม่ใช่ชั่ว พาลให้บรรยากาศรอบตัวดาบคล้ายจะปริฉีก ช่องว่างสะท้านจนส่งเสียงดังเวิงๆ มวลพลังที่แผ่ออกไม่หยุดยั้งก่อให้เกิดเสียงคลื่นอากาศสะเทือนไม่หยุดราวกับเป็นดาบแห่งทวยเทพ!

นี่เป็นเวทย์พลังสายจู่โจมที่หงชวีเชี่ยวชาญ ประทับราชันดาบ!

ยังเป็นเวทย์พลังสายจู่โจมประเภทดาบ!

เวทย์พลังนี้เมื่อเรียกใช้ ดั่งจะจุติราชันดาบให้มาประทับเข้าร่าง และสามารถปลดปลอยพลังจู่โจมที่กล้าแข็งเหนือกว่าตัวผู้ใช้ได้ออกมาระดับหนึ่ง!

“พันเงาทำลาย!!”

แทบจะพร้อมกันกับที่ประทับราชันดาบเผยพลังอำนาจ หงชวีพลันคำรามออกมาเสียงกร้าว มือที่ถือดาบร้อยอาคมเซียนในมือเริ่มเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง! ปลดปล่อยวรยุทธ์เซียนดาบออกไปชุดหนึ่ง!!

ด้อบร้อยอาคมเซียนถูกฟันฟาดออกมาด้วยวิถีดาบอันลี้ลับ มองไปคล้ายมันจะเพาะสร้างพายุดาบพลัง!!

แน่นอนว่าทุกเรื่องราวบังเกิดขึ้นในชั่วเวลาเพียงพริบตา!

“สะบั้น!!”

ภายใต้สายตาของทุกผู้คนหงชวีพลันคำรามออกมาด้วยน้ำเสียงกร้าวอีกครา และยามเมื่อดาบร้อยอาคมเซียนในมือตวัดฟันฟาดออกไปราวจักรผันครบชุด ดาบมหึมาของเงาร่างปีศาจราชันดาบที่ประทับคลุมกายก็ตวัดฟันฟาดออกไประรัวจนครบกระบวนเช่นกัน!!

และท่วงท่าการฟันดาบของราชันดาบก็เหมือนกับกระบวนท่าที่หงชวีฟาดดาบออกไม่มีผิด!

ชั่วพริบตานั้นเองดาบร้อยอาคมเซียนในมือของหงชวีก็ ปลดปล่อยรังสีดาบสะบั้นผสานไปด้วยพลังอำนาจของอาคมเซียนนับร้อยไปทางร่างต้วนหลิงเทียนอย่างพร้อมเพรียง!

และพร้อมกันนั้นดาบมหึมาจากประทับราชันดาบก็ซัดคลื่นดาบนับร้อยออกไปผสานกับการจู่โจมของหงชวีอย่างพอดิบพอดี ก่อเกิดเป็นพลังอำนาจทำลายล้างที่ทรงอานุภาพแกร่งกล้าขึ้นอีกขั้น!

ฟั่บ! ฟั่บ! ฟั่บ! ฟั่บ! ฟั่บ!

รังสีพลังดาบสะบั้นผสานกับพลังดาบของประทับราชันดาบ พุ่งโถมถันเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนพร้อมร่างอวตารทั้ง 5 ที่สภาวะประหนึ่งเซียนอมตะอย่างไร้ครั่นคร้าม!!

คลื่นพลังดาบสะบั้นนับร้อยสายพุ่งไปมืดฟ้ามัวดิน สภาวะปานจะถักทอก่อเกิดข่ายฟ้าแหสวรรค์ โถมถันคลุมครอบเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนทั้ง 5 อย่างไร้หนทางหลีกหนี!

ในขณะที่เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์เห็นฉากพลังดาบอันน่าครั่นคร้ามนับร้อยสายซัดพุ่งไปยังร่างอวตารทั้ง 5 ของต้วนหลิงเทียนอย่างตื่นตาตื่นใจนั้น ร่างอวตารทั้ง 5 ของต้วนหลิงเทียนพลันคำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราดเป็นเสียงเดียวกัน “ทำลาย!!”

พริบตาต่อมา ท่ามกลางห่าคลื่นพลังคมดาบนับร้อยที่ถาโถม กระบี่ในมือร่างอวตารทั้ง 5 ของต้วนหลิงเทียนพลันเปล่งประกายแสงสีทองออกมาเจิดจ้า! มองไปคล้ายดวงตะวัน 5 ดวงอุบัติขึ้นในฉับพลัน แสงพลังเจิดจ้าแยงตานัก!!

ข่ายฟ้าแหสวรค์จากรังสีดาบที่โถมเข้ามานั้น อาจทำให้รู้สึกเสมือนฟ้าดินมืดมัว…

อย่างไรก็ตามเมื่อดวงตะวันทั้ง 5 ดวงพลันลุกโชนสาดแส่งออกมา แสงสว่าง 5 สายก็เสมือนจะขับไล่ความมืดมิดดังกล่าวออกไปหมดสิ้น!!

ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!

เสียงปะทะของพลังดังสนั่นลั่นฟ้า คลื่นพลังสะท้อนมหาศาลซัดกวาดออกไปในบรรยากาศ พาลให้ร่างศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษณ์ทั้งหลายเสมือนถูกบางสิ่งกระแทกเข้ากลางอก!

แต่กระทั่งศิษย์ที่อ่อนแอยามนี้ ยินยอมให้ตัวกระอักเลือด! แต่ไม่ยินยอมละสายตาจากฉากเรื่องราว!!

พวกมันไม่อยากพลาดฉากอันยอดเยี่ยม!

และภายใต้สายตาของทุกคน ร่างอวตารทั้ง 5 ของต้วนหลิงเทียนที่สภาวะประหนึ่งเซียนอมตะ ก็ได้ทะลวงแหวกฝ่ารังสีดาบพลังทั้ง 100 สายที่โถมถันเข้าใส่อย่างมืดฟ้ามั่วดินออกมา! คลื่นพลังดาบทุกสายถูกพลังที่เหนือชั้นกว่าทำลายจนสลายหายไปไม่มีเหลือ!!

และพริบตาต่อมาร่างอวตารทั้ง 5 ของต้วนหลิงเทียนก็ดั่งเงาเลือน ทั้งหมดพุ่งมาหลอมรวมเป็นหนึ่ง! พลังทะลวงพลันพุ่งทะยานสูงขึ้นในชั่วพริบตา!!

ตอนนี้สภาวะที่ต้วนหลิงเทียนทิ้มแท่งกระบี่จี้ลงมาเสมือนเทพเซียนไร้พ่าย! เพียงกระบี่จี้ออกย่อมไร้ผู้ใดต้านทาน!!

“อั๊ค!!”

เมื่อข่ายดาบแพ้พ่ายอย่างสิ้นท่า เงาร่างราชันดาบที่ประทับคลุมกายก็ถูกพลังสะท้อนทำลายจนหายไป หงชวีย่อมได้รับผลสะท้อนดังกล่าวไม่น้อยเช่นกัน! ใบหน้าของมันแดงก่ำไปราวเลือดคั่ง! สุดท้ายคนจำต้องกระอักโลหิตออกมาคำโต!!

หลังจากที่กระอักโลหิตออกมาแล้ว หน้าที่เคยแดงกลับซีดลงอย่างรวดเร็ว!!

ยามนี้ราวกับสีเลือดได้จางหายไปไม่มีเหลือ!

“ศิษย์พี่หงชวีกำลังจะแพ้แล้วหรือ!?”

“ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น!”

“ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนร้ายกาจเกินไป! นี่น่ะเหรอเวทย์พลังขั้นสูงสายจู่โจม ‘เซียนอมตะข้ามภพ’ ที่ร่ำลือ!!”

“พลังความแข็งแกร่งของกระบวนท่าที่ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนปลดปล่อยออกเมื่อครู่ ถึงแม้จะไม่ถึงขั้นยอดฝีมือขอบเขตเซียนนภาขั้นสูงสุดแต่ก็คงห่างอีกไม่ไกล…น่ากลัวว่ากระทั่งเซียนนภาขั้นสูงสุดทั่วไปยังเทียบไม่ได้!!”

ในขณะที่เหล่าศิษย์แท่นบูชาจตุรลักษร์เห็นพลังอำนาจที่ต้วนหลิงเทียนปะทุปลดปล่อย จนสามารถทะลวงทำลายข่ายรังสีดาบของหงชวีได้ง่ายดายปานแทงเต้าหู้ ทั้งหมดก็เผยสีหน้าหวั่นหวาดออกมา!

ความแข็งแกร่งที่ต้วนหลิงเทียนเผยออกทำให้พวกมันตกตะลึง!

“หงชวี เจ้าแพ้แล้ว…”

ต้วนหลิงเทียนที่เร่งเร้าพลังเซียนอมตะข้ามภพออกสูงสุดบัดนี้ ได้จี้กระบี่อันเปี่ยมล้นไปด้วยพลังทะลวงมหาศาลหยุดอยู่เหนือศีรษะหงชวีห่างเพียงเส้นผมกั้น! คนกล่าวออกเสียบเรียบ! ก่อนที่จะสลายพลังกระบี่และเหินออกไปยืนมองหงชวีด้วยท่วงท่าสงบ…

อย่างไรก็ตามในใจของเขากลับไม่ได้สงบอย่างที่เผยออกทางสีหน้า ‘ไม่คิดเลยว่าเซียนอมตะข้ามภพที่บรรลุขั้นตอนความสำเร็จไปอีกขั้นจะร้ายกาจขนาดนี้…พลังที่หงชวีปะทุออกมาเมื่อครู่นับว่าไม่ใช่ต่ำทรามแล้ว! แต่ข้ายังทำลายมันได้ง่ายดายนัก!!’