เจียง​ซื่อ​มอง​ไป​ที่​เด็กชาย​ที่​กำลัง​ยืน​นิ่ง​ ​แล้ว​ท่าทาง​ของ​นาง​ก็​อ่อนโยน​ลง​อย่างเห็นได้ชัด​ ​นาง​เอน​ตัว​ไป​ด้านหน้า​พลาง​ถาม​ ​“​เมื่อวาน​ตอนที่​พวก​เจ้า​มา​วิ่งเล่น​ที่นี่​เห็น​ใคร​บ้าง​หรือไม่​”

เมื่อ​เห็น​ว่า​เด็กชาย​ดู​เป็น​เด็ก​มั่นใจ​ใน​ตัวเอง​ ​เจียง​ซื่อ​จึง​เลือก​ที่จะ​ไม่​เอ่ยถึง​เรื่อง​ที่​เขา​หกล้ม​ ​แต่​เปลี่ยน​ประเด็น​ถาม

เด็กชาย​ไม่มี​ท่าที​ขัดเขิน​ ​เขา​ตอบ​อย่างว่า​ง่าย​ ​“​เห็นท่าน​ป้า​คน​หนึ่ง​กับ​ท่าน​ลุง​คน​หนึ่ง​”

“​แล้ว​เจ้า​จำได้​หรือไม่​ว่า​ท่าน​ป้า​คน​นั้น​แต่งกาย​อย่างไร​”

คำถาม​ของ​เจียง​ซื่อ​ทำให้​เด็กชาย​ชะงักงัน​ ​เขา​ชำเลือง​ไป​ทาง​สหาย​คนอื่นๆ

เจียง​ซื่อ​ชำเลือง​ไป​ทาง​อา​เฉี่ยว​เช่นกัน

อา​เฉี่ยว​รีบ​หยิบ​ลูกกวาด​ใน​เหอ​เปา​ ​ก่อน​จะ​แจก​ให้​กับ​เด็ก​ๆ

โดยทั่วไป​ ​เด็ก​เหล่านี้​จะ​ได้​กิน​ลูกกวาด​ก็ต่อเมื่อ​เป็น​เทศกาล​ฉลอง​ปีใหม่​เท่านั้น​ ​ฉะนั้น​เมื่อ​เด็ก​ได้​ลูกกวาด​จึง​ส่งเสียง​โห่ร้อง​ดีใจ​ ​บรรยากาศ​โดยรอบ​ครึกครื้น​โดยพลัน

ก่อนที่​เจียง​ซื่อ​จะ​เอ่ย​ถาม​อีกครั้ง​ ​มี​เด็กผู้หญิง​คน​หนึ่ง​ชิง​ตอบ​ขึ้น​มาก​่อน​ ​“​ข้า​จำได้​…​”

เจียง​ซื่อ​หันไป​หา​เด็ก​คน​นั้น

“​ท่าน​ป้า​คน​นั้น​ใส่​เสื้อ​สีขาว​ลาย​ดอกไม้​สีน้ำเงิน​กับ​กระโปรง​สีดำ​ ​คิ้ว​โค้ง​ๆ​ ​แล้วก็​คาง​แหลม​ๆ​ ​นาง​สวย​กว่า​…​”​ ​เด็กหญิง​ลังเล​ชั่ว​อึดใจ​ ​พยายาม​รวบรวม​ความกล้า​ก่อน​จะ​เอ่ย​ ​“​สวย​กว่า​มารดา​ของ​ข้า​ซะ​อีก​”

ใบหน้า​ของ​สตรีที​่​กำลัง​จูงมือ​เด็กหญิง​คน​นั้น​เหยเก​ในทันที​ ​นาง​จ้องเขม็ง​ไป​ที่​บุตรสาว​ของ​ตัวเอง

เจียง​ซื่อ​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​หันไป​หา​หลู​ฉู​ฉู่

ใบหน้า​จืด​เจื่อน​ของ​หลู​ฉู​ฉู่​ผงก​เล็กน้อย​ ​“​เมื่อวาน​ป้า​ซิ่ว​แต่งกาย​เช่นนั้น​เจ้าค่ะ​”

เจ้าของ​สวน​ดอก​เหมย​ที่​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​ถอนหายใจ​ออกมา​อย่าง​โล่งอก​ ​เขา​ยกมือ​ขึ้น​ลูบ​หน้าผาก​พลาง​โค้ง​ตัว​ ​“​นาย​หญิง​ ​ผู้น้อย​มิได้​โป้ปด​ ​เมื่อวาน​ป้า​ซิ่ว​ไม่ได้​อยู่​ที่นี่​นาน​ขอรับ​…​”

เจียง​ซื่อ​กวาดสายตา​มอง​เด็กน้อย​ไร้เดียงสา​ทั้งหลาย​ก่อน​จะ​ไป​หยุด​อยู่​ที่​เจ้าของ​สวน​ที่​ค้อมตัว​ทำความเคารพ​ ​แล้วจึง​หันไป​หา​หลง​ต้าน​ ​“​ส่ง​คน​ไป​ตรวจสอบ​ดู​ว่า​ระหว่างทาง​จาก​สวน​ดอก​เหมย​กลับ​ไป​ยัง​เมืองหลวง​ว่า​มี​ร่องรอย​อะไร​บ้าง​หรือไม่​”​

การ​เดินทาง​จาก​สวน​ดอก​เหมย​ที่​ชานเมือง​กลับ​ไป​ยัง​ร้าน​ลู่​เซิง​เซียง​ใช้เวลา​เพียง​ไม่นาน​ ​ฉะนั้น​ผู้ใหญ่​สอง​คน​ไม่น่า​หาย​ไป​อย่างไร​้​ร่องรอย​เช่นนี้​…​หาก​เกิดเรื่อง​ ​ร่าง​ศพ​ของ​ทั้งคู่​จะ​ไป​อยู่​ที่ไหนได้

เจียง​ซื่อ​ไม่​อยาก​มองโลกในแง่ร้าย

ชีวิต​ที่ผ่านมา​ของ​ป้า​ซิ่ว​ทุกข์ทรมาน​มาก​พอ​อยู่​แล้ว​ ​นาง​ได้​แต่​หวัง​ว่า​ชีวิต​ที่​เหลือของ​ป้า​ซิ่ว​จะ​ได้​อยู่​อย่างสงบ​สุข​ ​เจียง​ซื่อ​ไม่​อยาก​ให้​นาง​ต้อง​จบชีวิต​ลง​อย่าง​ไม่​ยุติธรรม​เช่นนี้

เจียง​ซื่อ​ใคร่ครวญ​ก่อน​จะ​สั่ง​ ​“​ป้า​ซิ่ว​และ​เด็กหนุ่ม​ออกจาก​ที่นี่​ช่วง​ประมาณ​ยาม​เซิน​เจิ​้ง​ ​ต่อให้​การ​เดินทาง​เป็นไป​อย่างราบรื่น​ก็​น่าจะ​มาถึง​ช่วงเวลา​ที่​ประตูเมือง​ใกล้​ปิด​เต็มที​ ​ซึ่ง​ช่วงเวลา​เฉียดฉิว​เช่นนั้น​น่าจะ​มี​คน​เดินทาง​ไม่​มาก​ ​หลง​ต้าน​ ​เจ้า​ไป​สอบถาม​จาก​พลทหาร​ที่​เฝ้า​ประตู​ด้วยว่า​เห็น​ทั้งสอง​บ้าง​หรือไม่​”

หลง​ต้าน​พยักหน้า​ ​“​วางใจ​ได้​ขอรับ​ ​ผู้น้อย​จะ​ส่ง​คน​ไป​สืบ​ ​แต่​เดี๋ยว​ผู้น้อย​ไป​ส่ง​นาย​หญิง​ที่​จวน​ก่อน​แล้วกัน​ขอรับ​ ​หาก​มี​ความคืบหน้า​ใด​ ​ผู้น้อย​จะ​รีบ​กลับมา​รายงาน​ทันที​ขอรับ​”

หาก​เทียบ​ระหว่าง​เรื่อง​ของ​ป้า​ซิ่ว​ ​เขา​เป็นห่วง​ความปลอดภัย​ของ​เจียง​ซื่อ​มาก​ยิ่งกว่า

ก่อนที่​เจ้านาย​จะ​ออกเดินทาง​ไป​ที่​แดน​ใต้​ได้​กำชับ​ไว้​ว่า​ ​หาก​เกศา​ของ​พระ​ชายา​หาย​ไป​แม้​เพียง​เส้น​เดียว​ ​เขา​ก็​เตรียม​หัว​หลุด​ออกจาก​บ่า​ได้​เลย​ ​ฉะนั้น​เขา​ไม่มีทาง​ปล่อย​ให้พระ​ชายา​ไป​เสี่ยงอันตราย​เป็นอันขาด

อีก​ประการหนึ่ง​ ​พระ​ชายา​มีศักดิ์​เป็น​หลานสาว​ของ​อา​หญิง​โต้ว​ ​และ​เขา​ก็​เป็น​ว่าที่​สามี​ของ​อา​หญิง​โต้ว​ ​หาก​จะ​พูด​กันตาม​ตรง​ ​แค่ก​ๆ​ ​เขา​ก็​มีศักดิ์​เป็น​อา​เขย​ของ​พระ​ชายา​ ​การ​ดูแล​บุตรหลาน​ถือเป็น​หน้าที่​ที่​พึงกระทำ​…​ ​ขณะที่​ความคิด​นี้​แวบ​เข้ามา​ใน​หัว​ ​หลง​ต้าน​ก็​ลอบ​พ่นลม​แผ่วเบา

ช่วงนี้​ความคิด​ชักจะ​เตลิด​ไป​ใหญ่​แล้ว​ ​หาก​เจ้านาย​ทราบ​ว่า​เขา​คิด​เช่นนี้​ ​เขา​ได้​ถูก​ถลก​หนัง​เป็นแน่

เจียง​ซื่อ​มิได้​คัดค้าน​สิ่ง​ที่​หลง​ต้าน​เสนอ​ ​นาง​เพียงแต่​พยัก​ศีรษะ​เล็กน้อย

การ​จะ​ตามหา​คน​ต้อง​ใช้เวลา​ ​นาง​เอง​ก็​ไม่​อยาก​รอ​อยู่​ที่นั่น​ ​อีกทั้ง​ใน​จวน​ยัง​มีเรื่อง​ให้​จัดการ​อีก​มากมาย​ ​ซึ่ง​รวมไปถึง​บุตรสาว​ของ​นาง​ด้วย

“​ฉู​ฉู่​ ​พวก​กลับกัน​เถิด​”

แต่​เพราะ​หลู​ฉู​ฉู่​และ​ป้า​ซิ่ว​ใช้เวลา​อยู่​ด้วยกัน​มานาน​และ​สนิทสนม​กัน​เป็น​อย่างดี​ ​เมื่อ​นาง​ได้ยิน​เจียง​ซื่อ​ออกปาก​ชวน​เช่นนั้น​ ​นาง​จึง​ขมวดคิ้ว​พลาง​บอก​ ​“​ให้​ข้า​ไปร​่วม​ค้นหา​กับ​พวกเขา​เถิด​เจ้าค่ะ​ ​ข้า​ไม่​อยาก​กลับ​ไป​นั่ง​รอ​เฉยๆ​”

เจียง​ซื่อ​พยักหน้า​เข้าใจ​ ​“​ก็ดี​ ​มี​เจ้า​ไป​กับ​คน​พวก​นี้​ ​ข้า​ก็​เบาใจ​”

อา​เฉี่ยว​กล่าว​ลา​เจ้าของ​สวน​ดอก​เหมย​แทน​เจียง​ซื่อ​แล้ว​ทุกคน​ก็​เตรียมตัว​เดินทาง​กลับ

เจ้าของ​สวน​ดอก​เหมย​ลอบ​ถอนหายใจ​อย่าง​โล่งอก​ ​ในที่สุด​พวก​คน​สูงศักดิ์​พวก​นี้​ก็​เตรียม​กลับกัน​เสียที​ ​เป็น​กลุ่มคน​ที่​ไม่​ควร​เข้าไป​ยุ่ง​ด้วย​เลย​จริงๆ

ในขณะที่​เขา​กำลัง​คิด​ ​จู่ๆ​ ​อาหมา​นก​็​หันกลับ​มา​พร้อม​ขู่​ด้วย​ใบหน้า​ดุดัน​ ​“​อย่า​คิด​จะ​หนี​เป็นอันขาด​ ​เพราะ​ไม่แน่​ว่า​พวก​ข้า​อาจจะ​กลับมา​ตรวจสอบ​ที่นี่​อีกครั้ง​ ​เจ้า​ต้อง​ไม่ลืม​ว่า​หลังจากที่​ป้า​ซิ่ว​มาที​่​นี่​ ​นาง​ก็​หายตัว​ไป​”

เจ้าของ​สวน​พยักหน้า​หงึกหงัก​ ​“​ได้​ ​ได้​ ​ผู้น้อย​พร้อม​ให้การ​ต้อนรับ​เสมอ​ขอรับ​”

ครั้น​เห็น​ว่า​กอง​ขบวน​เดิน​ห่าง​ออก​ไป​ไกล​กว่า​สิบ​จั้ง​แล้ว​ ​เจ้าของ​สวน​ถึง​ได้​ถอนหายใจ​ออกมา​จริงๆ​ ​ในที่สุด​ก็​ไปกันได้​เสียที

แต่​ใน​ทันใดนั้น​ ​เด็กชาย​ตัว​อ้วน​กลม​กลับ​สับ​เท้า​วิ่ง​ตาม​ไป​พลาง​ร้อง​ ​“​รอก​่อ​น.​..​”

ใบหน้า​ของ​เจ้าของ​สวน​คล้ำ​หม่น​ลง​ทันใด​ ​ใน​ใจ​นึก​อยาก​จะ​จับ​เด็กชาย​คน​มา​ฟาด​ก้น​สักที

มารดา​ของ​เด็กชาย​พอ​จะ​เดา​ออก​ว่า​เจียง​ซื่อ​มิใช่​สามัญชน​ ​ทันทีที่​เห็น​บุตรชาย​ตนเอง​วิ่ง​ตาม​ไป​เช่นนั้น​ก็​ร้อนใจ​จึง​รีบ​วิ่ง​ตาม​ ​“​เอ้อร​์พั​่ง​ ​กลับมา​เดี๋ยวนี้​นะ​!​”

เจียง​ซื่อ​ได้ยิน​เสียง​ของ​เด็กน้อย

แต่​นาง​หันหลัง​กลับมา​ใน​ตอนที่​มารดา​ของ​เด็ก​กำลัง​ดึง​หู​บุตรชาย​ตัวเอง​ ​นาง​กล่าว​เสียงดัง​ ​“​อา​ซ้อ​ ​อย่า​ลง​ไม้​ลงมือ​กับ​เด็ก​เลย​”

สตรี​นาง​นั้น​รีบ​ปล่อยมือ​จาก​บุตรชาย​ ​พลาง​กล่าว​กลบเกลื่อน​ ​“​ขออภัย​นาย​หญิง​ด้วย​ ​เด็ก​นี่​สมควร​ถูก​ลงโทษ​เจ้าค่ะ​”

เด็กชาย​ตัว​อ้วน​กลม​น้ำตาไหล​พราก​มอง​เจียง​ซื่อ​ด้วย​สายตา​อ้อนวอน

เจียง​ซื่อ​ก้าว​เท้า​เข้าไป​และ​โน้มตัว​เข้าไป​หา​ ​“​เจ้า​เรียก​ข้ามี​เรื่อง​อะไร​งั้น​หรือ​”

นาง​พยายาม​ไม่​กดดัน​เด็กชาย​จึง​เอ่ย​ถาม​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​รูปโฉม​งดงาม​ใจดี​ของ​นาง​ทำให้​เด็กชาย​เริ่ม​มี​กำลังใจ

เด็กน้อย​สูด​จมูก​พลาง​บอก​ ​“​ยัง​มี​อีก​…​”

“​เอ๋​ ​มี​อะไร​งั้น​หรือ​”

แม้นาง​จะ​รู้สึก​ว่า​เด็กหนุ่ม​ใน​วัย​เจ็ด​แปด​ขวบ​ไม่น่า​จะ​พูดจา​รู้เรื่อง​ ​แต่​นาง​ก็​เฝ้าคอย​อย่าง​อดทน

การ​เชิญ​เด็ก​เหล่านี้​มา​เป็นการ​สร้าง​ความกดดัน​ให้​กับ​พวกเขา​ ​ทั้งที่​เด็ก​เหล่านี้​ไม่ได้​เกี่ยวกับ​เรื่อง​ของ​ป้า​ซิ่ว

แต่​แล้ว​จู่ๆ​ ​เด็กชาย​รูปร่าง​จ้ำม่ำ​ก็​เอ่ย​สิ่ง​ที่​ทำให้​ผู้ใหญ่​ต้อง​ตกตะลึง​ ​“​มี​จดหมาย​ส่ง​ถึง​ท่าน​…​”

เจียง​ซื่อ​หรี่​ตา​ ​“​จดหมาย​อะไร​รึ​ ​แล้ว​จดหมาย​นั่น​อยู่​ที่ไหน​กัน​”

สายตา​คาดคั้น​หลาย​คู่​จดจ้อง​มาที​่​เด็กชาย​ ​เขา​จึง​บิด​ตัว​ด้วย​ความ​ตื่นกลัว

เจียง​ซื่อ​เห็น​เช่นนั้น​จึง​หยิบ​เหอ​เปา​ที่​ใส่​ลูกกวาด​ของ​อา​เฉี่ยว​ยัด​ใส่​มือ​ของ​เด็กชาย​ ​พร้อม​เอ่ย​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​ไม่ต้อง​กลัว​ ​เจ้า​นำ​จดหมาย​มา​แลก​กับ​ลูกกวาด​นี้​ดี​ไหม​”

เด็กชาย​มอง​ลูกกวาด​ที่​มีอยู่​เต็ม​ถุง​ ​ความ​ตื่นกลัว​พลัน​หาย​สิ้น​ ​เด็กน้อย​กลืนน้ำลาย​พลาง​หยิบ​จดหมาย​ยับยู่ยี่​ออกมา​จาก​กระเป๋า​ส่ง​ให้​เจียง​ซื่อ

เจียง​ซื่อ​รับ​ไป​พลิก​ดู​ ​แต่​แล้วก็​ต้อง​ประหลาดใจ​ ​ไม่เห็น​มี​เขียน​กำกับ​อะไร​ไว้​เลย

แต่​เมื่อ​เป็น​เช่น​นนี​้​ ​เด็กน้อย​รู้​ได้​อย่างไร​ว่า​จดหมาย​นี่​ส่ง​ถึง​นางใน​เมื่อ​เรื่อง​ที่นา​งมา​ที่นี่​เป็น​เพียง​เหตุบังเอิญ​

เจียง​ซื่อ​ถาม​ใน​สิ่ง​ที่​สงสัย

เด็กน้อย​อม​ลูกกวาด​อยู่​ใน​ปาก​พลาง​เอ่ย​ตอบ​ ​“​คน​ๆ​ ​นั้น​บอกว่า​หาก​พบ​สตรีที​่​สวย​เหมือน​เทพธิดา​ก็​ให้​ข้าม​อบ​กระดาษ​นี่​ให้​นาง​ ​แต่​หาก​ภายใน​สอง​วัน​ยัง​ไม่​เจอ​ ​ให้​เอา​มัน​ไป​เผา​ไฟ​”

พี่สาว​คน​นี้​ทั้ง​สวย​ทั้ง​ใจดี​ ​ต้อง​ไม่ผิด​อย่างแน่นอน

เจียง​ซื่อ​ใจเต้น​รัว​ ​นาง​รีบ​คลี่​จดหมาย​ออกมา​ดู​ ​บน​กระดาษ​เขียน​ว่า​ ​วัด​ซาน​สือ

“​วัด​ซาน​สือ​…​”​ ​เจียง​ซื่อ​พึมพำ

มารดา​ของ​เด็กชาย​อุทาน​ ​“​วัด​ซาน​สือ​?​”

เจียง​ซื่อ​หันขวับ​ ​“​อา​ซ้อ​รู้จัก​อย่างนั้น​หรือ​”

มารดา​ของ​เด็กชาย​พยักหน้า​ ​“​พวกเรา​รู้จัก​วัด​ซาน​สือ​กัน​ทุกคน​ ​มันตั​้​งอยู​่​บน​ภูเขา​ไม่​ไกล​จาก​ที่นี่​ ​แต่​มัน​คือ​วัด​ร้าง​ ​ไม่มีใคร​เคย​ไป​เหยียบ​ที่นั่น​…​”