ตอนที่ 642 จงยืนหยัด

My Disciples Are All Villains

สีวู่หยาก้าวไปด้านหน้าก่อนที่จะวางสองนิ้วลงบนข้อมูลยู่เฉิงไห่ เขากําลังส่งพลังลมปราณ บางส่วนเข้าสู่เส้นพลังลมปราณของยู่เฉิงไห่อยู่นั่นเอง แม้ว่าจะไม่เต็มใจกับสิ่งที่ได้ยินจากหมิงซี่ หยิน แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ต้องยอมรับความจริง

“ศิษย์พี่เจ็ด มีอะไรผิดปกติอย่างงั้นเหรอ?” หยวนเอื้อถามออกมาอย่างกังวล

“ขอข้าดูหน่อย” ฝานเทียนเดินผ่านฝูงชนก่อนที่จะตรวจสอบชีพจรของยู่เฉิงไห่ฝานเทียน เป็นคนมองโลกในแง่ดีมาโดยตลอด…แต่อย่างไรก็ตามศาลาปีศาจลอยฟ้านั้นทรงพลัง เป็นเพราะต้องผ่านความยากลําบากมาหลายปีและต้องพบกับภาพอันน่าตกตะลึงของผู้เป็นปรมาจารย์ ศาลาปีศาจลอยฟ้าจึงทําให้ฝานลี่เทียนมองเห็นความจริงมากขึ้น หลังจากที่ตรวจสอบชีพจรเสร็จ สีหน้าของฝานเทียนก็สิ้นหวัง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน

“นี่มันเกิดขึ้นได้ยังไง?” ฝานลี่เทียนไม่อยากจะเชื่อ

“ถอยไป!”

ทุกๆ คนต่างก็หลีกทางให้

ฝานลี่เทียนยกมือ ในตอนนั้นขวดน้ําเต้าทองคําก็ลอยขึ้นมา

ขวดน้ําเต้าลอยอยู่เหนือหัวยู่เฉิงไห่อยู่ชั่วครู่ ในตอนนั้นเองมันก็ส่องแสงจางๆลงบนร่างของยู่เฉิงไห่

“ใจเย็นไว้ ขวดน้ําเต้าของข้ามาจากป่าทมิฬ มันมีพลังชีวิตอันมหาศาลอยู่ในนั้น ข้าลังเลมาโดยตลอดว่าจะใช้พลังชีวิตที่ได้มา แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ข้าจะไม่มีทางเลือกแล้ว”

ทุกๆคนต่างก็เหลือบมองขวดน้ําเต้า ไม่มีใครคาดคิดว่าฝานลี่เทียนจะเต็มใจยกของอันล้ําค่าให้

แสงสีทองยังคงส่องไปที่ร่างของยู่เฉิงไห่

ฝานลี่เทียนก้มตัวลงก่อนที่จะตรวจสอบชีพจรของยู่เฉิงไห่อีกครั้ง ในตอนนี้ใบหน้าของเขามีเหงื่อออกมากกว่าเก่า ฝานลี่เทียนไม่คิดเลยว่าการถ่ายเทพลังออกจากน้ําเต้าจะส่งผลมหาศาลต่อตัวเขาถึงขนาดนี้

“ตาเฒ่าฝาน!” ฝานซงก้าวไปด้านหน้าก่อนที่จะช่วยเหลือฝานเทียน

“ข้าไม่เป็นไร ข้าก็แค่เหนื่อยนิดหน่อย” หลังจากที่ตรวจวัดพลังชีพจรของยู่เฉิงไห่ ฝานลี่เทียนก็พูดเสริม “ข้าทําได้แค่ยื้อชีวิตเท่านั้น…ข้าพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว”

ทุกๆคนดูกังวลและเศร้าเสียใจกับสิ่งที่เกิอดขึ้น

ตัวนม่เฉิงทุบไปที่อกของตัวเอง เขารู้สึกผิดกับสิ่งที่ได้ทํา “ข้าจะเป็นคนลงไปหาท่านอาจารย์เอง ทุกคนดูแลศิษย์พี่ใหญ่ให้ดีด้วยล่ะ”

“ศิษย์พี่สาม อย่าได้นุ่มบ่ามจะดีกว่า…ท่านไม่คิดมั่งหรอว่าตัวเองอาจจะสร้างปัญหาเพราะความใจร้อนน่ะ?” สีวู่หยาขมวดคิ้ว

“ข้า…” ต้วนมู่เฉิงถอนหายใจอย่างรุนแรง

“นี่ไม่ใช่ความผิดของท่าน…ศิษย์พี่ใหญ่เดิมที่ก็ไม่ได้มีพลังชีวิตมากมายอะไรอยู่แล้ว โชคยังดีที่เขายังคืนชีพขึ้นมาได้ แม้ว่าท่านจะทําร้ายศิษย์พี่ไปแต่มันก็ยังไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายไปซะทีเดียว” สีวู่หยาพูด

แม้ว่าคําพูดของสีวู่หยาจะสมเหตุสมผล แต่ตัวนมู่เฉิงก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้น เขายังรู้สึกผิดอยู่แต่ก็ทําอะไรไม่ได้

ในเวลานั้นเองหอยสังข์ก็ชี้ไปยังคสวรรค์ “นั่นอะไรน่ะ?”

ทุกๆ คนต่างก็หันไปมอง ที่ตรงนั้นเต็มไปด้วยพลังลมปราณอันผันผวน

หยวนเอ่อคุ้นเคยกับพลังตรงหน้าดี “ท่านอาจารย์!”

ลู่โจวลอยอยู่บนอากาศ เขากําลังอยู่บนหลังของวิซซาร์ด มันค่อยๆ เคลื่อนที่หาฝูงชนที่รออยู่

รอบตัวของวิซซาร์ดถูกห่อหุ้มไปด้วยพลังอันเป็นมงคล หลังจากนั้นทุกคนก็เหลือบมองเหวลึกร้อยฟุตด้านล่างด้วยท่าที่ประหลาดใจ ทําไมอาจารย์ของทุกคนถึงไม่ได้กลับมาจากคูสวรรค์?

สีวู่หยาเงยหน้าขึ้น หลังจากตกใจไปชั่วครู่เขาก็มองไปยังจุดสูงสุดของคูสวรรค์

“ยินดีต้อนรับกลับท่านอาจารย์!”

“ยินดีต้อนรับกลับท่านปรมาจารย์!”

ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างก็โค้งคํานับ

เมื่อลู่โจวลงมาสู่พื้น เขาก็เห็นยู่เฉิงไห่กําลังนอนอยู่ ยู่เฉิงไห่กําลังหายใจแผ่วเบา “ให้ข้าได้พักสักหน่อยไม่ได้เลยสินะ?”

หยวนเอ่อรีบวิ่งไปหาลู่โจว “ท่านอาจารย์ ช่วยดูศิษย์พี่ใหญ่เร็ว!”

ลู่โจวได้เอาของที่กลับมาด้วยขึ้นมา

สาวกทุกคนที่เห็นแบบนั้นต่างก็ตกตะลึง

ลู่โจวเดินไปหายู่เฉิงไห่ก่อนที่จะตรวจชีพจร หลังจากที่ตรวจชีพจรเสร็จลู่โจวก็ได้ยกฝ่ามือขึ้น พลังดอกบัวสีฟ้าปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โชคยังดีที่เหลือพลังวิเศษอยู่อีกครึ่ง

พลังการรักษาจากเคล็ดวิชาอักษรสวรรค์ทําให้พลังชีวิตของยู่เฉิงไห่กลับมาเสถียรอีกครั้ง

พรึบ!

ในตอนนั้นเองตวนมู่เฉิงก็คุกเข่าลง “มันเป็นความผิดของข้าเอง ท่านอาจารย์ได้โปรดลงโทษข้าด้วย

ลู่โจวไม่ได้มีเวลามาสนใจตัวนมู่เฉิง ตัวเขาเลือกที่จะเปิดห่อผ้าขึ้นมา…

ทุกคนต่างก็เหลือบมองไปยังของที่อยู่ด้านใน

มันมีหัวใจดวงใหญ่ขนาดเท่ากับกําปั้นอยู่ มันคือหัวใจของไชเหยานั่นเอง

“ท่านอาจารย์ของพวกนี้คืออะไรกัน?” หยวนเอื้อถามออกมาอย่างสงสัย

หอยสังข์ชี้ก่อนจะพูดขึ้น “ปลาสีแดง ปลาสีแดง…ไชเหยา ไชเหยา…”

ลู่โจวเหลือบมองหอยสังข์ เขาไม่คาดคิดว่าหอยสังข์จะรู้จักไปเหยา เห็นได้ชัดว่าหอยสังข์มาจากดินแดนที่มีพลังดอกบัวสีแดง ไชเหยาและปลาสีแดงต่างก็เป็นปลาที่อยู่ในดินแดนนั้นมาก่อน ตอนนี้ลู่โจวเริ่มมั่นใจกับสิ่งที่เคยคิดไว้มากขึ้น

“ไชเหยา? ปลาสีแดง?”

แม้แต่ผู้อาวุโสทั้งสองที่มีความรู้รอบตัวก็ยังไม่รู้จัก

ลู่โจวพูดออกมา “มันคือหัวใจของปลาสีชาด หัวใจดวงนี้จะเพิ่มอายุขัยให้ได้ร้อยปี”

ลู่โจวพลิกฝ่ามือ หัวใจของปลาสีชาดลอยขึ้น

หัวใจของปลาสีชาดที่จะเพิ่มอายุขัยของคนได้ถือเป็นสมบัติล้ําค่าที่หาได้ยาก

ในโลกของการฝึกยุทธ วิธีการที่จะยึดอายุขัยของคนนั้นมีอยู่น้อยนิด ยาอายุวัฒนะเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีอะไรใช้รับมือกับขีดจํากัดอันยิ่งใหญ่ได้เลย

“หัวใจของปลาสีชาดสามารถข้ามผ่านขีดจํากัดได้อย่างงั้นเหรอ?” สวี่หยาสงสัย

“ข้าเองก็ไม่แน่ใจ” ลู่โจวตอบไปตามจริง

ตามที่สมุดบันทึกมี ผู้ฝึกยุทธผู้ที่มีพลังดอกบัวสีแดงจะไม่ได้มีอายุขัยที่สั้นลง ถ้าหากมันเป็นแบบนั้นจริงก็เท่ากับว่ามันไม่อยู่ในขีดจํากัดนั่นเอง

หมิงหยินรีบพยุงตัวของยู่เฉิงไห่ขึ้นมา

ลู่โจวไม่รอช้ารีบป้อนหัวใจของปลาสีชาดด้วยพลังฝ่ามือ

หัวใจของปลาสีชาดลอยเข้าไปในปากของยู่เฉิงไห่

จากนั้นลู่โจวก็รีบส่งพลังลมปราณเข้าสู่ร่างกายของยู่เฉิงไห่

ไม่นานนักลู่โจวก็เริ่มสั่งการต่อ “กลับไปที่มณฑลเหลียง จับตาดูอาการของเขาให้ดีซะ”

“ครับ/ค่ะ!”

ณ คฤหาสน์แม่ทัพในมณฑลเหลียง

หลังจากที่พักผ่อนได้สักพัก ลู่โจวก็ได้เรียกสีวู่หยาให้เข้าพบ

สีวู่หยาอยากที่จะรู้เรื่องในหุบเหวลึก เขารีบหยุดทุกอย่างก่อนจะเข้าพบอาจารย์

“ท่านอาจารย์” สีวู่หยารีบเข้ามาในห้อง

ลู่โจวชี้ไปยังบันทึกและจดหมายของผู้ชี้แนะ มันถูกทิ้งไว้ที่โต๊ะด้านหน้า “ถ้าหากเจ้ามีเวลาก็ลองดูของพวกนั้นซะ”

“ครับ” สีวู่หยาเก็บของทั้งหมดก่อนที่จะพูดต่อ “ท่านอาจารย์ ในหุบเหวลึกมีอะไรกันแน่?”

ลู่โจวเล่าถึงสิ่งที่ได้เห็นให้กับสีวู่หยาได้ฟัง

หลังจากที่ได้ฟังสีวู่หยาสั่นไปทั้งตัว บนใบหน้าของเขาตื่นตกใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“แม้ข้าจะเดาไว้แล้วว่าจะต้องมีอะไรอยู่ แต่ข้าไม่คิดเลยว่ามันจะมีโลกอีกใบอยู่ด้วย!”

“ตอนนี้มันเป็นเพียงการคาดเดา…เจ้ารู้ไหมว่าข้าพบใครที่จุดสูงสุดของคูสวรรค์?”

“ท่านอาจารย์ได้โปรดบอกข้าเถอะ”

“ข้าได้พบเจียงเหวินซู ผู้ชี้แนะองค์จักรพรรดิ

“ผู้ชี้แนะองค์จักรพรรดิ?” สีวู่หยาตกใจ

“จดหมายในมือเจ้าก็ถูกเขานั่นแหละที่เขียนขึ้นมา…”

สีวู่หยารีบเปิดจดหมายอ่านในทันที “การปรากฏตัวของผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบจะนําพาภัยพิบัติมา…แต่ท่านอาจารย์มีพลังอวตารดอกบัวเก่ากลีบนานแล้ว แล้วภัยพิบัติที่ว่าอยู่ไหนกัน?”

ลู่โจวเองก็ไม่รู้คําตอบเช่นกัน

ที่ลู่โจวบอกทุกอย่างกับสีวู่หยาเพราะเขาหวังว่าศิษย์คนนี้จะใช้สติปัญญาที่มีวิเคราะห์เรื่องของดินแดนดอกบัวสีแดงได้ ถ้าฉันรู้ก็คงบอกทุกอย่างไปแล้วล่ะ”

ลู่โจวได้แต่คิดในใจก่อนจะพูดต่อ “ยังมีอะไรหลายอย่างที่ยังไม่คลี่คลาย…ข้าจะปล่อยเรื่องของดอกบัวสีแดงให้กับเจ้าได้สืบหา”

“ข้าจะทําให้ดีที่สุด”

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ออกไปได้แล้วล่ะ”

สีวู่หยาที่กําลังจะจากไป ในตอนนั้นเองเขาก็นึกถึงเรื่องพันธมิตรทั้งสิบสองดินแดนขึ้นมาซะก่อน “ท่านอาจารย์ ดินแดนทั้งสิบสองแห่งจัดตั้งพันธมิตรขึ้นมาแล้ว ข้าเกรงว่าพวกเขาคงจะคิดบุกดินแดนหยานในอนาคต”

ลู่โจวนึกถึงสิ่งที่เจียงเหวินซูพูดอยู่ ในตอนนั้นเขาจึงเลือกตอบรับแบบส่งๆ ไป “ข้ารู้แล้ว”

“ถ้างั้นศิษย์ขอตัวก่อน”

เช้าวันต่อมา

ลู่โจวได้ทําสมาธิเพื่อฟื้นพลังจากเคล็ดวิชาอักษรสวรรค์มาตลอดทั้งคืน ในเช้าวันรุ่งขึ้นหมิงซี่หยินก็มาหาเขาแต่เช้า “ท่านอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่ฟื้นแล้ว”