ตอนที่ 643 ดอกบัวสีแดง

My Disciples Are All Villains

ลู่โจวลืมตาก่อนที่จะออกจากห้องไป เมื่อออกมาก็พบกับหมิงซูหยินที่ยืนรออยู่ ก่อนแล้ว “นําทางไป”

“ครับ”

ทั้งสองคนเดินไปยังที่พักของยู่เฉิงไห่

ระหว่างทางที่ไปหมิงซีหยินก็ได้ถามออกมาด้วยความสงสัย “ท่านอาจารย์ ปลาสีแดงตัวนั้นแข็งแกร่งจริงๆ ข้าต้องใช้ความพยายามกว่าหลายครั้งกว่าที่จะทําอะไรกับมันได้”

“ปลาสีแดงมาจากหุบเหวลึก อย่าได้ประมาทไป…นอกจากนี้หัวใจของไปเหยายังสามารถมอบอายุขัยได้กว่าพันปี เจ้าปกป้องมันให้ดีซะล่ะ” สู่โจวพูด

เมื่อได้ยินแบบนั้นหมิงซูหยินก็ตื่นตกใจ เขารีบพยักหน้าตอบรับอย่างรวดเร็ว “ครับ ท่านอาจารย์

หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงเตียงที่ยู่เฉิงไห่นอนอยู่

เมื่อยู่เฉิงไห่เห็นลู่โจว เขารีบพยายามลุกขึ้นมา แต่จู่โจวได้ห้ามเอาไว้ซะก่อน “เลิกพิธีรีตองนั่นซะ”

“ข้า…”

ลูโจวยื่นมือออกมา ในตอนนั้นเองพลังลมปราณก็ได้ล้อมรอบร่างกายของยู่เฉิงไห่

เอาไว้

ลูโจวกําลังตรวจวัดพลังชีวิตของยู่เฉิงไห่ มันเป็นอย่างที่คาดไว้ ดูเหมือนว่าเขาจะมีพลังชีวิตเพิ่มขึ้นมาแล้ว ยู่เฉิงไห่มีอายุขัยราวๆ 100 ปี

หมิงซีหยินได้ตรวจสอบร่างกายของยู่เฉิงไห่มาก่อนแล้ว เพราะแบบนั้นเขาจึงไม่แปลกใจอะไร

“ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านจะต้องไม่เป็นไรแน่”

“ขอบคุณมาก”

“เอ่อ…ศิษย์พี่ใหญ่ ข้ารู้สึกอึดอัดที่ท่านสุภาพกับข้ามากจนเกินไป”
หลังจากที่ตรวจสอบร่างกายเสร็จสู่โจวก็พูดออกมา “เจ้าไม่เป็นไรแล้วล่ะ…เจ้าจะ ต้องไป ลั่วหลานกับข้า”

“ลั่วหลาน?”

“เมื่อจัดการกับปมของเจ้าได้ ความทรงจําของเจ้าก็จะกลับคืนมา” สู่โจวพูด

ยู่เฉิงไห้ในวัยหนุ่มไม่เข้าใจคําพูดเหล่านั้นเท่าไหร่

แต่ถึงแบบนั้นหมิงหยินกลับเข้าใจดี เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

สําหรับยู่เฉิงไห่ลั่วหลานเป็นดินแดนแห่งความทุกข์ทรมาน มันเป็นที่ที่ยู่เฉิงไห่ยังคงยึดติดกับมัน…

หลังจากตรวจสอบสภาพร่างกายของยู่เฉิงไห่ จู่โจวก็หันหลังก่อนที่จะเตรียมจากไป

หมิงหยินนั่งลงบนเตียงก่อนจะพูดขึ้น “โชคดีจริงๆ ที่ท่านอาจารย์กลับมาได้ทันเวลา ถ้าหากท่านอาจารย์กลับมาไม่ทันข้าก็ไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับท่าน”

ยู่เฉิงไห่เองก็รู้สึกซาบซึ้ง แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ยังสงสัยอยู่ “ข้า…ข้าเป็นศิษย์คนแรก ของท่านอาจารย์จริงๆอย่างงั้นเหรอ?”

“มันเป็นความจริงอย่างไม่ต้องสงสัย

หมิงซีหยินยืนขึ้น เขาโค้งค่านับยู่เฉิงไห้ด้วยความเคารพก่อนจะพูดออกมาอย่างจริงจัง “ศิษย์พี่ใหญ่”

ตั้งแต่วันที่หมิงซี่หยินได้เรียกยู่เฉิงไห่ว่าศิษย์พี่ใหญ่ ยู่เฉิงไห่ก็กลายเป็นศิษย์พี่ใหญ่ของเขาไปชั่วชีวิตแล้ว

แม้ว่ารูปลักษณ์ จิตใจและน้ําเสียงของยู่เฉิงไห่จะเปลี่ยนไป ความหมกมุ่นที่มีหายไปเล็กน้อย หมิงหยินก็ยังจะเรียกเขาว่าศิษย์พี่ใหญ่อยู่ดี ยู่เฉิงไห่ที่ได้ฟังแบบนั้นสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นไปทั้งใจ

“ศิษย์พี่สี่…”

หมิงซีหยินหันหันกลับไป เขาจดจ่าเจ้าของเสียงได้ดี “ศิษย์น้องแปด? ทําไมเจ้าถึงอยู่ที่นี่กัน? เจ้าควรจะอยู่ที่เมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่เหรอ?”

คนที่มาไม่ใช่ใครอื่น เขาก็คือศิษย์คนที่แปดซ่ฮ่องกง

ซ่ฮ่องกงรีบตอบ “เมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ปลอดภัยแล้ว ข้ามาที่นี่ก็เพราะคิดถึงท่านอาจารย์ เขาอยู่ที่ไหนกัน?”

“โชคร้ายหน่อยนะท่านอาจารย์เพิ่งจะกลับไป เจ้าไม่ควรจะรบกวนท่านอาจารย์ในตอนนี้” หมิงหยินรีบห้าม

ซูฮ่องกงมองไปที่ยู่เฉิงไห่ที่นอนอยู่บนเตียง “แล้วนี่ใครกัน?”

“ใครอย่างงั้นเหรอ? เจ้าไม่คิดจะทักทายศิษย์พี่ใหญ่เหรอไงกัน?” หมิงซูหยินถามกลับ

ซูฮ่องกงส่ายหัว “ศิษย์พี่ใหญ่ เลิกล้อเล่นกับข้าได้แล้ว แม้ว่าข้าจะไม่ฉลาดเหมือนกับคนอื่น แต่ข้าก็ไม่ใช่พวกปัญญาอ่อน” เขาเดินไปหายู่เฉิงไห่ก่อนที่จะเอามือแตะไปบนไหล่ “สวัสดีสหาย”

ยู่เฉิงไห่ตอบกลับ “สวัสดี”

หมิงซี่หยินพูดไม่ออก ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทําได้

ซ่ฮ่องกงเฝ้ามองใบหน้าของยู่เฉิงไห่ “ดูให้ดีเจ้าก็คล้ายกับศิษย์พี่ใหญ่อยู่เหมือนกันนะ…” จากนั้นเขาก็เอื้อมมือไปบีบใบหน้าของยู่เฉิงไห่

หมิงซูหยินรีบกระแอม “ศิษย์น้องแปด…เขาก็คือศิษย์พี่ใหญ่ตัวจริง”

“หยุดล้อเล่นกับข้าซะทีเถอะ ข้ามาจากเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นการเดินทางที่แสนจะเหน็ดเหนื่อย ไม่ต้องกังวลไปสหาย ศิษย์พี่สี่ของข้าก็เป็นคนแบบนี้ เขาชอบแกล้งคนอื่น อย่าไปใส่ใจเขาเลย” ซูฮ่องกงหันไปพูดกับซูฮ่องกงแทน

“…” ยู่เฉิงไห่ยิ้มให้อย่างสุภาพ “ไม่เลย ข้าไม่ได้ว่าบากใจอะไร”

แม้ว่ายู่เฉิงไห่จะรู้ว่าชายตรงหน้าก็คือเหล่าศิษย์น้อง แต่ความทรงจําที่ขาดหายไปทําให้เขารู้สึกไม่คุ้นชิน

เมื่อทุกคนได้ยินว่ายู่เฉิงไห่กลับมามีสติอีกครั้ง ทุกคนก็เริ่มมาเยี่ยมเยียนกันที่ละคน
หยวนเอ๋อและหอยสังข์เป็นสองคนแรกที่มาถึง

“ศิษย์พี่ใหญ่”

“ศิษย์พี่ใหญ่” หอยสังข์ทักทายด้วยรอยยิ้ม

“???” ซูฮ่องกงสับสน

ไม่นานหลังจากนั้นมีวี่หยา ฝานซง และโจวอี้เฟิงก็มาถึง

“ศิษย์พี่ใหญ่”

“ท่านหนึ่ง”

ซ่ฮ่องกงหันไปมองแขนของตัวเองที่ยังคงวางอยู่บนไหล่ของยู่เฉิงไห่ สีหน้าของเขาเริ่มแข็งที่อไป หรือว่าทุกคนรวมหัวกันเพื่อแกลงข้า?”

ตัวนมู่เฉิงเป็นคนสุดท้ายที่มาถึง ท่าทางของเขาดูจริงจังยิ่งกว่าใครๆ ทันทีที่มาถึงเขาก็รีบคุกเข่า “ศิษย์พี่ใหญ่ ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย”

เมื่อยู่เฉิงไห่เห็นแบบนั้น เขาก็รีบผลักแขนของซูฮ่องกงก่อนที่จะรีบลุกออกจากเตียงพรึบ!

ซ่ฮ่องกงรีบคุกเข่าเช่นกัน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยน้ําตาที่ไหลอาบ “ศะ…ศิษย์พี่ใหญ่ ข้าผิดไปแล้ว..ช่วยยกโทษให้ข้าด้วย!?”
ยู่เฉิงไห่หันกลับมา “ลุกขึ้นเถอะ”

“ข้าถูกหลอก…ข้าจะไม่ถูกหลอกอีกครั้งแน่!” ใบหน้าของซูฮ่องกงยังคงแตกตื่น

หมิงซูหยินเดินไปด้านข้างของยู่เฉิงไห่ก่อนที่จะกระซิบอะไรบางอย่าง

ยู่เฉิงไห่ตกตะลึงไปในตอนแรก หลังจากนั้นเขาก็รีบเปลี่ยนสีหน้า ยู่เฉิงไห่กระแอมในค่าคอก่อนที่จะเอามือไขว้หลัง เขาพูดออกมาอย่างจริงจัง “ลูกขึ้นซะ!”

ตัวนมู่เฉิงและซ่ฮ่องกงลุกขึ้นยืนในทันที

จากนั้นยู่เฉิงไห่ก็พูดต่อ “ไปได้แล้ว”

“ไปซะ!”

ทุกๆ คนรีบเดินจากไป

“ก็ได้ พวกเราขอตัวก่อน” หยวนเอ่อและหอยสังข์พากันออกจากที่นั่นไป

หมิงซูหยินเกาหัวอย่างเชื่องช้ํา เขายิ้มก่อนจะพูดออกมา “ศิษย์พี่ใหญ่ ครั้งสุดท้ายมันดูจริงจังไปหน่อย…”

“อย่างงั้นเหรอ?” ยู่เฉิงไห่เงยหน้ามองหมิงหยิน

หมิงซูหยินก้มหน้าลง เขาพยายามเก็บรอยยิ้มเอาไว้ “ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านควรพักผ่อนต่อ ข้าเองก็ขอตัวด้วย”

ในที่สุดทุกคนก็เดินจากมา

ยู่เฉิงไห่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนจะนั่งลง “ข้า…ในอดีตน่ากลัวขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ?”

ในขณะเดียวกันภายในหุบเหวลึก

แสงสีแดงแวววาวได้ลอยอยู่เหนือผิวน้ําสีดาไม่มีที่สิ้นสุด

ยู่ฉางตงกําลังยืนอยู่บนดาบสีแดง สีหน้าและจิตใจของเขาว่างเปล่า ประสาทสัมผัสของเขาก็ดํานชา เขาสูญเสียความรู้สึกทั้งหมดไป ยู่ฉางตงลืมไปแล้วว่าบินอยู่บนผิวน้ํานานแค่ไหน แม้ว่าจาไม่ได้แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ ยู่ฉางตงยังคงบินต่อไป

ซูวว!

เขาได้ยินเสียงน้ํากระเซ็นเป็นครั้งคราว

ยู่ฉางตงหันกลับมาก่อนที่จะเห็นปลาสีแดงกระโดดขึ้นมาบนอากาศ ปลาที่เห็นเป็นดั่งบอลไฟในความมืด มันโค้งตัวงอก่อนที่จะพุ่งลงไปในน้ําสีดําสนิทอีกครั้ง

“สัตว์ประหลาดนั่นทรงพลังอะไรเช่นนี้

มันคือสัตว์ประหลาดตัวที่สามที่ยู่ฉางตงสังเกตเห็น

ในตอนแรกเขาตกใจ แต่ในตอนนี้เขาคุ้นชินกับมันแล้ว

“ข้าโชคดีจริงๆ”

ยู่ฉางตงเคยถูกสัตว์ประหลาดจู่โจมเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ในตอนนั้นยู่ฉางตงที่สู่ไม่ได้ทําได้เพียงบินออกจากเขตแดนของมันเท่านั้น

บางที่สักวันหนึ่งยู่ฉางตงอาจจะถูกสัตว์ประหลาดที่ว่ากิน ความประมาทอาจจะพาเขาไปสู่ความตาย

ฟวว!

ลมเย็นพัดผ่านตัวของยู่ฉางตงไป

ยฉางตงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “สายลมอย่างงั้นเหรอ?”

ถ้าหากมีสายลมแสดงว่ามีทางไปต่อ

ความหวังครั้งใหม่ได้จุดประกายอยู่ภายในใจของยู่ฉางตง เขารีบโคจรพลังลมปราณก่อนที่จะพุ่งไปด้านหน้า ในเวลาเดียวกันเขาก็ยกฝ่ามือขึ้นก่อนที่จะใช้พลังฝ่ามือส่องไปทั่วตัว

ผ่านไปชั่วครู่ยู่ฉางตงก็มองเห็นแสง มีบางอย่างที่ดูคล้ายกับทางออกรูปวงรี!

ยู่ฉางตงดีใจมาก เขารีบบินไปพร้อมดาบ

พรึบ!

ทันทีที่ผ่านทางออกมาได้ทัศนวิสัยของเขาก็กว้างไกลมากยิ่งขึ้น ไม่มีเมฆให้เห็นมีเพียงพระอาทิตย์ที่สดใสอยู่บนท้องฟ้าเท่านั้น ยู่ฉางตงมองเห็นป่าลึก เขาสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังอันหนาแน่น

ยู่ฉางตงหันกลับไปมองทางเข้าสู่หุบเหวลึก ตัวเขาที่หยุดมองกําลังมองเห็นทางเข้าสู่หุบเหวที่ห่างออกไปเรื่อยๆ

“ที่นี่ที่ไหนกัน?” ยู่ฉางตงตกใจเป็นอย่างมาก

บนขอบฟ้าอันไกลโพ้น

ลูอันตัวใหญ่ยักษ์ มันคือนกในตํานานกําลังทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า หางของมันมีสีสันสดใสราวกับไก่ฟ้า ปีกของมันใหญ่ยักษ์ราวกับแม่น้ําใหญ่ มันปล่อยพลังงานสีแดงออกมาจากร่างกาย

ยู่ฉางตงที่เห็นแบบนั้นก็รู้ตัวได้ทันที เขาตกอยู่ในสถานที่ที่อันตรายเข้าซะแล้ว เขาเคยได้ยินต่านานของป่าทั้งสี่แห่งดินแดนหยานมาก่อน

“หรือว่า…ข้าจะหลงมาในส่วนลึกของป่าโดยที่ไม่ได้ตั้งใจกัน?” ยู่ฉางตงรีบลดระดับความสูงก่อนที่จะหาทางออก คงจะดีกว่าถ้าหากหลีกเลี่ยงที่จะเจอสัตว์ร้ายแบบ
นั้น