บทที่ 679 หนีออกจากหมู่บ้าน

อาฮวาวิ่งอย่างเร็วรี่ ทันใดนั้นมีคนเข้ามาขวางนางเอาไว้สามคน คนที่อยู่ตรงกลางคือคุน

“อาฮวา เจ้าจะรีบไปไหนกัน?” เขาถามด้วยรอยยิ้ม

“ข้าจะไปวิหารหาพี่ชาย” อาฮวาเบี่ยงตัวหลบ แต่ถูกคนข้างๆจับตัวเอาไว้

“พี่ชายเจ้ายังทำธุระไม่เสร็จ เจ้าจะไปหาเขาเพื่อเหตุใด? พี่อาคุนมาหาเจ้าแล้ว” คุนมีรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้า

อาฮวานิ่งงันไป

“พี่ชายข้าไม่ได้เป็นอะไรหรอกหรือ?”

“ข้าไม่เห็นได้ยินเรื่องที่ว่าเลย”

อาฮวาเข้าใจได้ในทันที ชายที่มาส่งข่าวหลอกให้นางมาพบกับคุนที่ยืนดักรออยู่ หลังจากรู้ว่าอามู่ไม่ได้เป็นอะไร อาฮวาจึงได้ลอบสังเกตสถานการณ์ของตน บริเวณนี้เป็นที่เปลี่ยวร้างผู้คน คุนพาน้องชายมาด้วยสองคน แม้นางจะใช้กำลังต่อสู้ก็ไม่อาจหลบหนีไปได้

“อาฮวา เจ้าตามข้ามาอย่างว่าง่ายเถอะ” ใบหน้าที่น่ากลัวของเขาแสยะยิ้มหื่นกระหาย ทำให้ยิ่งดูน่าขยะแขยงมากขึ้น

อาฮวาค่อยๆ ถอยหลัง คุนรีบวิ่งไปคว้ากอดนางเอาไว้ ชายสองคนที่ติดตามมา พากันหัวเราะส่อเจตนาชั่วร้าย

อาฮวาขนลุกไปทั้งตัว นางจำต้องกลั้นเอาไว้

“หากเจ้าอยากแต่งงานกับข้าก็ไปสู่ขอข้าสิ”

“พี่ชายของเจ้าปฏิเสธข้า” คุนพูดอย่างเย็นชา

เขาเคยเอ่ยปากสู่ขอนางมาก่อนแต่กลับถูกปฏิเสธ เมื่อเร็วๆ นี้เขาหางานให้อามู่ แต่อามู่ยังไม่ยอมตกปากรับเขาเขา คุนได้แต่กลั้นโมโหเอาไว้

“ข้าจะบอกพี่ชายไม่ให้ปฏิเสธเจ้าอีก”

“เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ? เป็นเมียข้าก่อนแล้วค่อยพูดกัน” คุนพูดด้วยน้ำเสียงหยาบคาย เขากดอาฮวาลงกับหินก้อนใหญ่ ตั้งท่าจะถอดเสื้อผ้าของนาง

อาฮวาหวาดกลัวและสิ้นหวัง นางดิ้นรนตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ พยายามที่จะผลักคุนออกไปให้พ้น เขาโกรธมากตบใบหน้าหน้าอาฮวาทันที

“แม่งตาย! ถ้าเจ้ากล้าทำอะไรอาฮวาอีก ข้าจะตีเจ้าให้ตาย!” เสียงคำรามดุดันดังขึ้น คุนโดนเตะเข้าอย่างแรง เขากระเด็นไปกองที่พื้น

จ้าวจิ่งซวนตัดสินใจจูงมือนางวิ่งหนี น้องชายสองคนของคุนยืนตกตะลึงไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์พลิกผันเช่นนี้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา

“ยืนทื่ออยู่ทำไม? รีบตามมันไปสิ!” คุนตะโกนสั่งเสียงดัง น้องชายของเขารีบวิ่งตามไป

จ้าวจิ่งซวนไม่คุ้นกับเส้นทางของหมู่บ้าน เขาได้แต่จับมืออาฮวาวิ่งไปอย่างไม่รู้ทิศทาง

ในไม่ช้าอาฮวาจึงได้สติ นางวิ่งตามเขาไป ทั้งสองวิ่งหนีอย่างสิ้นหวังจนในที่สุดจึงได้เข้าไปหลบในถ้ำโดยที่น้องชายของคุนไม่เห็น พวกเขาปลอดภัย ทั้งสองล้มตัวลงในถ้ำ

จ้าวจิ่งซวนหายใจอย่างเหนื่อยหอบ เขามองอาฮวา

“เจ้าเป็นอะไรหรือไม่?”

เสื้อผ้าของนางถูกคุนกระชากออก เผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าที่งดงามและผิวขาวราวหิมะ

นางได้สติรีบจัดแจงแต่งเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ใบหน้าแดงระเรื่อ แต่พอนึกบางอย่างได้นางหน้าซีดเผือดหันไปมองจ้าวจิ่งซวน

“ข้าจะถูกเผาจนตาย!” จ้าวจิ่งซวนเหมือนยอมรับชะตากรรมของตน ในตอนที่เกิดเหตุ เขาไม่ได้คิดอะไรนอกจากต้องการช่วยเหลืออาฮวา ตอนนี้เขาถูกพบเจอแล้วว่าเป็นคนนอกเผ่า อาฮวาขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่านี่เป็นปัญหาใหญ่หลวง นางเอื้อมมือไปลูบศีรษะเขา

“อาฮวา เจ้าแตะใบหน้าของข้าแทนได้หรือไม่? เจ้าลูบผมข้าเช่นนี้ทำให้ข้ารู้สึกว่าข้าเป็นน้องชาย” จ้าวจิ่งซวนพึมพำ

“ได้หรือไม่?”

อาฮวาจ้องเขาด้วยใบหน้าที่สวยงามของนาง

น้ำเสียงของจ้าวจิ่งซวนขอร้อง เขาเป็นพี่ชายน่ะ

“เกิดอะไรขึ้นกับที่หมู่บ้านนี้กันแน่? คนที่มาจากข้างนอกจะถูกเผาทั้งเป็นจริงหรือ?” จ้าวจิ่งซวนยังถามต่อ

อาฮวาพยักหน้า

“คนภายนอกจะนำภัยพิบัติมาสู่เผ่า ต้องจับเผาให้ตายทั้งเป็น”

“แล้วเหตุใด เจ้ากับพี่ชายถึงได้ช่วยข้าเล่า?”

“ท่านแม่เคยสอนข้าเอาไว้ คนภายนอกมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ควรแยกแยะที่จิตใจของผู้คน หลายสิ่งที่เราทำอยู่ก็เป็นเพราะเรียนรู้จากคนนอกเผ่าที่ได้สอนพวกเราเอาไว้”

จ้าวจิ่งซวนจึงได้ตระหนักว่า อามู่และอาฮวาแตกต่างจากคนอื่นในเผ่า มารดาของพี่น้องทั้งสองเป็นคนฉลาดมาก

“ถ้าข้าเป็นคนเลวล่ะ?”

“เจ้าเป็นคนดี ถ้าหาทางออกจากที่นี่ไปได้ก็ไม่โดนเผาหรอก”

“อาฮวา อามู่เจ้าออกไปกับข้าเถอะ” จ้าวจิ่งซวนชักชวน

คุนเป็นบุตรชายของพ่อมดประจหมู่บ้าน เขาสามารถเอาฝ่ามือเดียวปิดท้องฟ้าได้ ครั้งนี้เขาช่วยอาฮวาจากคนผู้นั้นมาได้ แต่ครั้งหน้าอาจจะไม่โชคดีเช่นนี้ หลังจากตริตรองดีแล้ว จ้าวจิ่งซวนจึงได้ชักชวนให้อาฮวาและอามู่ออกไปจากหมู่บ้านพร้อมกับเขา

“ออกไปจากหมู่บ้านนี้ ไปแคว้นของข้า ข้าจะปกป้องพวกเจ้าไม่ให้คนเลวอย่างคุนมารังแกเจ้าอีก”

“ออกไปข้างนอกหรือ?” อาฮวาพึมพำ โลกภายนอกที่ถูกกล่าวกันว่าเป็นนรก คนในเผ่าไม่ได้มีชีวิตดีไปกว่าสัตว์เลี้ยง

ยิ่งไปกว่านั้นการออกจากเผ่าเท่ากับเป็นคนทรยศต่อเทพเจ้า จะไม่ได้รับความโปรดปรานจากพระองค์ ยามเสียชีวิตจะไม่ได้ไปสู่ดินแดนของเทพเจ้าอีกด้วย ถึงกระนั้นก็ยังมีคนโหยหาโลกภายนอก เมื่อก่อนนี้มีท่านลุงอาหวังอยู่ในหมู่บ้านแอบเล่าเรื่องภายนอกให้นางฟัง เขาเล่าว่าข้างนอกมีเมืองใหญ่ มีร้านค้ามากมาย ขายของหลากหลายทั้งเสื้อผ้าและอาหารที่แปลกตา

ต่อมาท่านลุงอาหวังบอกนางว่าเขาจะออกไปจากหมู่บ้าน หลังจากนั้นนางจึงไม่เห็นท่านลุงอาหวังอีกเลย

ครอบครัวของท่านลุงอาหวังเผาข้าวของทิ้งทั้งหมด กล่าวหาว่าเขาเป็นคนชักนำหายนะมาสู่ครอบครัว ในหมู่บ้านนี้แม้แต่ชื่อของท่านลุงอาหวังก็ไม่มีใครกล้าเอ่ย เสมือนเป็นชื่อต้องห้ามกระนั้น

“อาฮวา ที่ข้างนอกนั่นข้ามีอำนาจเพียงพอที่จะปกป้องเจ้าได้ เชื่อข้าเถอะ” จ้าวจิ่งซวนยังคงชักชวนต่อ

อาฮวากลัวโลกภายนอก แต่นางไม่อาจที่จะอยู่ในหมู่บ้านต่อไปได้อีก จิตใจของนางสั่นคลอน

“ข้อขอปรึกษากับพี่ชายก่อน”

จ้าวจิ่งซวนพยักหน้า

“เจ้าซ่อนตัวอยู่ที่นี่ ข้าจะไปหาพี่ชาย” นางกำชับเขาอีกครั้ง

อาฮวาไม่กล้ากลับบ้าน นางกลัวว่าคุนจะไปดักรอนางที่บ้าน ถ้าหากคุนบอกชาวบ้านว่ามีคนภายนอกเข้ามา…อาฮวาจึงใช้เส้นทางลับเพื่อกลับบ้านไปหาอามู่

โชคดีที่วันนี้อามู่กลับบ้านมาเร็วกว่าปกติ

อาฮวาพาอามู่ไปหาจิงซวนที่ถ้ำอย่างเงียบๆ

หลังจากได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นกับน้องสาว อามู่กำหมัดแน่นอยากทุบตีคุนให้ตายเสียเดี๋ยวนั้น

“อามู่ ออกจากหมู่บ้านไปข้างนอกกับข้าเถอะ”

อามู่เหลือบมองอาฮวา แม้ว่าเขาจะหวาดกลัวต่อโลกภายนอกก็ตามที แต่น้องสาวของเขาสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด

อามู่จึงพยักหน้าตอบรับสั้นๆ “ตกลง”

อามู่น่าเชื่อถือและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วเกินความคาดหมายของจ้าวจิ่งซวน

“ตอนเย็นเก็บข้าวของแล้วรีบไปกันเถอะ” อามู่พูด

ทั้งสามคนซ่อนตัวอยู่ในถ้ำจนดึก จากนั้นจึงได้เก็บข้าวของและเสบียงอาหารเดินไปที่ทางเข้าของหมู่บ้าน ท่านลุงอาหวังเคยชี้ทางออกจากหมู่บ้านให้สองพี่น้องเอาไว้ เขาเดินไปยังทิศนั้น แต่เมื่อเดินไปจนถึงทางเข้าหมู่บ้านกลับพบว่ามีคบเพลิงจำนวนมากส่องสว่างลุกโชนอยู่เบื้องหน้า

“อาฮวา อามู่ เจ้าจะไปไหน?” น้ำเสียงน่าเกรงขามถามขึ้น

ใบหน้าของสองพี่น้องเผือดสีลง จ้าวจิ่งซวนคิดอยู่คำเดียวภายในหัว

“ตายแน่!”

………….