บทที่ 654 คุณอดทนหน่อย

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

เมื่อเฟิงจิงเป่ยรู้ว่าเบ็ตตี้ถูกคนของอาเธอร์พาไป ใจของเขาก็หนักอึ้ง เขาคิดไม่ถึงว่าอาเธอร์จะยังไม่ยอมแพ้

ตอนแรกเขาคิดว่าอาเธอร์เปิดฟังก์ชันลับ เหมือนกับว่ายอมแพ้กับเบ็ตตี้หรือให้ตายไปกับพวกเขาด้วยเลย

คิดไม่ถึงว่าเขาจะไม่ยอมแพ้ แถมยังพาคุณหนูเบ็ตตี้ไปด้วย และพยายามจะทำให้คุณหนูเบ็ตตี้ฟื้นขึ้นมาอีก ถ้าอย่างนั้นอาเธอร์ก็คงจะไม่มีทางปล่อยดอกเตอร์คูลี่กับเจียงหยุนเอ๋อไปแน่นอน

จู่ๆ เฟิงจิงเป่ยก็บ้าคลั่ง เขารู้สึกว่ามันไม่ปกติแล้ว ในตอนนั้น เจียงหยุนเอ๋อกับดอกเตอร์คูลี่ที่แอบอยู่ในห้อง ก็เอาปืนออกมา

เขารีบกลับไปที่ห้องเมื่อครู่ เมื่อเขาขึ้นไปดู เขาก็จัดการกับคนในนั้น มีหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บ แล้วก็มีคนที่สลบไปด้วย ในนั้นมีหมอคนหนึ่งที่ตายไปแล้ว หมอคนนั้นตายโดยที่กอดตู้อบของทารกเอาไว้

เฟิงจิงเป่ยเดินไปเพราะอยากจะเอาศพของหมอคนนั้นมา แต่ว่ามือของคนคนนั้นกอดตู้อบเอาไว้แน่น เฟิงจิงเป่ยใช้แรงเป็นอย่างมากเพื่อเอามือของเขาออก หลังจากที่เอาออกได้เขาก็เก็บกวาดอย่างดี ก่อนจะวางเขาลงเบาๆ

หลังจากที่วางเอาไว้แล้ว เฟิงจิงเป่ยก็หันหลังกลับไปมองทารกในตู้อบ ทารกนอนอยู่ในตู้อบสนิท ด้วยความสบายใจ

บริเวณนั้นมันยุ่งเหยิงเป็นอย่างมาก มีแต่คนกองอยู่กับพื้น เฟิงจิงเป่ยมองไม่รู้เลยว่าคนเหล่านั้นคือใคร เขาตรวจสอบแต่ละคนดู เขาคิดว่าคนของอาเธอร์เข้ามาแล้วก็ฆ่าพวกเขาทันที คิดไม่ถึงเลยว่าเสียพวกเขาจะพาดอกเตอร์คูลี่ไป จู่ๆ เฟิงจิงเป่ยก็คิดถึงเจียงหยุนเอ๋อ

เสียงปืนมันดังขนาดนั้น เจียงหยุนเอ๋อไม่ใช่ว่าจะไม่มีสติ เฟิงจิงเป่ยรีบวิ่งไปที่ข้างเตียงของมุมกำแพง แล้วแอบใต้ผ้าห่ม ตอนแรกเขาคิดว่าดอกเตอร์คูลี่ทำเพื่อปกป้องเจียงหยุนเอ๋อ เลยคลุมหน้าของเธอเอาไว้ แต่ว่าหลังจากที่เฟิงจิงเป่ยเปิดออกมาก็พบว่า ในนั้นเป็นเพียงหมอน เฟิงจิงเป่ยก็งงจนทำอะไรไม่ถูก

“ห้องนี้ล็อกโดยมีรหัสอยู่ พวกเขาถูกจับไปจากไหน อีกอย่างเมื่อครู่ฉันก็เฝ้าอยู่ที่ประตู พวกเขาไม่สามารถออกจากประตูได้นี่” เฟิงจิงเป่ยร้อนรน

จู่ๆ หมอที่ฟุบอยู่ตรงพื้นก็ฟื้นขึ้นมา ก่อนจะพูดอย่างอ่อนแรง จากนั้นก็ชี้ไปทางนั้น

“คุณเคซี่ย์ ที่นั่น พวกเขาไปจากที่นั่นแล้ว”

เฟิงจิงเป่ยรีบพยุงเธอขึ้นมา พิงกำแพง จากนั้นก็มองไปทางที่เธอชี้ เขามองอย่างละเอียด ถึงจะพบว่าตรงเตียงของเจียงหยุนเอ๋อมีประตูหนึ่ง ถ้าเกิดไม่สังเกตก็จะไม่เห็น

เฟิงจิงเป่ยรีบเปิดประตูก่อนจะวิ่งออกไป เขาพบว่าเจียงหยุนเอ๋อกำลังถูกคนของอาเธอร์พาออกไปด้านนอก เฟิงจิงเป่ยร้องออกมาด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบวิ่งตามไป

หลังจากที่เขาวิ่งมาจนสุดทาง ก็พบว่าเจียงหยุนเอ๋อถูกคนของอาเธอร์พาขึ้นไปบนเรือแล้ว เมื่อเขามองดูดีๆ ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งดอกเตอร์คูลี่เองก็ถูกพวกเขากดเอาไว้

สีหน้าของเฟิงจิงเป่ยเปลี่ยนไป “ไอ้เลว ตกหลุมพรางแล้ว ไอ้บ้าอาเธอร์นั่น ทำไมถึงได้สุดโต่งมากขนาดนี้ ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ เลย คุณเจียงถูกพาไปทั้งๆ ที่เป็นแบบนี้ เกรงว่าคงยากที่จะหนีออกมาได้น่ะสิ”

เฟิงจิงเป่ยเสียดายเป็นอย่างมาก ที่สะเพร่ามากขนาดนี้ และถูกอาเธอร์หลอกเอาได้ ไอสารเลวอาเธอร์นี่

ตอนนี้ท้องฟ้ามืดครึ้ม ลมตรงทะเลก็แรงมากขึ้นเรื่อยๆ มีเสียงของคลื่นซัดโครมๆ รู้สึกเหมือนกำลังบ่มเพาะพายุฝน เสียงที่คลื่นซัดกับโขดหิน ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในความมืดมน เสียงนั้นทำให้ดูน่ากลัวขึ้นเป็นอย่างมาก

เฟิงจิงเป่ยรีบติดต่อคนของตัวเองที่อยู่ในห้อง แล้วให้พวกเขารีบตามพวกเจียงหยุนเอ๋อไป พวกเขากำลังจะกระโดดลงเรือ ก็เจอคนของอาเธอร์หยิบปืนขึ้นมาเล็งไปทางพวกเขาข้างเตียง

พวกเขาเริ่มหลบอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้เอง ฝนเริ่มสาดลงมาแล้ว ทีละเล็กทีละน้อย แต่ว่าเมื่อโดนหน้าก็รู้สึกเจ็บปวด พวกเฟิงจิงเป่ยหลบกระสุนจากบนเรือ พลางวิ่งไปทางเรือนั้นด้วย

แต่เรือเริ่มออกเดินทางแล้ว ตอนนี้พวกเขาวิ่งต่อไปก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่มีทางตามพวกเขาทันแล้ว

ไหล่ของเฟิงจิงเป่ยถูกกระสุนเฉี่ยวด้วยความเร็ว ตอนที่มือขวาของเขาตามไปเขากำลังเอามือกุมไหล่ มันเจ็บจนกัดฟันกรอด ด้านข้างช่วยเขาพันแผลแบบง่ายๆ เพื่อห้ามเลือดด้วย

พระอาทิตย์ที่ถูกเมฆฝนบังอยู่ในตอนแรก เมฆที่ถูกลมพายุที่มาอย่างกะทันหันพัดไปแล้ว ฐานทัพที่มืดในตอนแรกดูเหมือนปีศาจที่ตื่นขึ้น มันดูน่ากลัวมากกว่าเดิม

เฟิงจิงเป่ยยืนตระหง่านท่ามกลางฝนตก ก่อนจะจ้องเรือที่ขับออกไปไกลลำนั้น แววตายากแท้หยั่งถึง

มือขวาของเขายืนอยู่ข้างๆ เขา จากนั้นก็ทำการพันแผลต่อ และกำลังมัดให้แน่น

จมูกก็ได้กลิ่นคาวเลือดมาเป็นระยะๆ มือขวาของเฟิงจิงเป่ยมองเฟิงจิงเป่ยที่ไร้ซึ่งอารมณ์ คิดว่าตอนนี้เขาน่าจะเจ็บมาก แต่ว่าต้องแสดงอาการนิ่งเฉยต่อหน้าลูกน้อง เลยอดที่จะเห็นใจไม่ได้ แต่มือกลับทำแผลเร็วขึ้นกว่าเดิม

“หัวหน้า คุณอดทนอีกหน่อย”

มือขวาของเขาช่วยเฟิงจิงเป่ยใส่เสื้อผ้ากลับไปเหมือนเดิม ก่อนจะได้ยินเสียงแปลกๆ มาจากทางด้านหลัง เลยรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่

ในตอนนั้นเฟิงจิงเป่ยเองก็ได้ยินเสียงประหลาดนั้น จู่ๆ ทางฐานทัพก็มีเสียงระเบิดขึ้น

ทางลี่จุนถิง กำลังเริ่มระบบการช่วยเหลือ แต่ว่าเพราะว่าถูกทำลายไปบางส่วน เลยเสียการควบคุม แถมยังเริ่มระเบิดขึ้น ลี่จุนถิงเลยตึงเครียดและร้อนรนเป็นอย่างมาก

ในใจของเขานั้นมันเต้นเร็วตลอด ตั้งแต่แรกเริ่ม เปลือกตาเองก็กระตุกตลอดเวลา ในใจของเขาเป็นห่วงทางเจียงหยุนเอ๋อเป็นอย่างมาก เขารู้สึกตลอดว่าจะต้องมีอะไรเกิดขึ้น

แต่ว่าตอนนี้เขาต้องรีบซ่อมระบบเสียก่อน เขารีบกดความไม่สบายใจของตัวเองเอาไว้ในใจ ก่อนจะรีบซ่อม นิ้วยาวๆ ของลี่จุนถิง ขยับอย่างรวดเร็วบนแป้นพิมพ์ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะรีบมาก แต่ว่ามือของเขาก็ยังดูมีเสน่ห์อยู่ดี

ชิงโม่พิงอยู่ตรงกำแพง พลางมองนิ้วที่ขยับไม่หยุดของลี่จุนถิง ก็อดชื่นชมลี่จุนถิงไม่ได้

ลี่จุนถิงทำไปได้ครึ่งหนึ่ง จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงระเบิด ก็รู้ได้ว่าส่วนที่ถูกทำลายไปนั้นมันอาจจะซ่อมกลับมาไม่ได้แล้ว ดังนั้นเขาเลยให้ชิงโม่พาคนของเฟิงจิงเป่ยถอยออกไปก่อน

“ชิงโม่ ตอนนี้คุณพาคนของพวกเราออกไปก่อน แล้วก็เอาคนที่ตามฉันมาด้วย ไม่รู้ว่าระบบนี้จะซ่อมเสร็จเมื่อไร ตอนนี้ฉันเป็นห่วงหยุนเอ๋อมาก คุณพาพวกเขาออกไปช่วยทางนั้นก่อน”

ถึงลี่จุนถิงจะพูดกับชิงโม่ แต่ว่าในมือกลับไม่ได้หยุดการกระทำนั้นเลย

ชิงโม่ได้รับบาดเจ็บเองจริงๆ การอยู่ที่นี่ มีแต่จะทำให้ลี่จุนถิงลำบากใจ ดังนั้นเลยตกลงทำตามสิ่งที่ลี่จุนถิงเสนอ ก่อนจะเริ่มพาคนพวกนั้นออกไป

“ได้เลย ประธานลี่ ฉันจะพาพวกเขาออกไปเดี๋ยวนี้ คุณ…ต้องระวังตัวให้ดี จะต้องออกมาอย่างปลอดภัยนะ”

ลี่จุนถิงหันไป พลางมองชิงโม่อย่างจริงจัง แล้วพยักหน้า