ตอนที่ 614 เหยียดหยาม

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 614 เหยียดหยาม

รอยยิ้มน้อยๆ ไร้แววกังวลของสตรีอย่างไป๋ชิงเหยียนงดงามจนเซียวหรงเหยี่ยนรู้สึกใจสั่น หากเป็นไปได้ชายหนุ่มอยากรักษารอยยิ้มเช่นนี้เอาไว้ ปกป้องให้นางปลอดภัยตลอดไป

ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนรู้ดีว่าสตรีที่เขาหลงรักไม่ใช่สตรีธรรมดา นางมีปณิธานที่ยิ่งใหญ่และกว้างไกล ในสมองของนางไม่ได้มีเพียงเรื่องความรักระหว่างหนุ่มสาว กลับเป็นเขาเสียอีกที่ดูหมกมุ่นกับเรื่องนี้มากกว่านาง

เมื่อเซียวหรงเหยี่ยนเดินมาส่งไป๋ชิงเหยียนที่หน้าประตูคุกศาลต้าหลี่ เฉวียนอวี๋และหลู่จิ้นยืนรออยู่ที่หน้าคุกแล้ว

เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนมาถึง เฉวียนอวี๋รีบเดินลงมาต้อนรับจากบันไดสูง หลู่จิ้นเดินตามหลังเข้าไปทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนเช่นเดียวกัน

“เซียวเซียนเซิงส่งแค่ตรงนี้ก็พอเจ้าค่ะ” ไป๋ชิงเหยียนหันไปกล่าวกับเซียวหรงเหยี่ยนยิ้มๆ

ความจริงเซียวหรงเหยี่ยนอยากใช้เวลาอยู่กับไป๋ชิงเหยียนให้นานกว่านี้ ทว่า เขารู้ดีว่าไป๋ชิงเหยียนคงใช้เวลาในการสอบสวนฝูรั่วซีนาน เขาจึงได้แต่ทำความเคารพและจากไป

หลู่จิ้นรีบสั่งให้ผู้คุมนำม้าของไป๋ชิงเหยียนไปเก็บ จากนั้นเอ่ยถามหญิงสาว “องค์หญิงเจิ้นกั๋วจะสอบสวนฝูรั่วซีเป็นการส่วนพระองค์หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อเห็นเซียวหรงเหยี่ยนจากไปแล้ว ไป๋ชิงเหยียนจึงเดินขึ้นไปบนบันไดพร้อมกับเฉวียนอวี๋และหลู่จิ้นพลางกล่าวขึ้น “ใต้เท้าหลู่นั่งฟังข้ากับฝูรั่วซีสนทนากันที่ห้องข้างๆ เถิด ไม่จำเป็นต้องไปพบฝูรั่วซีพร้อมข้า”

ไป๋ชิงเหยียนทำเช่นนี้เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกังขา

หากนางเข้าพบฝูรั่วซีเป็นการส่วนตัว ผู้อื่นอาจคิดว่านางที่เป็นพวกของรัชทายาทข่มขู่หรือเสนอผลประโยชน์ให้ฝูรั่วซีใส่ร้ายฮองเฮาได้

หลู่จิ้นพยักหน้ารับคำ เดินตามหลังไป๋ชิงเหยียนเข้าไปด้านในอย่างนอบน้อม

เมื่อวานฝูรั่วซีเห็นมารดาของตัวเองสิ้นใจไปต่อหน้าต่อตาของตัวเอง ตอนนี้เขาราวกับคนเสียสติ เอนกายพิงกำแพงที่เปียกชื้นและขึ้นราของคุกศาลต้าหลี่ สายตามองไปทางหน้าต่างบานเล็กที่มีแสงลอดเข้ามาเพียงเล็กน้อยด้วยดวงตาที่แดงฉาน น้ำตาไหลจนแห้งเหือดหมดแล้ว

เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู นิ้วที่เปื้อนไปด้วยเลือดที่แห้งกรังของฝูรั่วซีขยับเล็กน้อย ทว่า เขายังคงมองไปที่แสงซึ่งลอดเข้ามาทางหน้าต่างนิ่งๆ ตามเดิมราวกับรูปปั้นแกะสลัก

ไป๋ชิงเหยียนมองดูฝูรั่วซีที่ไร้ซึ่งชีวิตชีวา หญิงสาวคุกเข่าลงตรงกองฟางหน้าฝูรั่วซีที่ดูสะอาดกว่าตรงบริเวณอื่นอย่างไม่คิดรังเกียจ ราวกับต้องการเปิดอกคุยกับฝูรั่วซี

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวขึ้น “เรื่องที่ฝูเหล่าไท่จวินซ่าตัวตายต่อหน้าท่านในคุกศาลต้าหลี่แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวงแล้ว วันนี้ข้าไปเคารพศพของนางที่ตระกูลฝู ข้ายังไม่ทันเข้าไปในจวนก็ได้ยินเสียงฮูหยินใหญ่ฝูตวาดด่าฮูหยินของท่านต่อหน้าบุตรชายทั้งสองของท่านด้วยถ้อยคำที่หยาบคายและโหดร้าย”

ฝูรั่วซีได้ยินดังนี้จึงกำนิ้วมือแน่น นึกถึงตอนที่ท่านแม่ส่งจดหมายมาบอกเขาว่านางรู้สึกผิดที่ไม่ได้ไปทำความเคารพศพตอนตระกูลไป๋จัดพิธีศพ นึกถึงตอนที่ไป๋ชิงเหยียนตัดแขนของเขาข้างหนึ่ง ไม่ได้เอาชีวิตเขาเพื่อปกป้องชีวิตทุกคนในตระกูลฝูเอาไว้

ฝูรั่วซีใช้แขนข้างหนึ่งยันกายลุกขึ้น เขาคุกเข่าหันไปทางไป๋ชิงเหยียน จากนั้นก้มศีรษะคำนับแนบพื้น “องค์หญิงเจิ้นกั๋วไว้ชีวิตข้าตอนอยู่ที่ค่ายผิงอัน ทำให้ช่วยชีวิตของคนทั้งตระกูลฝูไว้ได้ ฝูรั่วซีขอบพระทัยองค์หญิงเจิ้นกั๋วมากพ่ะย่ะค่ะ”

“แม่ทัพฝูไม่ต้องขอบคุณข้า บางทีข้าอาจยุ่งไม่เข้าเรื่อง เพราะข้าช่วยชีวิตทุกคนในตระกูลฝูไว้ไม่ได้ ทำให้ฝูเหล่าไท่จวินต้องเสียชีวิตไปอย่างน่าอนาถ ทำให้ฮูหยินฝฝูถูกดูถูกเหยียดหยาม” ดวงตาที่สงบนิ่งราวกับสายน้ำของไป๋ชิงเหยียนจ้องไปทางฝูรั่วซีนิ่ง “ไป๋ชิงเหยียนรู้สึกเสียใจมาก”

เมื่อเอ่ยถึงฝูเหล่าไท่จวิน น้ำตาของฝูรั่วซีไหลพรากลงมาอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่

“ไป๋ชิงเหยียนมีเรื่องอยากถาม จดหมายที่ฮองเฮาส่งไปให้ท่านที่ค่ายผิงอันกล่าวว่าฮ่องเต้ทรงมีพระชนม์มายุอยู่ได้อีกไม่นาน ให้แม่ทัพฝูรีบกลับไปคุ้มกันซิ่นอ๋องขึ้นครองบัลลังก์ใช่หรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนไม่กล่าวอ้อมค้อมกับฝูรั่วซี หญิงสาวเอ่ยถามในสิ่งที่ตัวเองอยากรู้มากที่สุด

มือที่วางอยู่บนหัวเข่าของฝูรั่วซีกระชับแน่น เขาเม้มปากสนิท

“ฝูเหล่าไท่จวินใช้ชีวิตของนางเข้าแลกก็ยังทำให้ท่านตาสว่างไม่ได้อีกหรือ ท่านยังคิดปกป้องฮองเฮาอีกอย่างนั้นหรือ!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวอย่างไม่รักษาน้ำใจ “ท่านถูกฮองเฮาใช้ชีวิตของฝูเหล่าไท่จวินมาข่มขู่ให้ท่านต้องชักดาบใส่รัชทายาท กล่าวได้ว่าท่านทำทุกอย่างลงไปเพราะความกตัญญู ข้าและองค์รัชทายาทต่างนับถือในความกตัญญูของท่าน!”

“ทว่า ท่านในวันนี้ช่างน่าสมเพชเสียจริง” ไป๋ชิงเหยียนมองฝูรั่วซีนิ่ง กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ฝูเหล่าไท่จวินเสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อทุกคนในตระกูลฝู ทว่า ท่านมัวแต่หลงงมงายอยู่กับความรักจนไม่ยอมสารภาพเรื่องทุกอย่างออกมาให้ชัดเจน ทำให้ตระกูลของตัวเองต้องตกอยู่ในอันตราย! ท่านอกตัญญูต่อฝูเหล่าไท่จวินที่ยอมแลกชีวิตของนางเพื่อปูทางให้ท่าน!”

“เพราะอารมณ์ชั่ววูบของท่าน ทำให้ภรรยาและบุตรชายของท่านถูกประณาม กระทั่งอาจต้องเสียชีวิตไปพร้อมท่านด้วย ภรรยาและบุตรของท่านทำสิ่งใดผิดกัน ชีวิตของบุตรชายท่านเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น ท่านทำผิดต่อภรรยาและบุตรของตัวเอง!”

“เพราะความรักของท่าน ท่านปิดบังฮ่องเต้เรื่องที่ฮองเฮาเคยขอให้ท่านช่วยคุ้มกันซิ่นอ๋องขึ้นครองบัลลังก์ ท่านไม่ใช่คนที่จงรักภักดี!”

“ฮองเฮาคือภรรยาของฮ่องเต้ ท่านก็เป็นสามีของสตรีผู้อื่นไปแล้ว ทว่า กลับมีความรู้สึกให้แก่ภรรยาของฮ่องเต้ นี่คือการเหยียดหยามพระองค์ ฝูรั่วซี…ท่านเป็นคนที่อกตัญญู ไม่ซื่อสัตย์ ไร้คุณธรรมและไร้ยางอาย ข้ารู้สึกผิดจริงๆ ที่ไว้ชีวิตท่านในวันนั้น ข้าควรจบชีวิตท่านตั้งแต่วันนั้น ให้ทุกคนในตระกูลฝูได้จากไปอย่างสงบ”

ฝูรั่วซีกำชุดที่หัวเข่าของตัวเองแน่น แหงนหน้าร้องไห้ออกมา

ไป๋ชิงเหยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทว่า กลับหนักแน่น ทุกถ้อยคำค่อยๆ ทำลายศักดิ์ศรีที่ยังพอเหลืออยู่ของฝูรั่วซีทีละนิด สุดท้ายฝูรั่วซีจึงทนแทบไม่ไหว

“ฝูรั่วซี ท่านรู้หรือไม่ว่าเหตุใดฮองเฮาจึงเลือกให้ท่านช่วยซิ่นอ๋องให้ได้ครองบัลลังก์แทนที่จะเลือกพี่ชายของตัวเอง” ไป๋ชิงเหยียนรู้สึกว่าถ้อยคำที่กล่าวออกไปเมื่อครู่ยังไม่รุนแรงมากพอที่จะทำลายความรู้สึกที่ฝูรั่วซีมีให้ฮองเฮาได้ หญิงสาวจึงกล่าวเสียงเย็น “เพราะหากท่านเป็นคนนำทัพก่อกบฏ หากพ่ายแพ้ก็ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับตระกูลจง ตระกูลที่จะถูกประหารทั้งตระกูลไม่ใช่ตระกูลจงแต่เป็นตระกูลฝู นี่คือความรู้สึกที่ฮองเฮามีให้แก่ท่าน”

ลำคอของฝูรั่วซีร้อนผ่าว คำว่าไม่มีทางติดอยู่ในลำคอของฝูรั่วซี ทว่า เขากลับเปล่งมันออกมาไม่ได้ ได้แต่เบิกตาโพลงด้วยแววตาวาวโรจน์

“ท่านรู้หรือไม่ว่าเหตุใดฮองเฮาจึงรีบร้อนอยากผลักดันให้ซิ่นอ๋องที่ถูกปลดจากตำแหน่งรัชทายาทแล้วได้ขึ้นครองราชย์” ไป๋ชิงเหยียนชี้ไปทางกำแพงที่อยู่เบื้องหลังฝูรั่วซี จากนั้นชี้ไปที่ใบหูแล้วกล่าวขึ้น “ฮองเฮาตั้งครรภ์ทายาทองค์ใหม่ อีกไม่ถึงสิบเดือนเด็กในครรภ์ที่มีโอกาสเป็นโอรสมากกว่าครึ่งจะถือกำเนิดขึ้น โอรสองค์ใหม่ที่แสนบริสุทธิ์ไม่เหมาะสมกับบัลลังก์มังกรนั่นมากกว่าซิ่นอ๋องอย่างนั้นหรือ ขอเพียงโอรสที่เกิดจากฮองเฮาถือกำเนิดขึ้น หากรัชทายาททำผิดพลาดแม้เพียงนิดเดียว คนในราชสำนักจะเสนอโอรสของฮองเฮารับตำแหน่งรัชทายาททันที เหตุใดฮองเฮาถึงรอไม่ได้กัน นั่นก็เพราะฮองเฮาไม่ได้ตั้งครรภ์จริงๆ นางแค่แสร้งทำเป็นตั้งครรภ์เท่านั้น!”

ดวงตาของฝูรั่วซีแดงฉาน เขากำหมัดแน่น

“ต่อให้มองอีกทาง แม้เด็กคนนั้นจะไม่ใช่โอรสของฮ่องเต้ ทว่า เป็นบุตรของท่านดั่งที่ฮองเฮาตรัสกับท่านจริงๆ อย่างน้อยฮองเฮาก็มีเด็กอยู่ในครรภ์จริงๆ ขอเพียงเด็กที่คลอดออกมาคือบุตรชาย ฮ่องเต้ทรงชรามากแล้ว หากรัชทายาททำผิดพลาดขึ้นมา โอรสที่เกิดจากฮองเฮาจะมีสิทธิ์ครอบครองตำแหน่งรัชทายาทโดยชอบธรรม ฮองเฮาคอยบงการรัชทายาทอยู่เบื้องหลังไม่ดีหรืออย่างไรกัน ฮองเฮากลับบีบให้ท่านนำทัพบุกวังหลวง แม่ทัพฝูคิดว่าฮองเฮาเป็นสตรีที่จะผลักดันให้โอรสของตัวเองขึ้นครองราชย์ ส่วนตนเองยอมใช้ชีวิตอยู่ในวังหลังอย่างสงบสุขอย่างนั้นหรือ”