ตอนที่ 615 กลยุทธ์เสี่ยงอันตราย

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 615 กลยุทธ์เสี่ยงอันตราย

“ตั้งแต่ต้นจนจบฮองเฮาเพียงต้องการหลอกใช้ท่านเท่านั้น ทว่า เพื่อสตรีที่เห็นแก่ตัว หวังหลอกใช้ตระกูลฝูโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยแล้ว ท่านไม่สนใจแม้แต่ฝูเหล่าไท่จวินที่เสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อแก้ปัญหาให้ท่าน ข้าต้องมองความกตัญญูของท่านใหม่จริงๆ”

น้ำเสียงที่ราบเรียบไม่ได้ตะคอกดุดันแม้แต่น้อยตั้งแต่ต้นจนจบของไป๋ชิงเหยียนดังขึ้นในคุกที่เปียกชื้นและเหม็นอับ

เมื่อกล่าวจบ ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถามต่อ “ข้าจะถามท่านเป็นครั้งสุดท้าย ชีวิตของทุกคนในตระกูลฝูอยู่ที่ปากของท่าน จดหมายที่ฮองเฮาส่งไปให้ท่านที่ค่ายผิงอันกล่าวว่าฮ่องเต้ใกล้สิ้นพระชนม์แล้วใช่หรือไม่ ท่านยินดีสารภาพตามความจริงหรือไม่”

“ท่านสงสัยว่าฮองเฮาเป็นคนทำให้ฝ่าบาทพลัดตกจากหลังม้าอย่างนั้นหรือ” น้ำเสียงของฝูรั่วซีแหบพร่ายิ่งกว่าเดิม

ไป๋ชิงเหยียนแสยะยิ้มเย็น ลุกขึ้นยืน ปัดเศษฟางที่หัวเข่าของตัวเองออก “ข้าคิดว่าท่านจะถามข้าว่าสามารถปกป้องชีวิตของทุกคนในตระกูลฝูได้จริงหรือไม่เสียอีก นึกไม่ถึงเลยว่าในหัวของท่านจะมีแต่ฮองเฮา ช่างเถิด ข้าสงสารฝูเหล่าไท่จวินจึงมาที่นี่ในวันนี้ ถือเสียว่าข้ามาเสียเที่ยวก็แล้วกัน”

กล่าวจบ ไป๋ชิงเหยียนหมุนกายเตรียมเดินออกไปด้านนอก ฝูรั่วซีคลานเข่าไปด้านหน้าหนึ่งก้าวอย่างร้อนรนจนเกือบเซล้มลงบนพื้น เขาใช้แขนข้างหนึ่งยันพื้นเอาไว้ ร้องไห้ตะโกนออกมาเสียงดัง “มีพ่ะย่ะค่ะ! ฮองเฮาตรัสในจดหมายว่าฝ่าบาททรงมีพระชนมายุอยู่ได้อีกไม่นาน ให้กระหม่อมรีบนำทัพผิงอันกลับมาคุ้มกันซิ่นอ๋องขึ้นครองบัลลังก์พ่ะย่ะค่ะ!”

คุกที่ติดกัน หลู่จิ้นหันไปมองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลต้าหลี่ที่กำลังนั่งคุกเข่าจดคำสารภาพของฝูรั่วซีลงในบันทึกบนโต๊ะภายใต้แสงไฟ เมื่อเห็นผู้ช่วยจดถ้อยคำของฝูรั่วซีลงไปทุกคำโดยไม่ตกหล่น หลู่จิ้นจึงพยักหน้าแล้วหันไปมองเฉวียนอวี๋

เฉวียนอวี๋กำหมัดแน่น เขานับถือชื่นชมในความสามารถของไป๋ชิงเหยียนมาตั้งนานแล้ว

ขอเพียงฝูรั่วซียอมเอ่ยปาก การสอบสวนหลังจากนี้ก็คงง่ายดายขึ้นแล้ว

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า ข้อสงสัยตอนที่อยู่ในจวนต่งถูกแก้ไขจนกระจ่างแจ้งแล้ว

ฮองเฮารู้ล่วงหน้าว่าฮ่องเต้มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ฮองเฮาคงเป็นคนทำให้การจัดฉากแสร้งทำเป็นตกจากหลังม้าของฮ่องเต้ในครั้งนี้กลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมา

ความคิดที่ให้ฮ่องเต้เรียกตัวองค์รัชทายาทกลับมาเมืองหลวงก่อนที่พระองค์จะหมดสติไป ใช้ความกตัญญูบีบบังคับให้องค์รัชทายาทสร้างหอบูชาเก้าชั้นให้ก็คงเป็นความคิดของเหลียงอ๋อง

เหลียงอ๋องเดาใจของฮ่องเต้เก่งที่สุด ชาติที่แล้วเขาต้องการแก้แค้นตระกูลไป๋ เหลียงอ๋องรู้ใจของฮ่องเต้ ดังนั้นเขาจึงปลอมลายมือของท่านปู่ขึ้นมาเพื่อใช้เป็นหลักฐานว่าตระกูลไป๋ก่อกบฏจริงๆ การกระทำเช่นนี้คือเรื่องถนัดของเหลียงอ๋อง

เดิมทีไป๋ชิงเหยียนมั่นใจเพียงเจ็ดส่วนว่าเรื่องนี้อาจเกิดจากการร่วมมือกันของฮองเฮาและเหลียงอ๋อง ทว่า บัดนี้นางมั่นใจเต็มร้อยแล้ว

เมื่อเหลียงอ๋องเสนอแผนการนี้ให้ฮ่องเต้เสร็จ เขาก็หันไปร่วมมือกับฮองเฮาให้ฮองเฮาทำเรื่องโกหกให้กลายเป็นเรื่องจริง ให้ฮ่องเต้พลัดตกจากหลังม้าจริงๆ

เหลียงอ๋องวางแผนการด้วยตัวเอง องค์รัชทายาทถูกฟางเหล่าโน้มน้าวให้รอดูสถานการณ์อยู่นิ่งๆ ทว่า จู่ๆ ก็ถูกฮ่องเต้ส่งตัวไปจัดการเรื่องที่เติงโจว เหลียงอ๋องเห็นว่าองค์รัชทายาทไม่ได้ปะทะกับฮองเฮาและซิ่นอ๋องดั่งที่ตนคาดการณ์ไว้ เขาจึงรู้สึกร้อนใจ ย่อมต้องคิดแผนการใหม่ขึ้นมาเพื่อให้ฮองเฮาและองค์รัชทายาทปะทะกันให้ได้

ครั้งนี้หากปล่อยให้ฮองเฮาโน้มน้าวฝูรั่วซีเคลื่อนทัพบุกโจมตีวังหลวงได้สำเร็จ ด้านหนึ่งคือโอรสที่เกิดจากฮองเฮาที่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ด้านหนึ่งคือองค์รัชทายาทที่ฮ่องเต้แต่งตั้งด้วยพระองค์เอง เมื่อทั้งสองต่อสู้กัน…คงพ่ายแพ้ยับเยินทั้งคู่ เหลียงอ๋องจะถือโอกาสนี้อาศัยอำนาจทหารของพ่อตาของเขายึดบัลลังก์นั้นมาครอบครองอย่างมั่นคง

กลยุทธ์เสี่ยงอันตราย ทว่า การทำเช่นนี้จะทำให้เหลียงอ๋องกันตัวเองให้ออกห่างจากเรื่องนี้ ทว่า ได้ผลประโยชน์จากเรื่องนี้มากที่สุด

เพื่อบัลลังก์ เหลียงอ๋องไม่สนใจว่าต้าจิ้นจะวุ่นวายมากเพียงใด

กระทั่งคิดร่วมมือกับอ๋องของแคว้นศัตรู

ดูเหมือนว่าเหลียงอ๋องคงอยากครอบครองบัลลังก์ของแคว้นต้าจิ้นมากจริงๆ

ไป๋ชิงเหยียนนึกถึงถ้อยคำเมื่อครู่ของหลิ่วรั่วฟูขึ้นมา…เจ้าคิดว่าเจ้าจะลำพองได้อีกกี่วันกันเชียว! ไป๋ชิงเหยียนกระจ่างแจ้งขึ้นมาทันที

มิน่าเสียนอ๋องจึงยินดียกบุตรสาวของตัวเองให้แต่งงานกับเหลียงอ๋อง ที่แท้เขาต้องการอาศัยช่วงการจัดงานแต่งงานลอบนำทหารบุกโจมตีวังหลวง ช่วยให้เหลียงอ๋องได้ขึ้นครองบัลลังก์เพื่อที่หลานชายของเขาจะได้ครอบครองบัลลังก์ในวันข้างหน้านี่เอง!

สำหรับสายตาคนภายนอก เหลียงอ๋องเป็นคนอ่อนแอและควบคุมง่าย บุตรสาวของเสียนอ๋องตั้งครรภ์สายเลือดของราชวงศ์ เสียนอ๋องจะไม่เกิดความคิดเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไรกัน

ข้อมูลซับซ้อนมากมายถูกไป๋ชิงเหยียนจัดเรียงและลำดับขั้นจนเข้าใจเรื่องทุกอย่างอย่างแจ่มแจ้ง

นางประมาทและดูถูกเหลียงอ๋องกับหลี่หมิงรุ่ยมากเกินไป

ไป๋ชิงเหยียนลอบยิ้มอยู่ในใจ

ดี…ช่างดีจริงๆ เดิมทีไป๋ชิงเหยียนคิดว่าครั้งนี้ตนคงต้องลำบากสักหน่อย หญิงสาวต้องเลือกใช้วิธีแนะนำองค์รัชทายาทในการจัดการกับฮองเฮาและซิ่นอ๋องแทนการลงมือทำ แม้จะยุ่งยากไปสักนิด ทว่า อย่างน้อยองค์รัชทายาทก็ยังรักษาตำแหน่งของตัวเองไว้ได้โดยไม่ถูกเหลียงอ๋องทำให้สั่นคลอน

ทว่า เมื่อเหลียงอ๋องรีบร้อนอยากตายเช่นนี้ หากไป๋ชิงเหยียนไม่ช่วยทำให้เหลียงอ๋องสมหวังก็คงผิดต่อแผนการที่ยิ่งใหญ่ที่ชายหนุ่มสร้างขึ้นมา

ช่างเถิด เมื่อซิ่นอ๋อง ฮองเฮา เหลียงอ๋องและเสียนอ๋องถูกกำจัดลง จะเหลือองค์รัชทายาทเพียงผู้เดียว ด้วยนิสัยที่ต้องการอยู่อย่างสงบขององค์รัชทายาท อย่างน้อยสถานการณ์ก็คงสงบอีกสักสองสามปี

ขอเพียงสถานการณ์ที่เมืองหลวงสงบ อาเจวี๋ยและกองทัพไป๋ที่อยู่ไกลถึงหนานเจียงจะได้ฝึกซ้อมทหารได้อย่างสงบไม่ต้องกังวลกับเรื่องเหล่านี้

งานแต่งงานของหลิ่วรั่วฟูและเหลียงอ๋องจะถูกจัดขึ้นในวันที่สิบห้าของเดือนนี้ จะมีโอกาสใดเหมาะสมไปกว่าโอกาสนี้อีกเล่า

คนจากหนานตูเดินทางเข้ามาในเมืองหลวงโดยอ้างว่ามาเพื่อร่วมอวยพรงานแต่งของหนานตูจวิ้นจู่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด

พวกเขาเดินทางมาไกลจากหนานตู มีองครักษ์คุ้มกันมาด้วยถือเป็นเรื่องปกติ

เช่นนี้คนของเสียนอ๋องก็สามารถเดินทางเข้ามาในเมืองหลวงได้อย่างเปิดเผย เหลียงอ๋องวางแผนได้อย่างแยบยลเสียจริง

วันนี้วันที่สิบสามแล้ว เหลืออีกสองวัน…

เหลียงอ๋องต้องหาทางวางแผนให้องค์รัชทายาท ฮองเฮาและซิ่นอ๋องปะทะกันภายในสองวันนี้ให้ได้ เขาต้องวางแผนให้องค์รัชทายาทและนางสัมผัสได้อย่างแน่นอน

ดีเหมือนกัน เหลียงอ๋องวุ่นวายถึงเพียงนี้ถือเป็นการแบ่งเบาภาระนางไปเยอะทีเดียว

ตั๊กแตนจับจักจั่น[1] ในเมื่อเหลียงอ๋องอยากเป็นนกขมิ้นที่อยู่ด้านหลัง ไป๋ชิงเหยียนก็จะเป็นงูเหลือมขาวที่อยู่ด้านหลังสุดให้เอง

ครั้งนี้ให้ปล่อยเหลียงอ๋องวุ่นวายไปก็แล้วกัน

นางจะช่วยร่วมมือกับเหลียงอ๋อง ทำให้การแสดงนี้มันสมจริง รอให้เหลียงอ๋องเดินเข้ามาติดกับเอง

ไป๋ชิงเหยียนมองหน้าฝูรั่วซี กล่าวขึ้น “ในเมื่อแม่ทัพฝูยอมเอ่ยปากก็แสดงว่าท่านอยากปกป้องตระกูลฝู ท่านสารภาพเรื่องที่เหลือกับใต้เท้าหลู่เถิด ขอเพียงแม่ทัพฝูอธิบายอย่างชัดเจนว่าท่านทำไปเพราะโดนบังคับ ฝ่าบาทและองค์รัชทายาทย่อมเมตตาตระกูลฝูอย่างแน่นอน”

กล่าวจบ ไป๋ชิงเหยียนเดินออกมาจากคุกของฝูรั่วซี หญิงสาวเห็นหลู่จิ้นยืนรออยู่หน้าประตู โค้งกายทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน “ขอบพระทัยองค์หญิงเจิ้นกั๋วที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือพ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนทำความเคารพกลับหลู่จิ้น “ใต้เท้าหลู่ได้โปรดเห็นแก่ที่ฝูเหล่าไท่จวินสละชีพปกป้องตระกูลฝู ช่วยดูแลพวกเขาด้วยเถิด”

“แน่นอนอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ! องค์รัชทายาททรงกำชับไว้แล้วพ่ะย่ะค่ะ” หลู่จิ้นรีบกล่าว

หลู่จิ้นรู้สึกนับถือหลานสาวคนโตของตระกูลไป๋อย่างไป๋ชิงเหยียนอยู่ไม่น้อย

“ยังมีอีกเรื่อง ข่าวการฆ่าตัวตายของฝูเหล่าไท่จวินในคุกศาลต้าหลี่แพร่ไปทั่วทั้งเมืองหลวงแล้ว ทุกคนล้วนรู้ดีว่าแม่ทัพฝูเป็นคนกตัญญู ฮองเฮาอาจส่งคนมาปิดปากแม่ทัพฝูเพราะกลัวว่าเขาจะสารภาพเรื่องทุกอย่างออกไป ใต้เท้าหลู่ควรป้องกันไว้ด้วย” ไป๋ชิงเหยียนเห็นว่าผู้คุมคุกของศาลต้าหลี่มีเพียงไม่กี่คนจึงกล่าวขึ้น “อย่าให้แม่ทัพฝูถูกฆ่าปิดปากเช่นเดียวกับจงหย่งโหวฉินเต๋อเจาในตอนนั้นเด็ดขาด!”

[1] ตั๊กแตนจับจั๊กจั่น นกขมิ้นอยู่ด้านหลัง ใช้เปรียบเปรยถึงผู้ที่ไร้วิสัยทัศน์ มักเล็งผลระยะสั้นโดยไม่ระวังว่าจะมีผลร้ายในระยะยาวรออยู่ นอกจากนี้ยังใช้กระทบกระเทียบกับผู้ที่เอาแต่จ้องจะคิดบัญชีกับผู้อื่น โดยลืมไปว่าตนเองก็อาจจะกำลังถูกผู้อื่นจ้องจะคิดบัญชีเช่นกัน