ตอนที่ 636 ไสหัวออกไป
นางเน้นย้ำในแผนกลยุทธ์ ‘การเกษตรแบบผสมผสาน’ ว่าจำเป็นต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่และที่ดินบนเขา…เห็นได้ชัดว่ากำลังบ่งชี้ถึงที่ดินและหุบเขาอันอุดมสมบูรณ์ของฮ่องเต้ผืนนั้น
หลังฮ่องเต้ได้ทอดพระเนตรแผนกลยุทธ์ที่เข้าใจง่ายและไม่ปิดบังจุดมุ่งหมายของผู้เขียนแล้ว พระองค์ก็มีความสุขขึ้นมาทันที…เอาล่ะ ถึงขั้นพุ่งเป้ามาถึงศีรษะของพระองค์แล้ว ! ทว่าเป้าหมายที่โจ่งแจ้งและกล้าแสดงออกนี้ทำให้คนอื่นยากจะปฏิเสธได้จริง ๆ โดยเฉพาะการเกษตรแบบผสมผสานตามแผนกลยุทธ์ได้ทำให้พระองค์เปิดมุมมองใหม่ว่าที่แท้การเกษตรก็ยังสามารถทำเช่นนี้ได้ !
ฮ่องเต้หยวนชิงตวัดพู่กัน “อนุญาต ! ” ที่ดินรกร้าง 800 หมู่และที่ดินเนินเขาอีก 200 หมู่ข้างไร่ของหลินเว่ยเว่ยนั้นทรงพระราชทานให้เป็นที่ดินทดลองแก่นางทั้งหมด ไม่เพียงเท่านั้นฮ่องเต้ยังพระราชทานทหารราชองครักษ์ให้นางกว่าหลายร้อยนายเพื่อให้เรียกใช้ได้ตามใจชอบ
หลินเว่ยเว่ยสั่งให้ราชองครักษ์ลงมือขุดบ่อปลาและทำไร่ให้ตนอย่างมีความสุขทันที ลูกหลานในเมืองหลวงที่ไม่เคยทำงานหนักก็ถูกสั่งให้มาทำงานหนักหลายวันติดและยังไม่อาจละทิ้งหน้าที่ได้ เพราะหลินเว่ยเว่ยพูดไว้ว่าถ้าใครไม่อยากทำก็ต้องเอาชนะนางให้ได้ก่อน
มีคนไม่เชื่อแล้วไปท้าทายนางจริง สุดท้ายก็ต้องลงไปนอนหมอบพลางร้องขอชีวิตบนพื้นเพราะมือข้างเดียวของนาง พวกเขาจึงไร้ทางเลือกและทหารราชองครักษ์ที่มาจากตระกูลขุนนางสูงศักดิ์พวกนี้จึงได้แต่ทำตามคำสั่งหลินเว่ยเว่ยอย่างว่านอนสอนง่าย…เมื่ออยู่ต่อหน้าความเผด็จการ การต่อต้านทั้งหมดก็เป็นเพียงเมฆหมอก !
ขันทีฝูหรงซึ่งเคยรับหน้าที่ดูแลไร่นาประจำเมืองหนิงโจวก็ถูกฮ่องเต้เรียกกลับเข้าวังได้ไม่ถึง 2 วันแล้วโดนหลินเว่ยเว่ยใช้คำว่า ‘ขอยืมตัว’ ออกมาอีกแล้ว คราวนี้เขาได้รับหน้าที่ดูแล ‘การเกษตรแบบผสมผสาน’ ขันทีรูปร่างขาวอวบคนนี้จึงยิ้มดีใจเหมือนพระศรีอริยเมตไตรย (พระสังกัจจายน์) ไม่มีผิด
ขณะมองเขาเก็บข้าวของอย่างมีความสุขราวกับทนไม่ไหวที่จะติดปีกแล้วบินออกจากวังหลวงทันที หัวหน้าขันทีเต๋อฉวนคนสนิทของฮ่องเต้ก็ถามเขาว่า “ได้ออกจากวังหลวงดีขนาดนั้นเลยหรือ ? ”
ขันทีฝูหรงรีบเก็บรอยยิ้มบนใบหน้าแล้วอธิบายราวกับเป็นเรื่องใหญ่ “การที่ข้าน้อยสามารถทำประโยชน์ให้ฮ่องเต้และราชสำนักได้ ถือเป็นเกียรติสูงสุดขอรับ ! ท่านหัวหน้าขันที ท่านวางใจได้ ฝูหรงไม่มีทางทำให้เจ้านายขายหน้าแน่นอนขอรับ ! ”
เต๋อฉวนแค่นเสียงดัง “เฮอะ”…เล่นลิ้นเก่งเสียจริง ! แต่คิดไปคิดมาก็จริง องค์หญิงเว่ยเว่ยไม่ใช่คนชอบใช้ความรุนแรง ขอแค่ทำตามที่นางสั่ง หลังทำงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จแล้วก็ไม่ต้องกังวลสิ่งใด ไม่ต้องเอาแต่กังวลถึงชะตาชีวิตตัวเองทั้งวัน อันตรายไม่มีอยู่อีกต่อไป ตัวอย่างก็มีให้เห็น เจ้าฝูหรงไปอยู่ตะวันตกเฉียงเหนือแค่ 3 ปีก็อ้วนขึ้นขนาดนี้แล้ว ?
เต๋อฉวนแอบอิจฉาอยู่บ้าง คิดว่าแค่เห็นอีกฝ่ายเพียงหางตาก็รู้สึกขัดหูขัดตาไปหมดจึงโบกมือรีบไล่ “ไสหัวออกไป ! ”
“ข้าน้อยจะออกไปเดี๋ยวนี้ขอรับ ! ” ฝูหรงหอบสัมภาระพลางถอยออกมาสองสามก้าว จากนั้นก็หมุนตัวอย่างรวดเร็วและรีบเดินออกจากวังหลวงทันที ร่างที่เดินห่างออกไปนั้นดูตื่นเต้นดีใจพอสมควร…ฮ่าฮ่า ท้องฟ้าอันสว่างไสวนอกวัง ข้ามาหาแล้ว !
หลินเว่ยเว่ยนำแผนกลยุทธ์โดยละเอียดยัดใส่มือขันทีฝูหรง “ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจก็ไปปรึกษาผู้ดูแลไร่ก่อน ถ้าแม้แต่เขายังไม่เข้าใจก็ค่อยไปหาข้าที่เรือนสกุลเจียง ! ” ต่อจากนั้นนางก็ทิ้งแผนงานอันยิ่งใหญ่ไว้ให้เขา
ขันทีฝูหรงใช้มือข้างหนึ่งจับสัมภาระตัวเอง อีกข้างก็จับแผนกลยุทธ์ปึกหนาเอาไว้พร้อมใบไม้ที่ปลิวผ่านศีรษะเขาไป…เหตุใดองค์หญิงเว่ยเว่ยทำแบบนี้อีกแล้ว ? ลากเขาออกมาก็เพื่อให้เป็นผู้ดูแลไร่ ? เฮ้อ ! โชคดีที่ตอนอยู่เมืองหนิงโจว เขาเคยฝึกมาครั้งหนึ่งแล้ว ดังนั้นมีอะไรให้ต้องกลัวอีก ?
รับสมัครคนงาน ซื้อไก่ ซื้อหมู ไถพรวน หว่านเมล็ด ซื้อปลา หาวัวทุ่นแรง…ขันทีฝูหรงจัดการได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ส่วนเจ้านายที่ไร้หัวใจอย่างหลินเว่ยเว่ย ทุกครั้งที่มาเดินสำรวจก็จะชื่นชมเขายกใหญ่และให้รางวัลเขาเป็นขนมกับเนื้อแผ่นที่ทำเองหนึ่งกล่อง ขันทีฝูหรงดีใจจนตัวลอย…ข้อดีที่สุดในการทำงานกับองค์หญิงเว่ยเว่ยคือได้ขนมเลิศรสแบบใหม่ที่หาซื้อหรือหากินที่ไหนไม่ได้เป็นระยะ !
ส่วนเจียงโม่หานที่กำลังรวบรวมข้อมูลก็ทั้งยุ่งยากและลำบาก ออกเช้ากลับดึกทุกวันและยังนำเอกสารกลับมาที่บ้านด้วยเพื่อให้เฉินหยุนช่วยวาดแผนภูมิและทำข้อมูลเชิงสถิติออกมา…
“บัณฑิตน้อย เจ้าอยากได้แผนภูมิแบบนี้มากมายขนาดไหน ถ้าอย่างไรให้ร้านโม่เซียงช่วยตีพิมพ์สำเนาออกมาสักสองสามชุดดีหรือไม่” หลินเว่ยเว่ยเห็นเขาวาดแผนภูมิภายใต้แสงเทียนด้วยความตั้งอกตั้งใจจึงรู้สึกว่าท่าทางตอนทำงานของบัณฑิตน้อยดูหล่อเหลามากจริง ๆ ! แต่ก็ยังเอ็นดูที่งานของเขามีเยอะถึงขนาดนี้เช่นกัน
เจียงโม่หานครุ่นคิด ก่อนจะพูดว่า “ข้าต้องการแผนภูมิสองสามแบบ ภาพรวมส่วนใหญ่จะคล้ายกัน…รอให้ทำมันออกมาอย่างละเอียดอีกหน่อยก็ค่อยทำแผนภูมิแบบทั่วไปออกมา…ขอบใจภรรยาที่เตือน ! ”
หลินเว่ยเว่ยทำมือคารวะกลับ “ท่านพี่ เราสองคนเป็นสามีภรรยากัน ไม่จำเป็นต้องเกรงใจถึงขั้นนี้…” หลังจากพูดจบ นางก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังลั่น
เจียงโม่หานวาดแผนภูมิออกมาในชั่วข้ามคืน ไม่ว่าจะเป็นสถิติไร่นา ภาษีหรือบัญชีการค้าก็สามารถประยุกต์ใช้ได้หมด เขาครุ่นคิดแล้วจากนั้นก็เขียนตัวเลขอารบิกกับตัวอักษรสามัญลงในหน้าแรก รวมถึงวิธีนับตัวเลขอารบิกอย่างง่ายด้วย หลังเลิกงานในวันถัดไปแล้วเขาก็ไปหาเจ้าของร้านโม่เซียง…ท่านลุงขององค์รัชทายาทเพื่อให้ช่วยตีพิมพ์ออกมา 100 ฉบับ
กั๋วจิ้วเย่เห็นโอกาสทำการค้าจากสมุดบัญชีเล่มนี้จึงเสนอการตีพิมพ์ให้เขาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่มีเงื่อนไขแค่ว่าให้เขาวางจำหน่าย ‘สมุดบัญชี’ เล่มนี้ที่ร้านโม่เซียง
เจียงโม่หานรู้ว่าเมื่อแผนภูมิประเภทนี้ถูกเผยแพร่ออกไปแล้วใครก็สามารถเลียนแบบได้ ดังนั้นการมีคนตีพิมพ์สมุดบัญชีแบบนี้ให้เขาใช้ตลอดชีวิตก็ช่วยประหยัดเงินไม่น้อยเลย !
วันรุ่งขึ้น ร้านโม่เซียงส่ง ‘สมุดบัญชี’ 10 เล่มมาให้ เจียงโม่หานจึงรวบรวมและเปรียบเทียบข้อมูลเกี่ยวกับ ‘พื้นที่ไร่นาของในอดีตและปัจจุบัน’ ได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นยังเขียนฎีกาอธิบายถึงเงื่อนไขและกลยุทธ์ในการสนับสนุนเกษตรกรอย่างละเอียด
เมื่อมีทั้งข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ เนื้อหาโดยละเอียดและกลยุทธ์ที่ดูเป็นไปได้สูงมาวางอยู่ตรงเบื้องหน้าฮ่องเต้หยวนชิงแล้วพระองค์ก็ยื่นให้องค์รัชทายาททอดพระเนตร “รัชทายาท ผู้ช่วยที่เจิ้นเลือกไว้ให้เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ? ”
องค์รัชทายาททอดพระเนตรแผนภูมิเปรียบเทียบที่แสดงข้อมูลให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วก็ละสายพระเนตรออกมาไม่ได้เสียที “ทูลฟู่หวง ถ้าต่อไปเขาบันทึกข้อมูลหรือทำบัญชีรูปแบบนี้อีก ไม่เพียงสะดวกในการอ่านสำหรับพระองค์ แต่ยังช่วยประหยัดแรงงานและเวลาในการสรุปข้อมูลปลายปีด้วยพ่ะย่ะค่ะ ! เอ๋อร์เฉินจำได้ ว่าตอนที่รองผู้ตรวจการเจียงยังเป็นบัณฑิตถงเซิงอยู่ เขาเขียนหนังสือเกี่ยวกับสถิติออกมาแล้วยังมีตัวเลขแบบย่อเหล่านี้เช่นกัน น่าเสียดายที่ขุนนางเฒ่าอวดดีพวกนั้นไม่ให้ความสำคัญ แถมยังมีบางคนต่อต้านอย่างหนักจึงไม่ได้เผยแพร่ออกไป ! ”
ฮ่องเต้หยวนชิงแค่นสุรเสียงฮึฮึ “ตาเฒ่าพวกนั้น…ไม่ควรค่าพอให้เอ่ยถึง ! ” ก่อนที่พระองค์จะส่งต่อบัลลังก์ให้องค์รัชทายาทก็ต้องช่วยทำความสะอาดราชสำนักแทนโอรส ทำให้โอรสได้ปกครองราชสำนักที่ใสสะอาด !
องค์รัชทายาทก้มดวงพักตร์เพื่ออ่านฎีกาของเจียงโม่หานอย่างจริงจัง หลังเห็นประเด็นสำคัญที่อยู่ด้านในแล้วก็พยักดวงพักตร์ด้วยความชื่นชม “รองผู้ตรวจการเจียงใช้วิธีจากภาคตะวันตกเฉียงเหนือโดยการนำเมล็ดพันธุ์ให้ผลผลิตสูงมากระตุ้นให้ราษฎรแผ้วถางที่ดิน ในพื้นที่รกร้างจะละเว้นภาษี 3 ปี เมื่อการถางที่ดินถึงจำนวนที่กำหนดก็จะสามารถละเว้นภาษีของคนได้หนึ่งคน…เอ๋อร์เฉินคิดว่าวิธีนี้ใช้ได้ เนื่องจากคนทั่วหล้าล้วนแสวงหาผลประโยชน์กันอยู่แล้ว ความกระตือรือร้นของราษฎรถึงจะถูกกระตุ้นขึ้นมา ! ฟู่หวงมีสายพระเนตรเฉียบคม รองผู้ตรวจการเจียงคนนี้ใช้งานได้จริงพ่ะย่ะค่ะ ! ”