ตอนที่ 637 เขาเปรียบเสมือนดาบสองคม

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

ตอนที่​ 637 เขา​เปรียบเสมือน​ดาบสองคม​

ฮ่องเต้​หยวน​ชิงแย้มพระสรวล​ดังลั่น​ “รอง​ผู้ตรวจการ​เจียง​เป็น​ผู้​มีความสามารถ​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​ สิ่งสำคัญ​คือ​เขา​ยังมี​ภรรยา​ที่​ดี​คอย​หนุนหลัง​ ! เจ้าลอง​คิดดู​ ตอน​ทำงาน​อยู่​ที่​อำเภอ​หนิง​ซี เหตุใด​งาน​จึงออกมา​ราบรื่น​ขนาด​นั้น​ ? ไม่ใช่ภรรยา​ของ​เขา​ใช้เมล็ดพันธุ์​ให้​ผลผลิต​สูงมาซื้อใจ​ราษฎร​ให้​สามีหรือ​ไร​ ? เมื่อ​ได้ใจ​ราษฎร​แล้ว​ งาน​ของ​ทางการ​ก็​จะราบรื่น​ขึ้น​มาก​ ! ”

เหมือน​ดำริ​อะไร​บางอย่าง​ได้​จึงหยิบ​ฎีกา​ที่​เขียน​ด้วย​ตัวอักษร​สามัญตรง​มุมโต๊ะ​ให้​รัชทายาท​ “เจ้าดู​นี่​สิ ! ถ้านาง​หนู​คน​นั้น​เป็น​ผู้ชาย​ล่ะ​ก็​ ไม่ว่า​ด้าน​พรสวรรค์​ พร​แสวง​หรือ​ความกล้าหาญ​ก็​ไม่เป็นรอง​สามีของ​นาง​เลย​ ! ”

หลัง​อ่าน​แล้ว​องค์​รัชทายาท​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ชื่นชม​ “ยอดเยี่ยม​ ! ถ้าราษฎร​ได้​เรียนรู้​วิธีทำ​ ‘การเกษตร​แบบ​ผสมผสาน​’ ล่ะ​ก็​ ไม่เพียง​จะทำอาหาร​เลี้ยงสัตว์​ไว้​ใช้เอง​ แต่​ยังมี​ปุ๋ย​ไว้​ใส่ไร่นา​จน​เพียงพอ​ด้วย​ ผลผลิต​ใน​ไร่​ก็​จะเพิ่ม​สูงขึ้น​…ล้วน​ส่งเสริม​ซึ่งกันและกัน​ ! ถ้าน้อง​เว่ยเว่ย​เป็น​ผู้ชาย​และ​ได้รับ​ตำแหน่ง​ในกรม​คลัง​จะต้อง​สร้าง​เสบียง​ให้​ราชสำนัก​อย่าง​มากมาย​แน่นอน​พ่ะย่ะค่ะ​ ! ”

ฮ่องเต้​หยวน​ชิงพยัก​ดวง​พักตร์​ “เรา​ควร​มีความสุข​ เพราะ​นาง​หนู​คน​นี้​ไม่เหมือน​เด็กผู้หญิง​ปกติ​ แทนที่จะ​รังเกียจ​การเกษตร​ ตรงกันข้าม​ยัง​มีความสุข​กับ​มัน​ได้​ และ​ก็​โชคดี​ที่​ใต้เท้า​เจียง​ไม่ใช่คน​หัวโบราณ​ผู้​ชอบ​อวดดี​ จึงยอม​สนับสนุน​การ​ทำ​เกษตร​ของ​ภรรยา​ เจียง​โม่หา​น​ผู้​นี้​ฉลาด​ผิด​มนุษย์​ ความสามารถ​อยู่​เหนือ​คน​ทั่วไป​ วิธี​จัดการ​ปัญหา​ก็​ไม่ธรรมดา​ ถ้าใช้ให้​ดี​จะต้อง​เป็น​เสาหลัก​ของ​แผ่นดิน​แน่นอน​ แต่​ถ้าถูก​คนอื่น​ใช้งาน​ผิด​ก็​จะกลาย​เป็นตัว​หายนะ​ ! ”

องค์​รัชทายาท​เห็น​ฟู่หวง​ลูบ​นิ้ว​พระ​หัตถ์​จึงรู้​ว่า​ทรง​กำลัง​วุ่นวาย​อยู่​กับ​ความคิด​ สำหรับ​เจียง​โม่หา​น​แล้ว​ องค์​รัชทายาท​ยัง​ชื่นชม​อยู่​พอตัว​จึงตรัส​ว่า​ “ฟู่หวง​ กระบี่​คม​ย่อม​ไร้​เทียมทาน​ แต่​ก็​สามารถ​ทำร้าย​เจ้าของ​ได้​เช่นกัน​ แต่​เรา​จะมัว​หวาดระแวง​เพราะ​อันตราย​ที่​ยัง​ไม่รู้​ว่า​เกิดขึ้น​จริง​หรือเปล่า​แล้ว​วาง​มัน​ทิ้ง​ไว้​บน​หิ้ง​ตลอด​หรือ​พ่ะย่ะค่ะ​ ?

แล้ว​ฟู่หวง​อย่า​ลืม​ว่า​รอง​ผู้ตรวจการ​เจียง​คน​นี้​เป็น​บุตร​เขย​ผู้ใด​ ! พระองค์​ไม่รู้จัก​เสด็จ​อา​ห​มิน​อ๋อง​หรือ​พ่ะย่ะค่ะ​ ? หาก​ใต้เท้า​เจียง​มีใจคิดคด​จริง​ ไม่ต้อง​ให้​พระองค์​ลงมือ​ ห​มิน​อ๋อง​ก็​ช่วย​จัดการ​แทน​แน่นอน​ ! นอกจากนี้​น้อง​เว่ยเว่ย​ยัง​ไร้เดียงสา​ จิตใจ​บริสุทธิ์​และ​ซื่อสัตย์​ หาก​มีนาง​อยู่แล้ว​ รอง​ผู้ตรวจการ​เจียง​ไม่มีทางเดิน​บน​ทาง​ที่​ผิด​แน่นอน​พ่ะย่ะค่ะ​ ! ”

ฮ่องเต้​หยวน​ชิงทอดพระเนตร​ผู้สืบทอด​บัลลังก์​ด้วย​ความพอ​พระทัย​ แต่​ก็​ยัง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เตือน​ “เจ้ามีหัวใจ​ที่​ยิ่งใหญ่​ ต่อไป​จะต้อง​เป็น​ฮ่องเต้​ผู้​ปราดเปรื่อง​ แต่​ความ​ใจดี​ต้อง​มีขอบเขต​ ฮ่องเต้​ต้อง​รู้จัก​ใช้ความเมตตา​และ​ความ​น่าเกรงขาม​พร้อมกัน​ ไม่อาจ​ปล่อย​ให้​ขุนนาง​ปีน​ขึ้น​ศีรษะ​ได้​ ! ”

องค์​รัชทายาท​เผย​สีพระพักตร์​ยอมรับ​คำสั่งสอน​ “เอ๋อร์เฉิน​จะจำไว้​และ​ไม่ทำให้​ฟู่หวง​ทรง​ผิดหวัง​แน่นอน​พ่ะย่ะค่ะ​ ! ”

แม้ว่า​ที่ดิน​จำนวน​ 2,000 หมู่​กำลัง​ไถพรวน​ให้​ทัน​ฤดูใบไม้ผลิ​อยู่​ แต่​เมื่อ​มีหัวเรี่ยวหัวแรง​ใหญ่​อย่าง​ผู้ดูแล​ฉูและ​ขันที​ฝูหรง​ หลิน​เว่ยเว่ย​จึงเดินทาง​ไป​ตรวจงาน​ช่วง​สาย​วัน​ละ​หนึ่ง​รอบ​เท่านั้น​ นาง​แค่​แนะนำ​และ​เตรียมการ​บางอย่าง​เล็ก​ ๆ น้อย​ ๆ ก็​สามารถ​วางมือ​จาก​งาน​ได้​แล้ว​ !

ตอนเที่ยง​ยังมี​เวลา​เอา​อาหารกลางวัน​ไป​ส่งให้​สามี แม้ใน​เรือน​จะมีแม่ครัว​อยู่​ แต่​อาหาร​ของ​สามีนั้น​หลิน​เว่ยเว่ย​ลงมือทำ​ด้วยตัวเอง​ แต่ละวัน​เปลี่ยน​อาหาร​ไม่ซ้ำกัน​ให้​เขา​ แม้งาน​ของ​เจียง​โม่หา​น​จะหนัก​แต่​ใน​ช่วง​ครึ่ง​เดือน​ถัดมา​เขา​กลับ​อ้วน​ขึ้น​ด้วย​

มีครั้งหนึ่ง​ ใต้เท้า​หลิว​หรือ​ผู้ตรวจการ​ซุ่น​เทียน​เดิน​มาที่​ห้องทำงาน​ของ​เจียง​โม่หา​น​ใน​เวลา​กิน​อาหารกลางวัน​พอดี​ เมื่อ​เห็น​อาหาร​หลาก​สีสัน​บน​โต๊ะ​แล้ว​ เขา​ก็​ยืน​ตกตะลึง​ในทันที​ เจียง​โม่หา​น​เอ่ยปาก​ชวน​เขา​ด้วย​ความสุภาพ​ แม้ปาก​ใต้เท้า​หลิว​จะเอ่ย​ปฏิเสธ​ แต่​เท้า​ไม่เดิน​ออก​ไป​อย่าง​ที่​ปาก​พูด​ เจียง​โม่หา​น​และ​หลิน​เว่ยเว่ย​จึงชวน​เขา​อี​กรอบ​ ใต้เท้า​หลิว​ถึงได้​ตอบ​ตกลง​อย่าง​ ‘เลี่ยง​ไม่ได้​’

หลัง​ได้​ลอง​กิน​อาหาร​มื้อ​นี้​แล้ว​ ทุกครั้ง​เมื่อ​ถึงเวลา​เที่ยงวัน​ ใต้เท้า​หลิว​ก็​จะถือ​กล่อง​อาหาร​ที่​คนใน​จวน​นำมา​ส่งแล้ว​มาสาน​สัมพันธ์​อัน​ดี​กับ​รอง​ผู้ตรวจการ​เจียง​ แต่​ในความเป็นจริง​แล้ว​แค่​อยาก​กิน​อาหาร​ที่​สกุล​เจียง​ส่งมาให้​ต่างหาก​ !

เมื่อ​มีคน​มาแย่ง​อาหาร​เพิ่ม​หนึ่ง​คน​ อาหาร​ของ​เจียง​โม่หา​น​ก็​ไม่พอ​กิน​อีกต่อไป​ ทว่า​อาหาร​ที่​ใต้เท้า​หลิว​เอา​มา เจียง​โม่หา​นก​ลับ​ไม่กิน​แม้แต่​คำ​เดียว​เพราะ​ลิ้น​คุ้นชิน​กับ​รส​มือ​ของ​หลิน​เว่ยเว่ย​ไป​แล้ว​ อย่า​ว่าแต่​แตะต้อง​ของ​พวก​นั้น​เลย​ แต่ละครั้ง​อาหาร​ที่​สกุล​เจียง​ส่งมาจะถูก​แย่ง​กิน​จน​หมด​ แต่​อาหาร​สกุล​หลิว​ถูก​แตะ​แค่​สอง​คำ​เท่านั้น​…

ช่วง​สอง​สามวันนี้​หลิน​เว่ยเว่ย​ค่อนข้าง​ยุ่ง​ เรื่อง​นำ​อาหาร​มาส่งจึงให้​บ่าว​รับหน้าที่​ แต่​เมื่อ​ถึงเวลา​กิน​อาหารเย็น​ นาง​ต้อง​ตกใจ​กับ​ความอยาก​อาหาร​ที่​เพิ่มขึ้น​อย่าง​กะทันหัน​ของ​บัณฑิต​น้อย​ ราวกับว่า​เขา​ทน​หิว​มานาน​อย่างไร​อย่างนั้น​ พอ​สอบถาม​จึงได้​รู้​ว่า​มื้อ​เที่ยง​สามีจะได้​กินข้าว​แค่​ครึ่ง​ถ้วย​เท่านั้น​

หลิน​เว่ยเว่ย​ก่น​ด่า​ผู้ตรวจการ​ซุ่น​เทียน​ว่า​ “หน้าด้าน​” แต่​ก็​ยัง​เอ็นดู​สามีตัวเอง​…ถ้าไม่พอ​กิน​แล้ว​เหตุใด​ไม่บอก​นาง​ ? ตอนบ่าย​ทำงาน​แบบ​ท้องร้อง​ ทรมาน​จะตาย​ไป​ ! วันรุ่งขึ้น​ อาหาร​ที่​ให้​สามีจึงถูก​เพิ่มปริมาณ​เป็น​เท่าตัว​และ​ใน​ตอนบ่าย​ยังมี​บ่าว​เอา​ขนม​ไป​ให้​ด้วย​…

ทว่า​ส่วนใหญ่​ขนม​พวก​นี้​จะเข้าไป​อยู่​ใน​ท้อง​สหาย​ร่วมงาน​ของ​เจียง​โม่หา​น…​เพราะ​คน​พวก​นี้​ไม่ได้​หน้าหนา​เท่า​ผู้ตรวจการ​จึงไม่กล้า​ไป​ขอ​กินข้าว​ด้วย​ เมื่อ​พวกเขา​เห็น​บ่าว​สกุล​เจียง​เข้ามา​ใน​ที่ทำการ​ยาม​บ่าย​ พวกเขา​ก็​คำนวณ​เวลา​แล้​วหา​เหตุผล​ไป​เดินเล่น​ที่​ห้องทำงาน​ของ​เจียง​โม่หา​น​และ​ขอ​ขนม​มาสอง​ชิ้น​…

เจียง​โม่หา​น​หมด​คำ​จะพูด​ ‘คน​พวก​นี้​นี่​มัน​อย่างไร​ ! ’

ทว่า​กิน​ของ​คนอื่น​แล้ว​ต้อง​สุภาพ​กับ​อีก​ฝ่าย​ด้วย​ ผ่าน​ไป​ไม่นาน​เจียง​โม่หา​น​ก็ได้​พบ​ว่า​ผู้​คนใน​เขต​ปกครอง​ซุ่น​เทียน​เริ่ม​ดี​กับ​เขา​มากขึ้น​เรื่อย ๆ​ เจ้าหน้าที่​ 6 คน​ หรือ​แม้แต่​เจ้าหน้าที่​จางที่​เคย​ไม่พอใจ​ใน​ตัว​เขา​ตั้งแต่​ตอนแรก​ก็​ยัง​สุภาพ​ด้วย​ ตอน​คนอื่น​มาขอ​ขนม​ก็​ยัง​ช่วย​งาน​เล็ก​ ๆ น้อย​ ๆ ให้​เขา​…จึงบังเกิด​ความสามัคคี​ขึ้น​ใน​เขต​ปกครอง​ซุ่น​เทียน​…

ฤดูใบไม้ผลิ​ผ่านพ้น​ ฤดูร้อน​มาเยือน​ ต้นกล้า​ข้าวโพด​สูงเท่าตัว​คน​แล้ว​ ใบ​เขียว​ราวกับ​มรกต​ เมื่อ​ลม​พัดผ่าน​ ใบไม้​ก็​จะเสียดสี​กัน​จน​เกิด​เสียง​ไพเราะ​ ข้าวสาลี​ฤดูใบไม้ผลิ​กำลัง​ออกรวง​สร้าง​เกลียวคลื่น​อัน​เขียวขจี​ รวงข้าว​กลิ่นหอม​ชวน​ดม​ เมื่อ​สายลม​พัดผ่าน​กลิ่นหอม​ของ​รวงข้าว​ก็​จะถูก​พัด​ออก​ไป​ด้วย​

ผู้ดูแล​ฉูเดิน​ตามหลัง​นาย​หญิง​ ขณะ​มอง​รวงข้าว​ใน​ทุ่ง​ด้วย​ความตื่นเต้น​ เขา​ก็​พูดว่า​ “นาย​หญิง​ ข้าน้อย​ทำ​เกษตร​มานาน​ขนาด​นี้​ยัง​ไม่เคย​เห็น​รวงข้าว​ที่​ออกรวง​ได้​ยาว​เท่านี้​เลย​ขอรับ​ ข้าน้อย​ลอง​คำนวณ​ดู​แล้ว​ว่า​อย่าง​น้อย​หนึ่ง​หมู่​จะให้​ผลผลิต​ 100 ชั่งขึ้นไป​ ! ”

หลิน​เว่ยเว่ย​หยิบยก​ข้ออ้าง​ที่​คิด​ไว้​แล้ว​ออกมา​ “นี่​เป็น​เมล็ดพันธุ์​อย่าง​ดี​ที่​เรา​เลือก​มาจาก​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ ใน​เนื้อที่​พัน​กว่า​หมู่​ แยก​เมล็ดพันธุ์​ข้าวสาลี​ที่​ให้​รวง​ยาว​ที่สุด​และ​เต็ม​รวง​ที่สุด​ สามปี​ที่​เก็บเกี่ยว​มาจึงมีเมล็ดพันธุ์​คุณภาพดี​อยู่​เท่านี้​”

ผู้ดูแล​ฉูจด​จำไว้​ใน​ใจ ก่อนที่จะ​เกี่ยว​ข้าวสาลี​ได้​ เขา​เอง​ก็​รวบรวม​ผู้เช่า​มาหา​รวงข้าว​คุณภาพดี​ตาม​ที่ดิน​แปลง​ต่าง ๆ​ อย่าง​ระมัดระวัง​…เลือก​ออกมา​แบบนี้​แล้ว​ ผลผลิต​ข้าวสาลี​ใน​ปี​ถัดไป​จะเพิ่ม​สูงขึ้น​หรือเปล่า​ ?

ผู้ดูแล​ฉูจัดการ​พืชผล​ใน​ไร่​ได้​ดีมาก​ หลิน​เว่ยเว่ย​เดิน​ดู​รอบ​ไร่​หนึ่ง​รอบ​ จากนั้น​ก็​ไปดู​ ‘ไร่​ทดลอง​การเกษตร​แบบ​ผสมผสาน​’ ขันที​ฝูหรง​ตื่น​มานั่ง​ใต้​ร่มไม้​ข้าง​บ่อ​ปลา​แต่เช้า​ มือ​ข้าง​หนึ่ง​ถือ​คันเบ็ด​ อีก​ข้าง​ถือ​พัด​ ข้าง​กาย​ยังมี​ขันที​น้อย​คอย​ริน​ชาอุ่น​ ๆ ให้​ดื่ม​ เขา​ใช้ชีวิต​ได้​อย่าง​มีความสุข​สุด​ ๆ

เมื่อ​เห็น​หลิน​เว่ยเว่ย​เดิน​เข้ามา​ เขา​ก็​รีบ​วาง​คันเบ็ด​ใน​มือ​ลง​แล้ว​ลุก​ออก​ไป​ต้อนรับ​ หลิน​เว่ยเว่ย​เหลือบมอง​ป้าย​อีก​ด้าน​ของ​คันเบ็ด​แล้ว​อดไม่ได้​ที่จะ​หัวเราะ​ออกมา​ “ฝูหรงกงกง​กำลัง​เลียนแบบ​เจียง​ไท่กง​ตกปลา​…ปลา​ตัว​ไหน​ตกลงใจ​ว่า​ไม่อยาก​จะมีชีวิต​อยู่​ ก็​มากิน​เบ็ด​คัน​นี้​เอา​เอง​เถิด​อย่างนั้น​หรือ​ ? ”

ขันที​ฝูหรง​ยิ้ม​ “ปลา​ใน​บ่อ​ยัง​เล็ก​อยู่​พ่ะย่ะค่ะ​ กระหม่อม​จะทำใจ​ให้​ลูกปลา​ตาย​ได้​อย่างไร​ ? คน​ตกเบ็ด​มีจิตใจ​อยู่​ที่​เบ็ด​ ไม่ได้​อยู่​ที่​ปลา​…องค์​หญิง​ วิธีทำ​เกษตร​แบบ​ผสมผสาน​ของ​พระองค์​ช่างวิเศษ​ไป​เลย​พ่ะย่ะค่ะ​ ! ให้​เลี้ยง​ไก่​บน​เขา​ แต่ละวัน​ให้อาหาร​แค่​ครั้ง​เดียว​ก็​พอแล้ว​ เพราะ​มีไก่​คอย​กิน​หนอน​แมลง​ให้​และ​ยัง​ได้​มูล​จาก​ไก่​เป็น​ปุ๋ย​อีก​ ต้นกล้า​ผลไม้​บน​เขา​จึงเติบโต​ดี​สุด​ ๆ ไป​เลย​ ! มูล​หมู​ มูล​วัว​นำมา​ทำตาม​วิธี​ที่​พระองค์​ชี้แนะ​ก็​ทำ​ปุ๋ยคอก​ออกมา​ได้​ไม่น้อย​เลย​ พอได้​ปุ๋ย​เพียงพอ​ แม้ไร่​นี้​จะหว่าน​เมล็ด​ช้ากว่า​ไร่​ของ​พระองค์​หลาย​สิบ​วัน​ แต่​ก็​เติบโต​ดี​ยิ่งกว่า​ไร่​ฝั่งนั้น​อีก​พ่ะย่ะค่ะ​…”