ตอนที่ 498 เจ้าคิดอย่างไรที่ข้ามาในวันนี้? วันนี้เจ้ามาเพื่อแก้ไขความคิดของข้า (1)

ในยอดเขาหยกน้อยแห่งสำนักตู้เซียน

หลี่ฉางโซ่วยืนเอามือไพล่หลังอยู่ในป่าและครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว

กระบี่สังหารเซียนสี่เล่มกำลังลอยอยู่เหนือข้า และถามข้าว่ามันเนิ่นนานเพียงใดแล้ว?

เทพธิดานั้นเลิศล้ำดุจหมู่เมฆ เหตุใดนางถึงใช้ชื่อของจอมปราชญ์?

อืม สภาวะจิตใจนี้ช่างอ่อนหวานเกินไป หากแสดงออกมาธรรมดา——

หลี่ฉางโซ่วถึงกับพูดไม่ออก มือของเขาเหมือนกรงเล็บ และเขาไม่มีที่ที่จะวางมันได้ร่างของเขากระตุกในขณะที่เขากัดฟันอยู่พักหนึ่ง

นี่มันเรื่องบ้าบออันใดกัน!

จอมปราชญ์กำลังจะดึงข้าเข้าสู่สำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยหรือไม่?

มหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพมีมุ่งเป้ามาที่สำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วนในสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย

ค่ายกลสิบสัมบูรณ์เริ่มสูญเสียการควบคุม จ้าวกงหมิงดับดิ้นไปอย่างอนาถ เทพธิดาซานเซียวก็ สิ้นชีพไปอย่างน่าเศร้าใจในการต่อสู้กับจอมปราชญ์ในค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าแปรเปลี่ยน และส่วนใหญ่มากกว่าครึ่งหนึ่งของเซียนแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยที่อยู่ในค่ายกลสิบสัมบูรณ์ก็ตกตาย!

ศิษย์ใหญ่แปดคนและบริวารเซียนเจ็ดคน แล้วในตอนท้ายเหลือกี่คนเล่า?

ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสวรรค์ทงเทียนเดือดดาลอย่างยิ่ง และด้วยโทสะของเขา เขาต้องการทำลายโลกเพื่อปรับแต่งลม ไฟ น้ำ และดินอีกครั้ง

ในท้ายที่สุด เขาก็ถูกปรมาจารย์บรรพชนเต๋ากักขังเอาไว้!

แล้วเขาจะไม่ส่งตัวเองเข้าสู่รายนามทะเบียนเทพหรือ หากเขาจะไปสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยในตอนนี้?

แม้วันนี้ เขาจะเดินนำหน้ารายนามทะเบียนเทพไปแล้วและกลายเป็นเทพผู้ชอบธรรมระดับสี่ในศาลสวรรค์ และเขาจะก้าวขึ้นสู่ระดับสามเช่นกัน

ตามหลักการแล้ว เขาจะไม่ได้รับผลกระทบจากชะตากรรมของมหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพอีกต่อไป

ทว่าเรื่องนี้ก็ไม่ปลอดภัยจริงๆ

ในที่สุดวันนี้ หลี่ฉางโซ่วก็เข้าใจว่า เหตุใดอาจารย์ลุงจ้าวกงหมิงถึงเป็นผู้ทรงคุณธรรม เหตุใดฉยงเซียวและปี้เซียวถึงขี้เล่น และเหตุใดนักพรตเต๋าตั๋วเป่าถึงไร้กังวล…

เหตุใดทั้งสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยจึงคดเคี้ยวขึ้นๆ ลงๆ ยากจะควบคุมได้เช่นนี้? ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะบรรดาคนชั้นสูง!

แค่กๆ มั่นคง

นี่คืออันใดกัน?

หลี่ฉางโซ่วเงยหน้าขึ้นและถอนหายใจลึกๆ จอมปราชญ์ข้างบ้านกำลังทำภารกิจอยู่ และดูเหมือนว่า ปรมาจารย์จอมปราชญ์ในบ้านของเขาจะยอมรับอย่างเป็นที่เข้าใจกันดีที่จะให้พวกเขา เหล่าจอมปราชญ์ ยืมตัวเขา ราวกับว่าเขาเป็นเครื่องมือผลัดกันใช้

สงบใจไว้ สงบใจไว้ ยิ่งในเวลาเช่นนี้ เจ้าจะตื่นตกใจไปไม่ได้!

หลี่ฉางโซ่วท่อง ‘พระสูตรมั่นคง’ อยู่ในใจเงียบๆ ในขณะที่ชุดภาพจักรพรรดินีชราไป่เหมยค่อยๆ หมุนไปรอบๆ ตัวเขาช้าๆ ปราณวิญญาณของหลี่ฉางโซ่วนั่งขัดสมาธิเข้าฌาน แล้วหัวใจเต๋าของเขาก็สงบลงอย่างรวดเร็ว

ในขณะนั้น สิ่งแรกที่หลี่ฉางโซ่วคิดไม่ใช่เรื่องไร้สาระ แต่เป็นสถานการณ์ของเขา

เขาเป็นศิษย์ของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน และเป็นเทพแห่งศาลสวรรค์ เขาอาจได้รับการนับว่าเป็นเซียนจินที่ซ่อนอยู่ในโลกบรรพกาล ทว่าเมื่อเทียบกับเทพธิดาอวิ๋นเซียวแล้ว เขาก็ไม่ต่างจากดวงดาวแสงสลัวเมื่อเทียบกับเดือนเด่นแสงสกาวขาวบริสุทธิ์

จากคำถามห้าข้อที่ปรมาจารย์จอมปราชญ์สำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยกล่าวถึงนั้น หลี่ฉางโซ่วได้ตระหนักว่า…

ปรมาจารย์จอมปราชญ์อาจใช้หลักการมากเกินไปสักหน่อยเมื่อพูดถึงเรื่องระหว่างชายและหญิงเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ตาม ‘เต๋าใหญ่’

ทว่าเรื่องความสัมพันธ์จะเข้าใจได้ด้วยเหตุผลหรือ?

เดิมทีธรรมชาติแห่งเต๋าและธรรมชาติของมนุษย์ล้วนเกี่ยวพันซึ่งกันและกัน

โดยเนื้อแท้แล้ว ธรรมชาติแห่งเต๋าและธรรมชาติของมนุษย์ล้วนเกี่ยวพันซึ่งกันและกัน มันอยู่ในความสัมพันธ์ที่ฝ่ายหนึ่งลดลงและอีกฝ่ายหนึ่งเติบโตขึ้น และความสัมพันธ์ระหว่างผู้แข็งแกร่ง ฝ่ายหนึ่งและผู้อ่อนแอ อีกฝ่ายหนึ่ง

สิ่งที่เรียกว่าธรรมชาติแห่งเต๋าคือ ระดับความพอดีของความเข้ากันได้ระหว่างผู้ฝึกบำเพ็ญขั้นสูงและเต๋าใหญ่

มักกล่าวกันว่า ยิ่งฝึกฝนนานเท่าใด ผู้นั้นก็จะยิ่งเหี้ยมโหดและทำลายล้างมากขึ้นเท่านั้น

ความจริงแล้ว ย่อมเข้าใจได้ว่าเป็นการผสมผสานกับเต๋า และเพิ่มธรรมชาติแห่งเต๋าของคนๆ หนึ่ง เต๋าก็จะเติบโต เป็นผลให้ผู้คนจะมองทุกสรรพสิ่งด้วยมุมมองแห่งเต๋า

เป็นที่เข้าใจได้ว่า สิ่งที่เรียกว่าธรรมชาติของมนุษย์นั้น คือจิตวิญญาณของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด มันเป็นตัวตน ลักษณะนิสัย และความปรารถนาส่วนตัวของผู้ฝึกบำเพ็ญ

หลี่ฉางโซ่วเคยอ่านตำราโบราณที่ผู้ยิ่งใหญ่ฝูซีได้เขียนเอาไว้ ในตำรานั้น เขาได้สาธยายถึงอิทธิพลของธรรมชาติแห่งเต๋าและธรรมชาติของมนุษย์ที่มีต่อผู้ฝึกบำเพ็ญ ซึ่งหลี่ฉางโซ่วถือว่าเป็นงานยอดเยี่ยมชั้นเอก

มีบางคำกล่าวไว้ว่า

“สิ่งมีชีวิตเซียนเทียนส่วนใหญ่มีธรรมชาติแห่งเต๋าในขณะที่สิ่งมีชีวิตโฮ่วเทียนส่วนใหญ่นั้นจะถูกครอบงำด้วยธรรมชาติของมนุษย์และจิตวิญญาณ”

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งที่จะทำให้เทพธิดาอวิ๋นเซียว ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตเซียนเทียนจะสร้าง ‘ความรู้สึกรักระหว่างชายหญิง’ ซึ่งถูกครอบงำด้วยธรรมชาติของมนุษย์ขึ้นมาได้

หลี่ฉางโซ่วสัมผัสได้ถึงกระบวนการของธรรมชาติแห่งเต๋าของเทพธิดาอวิ๋นเซียว ที่ลดลงในขณะที่ธรรมชาติมนุษย์ของนางเพิ่มสูงขึ้น แต่กระบวนการนั้นก็เชื่องช้ามากในขณะที่ขอบเขตของมันไม่ใหญ่นัก…

ดังนั้น ไม่ว่าเขาจะมองจากมุมใด ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเทพธิดาอวิ๋นเซียวในตอนนี้ คือความชื่นชมซึ่งกันและกันเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งแทบจะไม่ถือว่าเขาเป็นคนสนิทคนหนึ่งของนางเลยด้วยซ้ำ

แน่นอนว่า หลี่ฉางโซ่วต้องยอมรับว่าเนื่องจากเทพธิดาอวิ๋นเซียวมีกรรมมากเกินไป และยิ่งไปกว่านั้น มหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพก็รออยู่เบื้องหน้าเขา เขาจึงจงใจระงับและหลีกเลี่ยงความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อเทพธิดาอวิ๋นเซียว

แต่ในตอนนี้ ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่เทพธิดาอวิ๋นเซียวจะตกหลุมรักเขาอย่างแน่นอน

เรื่องนี้ ต้องมีใครบางคนที่ถ้อยคำแฝงนัยกำกวมให้แก่เทพธิดาอวิ๋นเซียวมีผู้ซึ่งไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ เพื่อเปลี่ยนความรู้สึกของนางที่มีต่อเขา จากความรู้สึกคลุมเครือเป็นความรู้สึกของความรักระหว่างชายหญิง

คนผู้นั้น… น่าจะเป็นปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่

แต่ไม่ว่าจะเป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสวรรค์ทงเทียนหรือปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ใดเข้าใจเทพธิดาอวิ๋นเซียวจริงๆ? ผู้ใดจะรู้สึกได้ว่าเทพธิดาอวิ๋นเซียวไม่เข้าใจในความรัก?

ทว่าหลี่ฉางโซ่วรู้ หลี่ฉางโซ่วกระจ่างแจ้งว่า นางไม่เข้าใจจริงๆ

แม้เทพธิดาอวิ๋นเซียวจะแข็งแกร่งและบำเพ็ญเพียรมาเป็นเวลานานแล้ว แต่นางก็เป็นเพียงมือใหม่ที่งุ่มง่ามเงอะงะในด้านนี้

เทพธิดาอวิ๋นเซียวแสดงความปรารถนาดีต่อเขาโดยไม่ตั้งใจออกมาสองสามครั้ง ทำให้หัวใจเต๋าของเขาหวั่นไหว ทว่าแต่ละครั้ง เทพธิดาอวิ๋นเซียวจะยิ้มและเดินผ่านเขาไป นางจะเปิดเผยออกมาโดยไม่ตั้งใจว่า ในระหว่างพวกเขาทั้งสองคน ยังคงมีระยะห่างกันอยู่มาก…

หลี่ฉางโซ่วสรุปง่ายๆ ว่า หากเขาตอบคำถามทั้งห้าตามข้อตกลงของเจ้าสำนักจริงๆ จะทำให้มีปัญหาสามประการอยู่ตรงหน้าเขา

ประการแรก ย่อมเป็นไปได้มากว่า เทพธิดาอวิ๋นเซียวจะตกอยู่ในความขัดแย้งของตัวนางเองและติดอยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ประการที่สอง เขาจะติดบ่วงกรรมของสำนักบำเพ็ญเต๋า และเขาต้องวางแผนต่อต้านมหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพอย่างดีที่สุด

ประการที่สาม เมื่อเขามีปฏิสัมพันธ์กับเทพธิดาอวิ๋นเซียวในระดับหนึ่ง เขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจโดยไม่มีอะไรจะเอ่ยถึง ทั้งนี้เป็นเพราะความเข้าใจในเต๋าใหญ่ของ หลี่ฉางโซ่วนั้น ยังตื้นเขินเกินไปเมื่อเทียบกับเทพธิดาอวิ๋นเซียว

เขาจะจัดการสถานการณ์โดยคำนึงถึงการรักษาใบหน้าให้จอมปราชญ์ และทำให้เทพธิดาอวิ๋นเซียวมีความสุขโดยไม่ส่งผลกระทบต่อความเร็วในการฝึกบำเพ็ญของเขาในยามนี้ได้อย่างไร?

มันย่อมเป็นเรื่องยาก!

………………………………………………………………..