ตอนที่ 640 อาภรณ์ร่วงหล่น ม่านแดงซ่อนมวลบุปผางามแห่งวสันตฤดู

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

ตอนที่​ 640 อาภรณ์​ร่วงหล่น​ ม่าน​แดง​ซ่อน​มวล​บุปผา​งามแห่ง​วสันตฤดู​

เสียง​ของ​นาง​เพิ่ง​เงียบ​ลง​ก็​รู้สึก​ว่า​เวลา​กำลัง​หยุด​หมุน​ พอ​รู้ตัว​อีกที​นาง​ก็​โดน​เขา​พลิก​กาย​ขึ้น​มาทาบ​ทับ​ไว้​แล้ว​ บัณฑิต​น้อย​เงยหน้า​มอง​นาง​ด้วย​สายตา​ที่​ดู​อันตราย​ “ใน​เมื่อ​น้อง​หญิง​เชื้อเชิญ​ สามีก็​คล้อยตาม​…”

“ช้าก่อน​ ! ” พอ​เห็น​เจียง​โม่หา​น​จะเอาจริง​ หลิน​เว่ยเว่ย​ก็​ไม่เล่น​อีกต่อไป​ นาง​กวาดตา​มอง​โดยรอบ​ก่อน​จะหา​ข้ออ้าง​ให้​ตนเอง​ “เอ่อ​ คือ​…สุรา​ยัง​ไม่ได้​แลก​กัน​ดื่ม​เลย​…”

เจียง​โม่หา​น​ยื่นมือ​ไป​หยิบ​จอก​สุรา​ หลัง​ยก​จอก​ทั้งสอง​ขึ้น​มาถือ​ไว้​แล้ว​เขา​ก็​กระดก​ดื่ม​คนเดียว​ จากนั้น​โน้มตัว​ลงมา​ป้อน​นาง​ด้วย​ปาก​ ก่อน​จะพูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ดู​เมามาย​ “น้อง​หญิง​ แลก​สุรา​กัน​เช่นนี้​ เจ้าพอใจ​หรือไม่​ ? ”

ไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะ​ฤทธิ์​สุรา​หรือ​อะไร​กัน​แน่​ หลิน​เว่ยเว่ย​จึงรู้สึก​เวียน​ศีรษะ​ไป​หมด​ ขณะ​กะพริบตา​อัน​พร่ามัว​ นาง​ก็​เลีย​สุรา​บน​ริมฝีปาก​ “รสชาติ​ดี​สุด​ ๆ ไป​เลย​ ! ”

แววตา​ของ​เจียง​โม่หา​น​ดู​ลึกล้ำ​กว่า​เดิม​ทันที​ ตัว​เขา​ว่องไว​ดุจ​พยัคฆ์​พลาง​กด​จูบ​สาวน้อย​อย่าง​ดูดดื่ม​…

เสื้อผ้า​ค่อย ๆ​ ร่วงหล่น​สู่พื้น​ แสงเทียน​พลิ้วไหว​ ม่าน​แดง​ซ่อน​มวล​บุปผา​งามแห่ง​วสันตฤดู​…

เมื่อ​หลิน​เว่ยเว่ย​ตื่นขึ้น​มาใน​วันรุ่งขึ้น​ สามีก็​ออก​ไป​ทำงาน​แล้ว​ นาง​ข่ม​ความรู้สึก​ไม่สบาย​ตัว​เอาไว้​ ขณะ​สวมใส่​เสื้อผ้า​ที่​ถูก​เตรียม​ไว้​ข้าง​เตียง​…ปกติ​นาง​ไม่ให้​สาวใช้​คน​ไหน​เข้า​ห้อง​ง่าย ๆ​ ดังนั้น​เสื้อผ้า​ชุด​ใหม่​นี้​จะต้อง​เป็น​สามีเตรียม​ให้​แน่นอน​

พอ​ลอง​คำนวณ​ดู​แล้ว​ นาง​แต่งงาน​กับ​บัณฑิต​น้อย​มาสามปี​เต็ม​ ในที่สุด​เมื่อคืน​ก็ได้​เป็น​สามีภรรยา​กัน​อย่าง​สมบูรณ์​…นาง​คำนวณ​วันที่​ ก่อน​จะถอนหายใจ​ออกมา​…ยัง​ดี​ที่​ช่วง​สอง​สามวันนี้​เป็นระยะ​ปลอดภัย​ของ​นาง​จึงไม่ต้อง​กังวล​ว่า​จะตั้งครรภ์​ ใช่ว่า​นาง​ไม่อยาก​มีลูก​ แต่​สิ่งที่​ต้อง​ทำ​ในเวลานี้​ยังมี​มากเกินไป​ รอ​อีกหน่อย​แล้วกัน​ !

นาง​เติบ​โตมา​ใน​สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า​ของ​ชาติก่อน​จึงหวัง​ว่า​จะได้​มีครอบครัว​ที่​สมบูรณ์​ ตอนนี้​มีพ่อแม่​ที่รัก​นาง​แล้ว​แถมยังมี​ถึงสองเท่า​ สามีที่​น่ารัก​ก็​มี ขาด​แค่​เด็กน้อย​ตัว​อวบอ้วน​เท่านั้น​ ! ร่างกาย​ของ​นาง​แข็งแรง​ยิ่งกว่า​อะไร​ ลูก​จะต้อง​มีแน่นอน​ แต่​ตอนนี้​ยัง​ไม่รีบ​…

ก่อน​ออก​ไป​ทำงาน​ เจียง​โม่หา​น​ยัง​ไป​ที่​เรือน​ของ​นาง​เฝิงแล้ว​แอบ​พูด​ใน​เชิงที่ว่า​เมื่อคืน​พวก​ตน​ทั้งสอง​เหนื่อย​กัน​มาก​ อย่า​ให้​สาวใช้​ไป​กวน​หลิน​เว่ยเว่ย​ ปล่อย​ให้​นาง​ได้​นอน​พัก​เยอะ​ ๆ หน่อย​

นาง​เฝิงเข้าใจ​ได้​ทันที​ นาง​รีบ​ส่งคน​ไป​แจ้งข่าวดี​นี้​แก่​ตำหนัก​ห​มิน​อ๋อง​และ​ยัง​ให้​ห้องครัว​ต้ม​ยาบำรุง​ หลัง​รอ​ให้​หลิน​เว่ยเว่ย​ตื่น​แล้ว​ ค่อย​ให้​คน​ไป​ส่งถึงห้อง​

หลัง​ดื่ม​ยาบำรุง​แล้ว​หลิน​เว่ยเว่ย​ก็​ไป​คุย​เป็นเพื่อน​นาง​เฝิงที่​เรือน​ ก่อน​จะออก​ไป​ที่​ไร่​…ตอนนี้​อยู่​ใน​ช่วง​ใส่ปุ๋ย​ ดังนั้น​นาง​ต้อง​ไป​คุม​งาน​เสียหน่อย​

โดยเฉพาะ​ข้าว​ขาว​ไม่กี่​หมู่​นั้น​ นาง​ให้​คน​ปล่อย​ลูกปลา​ลง​ใน​นา​ข้าว​ด้วย​ ชาติก่อน​นาง​ได้ยิน​เรื่อง​ ‘การ​เลี้ยง​ปลา​ใน​นา​ข้าว​’ และ​ ‘การ​เลี้ยง​กุ้ง​ใน​นา​ข้าว​’ มาบ้าง​ ไม่รู้​ว่า​ลอง​เลี้ยง​ครั้งแรก​จะได้​ผลลัพธ์​ออกมา​เป็น​อย่างไร​ !

วันนี้​นาง​มาถึงค่อนข้าง​ช้า ขันที​ฝูหรง​ออกมา​เดิน​รอบ​คันนา​ก่อน​แล้ว​ เพื่อ​ป้องกัน​ไม่ให้​ผิว​อัน​บอบบาง​ของ​เขา​โดน​แดด​เผา​ ด้านหลัง​จึงมีขันที​น้อย​คอย​ถือ​ร่ม​ให้​ เมื่อ​เห็น​หลิน​เว่ยเว่ย​วิ่ง​ไป​วิ่ง​มารอบ​ไร่​โดย​ไม่ใส่หมวก​เลย​สักวัน​แต่​ผิวพรรณ​ยัง​ขาว​เหมือนเดิม​ ขันที​ฝูหรง​ก็​รู้สึก​อิจฉา​มาก​ ! ไม่เหมือน​เขา​ที่​แค่​โดน​แดด​ก็​รู้สึก​แสบ​ผิว​ แถมยัง​ผิว​ไหม้​ด้วย​…

หลิน​เว่ยเว่ย​ยืน​อยู่​ข้าง​แปลง​ข้าว​ขาว​ พอ​มองออก​ไป​ก็​เห็น​รวงข้าว​สีเขียว​อม​เหลือง​พร้อม​กลิ่นหอม​อ่อน​ ๆ ถ้าแหวก​รวงข้าว​ออก​ก็​ยัง​เห็น​ปลา​ตัว​แล้ว​ตัว​เล่า​กำลัง​ว่าย​ไปมา​ใน​น้ำ​

ความสนใจ​ของ​ขันที​ฝูหรง​กลับมา​อยู่​ที่​ข้าว​ขาว​เช่นกัน​ เขา​พูด​ด้วย​ความระมัดระวัง​ “องค์​หญิง​ ปลา​ครึ่งหนึ่ง​ที่​เลี้ยง​ใน​นา​ข้าว​ดูจะ​เติบโต​ดีกว่า​ปลา​ใน​บ่อ​ ไม่ทราบ​ว่า​เป็น​เพราะอะไร​หรือ​พ่ะย่ะค่ะ​ ? ”

“เหตุผล​ง่าย​มาก​ เพราะ​ได้​กิน​แมลง​และ​หญ้า​ใน​นา​ข้าว​จึงช่วย​ลด​การ​เกิด​ศัตรูพืช​และ​วัชพืช​ของ​ข้าว​ได้​อย่าง​ดี​ มูล​ที่​ปลา​ขับ​ออกมา​ก็​กลายเป็น​ปุ๋ย​จาก​ธรรมชาติ​ และ​นา​ข้าว​ก็​สร้าง​สภาพแวดล้อม​ที่​ดี​ให้​ปลา​ด้วย​เช่นกัน​ สอง​สิ่งส่งเสริม​ซึ่งกันและกัน​ นอกจากนี้​พวก​หอย​ขม​ยัง​ช่วย​ปรับปรุง​สภาพแวดล้อม​ของ​นา​ข้าว​ ช่วย​ลด​การ​เกิด​โรค​ใน​ข้าว​ได้​ด้วย​ ! ”

ถ้าครั้งนี้​ประสบความสำเร็จ​ หลิน​เว่ยเว่ย​ยัง​คิด​จะทดลอง​เลี้ยง​กุ้ง​ใน​นา​ข้าว​และ​เมื่อ​ถึงเวลา​นั้น​นาง​จะมีกุ้งมังกร​น้อย​ให้​กิน​ได้​ตามใจชอบ​และ​ยัง​สร้าง​รายได้​อีกด้วย​ ! ขณะ​พูด​นาง​ก็​ใช้โอกาส​ที่​คน​รอบตัว​ไม่ทันสังเกต​ยื่นมือ​เข้าไป​ใน​ทุ่ง​แล้ว​เท​น้ำ​จาก​ห้วง​มิติ​ออกมา​…ทดลอง​ปี​แรก​จะทำให้​เสีย​ของ​ไม่ได้​ ประเดี๋ยว​จะทำลาย​ความเชื่อมั่น​ของ​คน​รอบข้าง​

เมล็ดพันธุ์​ของ​ฤดูกาล​นี้​ นาง​หว่าน​เมล็ด​ที่​มาจาก​ห้วง​มิติ​น้ำพุ​วิญญาณ​และ​เมล็ดพันธุ์​ที่​ขน​มาจาก​ภาค​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ เนื่องจาก​ไม่กล้า​ทำให้​มัน​ดู​เกิน​จริง​มาก​ไป​ กลัว​จะสร้าง​ความโกลาหล​…ศูนย์​เพาะ​เมล็ดพันธุ์​จำเป็นต้อง​ค่อย ๆ​ ขยับขยาย​ ! ตอนนี้​ความเสถียร​ของ​เมล็ดพันธุ์​จาก​ห้วง​มิติ​พัฒนา​ขึ้น​มาก​แล้ว​ หาก​นำ​พืชผล​ที่​เก็บเกี่ยว​จาก​ใน​นั้น​ออกมา​ทำเป็น​เมล็ดพันธุ์​ ผลผลิต​ที่​ได้​ก็​จะไม่ลดลง​จน​น่า​ตกใจ​ แต่​รุ่น​สามและ​รุ่น​สี่จะค่อย ๆ​ ลดลง​ ดังนั้น​เพื่อ​ปริมาณ​พืชผล​ที่สูง​ ชาวบ้าน​จึงยัง​ต้อง​ซื้อ​เมล็ดพันธุ์​ต่อไป​

ตอนนี้​ก็​ยัง​ต้อง​เป็น​แบบ​นั้น​ไม่ใช่หรือ​ ? เมล็ดพันธุ์​ที่​ดี​ต้อง​มีการ​หา​ซื้อ​กลับ​ไป​ทุกปี​ !

หลังจาก​เข้า​หอ​กัน​คืน​นั้น​แล้ว​ สอง​สามีภรรยา​ก็​หวาน​ใส่กัน​สุด​ ๆ ใน​แต่ละ​คืน​จะเติมเต็ม​ความหวาน​ให้​กัน​เสมอ​ นาง​เฝิงเห็น​ที่​ตา​ สุข​ที่​ใจ ตอน​ไป​สนทนา​กับ​พระชายา​ที่​ตำหนัก​ นาง​ก็​หุบ​ยิ้ม​ไม่ได้​ “เกรง​ว่า​ประเดี๋ยว​ใน​เรือน​ก็​จะมีเด็ก​เพิ่ม​แล้ว​ พระชายา​จะกลายเป็น​เสด็จ​ยาย​แล้ว​นะ​เพคะ​”

ห​มิน​หวา​งเฟย​ลูบ​ดวง​พักตร์​รูปไข่​ของ​ตน​ ก่อน​จะแสร้ง​ถอนหายใจ​ออกมา​ “แท้จริง​สิ่งที่​ทำให้​คนแก่​ขึ้น​ก็​ไม่ใช่อายุ​ แต่​เป็น​ลูกหลาน​นี่เอง​ ! ”

นางกำนัล​ข้าง​กาย​เข้ามา​ร่วม​สนุก​ “พระชายา​ไม่แก่​เลย​เพคะ​ หาก​พา​หลาน​ออก​นอก​ตำหนัก​ก็​อาจ​มีคน​เข้าใจผิด​ว่า​เป็น​แม่ลูก​กัน​ก็ได้​เพคะ​ ! ”

พระชายา​แค่น​สุรเสียง​ประชด​นางกำนัล​ “ใน​เมืองหลวง​แห่ง​นี้​มีใคร​ไม่รู้จัก​ใคร​บ้าง​ ? หรือ​ร่างกาย​อย่าง​ข้า​ยัง​จะมีลูก​เพิ่ม​ได้​อีก​ ? ผู้ใด​จะเชื่อ​ ? ตอนนี้​ข้า​กำลัง​รอ​ให้​บุตรชาย​ไม่รัก​ดี​คน​นั้น​แต่ง​ลูกสะใภ้​เข้า​บ้าน​ ! เว่ยเอ๋อร์​และ​หา​นเอ๋อร์​ที่​อายุ​น้อยกว่า​เขา​ 3 ปี​จะเป็น​พ่อ​คน​แม่คน​กัน​อยู่แล้ว​ แต่​เขา​ยัง​ไม่เห็น​การ​แต่งงาน​ของ​ตน​เป็น​เรื่องสำคัญ​เลย​ เฮ้อ​…ไม่ว่า​จะมีลูกชาย​ลูกสาว​ก็​เป็น​กรรม​ทั้งนั้น​ ! ”

“เลี้ยงลูก​ 100 ปี​ กังวล​ 99 ปี​ ไม่ใช่คำพูด​นี้​หรือ​เพคะ​ ? ” นาง​หวง​นึกถึง​บุตรชายคนโต​ที่​กลับ​ไป​ยัง​เขต​เริ่น​อัน​เพื่อ​เข้าร่วม​การ​สอบ​เซียง​ซื่อ​ เขา​มีพี่​รอง​ดูแล​มาตั้ง​แต่ต้น​ อีก​แค่​เดือน​เดียว​ก็​จะสอบ​แล้ว​ ไม่รู้​ว่า​อยู่​คนเดียว​จะไหว​หรือเปล่า​ ?

เมื่อ​ห​มิน​หวา​งเฟย​เห็น​แบบ​นั้น​ก็​ตบหลัง​มือ​ของ​นาง​ “มีหา​นเอ๋อร์​คอย​ชี้แนะ​ การ​สอบ​ได้​จู่เห​ริน​ไม่ใช่ปัญหา​แน่นอน​ แต่​บุตรชาย​คน​เล็ก​ของ​เจ้าคน​นั้น​ต่างหาก​ เขา​ตะโกน​บอ​กว่า​ปีหน้า​จะเข้าร่วม​การ​สอบ​ถงเซิง เขา​เพิ่งจะ​อายุ​เท่าไร​ก็​รีบ​จะเข้าสู่​เส้นทาง​ขุนนาง​แล้ว​หรือ​ ? ”

นาง​หวง​ส่ายหน้า​พร้อม​รอยยิ้ม​ขมขื่น​ “เด็ก​คน​นี้​จะแข่ง​กับ​พี่ชาย​เพื่อ​ให้ได้​เป็น​ซิ่ว​ไฉอายุ​น้อยที่สุด​ใน​อำเภอ​เป่า​ชิง ! เจ้าตัวแสบ​เพิ่ง​เรียนหนังสือ​ได้​ไม่กี่​ปี​ก็​ไม่รู้​ฟ้าสูงแผ่นดิน​ต่ำ​ เห็น​ซิ่ว​ไฉเป็น​แค่​ผักกาด​ขาว​ที่​อยาก​กิน​เมื่อใด​ก็ได้​หรือ​ไร​ ? ”

“หา​นเอ๋อร์​ไม่ได้​ชมเอ้อร์ฮว๋า​แค่​ครั้ง​เดียว​ แต่​บอ​กว่า​เขา​มีพรสวรรค์​ใน​การ​อ่าน​ตำรา​ ท่าทาง​จะฉลาด​กว่า​หา​นเอ๋อร์​ตอน​เป็น​เด็ก​ด้วยซ้ำ​ เอ้อร์ฮว๋า​โดน​พี่สาว​พา​ไป​ที่​ไร่​บ่อย ๆ​ ไม่ใช่หนอนหนังสือ​ที่​เอาแต่​เพ่ง​ตำรา​หรอก​ ต่อไป​ต้อง​มีอนาคต​ที่​ดี​แน่นอน​ ! ” นาง​เฝิงหันไป​พูด​กับ​นาง​หวง​ที่อยู่​ด้าน​ข้าง​ด้วย​รอยยิ้ม​