ตอนที่ 641 มีคำว่าวัง เบื้องหลังเป็นผู้ใดคงไม่ต้องเดา

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

ตอนที่​ 641 มีคำ​ว่า​วัง​ เบื้องหลัง​เป็น​ผู้ใด​คง​ไม่ต้อง​เดา​

แม้ว่า​นาง​หวง​จะมีนิสัย​อ่อนโยน​และ​ไร้​ความทะเยอทะยาน​ แต่​บุตรชาย​บุตรสาว​กลับ​มาก​ด้วย​ความสามารถ​ สามีก็​ยัง​เป็น​ถึงขุนนาง​ขั้น​สาม ! ฮ่าฮ่า คนโง่​ย่อม​มีโชค​ของ​คนโง่​จริง ๆ​ !

นาง​หวง​หัวเราะ​เบา​ ๆ ขณะ​ถัก​ไหมพรม​ไป​พลาง​พูด​ไป​ด้วย​ “ขอให้​เป็น​ดั่ง​ที่​น้อง​สะใภ้เฝิงพูด​ก็แล้วกัน​”

หลิน​เว่ยเว่ย​ไม่รู้​ว่า​หลังจาก​บรรดา​ผู้อาวุโส​กระตุ้น​ให้​นาง​เข้า​หอ​แล้ว​ยัง​อยาก​ให้​นาง​มีลูก​ทันที​ ชีวิต​ของ​นาง​ค่อย ๆ​ เลื่อน​ไป​ข้างหน้า​ระหว่าง​ไร่​และ​สกุล​เจียง​ ใน​บางครั้งบางคราว​ ตัวนาง​ ติง​ห​ลิง​เอ๋อร์​ ห​ยาน​ชิงชิงและ​โม่ชิงหลี​ก็​มารวมตัวกัน​ ใน​สามปี​ที่อยู่​ภาค​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ไม่ได้​ทำให้​ความสัมพันธ์​ของ​พวก​นาง​จืดจาง​ลง​เลย​ ใน​วันที่​องค์​หญิง​เจียว​เจียว​อภิเษกสมรส​ พี่น้อง​กลุ่ม​นี้​ต่าง​ถูก​เรียก​มารวมตัวกัน​เพื่อ​เป็น​ผู้​หนุนหลัง​…ราชบุตร​เขย​ที่​เพิ่ง​ออกจาก​เตา​จึงทำ​สีหน้า​หมดอารมณ์​ทันที​ นี่​คิด​จะข่ม​เขา​หรือ​อย่างไร​ ?

หลังจาก​องค์​หญิง​เจียว​เจียว​ออกเรือน​แล้วก็​ย้าย​มาพำนัก​ที่​ตำหนัก​องค์​หญิง​นอก​วังหลวง​ เพื่อ​จะได้​สะดวก​ใน​การไปมาหาสู่​กับ​เรือน​สกุล​เจียง​ด้วย​ เห​มิงชิงเห​อ​รู้​ว่า​ภรรยา​สนิท​กับ​องค์​หญิง​เว่ยเว่ย​จึงไม่ได้​ห้าม​ เพราะ​ทุกครั้งที่​องค์​หญิง​เจียว​เจียว​กลับ​จาก​สกุล​เจียง​ เห​มิงชิงเห​อ​ก็ได้​ลาภปาก​ไป​ด้วย​ เขา​ได้​ลิ้มรส​อาหาร​และ​ขนม​เลิศ​รส​มากมาย​ที่​หา​ซื้อ​ไม่ได้​จาก​ที่ใด​

เขา​ถอนหายใจ​พลาง​กล่าว​ “เจียว​เจียว​ ฝีมือ​ของ​พี่สาว​เจ้าคน​นี้​ หาก​เปิด​ร้านอาหาร​จะต้อง​ล้ม​ร้านอาหาร​หรือ​โรงเตี๊ยม​เก่าแก่​เหล่านั้น​ใน​เมืองหลวง​ได้​แน่นอน​ แล้ว​คน​ตะกละ​ที่อยู่​รอบกาย​ข้า​ก็​จะได้​มีลาภปาก​ไป​ด้วย​ ! ”

องค์​หญิง​เจียว​เจียว​มีดวง​เนตร​เปล่งประกาย​ทันที​ นาง​เข้าไป​กอด​แขน​ราชบุตร​เขย​แล้ว​ตรัส​ด้วย​ดวง​เนตร​พราว​ระยับ​ “เห​มิงชิงเห​อ​ เจ้าคิด​ว่า​หาก​ข้า​ร่วม​ลงทุน​เปิด​ร้านอาหาร​กับ​พี่​เว่ยเว่ย​จะเป็น​อย่างไร​ ? ”

เห​มิงชิงเห​อ​คุ้นชิน​กับ​การ​ที่​ภรรยา​เรียกชื่อ​พร้อม​แซ่อย่าง​เต็มยศ​แล้ว​ หลัง​ครุ่นคิด​เขา​ก็​ส่ายหน้า​ “คง​ไม่เหมาะสม​ ! เจ้าลอง​คิดดู​สิ อาหาร​เป็น​ของ​ที่​องค์​หญิง​เว่ยเว่ย​ทำ​ นาง​ยังมี​ร้านค้า​และ​คนงาน​จาก​ตำหนัก​ห​มิน​อ๋อง​พร้อมสรรพ​…ถ้าเจ้าจะเข้าไป​ร่วม​ด้วย​ ก็​ไม่เท่ากับ​อยาก​เอาเปรียบ​คนอื่น​หรือ​ ? แม้จะเป็น​พี่น้อง​แท้ ๆ​ และ​สนิทสนม​กัน​ขนาด​ไหน​ก็​ไม่ทำ​แบบ​นั้น​ ! ”

องค์​หญิง​เจียว​เจียว​สะบัด​แขน​ของ​เขา​ออก​ด้วย​ความโมโห​ “พี่​เว่ยเว่ย​ไม่ใช่คน​อย่าง​ที่​เจ้าเอ่ยถึง​ ! ข้า​เอง​ก็​ไม่ได้​จะไป​เอา​ผลประโยชน์​จาก​นาง​เปล่า​ ๆ พี่สาว​มีคน​ช่วย​มากมาย​ นาง​แค่​ทำ​เรื่อง​ฝึก​คนงาน​ใน​ครัว​ ส่วน​เรื่อง​อื่น​พวกเรา​เป็น​คน​จัดการ​เอง​ ส่วนแบ่ง​ก็​ง่าย​นิดเดียว​คือ​นาง​ได้​ไป​มากกว่า​…ข้า​ไม่ได้​ทำ​เพราะ​อยากได้​ผลประโยชน์​จาก​ร้านอาหาร​เสียหน่อย​ พี่สาว​งาน​เยอะ​เกินไป​ อย่างไร​ข้า​จะไป​กวน​ทุกวัน​ก็​ไม่ได้​ใช่ไหม​เล่า​ พอ​ต่อไป​อยาก​กิน​อะไร​ขึ้น​มาก็​จะได้​มีที่​เอาไว้​หา​ของกิน​ต่างหาก​ ! ”

เห​มิงชิงเห​อ​ครุ่นคิด​แล้ว​พูด​กับ​นาง​ว่า​ “คราวหน้า​เจ้าไปหา​นาง​ก็​ลอง​ถามดู​ว่า​องค์​หญิง​เว่ยเว่ย​มีความคิด​จะเปิด​ร้านอาหาร​หรือเปล่า​ ถ้ามี เจ้าก็​ค่อย​ถามเรื่อง​ลงทุน​ ! จริง​สิ เจ้ามีหลงจู๊​ที่​เก่งกาจ​แล้ว​หรือยัง​ ? อยาก​ให้​ข้า​ช่วย​หา​สัก​คน​หรือไม่​ ? ”

องค์​หญิง​เจียว​เจียว​ตรัส​ด้วย​น้ำเสียง​หนักแน่น​ “ก่อนหน้านี้​ข้า​อยู่​ใน​วังหลวง​มาโดยตลอด​ คน​ที่​ใกล้ชิด​หาก​ไม่ใช่นางกำนัล​ก็​เป็น​ขันที​ แล้ว​คน​พวก​นั้น​จะเข้าใจ​อะไร​ได้​ ? ถ้าพี่​เว่ยเว่ย​ยินดี​ร่วม​ลงทุน​กับ​เรา​ เรื่อง​อื่น​จะยก​ให้​เจ้าจัดการ​แล้วกัน​ ! เจ้าเป็น​ราชบุตร​เขย​ พวกเรา​เป็น​สามีภรรยา​แล้ว​จะแบ่งแยก​อะไร​กัน​ทำไม​ จริง​หรือไม่​ ? ” พี่​เว่ยเว่ย​บอก​ไว้​แล้ว​ว่า​ของ​เจ้าก็​คือ​ของ​ข้า​ ของ​ข้า​ก็​ยัง​เป็น​ของ​ข้า​ ฮึฮึ ! !

เห​มิงชิงเห​อ​เข้าไป​โอบ​รอบเอว​ของ​องค์​หญิง​น้อย​พร้อม​รอยยิ้ม​ ก่อน​จะก้มลง​จุมพิต​ใบ​หู​ของ​นาง​ “รับ​ด้วย​เกล้า​พ่ะย่ะค่ะ​ กระหม่อม​จะทำตาม​บัญชา​ของ​องค์​หญิง​อย่าง​สุดความสามารถ​…”

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ ภายใน​เมืองหลวง​ก็​มีร้านอาหาร​ที่​ตกแต่ง​อย่าง​หรูหรา​ผุด​ขึ้น​ โดย​มีนาม​ว่า​ ‘ร้านอาหาร​ชาววัง​’ ใน​เขต​เมืองหลวง​ชั้นใน​มีคน​ร่ำรวย​อยู่​มากมาย​ การ​ที่​กล้า​ใช้คำ​ว่า​ ‘ชาววัง​’ เบื้องหลัง​จะต้อง​เป็น​คนใน​ราชวงศ์​แน่นอน​ !

‘ร้านอาหาร​ชาววัง​’ มีอาหาร​ตั้งแต่​ภาคเหนือ​จรด​ภาคใต้​ เมนู​แนะนำ​มีอยู่​ใน​อาหาร​แทบ​ทุก​ภาค​ คน​ไม่รู้​ก็​เกือบ​เข้าใจผิด​ว่า​ย้าย​อาหาร​มาจาก​ห้องเครื่อง​วังหลวง​ด้วยซ้ำ​ ! ประเด็นสำคัญ​คือ​อาหาร​ทุกชนิด​ของ​ ‘ร้านอาหาร​ชาววัง​’ ล้วน​เป็น​ของ​ชั้นเลิศ​ รสชาติ​ดี​สุด​ ๆ ทำให้​คน​ที่​ได้​ลิ้มลอง​ยาก​จะลืมเลือน​

‘ร้านอาหาร​ชาววัง​’ มีขนาด​สามชั้น​สามห้องโถง​ ห้องอาหาร​ส่วนตัว​ขนาดเล็ก​ใหญ่​มีถึง 30 ห้อง​ มื้อ​เที่ยง​และ​มื้อ​เย็น​ต่าง​อัด​แน่น​ไป​ด้วย​ผู้คน​และ​ยัง​ไม่รับ​จอง​ด้วย​ หรือ​จะพูด​ว่าการ​ได้​กิน​อาหาร​ของ​ร้าน​นี้​ต้อง​ขึ้นอยู่กับ​วาสนา​ !

ส่วน​เจ้าของ​ ‘ร้านอาหาร​ชาววัง​’ เป็น​ใคร​ ? คน​ฉลาด​ต่าง​รู้กัน​ทั้งนั้น​…แม้แต่​คุณชาย​เจ้าสำราญ​ผู้​เกเร​ที่สุด​ใน​เมืองหลวง​ก็​ยัง​ไม่กล้า​มาหาเรื่อง​ร้านอาหาร​แห่ง​นี้​เลย​ ยัง​ไม่พูดว่า​องค์​หญิง​ทั้งสอง​เป็น​คนสำคัญ​ของ​ฮ่องเต้​ เพราะ​แค่​กิตติศัพท์​ของ​องค์​หญิง​เว่ยเว่ย​และ​เบื้องหลัง​อย่าง​ตำหนัก​ห​มิน​อ๋อง​ คน​ที่​กล้า​มาหาเรื่อง​ ‘ร้านอาหาร​ชาววัง​’ ก็​คง​คิด​ว่า​ตัวเอง​มีชีวิต​อยู่​นาน​เกินไป​แล้ว​ !

ถ้าอยาก​กิน​อาหาร​เลิศ​รส​ของ​ ‘ร้านอาหาร​ชาววัง​’ มีเพียง​วิธี​เดียว​เท่านั้น​…ต้อง​เข้าแถว​รอ​ต่อไป​ !

ต่อจากนั้น​ก็​เป็น​การปฏิรูป​เรื่อง​เก็บภาษี​ร้านค้า​ เมื่อก่อน​ไม่ว่า​ขนาด​ของ​ร้าน​หรือ​รายได้​เท่าไร​ต่าง​ยึด​ตาม​ภาษีรูปแบบ​เดียว​ มีร้านค้า​เล็ก​ ๆ มากมาย​ที่​โดน​ภาษีกด​จน​หายใจไม่ออก​ ส่วน​ร้านค้า​ขนาดใหญ่​ก็​ต้อง​อยู่​ภายใต้​บุคคล​ทรงอำนาจ​เพราะ​จะช่วย​เลี่ยง​ภาษีหรือ​ลดหย่อน​ภาษีให้ได้​

มีร้านค้า​ไม่กี่​แห่ง​ใน​เมืองหลวง​ที่​มีรายได้​ 10,000 ตำลึง​เงิน​ต่อ​เดือน​ แต่​เก็บภาษี​ร้านค้า​สู้ภาษีธัญพืช​ไม่ได้​…เจียง​โม่หา​น​ผู้​เป็นรอง​ผู้ตรวจการ​ซุ่น​เทียน​ รับผิดชอบ​เรื่อง​เก็บภาษี​ร้านค้า​ใน​เมืองหลวง​และ​หัวเมือง​โดยรอบ​ หลังจาก​เข้า​รับ​ตำแหน่ง​แล้วก็​ทูล​ฮ่องเต้​ว่า​ ‘ปฏิรูป​ภาษีร้านค้า​ ! ’

การปฏิรูป​ภาษีร้านค้า​จำเป็นต้อง​ไป​แตะ​ผลประโยชน์​ของ​คน​บาง​กลุ่ม​ แต่​ตำหนัก​ห​มิน​อ๋อง​ ตำหนัก​หนิง​อ๋อง​ ตำหนัก​องค์​หญิง​น้อย​ก็​ออกมา​เป็น​ผู้นำ​ใน​การ​ใช้ระบบ​ภาษีร้านค้า​รูปแบบ​ใหม่​ก่อน​ใคร​เพื่อน​ หนิง​ตง​เซิ่งและ​ตระกูล​ลู่​ที่​ได้​ลืมตาอ้าปาก​ใน​เมืองหลวง​ก็​ออกมา​แสดงท่าที​…ใคร​ไม่รู้​บ้าง​ว่า​สอง​ตระกูล​นี้​อยู่​บน​เรือ​ของ​องค์​หญิง​เว่ยเว่ย​ ?

ฮ่องเต้​ก็​ไม่สนใจ​คำ​คัดค้าน​ของ​ขุนนาง​อาวุโส​ทั้งหลาย​ ทรง​ผลักดัน​การ​เก็บภาษี​รูปแบบ​ใหม่​และ​พระราชทาน​รางวัล​ให้​ตระกูล​หนิง​และ​ตระกูล​ลู่​ที่​ช่วยกัน​ผลักดัน​ระบบ​ภาษีใหม่​ โดย​ให้​คนรุ่นหลัง​ของ​พวกเขา​ได้รับ​เงื่อนไข​พิเศษ​ใน​การ​เข้าร่วม​การ​สอบ​ขุนนาง​ได้​

บรรดา​พ่อค้า​ราย​อื่น​ใน​เมืองหลวง​ได้​เห็น​แบบ​นั้น​แล้วก็​นั่ง​ไม่ติด​อีกต่อไป​…ต้อง​ทราบ​ก่อน​ว่า​ตั้งแต่​โบราณ​มาพ่อค้า​เป็น​ชนชั้นต่ำ​ที่สุด​ใน​สังคม​ แม้จะมั่งคั่ง​แต่​ไม่ว่า​เจอ​ใคร​ก็​ต้อง​ก้มหัว​ให้​ทั้งนั้น​เพื่อ​ขอ​ที่หลบภัย​หรือ​แม้แต่​ยอม​สละ​เงินก้อน​โต​ให้​ผู้มีอำนาจ​ ถ้าคนใน​ตระกูล​สอบ​จอหงวน​ได้​ก็​อาจ​มีรุ่น​ใด​รุ่น​หนึ่ง​ที่​สร้าง​ความเจริญรุ่งเรือง​ เชิดชู​วงศ์ตระกูล​ เปลี่ยน​ชนชั้น​ครอบครัว​ได้​ด้วย​…

ด้วยเหตุนี้​ การ​เก็บภาษี​ร้านค้า​รูปแบบ​ใหม่​จึงได้รับ​การ​สนับสนุน​จาก​พ่อค้า​ทั่ว​เมืองหลวง​อย่าง​รวดเร็ว​ ครอบครัว​ที่​มั่งคั่ง​เหล่านั้น​เห็น​องค์​หญิง​ทั้งสอง​เปิด​ ‘ร้านอาหาร​ชาววัง​’ กิจการ​เพิ่ง​เริ่ม​ได้​แค่​เดือน​เดียว​ก็​มีการ​ถือ​สมุดบัญชี​ออกมา​ประกาศ​ว่า​ยอม​เสีย​ภาษีการค้า​สอง​ใน​สิบ​ส่วน​…หาก​ผลประกอบการ​รายเดือน​เกิน​ 50,000 ตำลึง​เงิน​จะต้อง​จ่าย​ภาษีสอง​ส่วน​

ขณะที่​พวก​ชนชั้น​สูงศักดิ์​ตกใจ​กับ​ความ​รวดเร็ว​ใน​การ​ทำเงิน​ของ​ ‘ร้านอาหาร​ชาววัง​’ พวกเขา​ก็​ยัง​แอบ​ด่า​องค์​หญิง​ทั้งสอง​ว่า​เป็น​คน​โง่เขลา​ด้วย​…ผลประกอบการ​เกิน​ 50,000 ตำลึง​เงิน​ต้อง​จ่าย​ภาษี 10,000 ตำลึง​เงิน​ โง่จน​ไม่เหลือ​สมอง​แล้ว​หรือ​ไร​ ?

ถ้าไม่ยอม​จ่าย​ รอง​ผู้ตรวจการ​เจียง​ที่​สมควร​ตาย​คน​นั้น​ก็​จะดึง​ข้อมูลออก​มาจาก​ทะเบียนการค้า​ว่า​มีร้าน​ใด​เกี่ยวข้อง​อีก​บ้าง​ จากนั้น​คำนวณ​รายได้​ต่อ​เดือน​…สิ่งสำคัญ​คือ​ตัว​เลขที่​เขา​คำนวณ​ออกมา​จะตรง​กับ​ข้อมูลจริง​ที่​ร้านค้า​พยายาม​ปกปิด​สุด​ ๆ

คน​ที่​ไม่ยอม​จ่าย​ เมื่อ​เข้าสู่​ท้องพระโรง​แล้วก็​จะโดน​ฮ่องเต้​ขานชื่อ​ หาก​ไม่อ้างว่า​ลูกหลาน​ใน​ตระกูล​ไร้ความสามารถ​จน​ก่อเรื่อง​ขึ้น​มา ก็​มัก​กล่าว​หาว่า​โดน​ฝ่าย​ตรวจการ​ใส่ร้าย​ ผู้นำ​ตระกูล​จึงโดน​ฮ่องเต้​ด่าทอ​สารพัด​…จน​พวกเขา​ต้อง​ยอม​จ่าย​ภาษี…

หลิน​เว่ยเว่ย​ผู้​เป็น​คน​หน้า​เงิน​คน​หนึ่ง​จะไม่ปวดใจ​กับ​เงิน​ของ​ตน​ได้​อย่างไร​ ? แต่​การ​เก็บเกี่ยว​ใน​ฤดูใบไม้ร่วง​กำลังจะ​มาถึงแล้ว​ จิตใจ​ของ​หลิน​เว่ยเว่ย​จึงจดจ่อ​อยู่​ที่​ไร่​ทั้งสอง​จน​ไม่มีเวลา​มาสนใจ​เรื่อง​นี้​ ฮ่องเต้​ก็​ให้ความสำคัญ​กับ​การ​เก็บเกี่ยว​ใน​ฤดูใบไม้ร่วง​เช่นกัน​จึงส่งองค์​รัชทายาท​มาดู​การ​เก็บเกี่ยว​ของ​ ‘ไร่​ทดลอง​การเกษตร​แบบ​ผสมผสาน​’