บทที่ 626 นางยังเป็นเพียงเด็ก

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 626 นางยังเป็นเพียงเด็ก

บทที่ 626 นางยังเป็นเพียงเด็ก

“พี่ใหญ่ รีบตัดสินใจเถอะ ท่านกำลังลำเอียง น้องชายกับน้องสะใภ้ของท่านรู้ดี พวกเขาจะไม่โทษท่านแน่นอน!” เฉาซื่อพูดอีกครั้ง

ป้าจางกำลังจะเป็นบ้าอยู่แล้ว

คนเหล่านี้กล่าวหาว่ากู้เสี่ยวหวานถูกวิญญาณร้ายสิง? ทั้งยังบอกว่าจะเผานาง?

นางกลายเป็นคนฉลาดหมายความว่านางต้องถูกวิญญาณร้ายสิงอย่างนั้นหรือ?

คนพวกนี้โดนลาเตะหัวหรืออย่างไรกัน?

ป้าจางยังคงเดินหน้าต่อไป คนเหล่านั้นไม่มีความสุขเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเป็นป้าจาง ป้าจางและกู้เสี่ยวหวานมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ในเวลานั้นนางสัญญาว่าจะช่วยกู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ จนพวกเขาโตขึ้น

ในเวลานี้นางมาทำอะไรที่นี่?

ชาวบ้านที่กำลังเฝ้าดูอยู่นั้นกล้าพอที่จะขวางทางของป้าจาง และพูดอย่างไม่พอใจว่า “เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”

อย่างไรก็ตาม ป้าจางคร้านที่จะสนใจพวกเขา ดังนั้นจึงก้าวต่อไปข้างหน้า แต่คนเหล่านั้นจะปล่อยให้นางไปรบกวนผู้คนบนแท่นสูงได้อย่างไร

ป้าจางเดินเข้ามาด้วยใบหน้าถมึงทึง ทุกคนล้วนรับรู้ว่านางดูแลครอบครัวของกู้เสี่ยวหวานเป็นอย่างดี ดังนั้นนางจะต้องมีเจตนาไม่ดี บางทีนางอาจต้องการไปช่วยกู้เสี่ยวหวาน

คนเหล่านั้นจึงทำกิริยาหยาบคายใส่ป้าจาง จับมือนางเอาไว้ไม่ให้เดินขึ้นไป

“พวกเจ้ากำลังทำอะไร? พวกเจ้ากำลังทำอะไรอยู่?” เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังรั้งนางไว้ ป้าจางก็กังวล เมื่อมองไปที่ท่าทีน่าขยะแขยงของคนเหล่านี้ จากนั้นมองขึ้นไปข้างบน กู้เสี่ยวหวานกำลังนอนนิ่งอยู่บนพื้นโดยไม่รู้ว่านางตายหรือมีชีวิตอยู่

“ไม่ได้ทำอะไร มีบางอย่างเกิดขึ้นที่ชั้นบน เจ้าจะขึ้นไปทำอะไรบนนั้น? เจ้าคงไม่ได้พยายามช่วยกู้เสี่ยวหวานหรอกใช่หรือไม่?” คนผู้นั้นโต้กลับ

“เสี่ยวหวานยังเป็นเด็กอยู่ นางจะถูกวิญญาณร้ายเข้าสิงได้อย่างไร! ปล่อยนะ พวกเจ้ากำลังจะฆ่าคน!” ป้าจางกังวล

การแสดงออกของกู้ฉวนลู่ผ่อนคลายลงเล็กน้อยกว่าเมื่อก่อน ราวกับว่าเขากำลังจะพูดความคิดของเขา

“ข้าไม่มีความเห็น เพื่อเห็นแก่ชาวบ้านในหมู่บ้านอู๋ซีทั้งหมด ข้าทำได้เพียงขอโทษต่อน้องรองเท่านั้น!” หลังจากกู้ฉวนลู่พูดเช่นนี้ ราวกับได้กลืนกินพลังไปทั้งตัว เขามองดูกู้เสี่ยวหวานที่นอนอยู่บนพื้นด้วยความทุกข์ยากและถอนใจยาว

จากนั้นก็ไม่มองมันอีกเลย เขาถอยห่างออกไป ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ ใบหน้าของเขามืดมน ท่ามกลางความมืด จึงมองเห็นสีหน้าของเขาได้ไม่ชัดเจน

หลังจากฟังคำพูดของกู้ฉวนลู่แล้ว คนอื่น ๆ บนแท่นสูงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ทังป้านเซียนเผยร้อยยิ้มเล็กน้อยบนใบหน้า และมองไปที่กู้ฉวนลู่ด้วยรอยยิ้มลึกลับ

ทุกคนในกลุ่มผู้ชมต่างปรบมือ และพูดว่ากู้ฉวนลู่ว่าเป็นคนดีและมีคความชอบธรรม

แน่นอนว่าพวกเขาทั้งหมดเห็นด้วย นั่นเป็นเพราะไม่ใช่ลูกสาวของพวกเขาที่จะถูกเผาตาย

ป้าจางกังวลจนแทบจะเสียสติ ทันใดนั้นนางก็รู้สึกว่าไม่ควรรีบเข้าไปในฝูงชนอย่างอุกอาจ นางรู้ว่าควรกลับไปรอฉือโถวกลับมา มันคงจะดีกว่านี้แน่นอนถ้ามีคนคอยช่วยนาง ดีกว่าที่จะอยู่คนเดียวเช่นตอนนี้

ป้าจางรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย อยากหลุดพ้นจากพันธนาการของคนผู้นั้น หากแต่คนเหล่านั้นไม่ยอมเปล่านางไป

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงจึงกล่าวว่า “คุณชายกู้มีความชอบธรรม และมันคือความรุ่งโรจน์ของหมู่บ้านอู๋ซีของเราอย่างแท้จริง!”

ทุกคนยกนิ้วโป้ง และกล่าวป้อยอว่ากู้ฉวนลู่เป็นคนดี

กู้ฉวนลู่ฟังทุกคนสรรเสริญจากด้านหลัง ใบหน้าของเขาดูดีขึ้น ไม่หดหู่เหมือนเมื่อก่อน

กู้ฉวนลู่ตกลงแล้ว และหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็กล่าวขึ้นด้วยเสียงอันดังในเวลานี้ “มัดกู้เสี่ยวหวานกับกองฟืน!”

ป้าจางมองดูอย่างช่วยไม่ได้ ในขณะที่คนแข็งแรงยกกู้เสี่ยวหวานขึ้นราวกับลูกไก่ และผูกนางไว้กับกองฟืน

ด้านล่างเป็นกองฟืน มีท่อนไม้ขนาดใหญ่วางอยู่ตรงกลาง และถูกมัดเอาไว้ด้วยเชือกแดงอย่างแน่นหนา

ใบหน้าของกู้เสี่ยวหวานซีดเซียว นางถูกมัดไว้กับท่อนไม้ ศีรษะของนางห้อยลง และนางก็หมดสติไปโดยสมบูรณ์

ป้าจางทนไม่ไหวอีกต่อไป นางกัดมือคนที่จับแขนนางไว้ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนกรีดร้อง เขาต้องการคว้าตัวป้าจางไว้ แต่ป้าจางพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะวิ่งออกจากฝูงชนมาที่กองฟืน และตะโกนอย่างน่าสังเวช “เสี่ยวหวาน เสี่ยวหวาน …”

ศีรษะของกู้เสี่ยวหวานห้อยลง ไร้เสียงตอบกลับราวกับนางตายไปแล้ว

หัวใจของป้าจางทั้งตื่นตระหนกและหวาดกลัว เมื่อเห็นสภาพของกู้เสี่ยวหวาน นางอยากจะรีบไปช่วยเด็กที่น่าสงสารคนนั้น นางมีความคิดนี้ แต่ถูกหยุดไว้โดยคนรอบตัว

ชายฉกรรจ์ที่มัดกู้เสี่ยวหวานได้รั้งป้าจางไว้ นางทั้งตะเกียกตะกายดีดดิ้นร้องตะโกนเสียงดัง “หัวหน้าหมู่บ้านเหลียง กู้ฉวนลู่ เสี่ยวหวานยังเป็นเด็ก นางยังเด็กอยู่!”

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงจะไม่รู้ว่าป้าจางจะเร่งรีบได้อย่างไร แต่ตอนนี้เขาไม่กลัวอีกต่อไป นางถูกผูกติดอยู่กับกองฟืนแล้ว มันสายเกินไปที่จะช่วยนางแล้ว

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงแอบภูมิใจในตัวเอง แต่เขาทำได้เพียงแสดงสีหน้าเศร้า ๆ “จางซื่อ เจ้ามาแล้ว! ”

ดูเหมือนว่าการมาของป้าจางจะน่าอึดอัดเล็กน้อย

ท้ายที่สุด ทุกคนต่างรู้ว่าครอบครัวจางมีความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวของกู้เสี่ยวหวาน และเด็กเหล่านี้รอดชีวิตได้ด้วยความช่วยเหลือจากครอบครัวจาง

เมื่อเห็นชายฉกรรจ์ที่จับป้าจางไว้ หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็รีบตะโกนสั่ง “พวกเจ้ายังไม่รีบปล่อยนางอีก!”

แม้ว่าครอบครัวจางจะไม่ได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน แต่ครอบครัวนี้อยู่ที่บนสุดของหมู่บ้าน และถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับผู้คนในหมู่บ้านมากนัก แต่ครอบครัวจางก็มีอัธยาศัยดีและยังเป็นประโยชน์ และมีชื่อเสียงที่ดีมากในหมู่บ้าน!

นอกจากนี้ ในตอนนั้นนางยังได้พาทุกคนมาร่วมกันทำกล่องไม้ไผ่เพื่อหารายได้ และคนในหมู่บ้านก็เคารพพวกเขาเป็นอย่างมาก

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็ไม่ต้องการที่จะรุกรานครอบครัวจาง

ท้ายที่สุด ผู้คนในหมู่บ้านนี้ต้องพึ่งพาครอบครัวจางเพื่อหาเงินจากการสานกล่องไม้ไผ่! ไม่รู้ว่าในเวลานั้นกู้เสี่ยวหวานไปลงนามในสัญญาแบบไหนกับร้านในเมืองรุ่ยเสียน

พวกเขาต้องการส่งกล่องไม้ไผ่ด้วยตัวเอง แต่คนเหล่านั้นไม่รับ ไม่เพียงแต่ไม่ยอมรับ แต่ยังขับไล่พวกเขาออกไปด้วย และกล่าวว่าหากทำเช่นนี้อีกครั้ง พวกเขาจะไม่ยอมรับกล่องไม้ไผ่ที่พวกเขามอบให้กับครอบครัวจางในอนาคตอีก

เดิมทีได้อธิบายไปแล้วว่านางไม่ควรออกมาในเวลานี้ และเขาก็ไม่ได้คาดหวังว่านางจะมา

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แต่ในเมื่อนางมาแล้ว และป้าจางรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะช่วยกู้เสี่ยวหวาน ดังนั้นเขาจึงเกลี้ยกล่อมให้นางหยุดสร้างปัญหา!

ในหมู่บ้านอู๋ซี ท้องฟ้ากำลังจะพลิกกลับ