บทที่ 634 ไม่มีวันไหนราบรื่นกว่าวันนี้อีกแล้ว
บทที่ 634 ไม่มีวันไหนราบรื่นกว่าวันนี้อีกแล้ว
องค์รัชทายาทกล่าวว่า “ข้าไม่ได้เจออาซือมาสักระยะหนึ่งแล้ว ข้าอยากเจอนาง”
“ถ้าองค์รัชทายาททรงอยากเจอพี่หลินซือ เสด็จไปหาก็จบแล้วไม่ใช่หรือ? ไม่ว่าอย่างไร พระองค์ก็ทรงเป็นถึงองค์รัชทายาท อย่างไรเสีย นางก็ไม่ให้พระองค์รอด้านนอกหรอกเพคะ”
“ถ้าเป็นเช่นนี้ ข้าจะได้พูดคุยกับอาซือได้อย่างไร ลู่เหยา เจ้าต้องช่วยข้า”
“องค์รัชทายาท คราวที่แล้วพี่หลินซือผิดหวังกับหม่อมฉันมาก หม่อมฉันไม่อยากหลอกลวงนางอีกแล้ว” ความจริงแล้วลู่เหยาไม่อยากเป็นพยานความรักขององค์รัชทายาทที่ทรงมีต่อหลินซือเท่านั้น
“ข้าไม่ได้ให้เจ้าไปหลอกนาง ข้าแค่อยากให้เจ้าถ่วงเวลาเจี่ยงเถิง”
“ใต้เท้าเจี่ยง? แต่หม่อมฉันกับเขาไม่ได้สนิทกันนะเพคะ”
“ไม่เป็นไร เจ้าแค่ใช้คุณสมบัติพิเศษของตัวเองก็พอ เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นเด็กสาวอ่อนแอไร้ที่พึ่งพิง เจี่ยงเถิงไม่มีทางยืนนิ่งดูดายแน่นอน”
เจี่ยงเถิงเข้าใจองค์รัชทายาท แต่ในขณะเดียวกัน องค์รัชทายาทก็เข้าใจเจี่ยงเถิงเช่นกัน
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเรื่องในราชสำนัก เจี่ยงเถิงและองค์รัชทายาทต่างพร้อมใจร่วมมือกัน แต่เรื่องของหลินซือ ทั้งสองคนอยู่คนละฝั่งโดยสิ้นเชิง
“หม่อมฉันกลัวว่าจะทำออกมาได้ไม่ดี…”
“ข้าเชื่อใจเจ้า”
“เช่นนั้น…ก็ได้เพคะ”
อาจเพราะไม่เคยเรียนรู้วิธีการปฏิเสธผู้อื่น ลู่เหยาจึงต้องตอบรับในท้ายที่สุด
นางรู้ว่าองค์รัชทายาทกำลังตามตื๊อพี่หลินซือ ถ้าตัวเองไม่ตอบตกลง องค์รัชทายาทจะต้องไปหาคนอื่นแน่นอน แต่แบบนี้ไม่สู้ช่วยองค์รัชทายาทเองดีกว่า
“ดีมาก ไม่มีวันไหนเหมาะสมเท่าวันนี้อีกแล้ว”
“วันนี้?” ลู่เหยาพบว่าในตอนที่องค์รัชทายาทต้องรับมือกับเรื่องของพี่หลินซือ เขาไม่เคยมีท่าทีเย็นชาเลย
ทุกครั้งที่ได้เจอกับพี่หลินซือ นัยน์ตาขององค์รัชทายาทจะฉายแววตาที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน จึงลอบรู้สึกแย่ในใจ แต่ไม่นานนางก็ปลอบใจตัวเองได้
ถึงอย่างไรนางก็เป็นคนเลือกเส้นทางนี้เอง จะโทษใครเสียก็คงไม่ได้ กระทั่งนางต้องขอบคุณมารดาเสียด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะการบีบบังคับของมารดา นางจะมีช่วงเวลาที่ได้อยู่กับองค์รัชทายาทได้อย่างไร
“ใช่ วันนี้ ตอนนี้เจี่ยงเถิงกำลังเข้าเฝ้าเสด็จพ่ออยู่ในห้องทรงอักษร คาดว่าเดี๋ยวก็คงออกนอกวัง ถึงตอนนั้นข้าและเจ้าก็ตามเจี่ยงเถิงออกนอกวังไปพร้อมกัน เรื่องหลังจากนั้นคงไม่ต้องให้ข้าสอนเจ้าหรอกใช่ไหม?”
“หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ”
ครั้นเห็นลู่เหยาตระหนักรับรู้ในสถานการณ์ได้ดีเช่นนี้ องค์รัชทายาทจึงยิ่งชอบนางมากขึ้น เขาชื่นชอบสตรีที่ไม่ทำให้ตัวเองต้องเปลืองสมอง มิเช่นนั้นถ้าเขาจะทำเรื่องใหญ่อันใด ต้องเกลี้ยกล่อมสตรีโดยตรงย่อมไม่ดีแน่
มีแค่หลินซือที่เหนือความคาดหมาย ต่อให้เขาต้องชนกำแพงอีกกี่ครั้งก็ไม่มีทางยอมแพ้
เป็นดั่งที่คาดคิดไว้ ไม่นาน องค์รัชทายาทก็ได้รับข่าว บอกว่าเจี่ยงเถิงออกจากห้องทรงอักษรแล้ว ในเวลาเดียวกัน องค์รัชทายาทและลู่เหยาก็ออกจากตำหนักแล้วเช่นกัน นั่งรถม้าทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว
ครั้นทิ้งลู่เหยาไว้ริมทางแล้ว ก่อนจากไปเขามองไปยังลู่เหยาแวบหนึ่งอย่างอดไม่ได้ จากนั้นองค์รัชทายาทก็นั่งรถม้าตรงไปยังจวนหลินทันที เขาจะต้องไปถึงก่อนเจี่ยงเถิง แล้วรับตัวอาซือจากไป
ไม่นาน ลู่เหยาก็เห็นเจี่ยงเถิงนั่งรถม้าออกมา
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำให้นางหวั่นไหวเหมือนกับองค์รัทายาท แต่ก็ยังเป็นคุณชายที่ดูสง่าผาเผยคนหนึ่ง จึงอดรู้สึกอิจฉาพี่หลินซือไม่ได้ ทำไมนางถึงได้รับความชมชอบจากบุรุษที่โดนเด่นมากมายเพียงนั้นด้วยนะ?
เนื่องจากลู่เหยาล้มอยู่กลางทาง ดังนั้นรถม้าของเจี่ยงเถิงจึงต้องหยุดลง
“เกิดอะไรขึ้น?” เสียงที่ฟังดูเย็นชาของเจี่ยงเถิงดังมาจากบนรถม้า ไร้ซึ่งความรู้สึกโดยสิ้นเชิง
“คุณชาย มีคนล้มอยู่กลางทาง ขวางเส้นทางเราขอรับ” ผู้ติดตามส่งเสียงรายงานเข้ามา
ครั้นได้ยินประโยคนี้ เจี่ยงเถิงทำการเปิดม่านหน้าต่าง จากนั้นก็มองไปบนถนน กระทั่งเห็นลู่เหยานอนอยู่บนถนนอย่างที่คาดคิดไว้จริง ๆ
จึงลอบรู้สึกเย็นชาในใจ เรื่องที่ลู่เหยาสร้างไว้ในคราวที่แล้วเขายังจำได้ดี ดังนั้นเขาจึงไม่มีความประทับใจแรกต่อลู่เหยาเลยแม้แต่น้อย
“พาตัวนางย้ายไปไว้ข้างทาง ยังต้องให้ข้าสอนเจ้าอีกเหรอ?”
“คุณชาย….” ผู้ติดตามคาดไม่ถึงว่าคุณชายที่อ่อนโยนและเป็นสุภาพบุรุษจะทำเช่นนี้ เขากำลังจะพูดบางอย่างแต่กลับถูกสายตาพิฆาตจากเจี่ยงเถิงจนเกิดความหวาดกลัว
“เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าสั่งหรือ?”
“ขอรับ” ครั้นได้ยินสัญญาณเตือนที่เต็มไปด้วยความโกรธเคืองของคุณชาย คนผู้นั้นก็ไม่กล้าลังเลอีก รีบลงจากรถม้า และประคองลู่เหยาไปไว้ข้างทาง
ลู่เหยาเองก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่าจะเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ประโยคที่นางเตรียมพูดไว้อย่างดีถึงกับพูดไม่ออก
“เจ้ากำลังคิดสิ่งใดข้าไม่รู้ แต่ถ้าเจ้ากล้าคิดไม่ซื่อกับอาซือ อย่ามาโทษว่าข้าไร้ความปรานีก็แล้วกัน” เจี่ยงเถิงเอ่ยกับลู่เหยาด้วยสายตาเย็นชา เดิมทีเขาไม่ใช่คนที่ที่น่าหลงใหลมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าหญิงสาวผู้นี้ ผู้ทำให้อาซือไม่สบายใจ หลังจากกล่าวจบ ก็ให้ผู้ติดตามเคลื่อนรถม้าจากไปทันที
เมื่อเป็นเช่นนี้ ลู่เหยาจึงได้แต่มองเจี่ยงเถิงเคลื่อนรถม้าผ่านหน้าไปอย่างไม่ลังเล
กระทั่งเห็นรถม้าของเจี่ยงเคลื่อนตัวไปไกลแล้ว ลู่เหยาก็นึกถึงคำสั่งขององค์รัชทายาทได้ สุดท้ายก็กัดฟันกรอดและไล่ตามไป
ก็แค่บาดเจ็บ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนัก
ผู้ติดตามสังเกตการณ์เคลื่อนไหวของลู่เหยามาตลอด บัดนี้เห็นลู่เหยาไล่ตามรถม้า ผู้ติดตามก็อดลดความเร็วลงไม่ได้ แต่เขาเพิ่งลดได้เพียงเล็กน้อย ก็ถูกเจี่ยงเถิงจับได้ ดังนั้นผู้ติดตามจึงไม่กล้าคิดเรื่องอื่นอีก
คุณชายไม่ได้โกรธใครง่าย ๆ แต่ถ้าคุณชายโกรธขึ้นมา นั้นคือเรื่องที่ร้ายแรงมากแน่นอน
ลู่เหยาจับจ้องรถม้าที่เคลื่อนตัวจากตัวเองออกไปไกลเรื่อย ๆ ไม่สนใจความจนตรอกหมดหนทางและความสิ้นหวังในใจของนาง เร่งความเร็วตรงกลับจวนของเขา
เนื่องจากนางและองค์รัชทายาทออกมาด้วยกัน ดังนั้นนางจึงไม่ได้พาคนของตัวเองมาด้วย ตอนนี้นางเดินอยู่บนถนนเพียงลำพัง จนเกิดความกังวลขึ้นภายในใจ
ดูเหมือนเจี่ยงเถิงที่อยู่บนรถม้าเพิ่งนึกอะไรได้ จึงให้ผู้ติดตามกลับรถ และตรงไปยังจวนของหลินซือ
การปรากฏตัวของลู่เหยาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว นั่นคือองค์รัชทายาทกำลังเสด็จไปหาอาซือ
ครั้นเห็นอาซือหวาดกลัวองค์รัชทายาทเพียงนั้น เจี่ยงเถิงจะให้องค์รัชทายาทพาตัวอาซือไปไม่ได้เด็ดขาด
ในขณะเดียวกันที่จวนหลิน
หลินซือกำลังนั่งอยู่ในจวนของตัวเอง สาวใช้ต่างถูกนางขับไล่ออกไปหมดแล้ว
นางกำลังเพลิดเพลินกับช่วงเวลาที่ได้อยู่คนเดียว โดยที่ไม่มีใครมารบกวนนาง แต่กลับไม่ใช่ทุกเรื่องที่จะเป็นไปตามที่นางปรารถนา
“องค์รัชทายาท?”
เมื่อเห็นองค์รัชทายาทปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของตัวเองโดยฉับพลัน อย่าบอกนะว่าหลินซือเจอผีเข้าแล้ว
นางได้ยินว่าช่วงนี้องค์รัชทายาททรงยุ่งมากไม่ใช่หรือ? เหตุใดตอนนี้ถึงได้ปรากฏตัวตรงหน้านางได้ อีกทั้งยังมีท่าทางลับลมคมในอีกด้วย นางจำได้ว่าบิดาและมารดาส่งคนมาล้อมจวนของนางไว้จำนวนไม่น้อยเพื่อปกป้องความปลอดภัยนาง
“ไปกับข้า” องค์รัชทายาทดูแข็งกร้าวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน กระชากตัวหลินซือจากไปโดยไม่ถามไถ่ความคิดเห็นของหลินซือแม้แต่น้อย
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทำให้ใครในจวนแตกตื่นเลยแม้แต่คนเดียว ตอนที่เหล่าสาวใช้เข้ามา พบว่าคุณหนูนั้นไม่อยู่แล้ว ไม่มีใครรู้ว่าคุณหนูไปที่ใด