ตอนที่ 318 ดูถูกเย่ซิวตู๋
ตอนที่ 318 ดูถูกเย่ซิวตู๋
อวี้ชิงลั่วลุกขึ้นจากเตียง ลงมาใส่รองเท้า และเดินมาที่ข้างโต๊ะ หลังจากจุดเทียนก็หยิบกล่องอาหารกล่องเล็กกล่องหนึ่งเดินเข้ามา “กินสิ”
สุดท้ายแล้วคนที่ใจอ่อนก็คือนาง
หนานหนานมองขนมที่อยู่ในกล่องอาหารกล่องเล็กพลางกะพริบตาปริบ ๆ กลืนน้ำลายอย่างขยันขันแข็ง ทว่าวินาทีต่อมา เขากลับเบือนหน้าไปทางอื่นด้วยความเข้มแข็ง “ไม่ได้ ข้าพูดไปแล้วว่าจะไม่กินมื้อค่ำ เช่นนั้นก็จะไม่กิน หากข้ากิน ก็เท่ากับข้าไม่จริงใจที่จะรับความผิดที่มีต่อท่านน้าเป่าเอ๋อร์ ท่านแม่ ท่านอย่ามาวางกับดักให้ข้าเป็นคนไร้ศีลธรรมและไม่มีความซื่อสัตย์เลย”
เอ๋ พูดจาสมเหตุสมผลเป็นกับเขาด้วย
อวี้ชิงลั่วเขกหัวหนานหนานพลางแค่นเสียงเบา ๆ แต่ในที่สุดก็เกิดความโล่งใจ “มื้อค่ำเจ้าไม่ได้กินอะไรจริง ๆ พวกเราต่างก็เห็นแล้ว และเจ้าเองก็หิวไปหนึ่งมื้อแล้ว นี่เป็นมื้อดึก การลงโทษของเจ้าก็ไม่น่าจะเหมารวมถึงมื้อดึกมิใช่รึ แม่…”
อวี้ชิงลั่วยังพูดไม่จบ มือทั้งสองข้างของหนานหนานก็ยื่นเข้าไปในกล่องอาหาร และเริ่มกินอย่างตะกละตะกลาม “จริงด้วย เหตุใดข้าถึงนึกไม่ถึงนะ ตอนนี้เป็นช่วงกลางดึกแล้ว เป็นอาหารมื้อดึกแล้วด้วย”
อวี้ชิงลั่วถึงกับกลอกตาใส่ หยิบเศษขนมที่หล่นใส่เสื้อผ้าของเขา เตือนเสียงเบาว่า “กินให้มันช้า ๆ หน่อย หากกินเช่นนี้ต่อไป กระเพาะของเจ้าจะรับไม่ไหว”
หนานหนานหัวเราะหึ ๆ ก่อนจะค่อย ๆ เคี้ยวอย่างเนิบช้า
ระหว่างที่กิน ก็พูดด้วยเสียงอู้อี้ว่า “ท่านแม่ ท่านรักข้าที่สุด ข้ารู้ดี”
“เหอะ แม่บอกเจ้าไว้ก่อนเลยนะ วันพรุ่งผู้เข้าแข่งขันของอาณาจักรเทียนอวี่จะเข้าเมืองกันแล้ว เจ้าต้องทำตัวให้ดีหน่อยเข้าใจหรือไม่? อยู่ข้าง ๆ แม่ ห้ามทำอะไรโดยเด็ดขาด หากยังสร้างปัญหาให้แม่ แม่จะให้เจ้าอดอาหารทั้งวัน”
วันนี้อวี้ชิงลั่วเข้มงวดขนาดนี้ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เขาทำตัวไร้กฎเกณฑ์ในวันพรุ่ง ถึงอย่างไรอาณาจักรเทียนอวี่…
หนานหนานได้ยินก็ถึงกับหดคอ นึกถึงความหิวโหยจนท้องร้องจ๊อก ๆ เมื่อครู่ เขาจึงรีบพยักหน้าหงึก ๆ ราวกับโขลกกระเทียม ไม่กล้าดูแคลนแม้แต่น้อย
อวี้ชิงลั่วจึงนำกล่องอาหารไว้ในอ้อมแขนของเขา กล่าวกำชับว่า “กินเสร็จอย่าลืมบ้วนปาก”
หนานหนานพยักหน้าอีกหน ศีรษะเล็ก ๆ ขยับอยู่ท่ามกลางแสงสว่างจากแสงเทียน คนที่มองอยู่ด้านนอกหน้าต่างถึงกับแย้มยิ้ม มุมปากดึงเป็นเส้นโค้งมากยิ่งขึ้น
เย่ซิวตู๋รู้ดีอยู่แก่ใจ บนโลกใบนี้คนที่รักหนานหนานมากที่สุดเกรงว่าคงเป็นอวี้ชิงลั่ว ดูสิ ทำให้หนานหนานได้กินอาหาร ทั้งยังหาข้อแก้ตัวที่ฟังดูดีให้เขาอีก
เสิ่นอิงที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาแอบน้ำตารื้นขอบตา โดยเฉพาะตอนที่เห็นว่ามียุงตัวหนึ่งกำลังเกาะที่มุมปากและกำลังออกแรงดูดเลือดเขา เขาทั้งคันทั้งชาอยากจะใช้ฝ่ามือตีมันให้ตาย แต่ตอนนี้เขายืนอยู่ด้านนอกหน้าต่างห้องแม่นางอวี้ หากส่งเสียงนางคงได้ยินเป็นแน่
เสิ่นอิงอดทนอดกลั้น ก่อนจะยกมือขึ้นมากดเบา ๆ ตรงนั้นเพื่อฆ่ายุง แต่ยุงตัวนั้นกลับบินออกไปในทันที ช่างฉลาดเสียเหลือเกิน
เสิ่นอิงแอบถอนหายใจ ห้องของแม่นางอวี้ทางฝั่งนี้มีแต่ดอกไม้ต้นไม้ จึงมียุงชุกชุมเป็นพิเศษ แม่นางอวี้ก็ช่างมีความสามารถ ไม่รู้ในห้องจุดอะไรไว้ ด้านในนั้นจึงไม่มียุงแม้แต่ตัวเดียว ทว่าด้านนอกนั้นกลับมียุงเยอะยิ่งนัก
เขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เหตุใดยุงถึงได้จ้องกัดแต่เขา แต่นายท่านกลับไม่มีการเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย
ระหว่างที่กำลังคิด จู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเย่ซิวตู๋ดังขึ้น “ไป”
ในที่สุดเสิ่นอิงก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ทั้งคู่ออกไปอย่างเงียบ ๆ เช่นเดียวกับตอนที่มา
วันรุ่งขึ้น เป็นวันที่อาณาจักรเทียนอวี่จะเข้ามาในเมืองแล้ว
อวี้ชิงลั่วพาเด็กทั้งสามคนเข้าไปในโรงเตี๊ยมเมื่อวานนี้ราวกับคุณครูและเด็กอนุบาล จากนั้นก็จะเข้าไปนั่งในห้องนั้นที่หันหน้าออกสู่ถนน
เพียงแต่ยังไม่ทันได้เข้าไปในห้องพิเศษ ก็ได้ยินเสียงพูดคุยอันครึกครื้นจากด้านนอก
“ได้ยินมาว่า อันที่จริงอาณาจักรเทียนอวี่มาถึงนอกเมืองตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เพียงแต่มาช้ากว่าอาณาจักรจิงเหลยแค่ก้าวเดียว ดังนั้นจึงต้องเลื่อนเวลาเข้าเมืองมาวันนี้แทน”
“เฮ้อ ถ้าเป็นข้านะ ข้าก็คงเลื่อนเวลามาวันนี้เหมือนกันนั่นแหละ พวกเจ้าดูสิเมื่อวานเกิดเรื่องพวกนั้นขึ้น หากสองอาณาจักรมาเจอกัน เกรงว่าอาณาจักรเทียนอวี่ก็ต้องซวยเหมือนกัน”
“มันก็ไม่แน่หรอก เมื่อวานพวกเราก็ทะเลาะกัน ท้ายที่สุดก็เป็นเพราะท่านอ๋องซิวออกโรงให้ ไม่เพียงแต่ทำให้รถม้าของอาณาจักรจิงเหลยแตกกระจุย แม้แต่องค์ชายที่อยู่ในรถก็กลิ้งออกมาด้วย อุปราชผู้นั่นไม่กล้าทำเรื่องลำบากใจมากไปกว่านี้ ถึงกับกลับเรือนรับรองด้วยสภาพคอตก ส่วนรัชทายาทน่ะรึ ช่างขายหน้า…จริง ๆ”
เท้าของอวี้ชิงลั่วถึงกับหยุดทันใด เงยหน้ามองไปยังคนคนนั้นที่พูดเมื่อครู่
โม่เสียนเดินตามอยู่ด้านหลังนาง จึงกระซิบเตือนว่า “แม่นางอวี้ คนผู้นั้นคือคนขององค์ชายสาม เกรงว่ามาที่นี่เพื่อสร้างความขัดแย้งระหว่างท่านอ๋องกับรัชทายาทโดยเฉพาะ”
“เหอะ ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้องค์ชายสามก็คงกระสับกระส่ายอยู่เหมือนกัน”
ระหว่างที่กำลังพูด จู่ ๆ ชายหนุ่มที่นั่งอยู่อีกโต๊ะหนึ่งก็ส่งเสียงออกมา แทรกการพูดคุยเกี่ยวกับรัชทายาทและท่านอ๋องซิวทางฝั่งนี้ เบี่ยงเบนประเด็นด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “จะว่าไปเมื่อวานก็ทำให้ข้าตกใจแทบแย่จริง ๆ ไม่รู้ว่าวันนี้อาณาจักรเทียนอวี่เข้ามา จะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ หวังว่าอาณาจักรเทียนอวี่จะไม่เหมือนกับอาณาจักรจิงเหลยนะ มิเช่นนั้นคงได้ตื่นตระหนกแย่”
โม่เสียนชะโงกหน้าเข้ามากระซิบอีกครั้ง “คนที่นั่งอยู่โต๊ะนั้นเป็นคุณชายตระกูลหนึ่งที่สนิทกับท่านอ๋องแปด แม้ว่าจะไม่ถึงขั้นเป็นตระกูลร่ำรวยอะไร แต่ก็ไปเที่ยวเล่นกับท่านอ๋องแปด”
อวี้ชิงลั่วพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก็จริง เย่ฮ่าวหรานเป็นคนรักสนุก คนที่รู้จักย่อมมากเป็นเรื่องธรรมดา
อีกอย่างเขาเป็นถึงท่านอ๋อง แต่กลับไม่ได้วางมาดพูดคุยกับคุณชายเหล่านี้อย่างสนุกสนาน ทั้งยังเรียกพวกเขาว่าเป็นพี่น้อง เกรงว่ายิ่งเป็นเรื่องง่ายที่พวกเขาจะออกโรงปกป้อง ทั่วทั้งเมืองหลวงต่างก็รู้ดีว่าท่านอ๋องแปดและท่านอ๋องซิวมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน พวกเขาย่อมช่วยเย่ซิวตู๋เป็นเรื่องธรรมดา
คนคนนั้นที่เพิ่งคิดจะสร้างความร้าวฉานถึงกับถลึงตามองพวกเขาด้วยสายตาเหี้ยมโหด เพียงแต่เมื่อเห็นว่าคนที่อยู่โดยรอบถูกบ่ายเบี่ยงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา พุ่งเป้าหมายไปที่อาณาจักรเทียนอวี่แล้ว เขาจึงรู้สึกไม่ดีที่จะพูดมากไปกว่านี้
อวี้ชิงลั่วแย้มยิ้ม กล่าวเสียงเบาว่า “ไป ขึ้นไปข้างบนเถอะ”
เพิ่งก้าวเท้าเดินไม่กี่ก้าว จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงลึกลับดังขึ้นที่มุมหนึ่งของโรงเตี๊ยม “นี่ ข้าจะบอกอะไรให้นะ ได้ยินมาว่าครั้งนี้อาณาจักรเทียนอวี่พาองค์หญิงมาด้วย เกรงว่าคงไม่ได้มาแค่เข้าร่วมการแข่งขันสี่อาณาจักรหรอก แต่อาจตั้งใจมาเรื่องงานแต่งกับอาณาจักรเฟิงชางของเราด้วย”
“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเป็นอาณาจักรเฟิงชาง ตอนนี้อาณาจักรหลิวอวิ๋นและอาณาจักรจิงเหลยก็อยู่ที่นี่ บางทีอาจต้องตาต้องใจรัชทายาทของอาณาจักรหลิวอวิ๋นนั่น หรือไม่ก็อุปราชของอาณาจักรจิงเหลยนั่นก็ได้นะ?”
“เหอะ ข้าว่านะ องค์ชายเหล่านั้นของอาณาจักรเฟิงชางของพวกเราต่างก็ดูสง่างาม ต้องชอบองค์ชายเป็นแน่ ในบรรดาองค์ชายทั้งหมด คนที่อายุเหมาะสมก็มีแค่ท่านอ๋องซิว ท่านอ๋องเจ็ด และท่านอ๋องแปด แต่ถ้าพูดถึงความเป็นไปได้ เมื่อวานท่านอ๋องซิวเป็นคนออกโรง ย่อมถูกต้องตาต้องใจได้ง่ายที่สุด”
“มันก็ไม่แน่หรอก วันนี้ท่านอ๋องเจ็ดและท่านอ๋องแปดออกไปต้อนรับ พวกเขาคงสร้างความประทับใจที่ดีต่อราชทูตของอาณาจักรเทียนอวี่ บางทีอาจจะชอบพวกเขาก็ได้”
หนานหนานดึงมือของอวี้ชิงลั่ว กระซิบว่า “อาณาจักรเทียนอวี่ไม่ชอบท่านพ่อหรอก”
“…” หนานหนาน นี่เจ้ากำลังดูถูกเย่ซิวตู๋อยู่รึ?
……………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ลึก ๆ คือวางแผนไว้ว่ามาหาแม่แล้วอ้อนแม่หน่อยยังไงก็ได้กินใช่ไหมเจ้าหนานหนาน
อาณาจักรเทียนอวี่พาองค์หญิงมาด้วย จะมีคนกินน้ำส้มไหมนะ
ไหหม่า(海馬)