บทที่ 628 หลังจากนี้จะไม่ได้เจอนางแล้ว

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 628 หลังจากนี้จะไม่ได้เจอนางแล้ว

บทที่ 628 หลังจากนี้จะไม่ได้เจอนางแล้ว

ทุกครั้งที่กู้ซินเถาเห็นฉินเย่จือ เขามักจะมีรอยยิ้มบนใบหน้าเสมอเมื่อเผชิญหน้ากับกู้เสี่ยวหวาน ราวกับว่าเขาเกิดมาพร้อมกับความอบอุ่นและอ่อนโยน

แต่เมื่อใดก็ตามที่เขาเผชิญหน้ากับนาง เขาจะนิ่งราวกับน้ำแข็ง ไม่เพียงแต่เย็นเยียบ แต่ยังมีแต่ความเย็นชา

ไม่ผ่อนคลายเลยสักนิด

นางยังคงให้เงินกับเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ทำให้เขาเดือดร้อน นางมีเจตนาดีเช่นนี้ นี่นางเพิ่งให้อาหารสุนัขไปหรือ?

กู้ซินเถาเป็นผู้หญิงที่หยิ่งผยอง เมื่อนึกถึงความคับแค้นใจและความไม่พอใจที่นางได้รับจากฉินเย่จือ หัวใจของนางก็ดูเหมือนจะถูกโจมตีอย่างหนัก ใบหน้าของนางมืดลงทันที และคำพูดของนางก็ขมขื่นและใจร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ “พี่ใหญ่ฉิน กู้เสี่ยวหวานที่ท่านกำลังคิดถึงอยู่ในใจ เกรงว่าในอนาคตจะไม่สามารถเจอนางได้อีก”

ตาของฉินเย่จือลืมขึ้นทันที และเขาจ้องเขม็งไปที่กู้ซินเถา

กู้ซินเถาไม่คาดคิดมาก่อนว่าฉินเย่จือจะลืมตาขึ้นมาในทันใด และเมื่อมองตัวเอง ดวงตาของเขาก็เฉียบขาดจนนางรู้สึกสั่นเล็กน้อย น้ำเสียงสั่นเครือ “พี่… ใหญ่… ฉิน ท่าน… ท่าน… ทำไมมองข้าเช่นนั้น…”

“เกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวหวาน!” ฉินเย่จือไม่ตอบคำพูดของนาง แต่เอ่ยถามกลับ โดยไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่มีความกังวลอยู่ในดวงตาของเขา

ใช่แล้ว เมื่อพูดถึงกู้เสี่ยวหวาน ฉินเย่จือก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!

“นางหรือ? ไม่เป็นไร!” กู้ซินเถามุ่ยปากมองดูท่าทางกังวลของฉินเย่จือ ไม่ต้องพูดถึงว่านางภูมิใจแค่ไหน

กังวลอย่างนั้นหรือ? น่าเสียดาย แต่ข้าอยากให้ท่านกังวล

แต่น่าเสียดาย กังวลไปมันไม่มีประโยชน์อะไร

แม้ว่าท่านจะมีความสามารถมาก ท่านก็ไม่สามารถช่วยนางได้

สีหน้ามีชัยของกู้ซินเถา มันทำร้ายหัวใจของฉินเย่จือ

“พี่ใหญ่ฉิน ข้าได้ยินมาว่ากู้เสี่ยวหวานฆ่าคน แต่ท่านกลับมาติดคุกแทนนาง ความรักเช่นนี้ทำให้เถาเอ๋อร์อกหักจริง ๆ”

คำพูดของกู้ซินเถาเปลี่ยนไป “น่าเสียดายที่ท่านถูกขังอยู่ในห้องขังเป็นเวลาสามวันแล้ว และกู้เสี่ยวหวานก็ไม่เคยมาเยี่ยมท่าน หัวใจหมาป่าเช่นนี้ ความรักของท่านช่างเสียเปล่า!”

กู้ซินเถาพูดอย่างเสียใจ “พี่ใหญ่ฉิน ท่านรู้หรือไม่ว่าตั้งแต่วันแรกที่ท่านถูกจับมาที่ห้องขัง เจ้าหน้าที่ที่นี่จะทรมานท่าน ท่านรู้หรือไม่ว่าใครเป็นคนดูแลท่าน? อาหารในห้องขังนี้แย่มา ท่านรู้หรือไม่ว่าใครเอาเงินไปให้เจ้าหน้าที่ แล้วให้พวกเขาซื้อจากข้างนอกมาส่งให้?”

ยิ่งกู้ซินเถาพูดมากเท่าไร นางก็ยิ่งเศร้าและเศร้ามากขึ้นเท่านั้น ดูเหมือนว่านางทำมามากแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับความเมตตาจากฉินเย่จือแม้แต่น้อย และนางก็รู้สึกเสียใจมาก

สุดท้ายน้ำตาก็ไหลออกมา ดอกสาลี่ต้องหยาดฝน การร้องไห้นั้นล้วนมาจากความจริงใจ

เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ฉินเย่จือไม่หวั่นไหวเพราะรูปลักษณ์ดังกล่าว

ใบหน้าของฉินเย่จือยังคงเย็นชาอยู่ และมองไปที่กู้ซินเถาที่กำลังแสดงอยู่ที่นั่น ร่างกายของเขาเย็นชาราวกับมนุษย์น้ำแข็ง

กู้ซินเถาไม่ได้สังเกตเห็นดวงตาที่เย็นชาของฉินเย่จือ นางเพียงแค่เช็ดน้ำตาเบา ๆ และพูดกับเขาอย่างอ่อนโยน “พี่ใหญ่ฉิน ข้าทำเพื่อท่านมามากแล้ว มันเทียบไม่ได้กับข้าวที่กู้เสี่ยวหวานมอบให้ท่านเลยหรือ?”

คำพูดของกู้ซินเถานั้นน่าสงสารราวกับว่าสิ่งที่นางทำไปมากมาย ฉินเย่จือควรจะซาบซึ้งบุญคุณ แล้วก้มลงคำนับที่กระโปรงสีทับทิมของนาง เชื่อฟังคำพูดของนาง และมาเป็นคนของนางตลอดไป

ด้วยวิธีนี้เท่านั้นจึงจะถือว่าคู่ควรกับความกรุณาของนาง

น่าเสียดายที่ฉินเย่จือเป็นใคร?

อย่าพูดว่าเขาไม่ชอบกู้ซินเถา แม้ว่าเขาจะชอบกู้ซินเถา แต่เขาก็คงจะไม่ชอบที่นางมาทวงบุญคุณเล็กน้อยเช่นนี้

ฉินเย่จือเยาะเย้ย ดูน่ากลัวมากในห้องขังที่เย็นและมืดนี้

หนังศีรษะของกู้ซินเถารู้สึกชาวาบเมื่อเห็นมัน “ท่าน… ท่านยิ้มอะไร? คิดว่าข้าพูดไม่ถูกอย่างนั้นหรือ?”

ฉินเย่จือลืมตา ดวงตาเรียวยาวของเขาล้ำลึกและมืดมนราวกับบ่อน้ำโบราณ ไม่มีคลื่นแม้แต่น้อย กู้ซินเถามองไปที่ดวงตาที่น่าหลงใหลเหล่านั้น ร่างกายของนางสั่นเทาราวกับว่ากำลังจะจมลงไปในบ่อน้ำลึกนั้น

กู้ซินเถารู้สึกกลัวเล็กน้อย โดยไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด แต่เมื่อมองย้อนกลับไปที่ดวงตาของฉินเย่จือ นางรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางทะเลลึกและไม่สามารถหลบหนีได้

ฉินเย่จือเพิกเฉยต่อนาง เขาจ้องไปที่กู้ซินเถาด้วยความดูถูกเหยียดหยามราวกับเขากำลังเยาะเย้ยว่า เขามีความรักต่อกู้เสี่ยวหวาน

กู้ซินเถาเจ็บปวดอย่างมากจากความหมายลึก ๆ ในดวงตาคู่นั้น นางเพิ่งรู้สึกว่าตัวว่าถูกฉินเย่จือเสียดสีมาตั้งแต่ต้นจนจบ

กู้ซินเถาโกรธมาก ผู้ชายที่อยู่ข้างหน้านางหล่อเหลา และเขามีความสง่างามและสูงส่งที่ไม่มีใครเทียบได้

กู้ซินเถาชอบเขา ชื่นชมเขา และรู้สึกว่ามีเพียงนางเท่านั้นที่คู่ควรกับผู้ชายที่หล่อเหลาเช่นนี้

แต่ทำไมสายตาของผู้ชายคนนี้ หรือว่าจะถูกโคลนบดบังอย่างนั้นหรือ?

ทำไมถึงไม่เห็นความดีของข้ากัน?

ฉินเย่จือเพิกเฉยและเฉยเมยต่อสิ่งที่นางทำกับเขาโดยสิ้นเชิง และถึงกับเยาะเย้ยนาง เยาะเย้ยนางแล้วสบายใจอย่างนั้นหรือ?

ตั้งแต่ครั้งแรกที่นางได้ยินเสียงของฉินเย่จือ นางก็รู้สึกหลงใหลกับเสียงที่น่าดึงดูดของเขา ราวกับน้ำพุที่ใสสะอาดในภูเขา เสียงนั้นทำให้นางเคลิบเคลิ้ม และครั้งแรกที่ได้เจอเขา มันก็ยิ่งทำให้นางชอบเขามากขึ้นไปอีก

นี่เป็นการเต้นของหัวใจที่นางไม่เคยรู้สึกกับเจียงหย่วนมาก่อน

บางทีนี่อาจเป็นความหวั่นไหว

นางพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อเอาใจเขา แต่ทำไมเขาถึงยังเฉยเมย!

แม้แต่ตอนที่ซุนซื่อถูกจับเข้าคุก นางก็ไม่เต็มใจที่จะเอาเงินส่วนตัวที่เก็บไว้มาจ่ายให้ แต่ทันทีที่เขาเข้ามา นางกลัวว่าเขาจะต้องทนทุกข์ในห้องขัง จึงรีบไปเอาเงินส่วนตัวมาใช้เพื่อทำให้เขาอยู่ในห้องขังอย่างสบาย

นางไม่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ทรมานเขา และใช้เงินเพื่อให้เจ้าหน้าที่ส่งอาหารอร่อย ๆ ให้เขา นางเคยเห็นสิ่งที่ซุนซื่อกิน อาหารนั่นเหมือนกับอาหารคนกินที่ไหนกัน อาหารที่หมูกินยังดีเสียกว่า!

กู้ซินเถากลัวว่าฉินเย่จือจะยากลำบาก นางจึงต้องการใช้เงินส่วนตัวเพื่อจัดการให้กับเขา นางจ่ายไปมากและหวังว่าสิ่งที่นางทำจะทำให้เขาจำมันไว้ในใจ

นางทำมามากแล้ว ซึ่งดีกว่าชามข้าวของกู้เสี่ยวหวานมาก!

เขาควรจะจำบุญคุณของนางได้ นางทำมามากแล้ว ซึ่งยิ่งใหญ่กว่าความเมตตาของกู้เสี่ยวหวานเสียอีก

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

กู้ซินเถานี่น่ารำคาญจริง ๆ เลยนะคะ ตามตื๊อฉินเย่จือไม่เลิกเสียที!

ไหหม่า(海馬)