บทที่ 678 รั้งอีกหนึ่งวัน

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 678 รั้งอีกหนึ่งวัน

บทที่ 678 รั้งอีกหนึ่งวัน

อ๋องอู๋ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะทรงตัวอีกครั้ง “ข้าสบายดี ข้ารู้ว่าเรื่องนี้ทำให้เจ้าหนักใจมาก ลืมมันไปเถอะ ข้าจะยอมรับชะตากรรมและใช้ชีวิตเยี่ยงอ๋องเช่นนี้ต่อไป ข้าจะพยายามปกป้องคนในตระกูลของเจ้าให้มากที่สุด ต่อไปจะหาโอกาสรับอุปการะบุตรสักคน ข้าไม่จำเป็นต้องต่อสู้เพื่อบัลลังก์ ส่วนใครจะหัวเราะเยาะข้า ก็ปล่อยให้พวกเขาหัวเราะไป”

อวิ๋นอวี้ชิงกัดริมฝีปากของตนเองแน่นเมื่อได้ยินว่าเขาท้อแท้แค่ไหน นางและเขาอยู่กินกันมาหลายปี นางจะไม่เข้าใจได้อย่างไรว่าบัลลังก์มีความหมายต่อสามีของนางอย่างไร? การเตรียมการทั้งหมดของเขาในปีนี้เป็นไปก็เพื่อการแย่งชิงบัลลังก์โดยเฉพาะ และแม้แต่ความเจ็บป่วยของเขาก็เป็นผลมาจากความปรารถนาที่จะสืบราชบัลลังก์ การละทิ้งมันในตอนนี้ก็เหมือนกับการตัดขาดความหวังที่เหลืออยู่ในชีวิตของเขา

สามีของนางให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์และเกียรติยศเสมอ หากเขารับลูกบุญธรรมและเปิดเผยความจริงที่ว่าเขามีบุตรไม่ได้ การมีชีวิตอยู่ต่อไปอาจเลวร้ายยิ่งกว่าความตาย

นางทนไม่ได้ที่เห็นเขาทรมานแบบนั้นอย่างแน่นอน ซึ่งในอนาคตนางคงอดไม่ได้ที่จะลงเอยด้วยการหาผู้ชายคนอื่นเพื่อให้นางกำเนิดลูกแล้วมอบให้เขาในภายหลัง ดังนั้นนางอาจใช้โอกาสนี้ได้เช่นกัน นางสามารถได้รับวิชาวัฏจักรหงส์อมตะ และในขณะเดียวกันก็เสียสละตัวเองเพื่อเผ่าพันธุ์ปีศาจ…

“สามี อย่าท้อแท้! ตกลง ข้าจะทำมัน!” ดวงตาของอวิ๋นอวี้ชิงมีน้ำตาคลอราวกับว่าอาจจะไหลออกมาได้ทุกเมื่อ

“จริงเหรอ?!” อ๋องอู๋มีความยินดี “ขอบคุณเจ้าจริง ๆ อวี้ชิง!”

อวิ๋นอวี้ชิงก้าวถอยหลังปฏิเสธการกอดของเขา ในตอนนั้นเอง นางก็รู้สึกราวกับว่าสามีของนางดูไม่คุ้นเคยเหมือนแต่ก่อน

นางใช้เวลาครู่หนึ่งในการสงบสติอารมณ์ หลังจากนั้นพวกนางก็เริ่มคุยกันถึงรายละเอียดของแผนการ “ยังคงมีปัญหาอยู่ ในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่นนี้ ข้าอาจจะไม่สามารถ…ตั้งครรภ์ได้”

แค่คิดว่านางจะต้องหาชายอื่นได้อย่างไรหากแผนนี้ล้มเหลวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้นางแทบคลั่ง

“ไม่เป็นไร ข้ามีแผนอยู่แล้ว” อ๋องอู๋กล่าว “ข้าจะหาวิธีที่จะขัดขวางอ๋องเหลียงและหลิวเหย่าตลอดทั้งคืน เจ้าและซูอันสามารถทำ…อะแฮ่ม ข้าหมายถึงว่า วิชาวัฏจักรหงส์อมตะนั้นควรจะทรงพลังอย่างยิ่ง ซูอันย่อมไม่ธรรมดา เจ้าคงสามารถตักตวงจากเขาได้…”

แม้ว่าเขาจะรู้สึกทั้งโกรธและเสียใจเมื่อนึกภาพฉากต่าง ๆ ในหัวของเขา แต่ทั้งร่างของเขาก็ยังรู้สึกเหมือนกำลังจะระเบิดจากความตื่นเต้นในขณะเดียวกัน เขาก็ไม่รู้ว่าทำไม

อวิ๋นอวี้ชิงจ้องมองที่สามีของนางอย่างเงียบ ๆ

นางไม่คาดคิดมาก่อนว่าสามีจะคิดเรื่องนี้อย่างจริงจังโดยไม่รู้สึกอะไรขนาดนี้ จากนั้นหัวใจของนางก็เย็นชาขึ้นมาทันที

ในขณะเดียวกันที่เรือนคุมขังชั่วคราว ซ่างหงตื่นขึ้นด้วยสีหน้าแปลก ๆ เขานั่งลงที่ข้างหน้าต่างและมองดูท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างครุ่นคิด ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกราวกับว่าลืมบางอย่างที่สำคัญไป

สัญชาตญาณแรกของเจิ้งตานหลังจากที่นางตื่นคือตรวจดูเสื้อผ้าของตัวเอง เมื่อเห็นว่านางยังคงแต่งกายอย่างเหมาะสม นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทำไมจู่ ๆ นางถึงผล็อยหลับไปกัน?

นางเดินไปที่กำแพงและเคาะมันอย่างระมัดระวัง ห้องขังของนางอยู่ถัดจากห้องของซูอัน

ในไม่ช้า เสียงล้อเลียนของซูอันก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่ง “มีอะไรหรือเปล่า? หรือเป็นไปได้ไหมที่แม่นางเจิ้งจะนอนไม่หลับเพราะคิดถึงข้า?”

เจิ้งตานถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อนางได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของเขา นางรู้ว่าเขากำลังพูดกับนางในลักษณะนี้เพื่อหลอกคนอื่น ๆ ดังนั้นนางจึงตอบด้วยเสียงรำคาญว่า “คิดถึงเจ้ากับผีน่ะสิ! ข้าแค่ตรวจดูว่าเจ้าตายแล้วหรือยังต่างหาก!”

หวงฮุ่ยฮงขบขัน แม้แต่กระต่ายก็ยังกัดเมื่อจนตรอก ซูอันได้รังควานแม่นางเจิ้งที่อ่อนโยนและสุภาพมาตลอด มันไม่แปลกเลยที่ขณะนี้นางจะอารมณ์หลุดเมื่อถูกอีกฝ่ายก่อกวนเช่นนี้

อ๋องเหลียงและหลิวเหย่ากลับมาหลังจากดื่มสุรามาทั้งคืน ด้วยความพอใจที่นักโทษทุกคนปลอดภัยดี พวกเขาจึงกลับไปพักผ่อนที่ห้องของตัวเอง

เช้าวันรุ่งขึ้นขณะที่พวกเขากำลังจะอำลาอ๋องอู๋ อ๋องอู๋ก็เชิญพวกเขาให้อยู่ต่ออีกวัน “เมื่อวานเราเร่งรีบมากเกินไปจนไม่สามารถเตรียมการต้อนรับแบบพิเศษตามธรรมเนียมของเมืองแผ่นฟ้าอุดรได้ทันเวลา ตัวอย่างเช่น คณิกาอันดับหนึ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองแผ่นฟ้าอุดร…”

อ๋องอู๋ได้เสนอสิ่งที่น่าดึงดูดมากมาย ด้วยท่าทางจริงใจอย่างยิ่ง

ชุนปู้ฉี ที่ปรึกษาของเขาก็โน้มน้าวอ๋องเหลียงและหลิวเหย่าด้วยคารมคมคายเช่นเดียวกัน “ข้าได้ยินมาว่าพวกท่านเผชิญกับการซุ่มโจมตีมากมายตลอดทาง ดังนั้นการมุ่งหน้าไปโดยไม่ได้เตรียมการอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก เราส่งคนไปสอดแนมสถานการณ์ล่วงหน้าก่อนไม่ดีกว่าเหรอขอรับ? มันจะทำให้การเดินทางของท่านปลอดภัยยิ่งขึ้น…”

ในที่สุดทั้งสองคนก็หวั่นไหวกับคำโน้มน้าว อ๋องเหลียงลูบเคราของเขา “เช่นนั้นเพื่อเห็นแก่หลานเหยียน เราจะอยู่ต่ออีกสักหนึ่งวัน แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าเราสามารถอยู่ต่อได้อีกเพียงวันเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พรุ่งนี้เราจะออกเดินทาง”

อ๋องอู๋ยิ้ม “แน่นอน ๆ เสี่ยวเหยียนไม่กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการของราชสำนัก”

อวิ๋นอวี้ชิงบังคับตัวเองให้ยิ้ม นางหวังว่ากลุ่มของอ๋องเหลียงจะยืนกรานที่จะจากไปเพื่อที่นางจะได้ไม่ต้องทำสิ่งที่ลดเกียรติของตัวเอง น่าเสียดายที่ดูเหมือนว่าข้ายังจะต้องผ่านมันไปให้ได้…

ยามค่ำ อ๋องอู๋จัดงานเลี้ยงที่วิเศษยิ่งกว่าคืนก่อน อ๋องเหลียงและหลิวเหย่าจึงได้ลิ้มรสความหรูหราทุกรูปแบบอย่างหนำใจ

อวิ๋นอวี้ชิงดื่มกับพวกเขาสักพักหนึ่งแล้วลุกขึ้นกล่าวคำอำลา อ๋องเหลียงและหลิวเหย่าก็ไม่ได้ยืนกรานที่จะให้นางอยู่ต่อ

แม้ว่าภรรยาของหลานชายจะสวยงาม แต่นางก็ไม่ใช่คนที่พวกเขาจะแตะต้องได้ พวกเขาสนใจสาว ๆ ที่เต้นระบำให้ความบันเทิงในตอนนี้มากกว่า

ถ้านางอยู่ต่อไป พวกเขาคงจะไม่สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกใจนัก

อ๋องอู๋พยักหน้าไปทางภรรยาของเขาและพูดผ่านกระแสพลังชี่ “อวี้ชิงโปรดเอาวิชาวัฏจักรหงส์อมตะมาให้ได้!”

อวิ๋นอวี้ชิงไม่ตอบกลับ ใบหน้าที่งดงามของนางไม่มีร่องรอยของอารมณ์แม้แต่น้อย นางเดินตรงออกจากห้องโถง ร่างที่สวยงามของนางค่อย ๆ หายไปในระยะไกล

อ๋องอู๋รู้สึกสูญเสียเมื่อมองแผ่นหลังนางที่ลับตาไป เขารู้ว่านี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะหยุดทุกอย่างได้

เขาทำท่าจะยกมือขึ้นหลายครั้ง แต่สุดท้าย…ก็ไม่ได้เรียกภรรยากลับมา

เขาไม่รู้ว่าการตัดสินใจของเขาถูกหรือผิด หัวใจของเขาเจ็บปวด แต่ก็ยังรู้สึกตื่นเต้น อารมณ์ที่ขัดแย้งในตัวเขารุนแรงมากจนแม้แต่ร่างกายก็เริ่มสั่นเทาโดยไม่รู้ตัว

เขายกจอกสุราขึ้นดื่มในอึกเดียว ใช้ฤทธิ์มึนเมาของมันเพื่อซ่อนอารมณ์ที่แท้จริงของตัวเอง

เพื่อราชบัลลังก์ ต่อให้แลกด้วยอะไรก็คุ้มค่า!