บทที่ 670 กำจัดบุคคลที่ก่อให้เกิดความหายนะ

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

ลี่หุยกำลังยุ่งวุ่นวายมากในประเทศ และสงครามระหว่างลี่จุนถิงกับอาเธอร์กำลังเริ่มต้นขึ้น

เมื่อเวลาใกล้ดึก ผู้คนในสลัมได้กลับมาจากการทำงานหรือขอทาน บนถนนคึกคักมาก ตอนนี้เป็นเวลาที่วุ่นวายที่สุด อาเธอร์และพวกก็รู้เรื่องนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มลงมือปฏิบัติการทันที

ทางด้านของลี่จุนถิงก็ได้เตรียมตัวพร้อมแล้ว และได้จัดวางคนไว้ทุกเส้นทางตั้งนานแล้ว

ลี่จุนถิงยืนอยู่บนดาดฟ้าที่สูงที่สุดในบริเวณนี้ จากที่นี่สามารถสังเกตการณ์เคลื่อนไหวของทุกเส้นทางได้ตลอดเวลา และสามารถติดตามและค้นหาได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้สถานที่แห่งนี้ถูกหลบซ่อนไว้ได้ดีมาก มีคนมองจากด้านล่างขึ้นมาข้างบน ก็จะเห็นแค่ไม้เลื้อยที่เลื้อยอยู่บนกำแพง ไม่สามารถมองเห็นภาพจริงของภายในได้เลยแม้แต่น้อย

เมื่อพวกเขาขึ้นไปได้สักพัก ก็มีเสียงซูๆ ซีๆ ดังขึ้น ทันใดนั้นลี่จุนถิงและพวกตื่นเต้นขึ้นมาทันที หยิบปืนออกมาและเตรียมเดินออกไป ปรากฏว่าวินาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงผู้ชายและผู้หญิงหัวเราะดังขึ้นมา หัวเราะฮิๆ ฮาๆ กันไปมา และยิ่งใกล้เข้ามาขึ้นเรื่อยๆ และหยุดลงที่ทางเข้าตึก ผู้หญิงคนนั้นพูดว่าไม่เอา น่าเกลียด แล้วพูดว่ามาและก็ไม่มาอีก

เมื่อชิงโม่และพวกได้ยินแบบนี้ใบหน้าผ่อนคลายลงทันที แล้วเก็บปืนไว้ที่เดิม และในขณะที่เขาจะไปไล่หนุ่มสาวคู่นั้นออกไปนั้น

ได้ถูกลี่จุนถิงห้ามไว้

“เดี๋ยวค่อยว่ากัน ถ้าหากว่าเป็นกับดักล่ะ ส่งคนไปดูสถานการณ์ก่อน”

ผู้หญิงคนนั้นยังคงผลักไสร้องไห้ไปมาอยู่อีก ช่างโบราณเหลือเกิน คนของลี่จุนถิงเพิ่งจะก้าวออกไป ก็เห็นกางเกงในลูกไม้สีบานเย็นถูกโยนลงบนหลังคาที่เปียกหลังฝนตกอยู่ เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนั้นถูกถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้ว และลี่จุนถิงรีบออกคำสั่ง เรียกของเขากลับมาทันที

ผู้ชายคนนั้นน้ำเสียงต่ำ และแหบพร่า เหมือนเสียงใบไม้ที่ถูกลมพัดดังซาๆ เสมือนจอร์จ คลูนีย์ในหนังCurdled(1996) ผู้หลงใหลและคลั่งไคล้ในการฆ่าคน แต่เขากลับพูดว่า “นางแพศยา เสแสร้งทำไม ต่อหน้าผัวของเธอก็เปียกมากพอสมควรแล้ว ยังมาเสแสร้งให้ฉันดูอีก แพศยาจริงๆ”

และเหตุการณ์ต่อมา ก็เป็นไปโดยธรรมชาติ เสียงร้องครวญครางระหว่างชายหญิงดังขึ้นมา กรีดร้อง ร่างกายกระแทกกัน ปากของผู้ชายคนนี้เต็มไปด้วยคำหยาบคาย คำหยาบแค่ไหนก็กล้าพูดออกมา

ชิงโม่เหลือบไปมองลี่จุนถิงที่ไม่แสดงอาการใดๆ ออกมาบนใบหน้า จากนั้นมองคนข้างล่างอีกครั้งหนึ่ง ปรากฏเด็กบางคนที่อายุยังน้อยหน้าแดงกันไปหมดแล้ว

“ประธานลี่ ผมไปไล่พวกเขาออกไปไหม”

ลี่จุนถิงมองไปที่พวกเขา แล้วพยักหน้า

ชิงโม่เพิ่งจะก้าวออกไป ก็ได้ยินชายหนุ่มคนนั้นพูดขึ้นว่า “สาวน้อย เดี๋ยวสักพักพี่ชายก็จะไปกับนายท่านแล้ว พี่เสี่ยงที่จะถูกนายท่านของพี่ฆ่าในการออกมาพบเธอครั้งนี้มากเลยนะ คราวหน้าเจอเธอได้อีกเมื่อไหร่ก็ไม่อาจรู้ได้ แต่เธอต้องทำต้วดีๆ นะ ห้ามไปยุ่งเกี่ยวกับคนอื่นเด็ดขาด อึ๋ม? คุณได้ยินไหม? ”

“รู้แล้ว พี่ชาย พี่ต้องกลับมาเร็วๆ นะ เดี๋ยวพวกพี่ต้องระวังตัวนะ” เสียงออดอ้อนของผู้หญิงคนนั้นดังขึ้นมา ชิงโม่ได้ยินขนลุกซู่ไปทั้งตัว

แต่ว่า จากคำพูดของผู้ชายคนนั้นเขาได้ยินข่าวอะไรมา เขาหันหน้าไปมองลี่จุนถิง ลี่จุนถิงพยักหน้า แสดงให้เห็นว่าเขาได้ยินคำพูดของผู้ชายคนนั้นแล้วเหมือนกัน

ชิงโม่หันหน้ากลับ เดินเร่งฝีเท้าออกไป ในขณะที่ชายหนุ่มและหญิงสาวสองคนนั้นกำลังจะเดินออกไป รีบจับพวกเขากลับมาทันที

หนุ่มสาวคู่นั้นตกใจที่จู่ๆ ก็มีคนปรากฏตัวขึ้นมา นึกว่ามาจับชู้ ชายคนนั้นรีบกุมหัวอ้อนวอนขอความเมตตา

“พี่ชายพี่ชาย ไม่ใช่ผมไม่ใช่ผม หญิงแพศยาคนนี้มายั่วฉันเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย”

ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ โกรธจนร้องไห้ออกมา และพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ทุบตีเขาอย่างเดียว

เมื่อชิงโม่เห็นแบบนี้ ยิ้มเยาะออกมา จากนั้นให้คนของเขามันพวกเขาไว้ แล้วลากตัวขึ้นไปดาดฟ้าข้างบน

เมื่อขึ้นไปถึงดาดฟ้าแล้ว ชายหนุ่มคนนั้นยังคงขอความเมตตาอยู่ ส่วนหญิงสาวไม่ร้องไห้แล้ว เช็ดน้ำตาให้แห้ง ลืมตาดู คนพวกนั้นที่อยู่ตรงหน้าไม่มีใครเลยที่เธอรู้จัก จึงรู้ได้ทันที ว่าพวกเขาไม่ได้มาจับชู้ จึงรีบตบชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ไปสามสี่ครั้ง

“ไม่ต้องร้องขอความเมตตาแล้ว ไม่ได้มาจับพวกเรา ทำไมพี่ขี้ขลาดขนาดนี้ พวกเขายังไม่ได้พูดว่าจะทำอะไรเลย พี่ก็พูดไปเรื่อยเปื่อย”

ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นอย่างระมัดระวัง และกำลังจะอ้าปากพูด ก็ถูกลี่จุนถิงห้ามไว้ ลี่จุนถิงเล่นมืดที่อยู่ในมือ จากนั้นค่อยๆ เข้าไปใกล้ที่ลำคอของชายคนนั้น และยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์

“พูด แกเป็นคนของอาเธอร์ใช่ไหม?”

ชายคนนั้นเห็นมีดอยู่ในลำคอของเขา แม้แต่หายใจก็ไม่กล้า ดวงตาจ้องโต หยุดหายใจ แล้วพยักหน้าเบาๆ

“ดีมาก” ลี่จุนถิงมองไปที่เขายิ้มออกมาอย่างน่ากลัว “แกรู้ไหมว่าเดี๋ยวอาเธอร์จะใช้เส้นทางไหนในการเคลื่อนย้าย?”

“ไม่…ไม่รู้ ผม…ผมเป็นลูกน้องตัวเล็กๆ คนหนึ่งเท่านั้น เรื่องที่พวกเขาปรึกษาหารือกันผมไม่รู้ทั้งนั้น รู้แค่ว่าพวกเราจะแบ่งออกเป็นหลายทีมและเคลื่อนย้ายไปในเส้นทางที่แตกต่างกัน”

ผู้ชายคนนั้นรีบส่ายหัว พูดทุกอย่างที่เขารู้ออกมาอย่างคนติดอ่าง

ลี่จุนถิงเชื่อว่าเขาไม่ได้โกหก อีกอย่างถ้าเขาเป็นคนข้างกายของอาเธอร์ เวลานี้คงเป็นไปไม่ได้ที่จะออกมาหาชู้รัก ลี่จุนถิงมองไปที่ชิงโม่ บอกกับเขาให้ปล่อยสองคนนี้ไป

ชิงโม่หาคนมาสามสี่คน เพื่อพาพวกเขาออกไป จากนั้นสถานที่ที่ไม่มีคน แล้วจัดการฆ่าพวกเขาทิ้ง

หลังจากนำพวกเขาออกไป ชิงโม่เห็นกางเกงในลูกไม้ยังคงอยู่ที่ขอบหลังคา หาไม้ยาวด้ามหนึ่งเขี่ยมันขึ้นมาแล้วโยนทิ้งไปอีกฟาก จากนั้นสะบัดมือ และเดินกลับมาด้วยสีหน้าที่รังเกียจ

“คนคนนี้อสุจิเข้าสมองแล้วจริงๆ เวลาไหนแล้วยังมาเถลไถลที่นี่อีก ถ้าพวกเราไม่ฆ่ามัน หลังจากที่มันกลับไปก็ต้องถูกอาเธอร์ฆ่าทิ้ง พวกเราถือว่าช่วยอาเธอร์กำจัดบุคคลที่ก่อให้เกิดความหายนะไปได้คนหนึ่ง”

ชิงโม่พูดจบ หัวเราะกับตัวเองอย่างได้ใจ รู้สีกว่าตัวเองได้ทำเรื่องดีที่ยิ่งใหญ่ไปเรื่องหนึ่งเลย

ลี่จุนถิงเหลือบตามองเขา “อย่ามาพูดจาล้อเล่นกันอยู่เลย รีบเฝ้าระวังให้ดี เดี๋ยวถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ผมจะให้คุณรับผิดชอบ”

“ประธานลี่ ทำไมคุณเป็นคนแบบนี้ ทำไมชอบข่มขู่คนอื่นด้วย” ชิงโม่พูดอย่างไม่พอใจ

ลี่จุนถิงเหลือบไปมองเขาอีกครั้ง ชิงโม่ทำท่ารูดซิปปากทันที และเดินไปอยู่บริเวณที่ห่างไกลกับลี่จุนถิงมาก เฝ้าดูความเคลื่อนไหวของข้างล่าง

พวกเขารอไปสักพัก แต่อาเธอร์ก็ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวใดๆ เลย และผ่านไปอีกสักพัก พระอาทิตย์ตกดินไปหมดแล้ว ที่นี่มืดสนิทไม่มีแม้แสงไฟสักดวง สภาพแวดล้อมทั้งหมดก็มืดสลัวมาก และบนท้องถนนก็มีผู้คนไม่มากนัก อันตรายก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น

ชิงโม่รอจนเริ่มกังวลเล็กน้อย “ประธานลี่ พวกเขาเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงยังไม่ออกมาอีก?”

ลี่จุนถิงมองไปที่ผู้คนที่เดินอยู่ข้างล่าง ตอนนี้เป็นเวลาที่คนเยอะที่สุด “เร็วๆ นี้แหละ ตอนนี้เป็นเวลาที่คนเยอะที่สุด พวกเขาไม่ปล่อยโอกาสนี้ไปแน่ บอกคนของพวกเรา เตรียมตัวให้พร้อม แล้วฟังคำสั่งฉัน เตรียมตัวปฏิบัติการ”