บทที่ 671 หากยังไม่ออกมาอีก ฉันจะฆ่าเธอให้ตาย

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

ไฟริมถนนที่สลัวทำให้ค่ำคืนราตรีหลอมละลายกลายเป็นแสงตะวัน ไม่รู้ว่ามีเสียงไวโอลินเป็นช่วงๆ ดังผ่านมาจากไหน บทเพลงที่เศร้า ราวกับร้องไห้ราวกับพร่ำเพ้อ ความคมของสายด้านนอกเหมือนว่าจะทะลุผ่านข้ามคืนที่มืดมน แต่โน้ตเพลงด้านในที่ต่ำและหวนกลับมานั้นราวกับได้ผ่าหัวใจออกมา

ส่วนฝูงชนที่พลุกพล่านอยู่บนท้องถนน ยังคงไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ถึงแม้ไม่รู้ว่าจะถูกระเบิดทิ้งเมื่อไร ชีวิตในแต่ละวันก็ลำบากมาก แต่ว่าหลายคนก็ยังคงมีความหวังและมองโลกในแง่ดี และคิดว่าต้องมีสักวันที่จะดีขึ้น

อาเธอร์มองดูดวงอาทิตย์ ลุกขึ้นมา จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย “เตรียมตัวลงมือ”

ตามคำสั่งของอาเธอร์ คนของอาเธอร์ต่างก็ออกไป ทหารของอาเธอร์แยกทางกันสองสามทาง เริ่มลงมือ

อาเธอร์พาคนส่วนหนึ่งไปลี่จุนถิงที่เป็นทางที่คนเยอะที่สุดในนั้น อดอร์ฟพาคุณหนูเบ็ตตี้และบุคลากรทางด้านการแพทย์ไปอีกทางหนึ่ง ส่วนเอตัมนั้นพาเจียงหยุนเอ๋อและดอกเตอร์คูลี่ไปทางที่เหมือนว่าจะปลอดภัยที่สุด ทางที่เหลืออีกไม่กี่ทางก็แบ่งคนอื่นๆ ไป

อาเธอร์เห็นว่าลี่จุนถิงเป็นนักธุรกิจคนหนึ่ง มีกองกำลังคนมากมายแบบนั้น อีกอย่างก็นึกไม่ถึงแผนการที่พวกเขาใช้บ่อยๆ ลี่จุนถิงเองก็จะใช้ นี่ก็เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเขาเป็นศัตรูแล้ว

ก่อนที่จะออกเดินทาง อาเธอร์ได้ไปเตือนเจียงหยุนเอ๋อและดอกเตอร์คูลี่เป็นพิเศษก่อน

“ฉันจะบอกพวกเธอให้นะ เดี๋ยวพวกเธอเดินตามมาดีๆ ไม่เช่นนั้นฉันให้พวกเธอตายระหว่างทางแน่ โดยเฉพาะนายดอกเตอร์คูลี่ ดีที่สุดสมองของนายไม่ต้องคิดแผนการอะไรออกมา ขาของนายเป็นถึงขนาดนี้แล้ว ก็ไม่ต้องคิดจะหนีแล้ว”

หลังจากที่อาเธอร์เตือนพวกเขาเรียบร้อยแล้ว ก็หันไปพูดกับเอตัมและธินา “พวกเธอดูพวกมันให้ดี ขอแค่พวกมันมีความคิดที่จะหนี ก็รีบฆ่าให้ตาย โดยเฉพาะเธอธินา เธอจะต้องรู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือยาที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยเบ็ตตี้ของฉัน เธอห้ามเกิดความสงสารความเห็นอกเห็นใจขึ้นมาเด็ดขาด”

ถึงแม้ว่าธินาจะไม่เห็นด้วยกับการที่อาเธอร์พูดแบบนี้ แต่ว่าก็ภาพภายนอกยังพยักหน้าคล้อยตาม

ชิงโม่รอยอยู่บนเวทีจนใจจะขาดแล้ว จู่ๆ ก็เห็นคนบนท้องถนนเพิ่มขึ้นมาเป็นหลายเท่า รีบตะโกนเรียกลี่จุนถิง

“ประธานลี่ ท่านดูถนนเส้นนี้สิครับ จู่ๆ ก็มีคนเพิ่มขึ้นแล้ว อีกอย่างยังเป็นระเบียบมากด้วย”

ลี่จุนถิงมองลงไป เห็นอาเธอร์ที่สวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งในฝูงชน ถึงแม้ว่า การแต่งตัวของอาเธอร์จะไม่แตกต่างจากคนจนรอบๆ แต่ว่าแววตาที่แหลมคมและระมัดระวังของเขาทำให้ลี่จุนถิงมองออกในแวบแรก

ทางชิงโม่ก็สังเกตเห็นกองทัพของอาเธอร์ หลังจากที่สำรวจกองทัพแล้ว “ประธานลี่ ทางพวกเขาไม่มีคุณนายนิครับ”

ขณะนี้ ในหูฟังของพวกเขามีเสียงของเฟิงจิงเป่ยดังขึ้นมา เฟิงจิงเป่ยอยู่บนเส้นถนนที่คนน้อยที่สุด

“ประธานลี่ ท่านเดาถูกแล้วครับ พวกเขาอยู่ทางนี้ ไม่เห็นคุณหนูเจียง เห็นแต่ดอกเตอร์คูลี่ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดดอกเตอร์คูลี่จึงนั่งอยู่บนรถเข็น”

“สังเกตดีๆ ดอกเตอร์คูลี่อยู่ หยุนเอ๋อก็ต้องอยู่”

ลี่จุนถิงพูดไปด้วยขยับตัวไปมองถนนเส้นนั้นด้วย จู่ๆ เขาก็เห็นว่าคนที่เข็นดอกเตอร์คูลี่อยู่นั้นมีความคุ้นตา เขาลองสังเกตดูดีๆ แววตาที่แจ่มแจ้งคู่นั้นมีเพียงแต่เจียงหยุนเอ๋อที่มี หลังจากเขาเห็นแล้วก็รีบไปบอกกับเฟิงจิงเป่ย

“เฟิงจิงเป่ย ผู้หญิงที่เข็นดอกเตอร์คูลี่อยู่นั้นก็คือหยุนเอ๋อ แต่ว่านายจะต้องระวังคนข้างกายของพวกเขาสองคนนั้น โดยเฉพาะผู้ชายคนนั้น เขามีฝีมือที่ไม่แพ้นายแน่นอน”

“ได้ครับ พวกเราจะลงมือตอนนี้เลยไหมครับ?”

“ลงมือเลย แต่ว่าเดี๋ยวฉันจะไปทางนาย นายก็ไปรวมตัวกับชิงโม่ แล้วไปจับอาเธอร์พร้อมกัน”

“ครับ”

ตามคำสั่งของลี่จุนถิง คนของพวกเขาเริ่มลงมือแล้ว

ทางเจียงหยุนเอ๋อได้เริ่มเดินออกไปทางข้างนอกตามเอตัม คนรอบๆ ข้างจ้องพวกเขาอยู่ตลอดเวลา ทำให้เธอไม่สามารถพูดคุยกับดอกเตอร์คูลี่ได้ อีกอย่างเธอยังต้องเข็นดอกเตอร์คูลี่ ดังนั้นเธอไม่มีแม้แต่วิธีที่จะส่งสายตาให้ดอกเตอร์คูลี่

เพื่อที่พวกเขาจะผสมอยู่ในกลุ่มชนให้ดีขึ้น ดังนั้นรถเข็นของดอกเตอร์คู่ลี่ก็เป็นรถเข็นที่เก่าและเสีย เจียงหยุนเอ๋อเห็นรถเข็นแล้ว ในใจก็เริ่มดีใจเลย

พึ่งเดินออกจากนอกประตู เจียงหยุนเอ๋อก็อดมองไปรอบๆ ไม่ไหวแล้ว แต่เพราะว่าเธอถูกจ้องอยู่ ดังนั้นจึงไม่กล้ามองตรงๆ ได้แต่แอบมอง

เจียงหยุนเอ๋อเข็นดอกเตอร์คูลี่ไประยะทางหนึ่งแล้ว จู่ๆ ก็ล้มลงพื้น ธินาตกใจเลย รีบโค้งเอวลงจะไปพยุงเธอ

เจียงหยุนเอ๋อนั่งลงบนพื้น พร่ำบ่นไม่หยุด

“อัยโย เจ็บจะตายแล้ว นี่รถเข็นของพวกนายก็เน่าเกินไปแล้วมั้ง เข็นก็เข็นไม่ไหวแล้ว ยังทำฉันล้มอีกด้วย”

เอตัมไม่ได้พูดอะไร เจียงหยุนเอ๋อนั่งฟ้องอยู่ที่พื้น เสียงของเธอดังนั้น ดึงดูดสายตารอบๆ ไม่น้อยเลย เอตัมรีบมองไปทางรอบๆ ข้าง แอบขวักปืนออกมา แล้วเผยช่องปืนไปทางเจียงหยุนเอ๋อ

“เธอลุกขึ้นมา ถ้ายังไม่ลุกอีกฉันจะฆ่าเธอตายเลย”

เจียงหยุนเอ๋อรู้ว่าตัวเองเป็น

“นี่ก็เพราะว่าฉันล้มแล้วเท้าพลิกไง ฉันก็ไม่อยากนิ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันประสบเรื่องแบบนี้ ตื่นเต้นมากๆ นายไม่ต้องทำให้โหดๆ แบบนี้ได้หรือเปล่า”

เอตัมกระวนกระวายและกังวลมาก ท่าทางของเจียงหยุนเอ๋อดึงดูดสายตาของคนไม่น้อยเลย เสียเวลามากแล้ว หากยังไม่ไปอีก ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น

“ธินา รีบพยุงเธอขั้นมาเถอะ”

เจียงหยุนเอ๋อเห็นว่าเอตัมจะสร้างความลำบากใจให้กับธินาแล้ว จึงรีบจับมือของธินาแล้วลุกขึ้น หลังจากที่ขึ้นมาแล้วยังสะบัดขี้ดินที่กางเกง แล้วถ่วงเวลาต่อ

ตอนที่ลี่จุนถิงมาถึงที่นี่ เจียงหยุนเอ๋อกำลังทำอะไรอย่างไร้เหตุผลเพื่อถ่วงเวลาอยู่ ลี่จุนถิงพึ่งยืนนิ่ง ก็ได้ยินเสียงทางชิงโม่ดังผ่านมาแล้ว

“ประธานลี่ พวกเราลงมือแล้วครับ”

ในตอนที่ชิงโม่เริ่มลงมือกับพวกอาเธอร์ ทางเอตัมก็ได้รับข่าวไว้ รีบดึงเจียงหยุนเอ๋อพวกเขาเดินตรงไปทางข้างหน้า ทันใดนั้นลี่จุนถิงก็รีบออกคำสั่ง ทุกคนต่างก็พุ่งออกไป

ในตอนที่พวกลี่จุนถิงพุ่งออกไปกะทันหัน คนของเอตัมตกใจมาก รีบหยิบปืนออกมาต่อต้าน แต่ว่าพวกเขายังไม่ทันหยิบปืนออกมาก็ถูกคนของลี่จุนถิงใส่เข้ามาแล้ว

เอตัมเห็นแล้ว รีบดึงเจียงหยุนเอ๋อพวกเขามาหลบข้างๆ แต่ว่าเจียงหยุนเอ๋อจะทำตามที่เขาหวังได้อย่างไร สะบัดมือของเขาออก แล้วกลับมือแย่งปืนของเอตัมมา

เอตัมอึ้งไปเลย คิดในใจว่าตัวเองประมาทเกินไปแล้วจริงๆ กลับไม่ได้ป้องกันผู้หญิงที่อ่อนแอคนนี้ไว้

ลี่จุนถิงเองก็เห็นสถานการณ์ทางพวกเขาแล้ว รีบวิ่งมา ก้าวออกไปแล้วปล่อยหมัด เกือบจะมองไม่เห็นท่าทางที่ปล่อยหมัดของเขาออกมาแล้ว แต่ว่าเอตัมก็ไม่ใช่คนที่จะมาหาเรื่องได้ง่ายๆ แค่ขยับก็หลบหมัดของลี่จุนถิงได้แล้ว

ลี่จุนถิงหันหลังไปมองเจียงหยุนเอ๋อ จากนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว อยากจะต่อยลงไปทางท้องของเอตัม แต่ว่าเอตัมยังคงหลบไปได้แล้ว

เอตัมเริ่มโต้กลับแล้ว ดึงคนข้างกายของตัวเองมา แล้วถีบออกไปราวกับฟ้าแลบ อยากจะถีบคนคนนั้นไปยังบนตัวของลี่จุนถิง จากนั้นก็ไปลักลอบโจมตีเขา

แต่พอเจียงหยุนเอ๋อเห็นว่าลี่จุนถิงมีอันตราย ก็รีบนำปืนที่อยู่บนมือของตัวเองขึ้นมา แล้วยิงไปทางเอตัม