ตอนที่ 669 ความน่าเกรงขาม

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

เมื่อ​เห็น​หนึ่ง​ใน​ผู้​มีพ​ระ​คุณ​ช่วยชีวิต​ ​อวิ​๋น​ชวน​จึง​รู้สึก​ตื่นเต้น​ซาบซึ้ง

เนื่องจาก​นับแต่​เขา​ได้​เข้ามา​ประกอบอาชีพ​เป็น​ผู้​เคลื่อนย้าย​ศพ​ ​ก็​ไม่​ค่อย​ได้​รู้จัก​คนภายนอก​เท่าไร​นัก​ ​ยิ่ง​ไม่​คิด​จะ​เป็นเพื่อน​กับ​คนภายนอก​ ​แต่​นั่น​ก็​ไม่ได้​หมายความว่า​เขา​จะ​ลืม​บุญคุณ​ของ​ผู้​มีพ​ระ​คุณ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ ​เขา​ได้​บอกชื่อ​ของ​ตน​กับ​พี่ชาย​ผู้​นั้น​ ​หมายความว่า​พวกเขา​ทั้งหลาย​มีความสำคัญ​ต่อ​ใจ​อย่าง​ไม่ธรรมดา

พี่ชาย​ผู้​นั้น​กล่าวว่า​ผู้​ที่​เอ่ย​ให้​ช่วย​คน​แรก​คือ​แม่นาง​อาฮ​วา

อวิ​๋น​ชวน​ต้องการ​เข้าใกล้​สตรี​ผู้​กำลัง​เต้นรำ​ใน​ที่​ไม่​ไกล​ออก​ไป​นัก​ ​แต่​ก็​เกรง​จะ​ดึงดูด​ความสนใจ​จาก​ผู้อื่น​ ​จึง​ทำได้​เพียง​เต้นรำ​ด้วย​ท่าทาง​แข็งทื่อ​ ​ค่อยๆ​ ​ขยับ​เข้าไป​ใกล้

ในที่สุด​ก็​เข้ามา​อยู่​ข้างหลัง​ของ​สตรี​นาง​นั้น​ ​ชายหนุ่ม​รวบรวม​ความกล้า​ตะโกน​ออกมา​ว่า​ ​“​แม่นาง​อาฮ​วา​”

อาฮ​วายั​งคง​เต้นรำ​ตาม​จังหวะ​ทำนอง​โดย​ไม่​หยุด​ฝีเท้า​ลง​ ​นาง​หันหลัง​กลับมา​มอง​ชายหนุ่ม​แปลกหน้า​แล้ว​เอ่ย​ถาม​อย่างประหลาดใจ​ ​“​เจ้า​เรียก​ข้า​หรือ​”

ข้าง​หู​เต็มไปด้วย​เสียง​ของ​เครื่องดนตรี​ ​ประกอบกับ​เสียง​แตร​ที่​ยัง​ดัง​ไม่​หยุด​ ​อวิ​๋น​ชวน​รู้สึก​ว่า​ตน​ฟัง​ไม่ชัด​ ​จึง​ก้าว​เข้าไป​อีก​ก้าว​หนึ่ง

การร่ายรำ​ของ​อาฮ​วายัง​ไม่​หยุด​ลง​ ​แต่​สีหน้า​ท่าที​ของ​นาง​ดูระ​มัด​ระวัง​ขึ้น​เล็กน้อย​ ​ก่อน​จะ​เอ่ย​ถาม​อย่างตรงไปตรงมา​ว่า​ ​“​เจ้า​เป็น​ใคร​กัน​แน่​”

อวิ​๋น​ชวน​รู้สึก​งุนงง​ ​ก่อน​จะ​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​ขนม​เปี๊ยะ​ที่​เจ้า​ให้​ข้า​ ​ข้า​ยัง​กิน​ไม่​หมด​…​”

สตรี​สวม​กระโปรง​สีสัน​สดใส​นาง​หนึ่ง​ร่ายรำ​หมุน​มา​ข้าง​กาย​อาฮ​วา​ ​เอ่ย​ถาม​ด้วย​น้ำเสียง​อัน​ไพเราะ​เสนาะ​หู​ว่า​ ​“​อาฮ​วา​ ​เจ้า​กำลัง​สนทนา​กับ​ผู้ใด​”

อาฮ​วายิ​้ม​ให้​สตรี​กระโปรง​สีฉูดฉาด​นาง​นั้น​ ​“​ข้า​ไม่ได้​สนทนา​กับ​ผู้ใด​ ​สอง​สาม​วัน​มานี​้​มัก​เจอ​แต่​คน​แปลก​ๆ​ ​…​”

อวิ​๋น​ชวนมอง​ไป​ทาง​สตรีทั​้ง​สอง​ที่​ร่ายรำ​ห่าง​ออก​ไป​ ​ความ​เย็นชา​แผ่ซ่าน​ออกมา​จาก​ใจ

สตรี​นาง​นี้​ไม่ใช่​อาฮ​วา​!

นี่​มัน​เกิดเรื่อง​ใด​ขึ้น​กัน

ชายหนุ่ม​รู้สึก​งุนงง​เหลือเกิน​ ​เขา​สัมผัส​ได้​ถึง​ความคลุมเครือ​ตรงหน้า

ขณะนั้น​เจียง​ซื่อ​ได้​เดิน​ตรง​มา​อยู่​บริเวณ​หัวหน้า​ผู้อาวุโส​ ​เหล่า​ผู้นำ​ชั้นสูง​ของ​เผ่า​อู​เหมียว​และ​เผ่า​อื่นๆ​ ​ล้วน​ยุ่ง​อยู่​ ​จึง​ไม่มี​ผู้ใด​สนใจ​ชายหนุ่ม​เพียง​คนเดียว​ ​รวมทั้ง​ผู้อาวุโส​ที่​เคย​พบ​กับ​เขา​ด้วย

บัดนี้​ ​ทุกคน​ต่าง​รู้สึก​สนใจ​คำถาม​ที่​หัวหน้า​เผ่า​เสวี​่ย​เหมียว​เอ่ย​ถาม​ขึ้น​มา

สายตา​ของ​หัวหน้า​เผ่า​เสวี​่ย​เหมียว​จ้องมอง​ไป​ทาง​เจียง​ซื่อ​ ​“​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​ปิดประตู​จำศีล​ฝึก​ตน​อยู่​ถึง​สาม​ปีก​ว่า​ ​ไม่ทราบ​ว่าวิ​ชา​สกัด​หนอน​พิษ​กู่​ฝึก​ได้​บรรลุ​แล้ว​หรือไม่​”

ประโยค​นี้​ทำให้​ผู้อาวุโสฮ​วา​ถึงกับ​หน้า​เปลี่ยนสี​ ​สีหน้า​ของ​หัวหน้า​ผู้อาวุโส​แม้น​ไม่ได้​เปลี่ยนแปลง​ ​แต่​หัวใจ​ของ​นาง​ก็​กระสับกระส่าย​ขึ้น​ทันใด

หลังจากที่​อา​ซังตาย​จากไป​ ​เพื่อ​เป็นการ​ปลอบใจ​คนใน​เผ่า​ ​จึง​ได้​ให้เหตุผล​ว่า​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​จะ​ปิดประตู​บำเพ็ญตน​เพื่อ​ฝึกฝน​วิชา​สกัด​หนอน​พิษ​กู่

ใน​เผ่า​อู​เหมียว​ ​ผู้​ที่​มี​ความสามารถ​ใน​การ​ฝึก​วิชา​สกัด​หนอน​พิษ​กู่​มี​เพียง​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​เท่านั้น

นั่น​หมายความว่า​ ​บัดนี้​ ​ผู้​ที่​มีวิชา​สกัด​หนอน​พิษ​กู่​ ​คน​หนึ่ง​คือ​หัวหน้า​ผู้อาวุโส​ ​อีก​คน​หนึ่ง​ก็​คือ​อา​ซัง

แต่​ในความเป็นจริง​ ​อา​ซัง​ยัง​ไม่ทัน​ได้​บรรลุ​วิชา​สกัด​หนอน​พิษ​กู่​อย่าง​สมบูรณ์

เรื่อง​นี้​ดึง​ดู​ความสนใจ​ของ​ผู้คน​มากมาย

หัวหน้า​ผู้อาวุโส​นึกถึง​การ​จากไป​ของ​อา​ซัง​ ​หัวใจ​ก็​เยือกเย็น​ดุจ​น้ำแข็ง

คนใน​ชน​เผ่า​หรือ​แม้แต่​ผู้อาวุโส​เหล่านั้น​ล้วน​ไม่รู้​ว่า​อา​ซัง​ไม่ได้​ป่วย​ตาย​ ​แต่​นาง​ถูก​หนอน​พิษ​กู่​ต่อต้าน​กลับ​เมื่อ​ครั้น​ฝึกฝน​วิชา​สกัด​หนอน​พิษ​กู่

การ​ที่​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​ปิดประตู​ฝึก​ตน​นั้น​เป็นเรื่อง​จริง​ ​แต่​เนื่องจาก​อา​ซัง​รีบร้อน​เกิน​เหตุ​ ​จึง​ไม่​อาจ​ควบคุม​วิชา​สกัด​หนอน​พิษ​กู่​ได้​ ​ท้ายที่สุด​จึง​ถึงแก่ชีวิต

นี่​คือ​ความสูญเสีย​ครั้ง​ใหญ่​ของ​เผ่า​อู​เหมียว​ ​ไม่​สิ​ ​แท้จริง​แล้ว​นับแต่​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​รุ่น​หัวหน้า​ผู้อาวุโส​เป็นต้นมา​ ​เรียก​ได้​ว่า​เป็น​พิบัติ​มาตั​้ง​นาน​แล้ว​…

หัวหน้า​ผู้อาวุโส​ละ​ความคิด​ของ​ตน​กลับมา​แล้ว​มอง​ไป​ทางหัว​หน้า​เผ่า​เสวี​่ย​เหมียว​ ​“​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​พวกเรา​จะ​เป็น​เช่นไร​ ​จำเป็นต้อง​รายงาน​ให้​หัวหน้า​เผ่า​เสวี​่ย​เหมียว​รับรู้​ด้วย​หรือ​”

หัวหน้า​เผ่า​เสวี​่ย​เหมียว​ยิ้ม​ขึ้น​เล็กน้อย​ ​“​ชน​เผ่า​น้อย​ทั้ง​สิบ​กว่า​ชน​เผ่า​ยกย่อง​ชน​เผ่า​ของ​ท่าน​มาก​ที่สุด​ ​สิ่ง​ที่​พวกเรา​เทิดทูน​นั่น​คือ​การคุ​้ม​ครอง​จาก​เผ่า​อู​เหมียว​ ​เพื่อให้​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​อู​เหมียว​มีพลัง​สูงสุด​ ​แต่​ข้า​จำได้​คลับคล้ายคลับคลา​เมื่อ​สาม​ปีก​ว่า​ก่อนหน้านี้​ ​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​สามารถ​ควบคุม​วิชา​สกัด​หนอน​พิษ​กู่​ได้​เพียงแค่​เล็กน้อย​เท่านั้น​ ​นี่​ช่าง​อับอาย​ต่อ​คำ​ขาน​ว่า​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​”

ชน​เผ่า​อื่น​ได้​แต่​พยักหน้า​เห็นด้วย

ไม่มี​ชน​เผ่า​ใด​ที่​ยินยอม​ให้​ชน​เผ่า​อื่น​เข้ามา​ปกครอง​ชน​เผ่า​ของ​ตนเอง​ไป​ตลอดชีวิต​ ​การ​ที่​พวกเขา​ยินยอม​ ​นั่น​เป็นเพราะว่า​เผ่า​อู​เหมียว​มี​กำลัง​อัน​แข็งแกร่ง​อยู่​ใน​มือ​ ​และ​พลัง​อัน​แข็งแกร่ง​นี้​ถูก​ถ่ายทอด​ออกมา​จาก​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์

นับตั้งแต่​ตำแหน่ง​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​รุ่น​ก่อน​ว่าง​ลง​ ​พวกเขา​ทั้งหลาย​ก็​รู้สึก​ไม่​พึงพอใจ​นัก​ ​ต่อมา​เมื่อ​ปรากฏ​เด็กหญิง​คน​หนึ่ง​ที่​มี​ความสามารถ​ใน​การฝึกฝน​วิชา​สกัด​หนอน​พิษ​กู่​ ​นั่น​ก็​คือ​อา​ซัง​ ​พวกเขา​จึง​ได้​ละทิ้ง​ความคิด​นั้น​ไป

แต่​พวกเขา​ไม่เคย​ลืม​ว่า​ ​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​อู​เหมียว​หรือ​อา​ซัง​ยัง​ไม่​สามารถ​ฝึกฝน​วิชา​สกัด​หนอน​พิษ​กู่​ได้​เต็ม​ร้อย​ ​หาก​จะ​เอ่ย​อย่างแท้จริง​แล้ว​ ​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​ที่​ควบคุม​พลัง​ได้​เพียงแค่​สาม​ส่วน​ ​นับ​ได้​แค่​ดีกว่า​ตัวเลือก​คนอื่นๆ​ ​ที่จะ​ขึ้น​มา​เป็น​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​ก็​เท่านั้น

แน่นอน​ว่า​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​แต่ละ​รุ่น​ของ​เผ่า​อู​เหมียว​ไม่ได้​สำเร็จ​วิชา​สกัด​หนอน​พิษ​กู่​ตั้งแต่แรก​เริ่ม​ ​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​มากมาย​สามารถ​ควบคุม​วิชานี​้​ได้​ใน​ตอน​เริ่ม​ฝึกฝน​เพียงแค่​สาม​ส่วน​ไม่​เกิน​ห้า​ส่วน​เท่านั้น​ ​และ​ค่อยๆ​ ​เพิ่มมากขึ้น​ตาม​ระยะเวลา​ที่​ฝึกฝน

หัวหน้า​เผ่า​เสวี​่ย​เหมียว​มอง​ไป​ทาง​เจียง​ซื่อ​แล้ว​ยิ้ม​ขึ้น​กล่าวว่า​ ​“​ตั้งแต่​ไหน​แต่​ไร​มา​ ​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​เผ่า​อู​เหมียว​จะ​สำเร็จ​วิชา​สกัด​หนอน​พิษ​กู่​ตอน​อายุ​สิบ​แปด​ปี​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​ ​ข้า​ได้ยิน​มา​ว่า​หัวหน้า​ผู้อาวุโส​มี​ความสามารถ​อัน​โดดเด่น​และ​บรรลุ​การฝึกฝน​วิชา​สกัด​หนอน​พิษ​กู่​ได้​เมื่อ​อายุ​เพียง​สิบห้า​ปี​ ​บัดนี้​ท่าน​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​มีอายุ​ใกล้​จะ​สิบ​แปด​ปี​แล้ว​ ​คาด​ว่า​คงจะ​บรรลุ​วิชา​แล้ว​กระมัง​”

เผ่า​เสวี​่ย​เหมียว​แยกตัว​ออก​ไป​จาก​เผ่า​อู​เหมียว​ ​ดังนั้น​พวกเขา​จึง​เข้าใจ​เรื่อง​นี้​เป็น​ดี

แท้จริง​แล้ว​หัวหน้า​เผ่า​เสวี​่ย​เหมียว​รู้สึก​สงสัย​ใน​พรสวรรค์​ของ​อา​ซัง​มาโดยตลอด​ ​หากว่า​ชน​เผ่า​ย่อย​ทั้ง​สิบ​กว่า​ชน​เผ่า​รวมตัวกัน​เปิดโปง​พรสวรรค์​ของ​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​เผ่า​อู​เหมียว​ใน​รุ่น​นี้​ว่า​ไม่​เพียงพอ​ ​นั่น​หมายความว่า​พลัง​อำนาจ​ของ​เผ่า​อู​เหมียว​จะ​ลดน้อยลง​ ​เช่นนั้น​เสวี​่ย​เหมียว​ก็​มีโอกาส

เมื่อ​เผชิญหน้า​กับ​ความ​ยั่วยุ​ของ​หัวหน้า​เผ่า​เสวี​่ย​เหมียว​ ​หัวหน้า​ผู้อาวุโส​ก็​โมโห​เดือดดาล​ ​“​วันนี้​คือ​เทศกาล​ซินหั​่ว​ ​ผู้คน​ใน​ชน​เผ่า​มากมาย​เดินทาง​มาที​่​นี่​เพื่อ​เฉลิมฉลอง​ชื่นชมยินดี​ ​แต่​หัวหน้า​เผ่า​เสวี​่ย​เหมียว​ ​ท่าน​กลับ​ไม่มี​ความเคารพ​ยำเกรง​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​เผ่า​ข้า​แม้แต่น้อย​ ​ไม่ทราบ​ว่า​ท่าน​มี​จุดประสงค์​ใด​”

หัวหน้า​เสวี​่ย​เหมียว​หัวเราะ​ขึ้น​เบา​ๆ​ ​“​หัวหน้า​ผู้อาวุโส​ ​การ​เคารพ​ยำเกรง​นั้น​ก็​ต้อง​ดู​ความสามารถ​อัน​แท้จริง​ด้วย​ ​ข้า​ไม่กล้า​สงสัย​ต่อตัว​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​ ​เพียงแค่​ข้า​รู้สึก​เป็นห่วง​ความก้าวหน้า​ใน​การฝึกฝน​ตน​ของ​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​ก็​เท่านั้น​ ​การ​ที่​ท่าน​หัวหน้า​ผู้อาวุโส​หลีกเลี่ยง​หัวข้อ​นี้​ไม่​อยาก​กล่าวถึง​มัน​ ​นั่น​เพื่อ​สิ่งใด​กัน​เล่า​”

“​หัวหน้า​ผู้อาวุโส​ ​ในเมื่อ​วันนี้​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​ได้​ออกจาก​การ​จำศีล​ฝึก​ตน​แล้ว​ ​เหตุใด​จึง​ไม่​ให้​พวกเขา​ได้​เห็น​ฝีมือ​ของ​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​สักหน่อย​เล่า​ ​พวกเขา​จะ​ได้​ไม่​ดูถูก​เผ่า​อู​เหมียว​ของ​เรา​!​”​ ​ผู้อาวุโส​หน้า​ยาว​กล่าว​ขึ้น​ด้วย​ความโมโห

ผู้อาวุโส​อู​เหมียว​สอง​สาม​คน​พากั​นพ​ยัก​หน้า

ก่อนหน้านี้​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​ไม่ยอม​ปรากฏ​กาย​ต่อหน้า​สาธารณชน​ ​จึง​ถูก​ผู้คน​คาดเดา​ไป​ต่างๆ​ ​นานา​ ​บัดนี้​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​ปรากฏ​กาย​ขึ้น​แล้วก็​ยังคง​ถูก​คาดเดา​ไป​เรื่อยเปื่อย​ ​หาก​เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​ ​เผ่า​อู​เหมียว​คงจะ​ถูก​ผู้อื่น​เหยียบย่ำ​อยู่​ใต้​ฝ่าเท้า​อย่างแน่นอน

แม้แต่​คน​ฝั่ง​ตน​ยัง​ก้าว​ไป​ยืน​อยู่​ฝ่ายตรงข้าม​อย่าง​เงียบงัน​ ​ทำให้​หัวหน้า​ผู้อาวุโส​รู้สึก​ปวดศีรษะ​ยิ่งนัก​ ​นาง​รู้สึก​ว่า​ตน​กำลังจะ​ไม่​สามารถ​ควบคุมสถานการณ์​นี้​เอาไว้​ได้

หากว่า​อา​ซัง​ยังอยู่​ ​เพียงแค่​นาง​ปรากฏตัว​แก่​คนภายนอก​บางครั้ง​คราก​็​คง​ไม่เท่าไร​ ​แต่​ใน​วันนี้​กลับเป็น​วันที่​สตรี​ศักดิ์สิทธิ์​ปรากฏ​กาย​เป็นครั้งแรก​หลังจาก​ฝึก​วิชา​ ​ไม่ว่า​คนใน​ชน​เผ่า​หรือ​นอก​ชน​เผ่า​ ​แต่ละคน​ล้วน​พากัน​จับจ้อง​เป็นช่วง​เวลา​ที่​ทุกคน​ตั้งตารอ

การ​หลบเลี่ยง​หลีกหนี​นำมาซึ่ง​การคาด​เดา​ต่างๆ​ ​ของ​ผู้คน

ทันใดนั้น​แขน​เสื้อ​ของ​หัวหน้า​ผู้อาวุโส​ก็​ถูก​กระตุก​เล็กน้อย

ปรากฏ​มือ​เรียว​ยาว​ขาวผ่อง​ของ​สตรี​อัน​ไร้​ที่​ติ

แต่​สิ่ง​ที่​ทำให้​หัวหน้า​ผู้อาวุโส​รู้สึก​ดึงดูด​นั้น​ไม่ใช่​มือ​อัน​ขาวผ่อง​ ​แต่​เป็นตัว​อักษร​สีแดง​ที่​เขียน​ไว้​ใน​มือ​ว่า​ ​‘​สงบ​ ​เกรงขาม​’

แววตา​ของ​หัวหน้า​ผู้อาวุโส​เป็นประกาย​แวบ​เข้ามา​ ​นาง​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​เจียง​ซื่อ​อย่างรวดเร็ว

นาง​ให้​คำสัญญา​อย่างหนัก​แน่น​เอาไว้​ว่า​หลัง​ภารกิจ​สำเร็จ​แล้ว​จะ​ปล่อย​สอง​พี่น้อง​ไป​ ​ดังนั้น​บัดนี้​เจียง​ซื่อ​จึง​ยินยอม​ที่จะ​แสดง​ความเกรงขาม​ต่อ​ผู้คน​เหล่านี้

วินาที​นี้​ความรู้สึก​ใน​ใจ​ของ​หัวหน้า​ผู้อาวุโส​ดู​ซับซ้อน

นาง​ทำตัว​ไม่​ถูก​ ​ไม่เข้าใจ​ ​และ​มีความรู้สึก​ถึง​การรอคอย​อย่าง​ไม่​อาจ​อธิบาย​ได้

ส่วน​กำลัง​รอคอย​สิ่งใด​นั้น​ ​นาง​เอง​ก็​ไม่รู้

ท้ายที่สุด​แล้ว​หัวหน้า​ผู้อาวุโส​ก็​พยักหน้า​เบา​ๆ​

จาก​สิ่ง​ที่นา​งคิด​เอาไว้​ ​นาง​คง​ทำได้​เพียง​ทำตาม​คำ​บีบคั้น​ของ​หัวหน้า​เผ่า​เสวี​่ย​เหมียว​ ​อย่า​ว่าแต่​ตรงหน้า​นี้​เป็น​อา​ซัง​ตัว​ปลอม​เลย​ ​ต่อให้​อา​ซัง​ฟื้นคืนชีพ​ขึ้น​มา​ ​นาง​ก็​จำเป็น​จะ​ต้อง​เผชิญหน้า​รับ​กับ​ความจริง​ที่​ยัง​ไม่​สามารถ​บรรลุ​วิชา​สกัด​หนอน​พิษ​กู่​ได้

นาง​อยาก​จะ​เห็น​ยิ่งนัก​ว่า​สตรี​แห่ง​ต้า​โจว​นาง​นี้​จะ​ทำ​เช่นไร

เมื่อ​เจียง​ซื่อ​เห็น​ว่า​หัวหน้า​ผู้อาวุโส​พยักหน้า​ตอบรับ​แล้ว​ ​ริมฝีปาก​ของ​นาง​ก็​เผยอ​ขึ้น​เล็กน้อย

คำมั่นสัญญา​ของ​หัวหน้า​ผู้อาวุโส​ ​ทำให้​นาง​วางใจ​กว่า​คำของ​ผู้อาวุโสฮ​วา

เจียง​ซื่อ​หันไป​ยิ้ม​ให้​กับ​หัวหน้า​เผ่า​เสวี​่ย​เหมียว​ ​“​ท่าน​หัวหน้า​เผ่า​เสวี​่ย​เหมียว​เป็นห่วง​กังวล​เรื่อง​การฝึกฝน​วิชา​ของ​ข้า​เช่นนี้​ ​เป็น​เพราะ​คิดถึง​หนอน​ตัว​น้อย​เหล่านั้น​หรือ​”

นาง​กล่าว​จบ​ก็ได้​วางมือ​ลง​ที่​โต๊ะ​ ​จากนั้น​ดีด​ปลาย​เล็บ​เบา​ๆ​

“​รีบ​มอง​ไป​ที่​พื้น​เร็ว​”​ ​มี​ใคร​บางคน​ร้อง​ขึ้น

หนอน​ประหลาด​มากมาย​ปีนป่าย​ขึ้นไป​บน​ร่างกาย​ของ​หัวหน้า​เผ่า​เสวี​่ย​เหมียว