ตอนที่ 656 หลินเว่ยเว่ยสูญเสียความโปรดปราน

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

ตอนที่​ 656 หลิน​เว่ยเว่ย​สูญเสีย​ความ​โปรดปราน​

ตก​กลางคืน​ นาง​เล่าเรื่อง​อัน​น่า​ขำขัน​นี้​ให้​สามีฟัง แต่​ใคร​จะไป​รู้​ว่า​อีก​ฝ่าย​ครุ่นคิด​ด้วย​ความจริงจัง​ “ขอ​พูด​ตามตรง​ว่า​นิสัย​ของ​พี่น้อง​สอง​คน​นี้​ของ​เจ้าจัด​ว่า​ไม่เลว​ ต่อไป​น่าจะ​ไม่มีเรื่อง​บาดหมาง​ระหว่าง​แม่สามีลูกสะใภ้​เกิดขึ้น​ ถ้ามอง​จาก​ภาพลักษณ์​ของ​ครอบครัว​ ใน​ครอบครัว​ราชบุตร​เขย​เห​มิงและ​ครอบครัว​สกุล​หยวน​ไม่มีเรื่อง​น่า​ปวดหัว​อะไร​ เหลือ​แค่​ดู​นิสัย​ของ​เด็ก​ทั้งสอง​บ้าน​เท่านั้นเอง​ ! ”

หลิน​เว่ยเว่ย​ทำ​สีหน้า​หดหู่​ทันที​ “บุตรสาว​เพิ่ง​ลืมตา​ดู​โลก​ เจ้าก็​อยาก​ให้​นาง​แต่ง​ออก​ไป​แล้ว​หรือ​ ? ระวัง​นาง​ได้ยิน​เข้า​แล้ว​จะไม่ชอบ​ท่าน​พ่อ​อย่าง​เจ้า ! ”

เจียง​โม่หา​นม​อง​บุตรสาว​ตัว​น้อย​ที่​กำลัง​มีเหงื่อ​ออก​ตรง​หน้าผาก​แล้​วอด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​ออกมา​ “นาง​เพิ่ง​คลอด​ได้​เท่าไร​เอง​ จะรู้เรื่อง​อะไร​ได้​ ? อีก​อย่าง​คือ​ข้า​คิด​เผื่อ​นาง​ตั้งแต่​เนิ่น ๆ​ บุตร​เขย​และ​บ้าน​สามีที่​ดี​นั้น​ไม่ได้​หา​ง่าย ๆ​ เลย​ ต้อง​ลงมือ​ก่อน​ถึงจะดี​ ! ”

หลิน​เว่ยเว่ย​กลอกตา​ใส่เขา​ “เจ้ารู้​ได้​อย่างไร​ว่า​บุตรสาว​เรา​ฟังไม่รู้เรื่อง​ ? ไม่แน่​ว่า​นาง​อาจ​เป็น​คน​ที่​ทะลุ​มิติ​เวลา​มาก็ได้​ ! ทะลุ​มิติ​เข้าใจ​หรือไม่​ ? เหมือนกับ​ที่​ข้า​ทะลุ​มิติ​เวลา​มาพร้อม​ความทรงจำ​เดิม​…”

“ไม่หรอก​กระมัง​ ? แบบ​พวกเรา​น่าจะ​มีกัน​แค่​สอง​คน​ ไฉน​เลย​จะมีคน​แบบ​เรา​มากมาย​ น่ากลัว​จะตาย​ไป​ ! ” แม้ปาก​ของ​เจียง​โม่หา​น​จะพูด​แบบ​นั้น​ แต่​เขา​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หันไป​มอง​เจ้าตัว​น้อย​ซึ่งกำลัง​ออกแรง​ดิ้น​จน​ทำให้​หน้าแดง​อยู่​ ไม่รู้​ว่า​เขา​คิดมาก​ไป​หรือเปล่า​ เหตุใด​เขา​จึงรู้สึก​ว่า​เสี่ยว​หมี่​ลี่​เพิ่ง​เหลือบมอง​บิดา​ด้วย​สายตา​เหยียดหยาม​ขั้น​สุด​ ?

พอ​คิด​ว่า​ใน​ตัว​บุตรสาว​มีจิตวิญญาณ​ของ​ผู้ใหญ่​คน​หนึ่ง​สถิต​อยู่​ เจียง​โม่หา​น​ก็​ใกล้​จะขนหัวลุก​อยู่แล้ว​

หลิน​เว่ยเว่ย​หัวเราะ​ขึ้น​มาเบา​ ๆ “ดู​สภาพ​เจ้าเถิด​ ! เจ้าลอง​คิดดู​ว่า​ถ้าตนเอง​ไป​เกิด​เป็น​เด็กทารก​คน​หนึ่ง​ เจ้าจะกิน​นม​คนอื่น​ลง​โดย​ไม่คิด​อะไร​หรือ​ ? โดยเฉพาะ​มารดา​ผู้​นั้น​อายุ​น้อยกว่า​เจ้ามาก​ เจ้าจะกิน​ลง​หรือเปล่า​ ? ”

เจียง​โม่หา​น​คิด​ตาม​นาง​ ทันใดนั้น​ก็​ขนลุก​ไป​ทั้งตัว​แล้ว​รีบ​ส่าย​ศีรษะ​เหมือน​ปอ​ล่าง​กู่​ (กลอง​ป๋อง​แป๋ง​) ขณะ​ก้ม​มอง​บุตรสาว​ที่​กำลัง​ดูดนม​มารดา​อย่าง​เอาเป็นเอาตาย​ เขา​ก็​รู้สึก​สบายใจ​ขึ้น​มาก​ !

ทว่า​หลัง​ผ่าน​ไป​สอง​สามเดือน​ เขา​ก็​ยัง​สังเกต​บุตรสาว​ตัวเอง​อย่าง​ใกล้ชิด​ ยิ่ง​มอง​เท่าไร​ก็​ยิ่ง​สบายใจ​…เพราะ​เจ้าตัว​น้อย​ที่​ตกใจ​แม้ตนเอง​ผายลม​จน​ร้องไห้​ได้​นี้​ ไม่มีทาง​เป็น​ผู้​ที่​ทะลุ​มิติ​เวลา​หรือ​กลับชาติมาเกิด​ใหม่​แน่นอน​ !

ตั้งแต่​เสี่ยว​หมี่​ลี่​คลอด​ออกมา​ หลิน​เว่ยเว่ย​ก็​สูญเสีย​ความ​โปรดปราน​จาก​ฟู่หวา​งของ​นาง​ ห​มิน​อ๋อง​รัก​หลานสาว​ตัว​น้อย​คน​นี้​มาก​ แค่​กลับ​มาจาก​ค่ายทหาร​ที่​ชานเมือง​แล้วก็​เข้ามา​อุ้ม​หลาน​ชนิด​ไม่ยอม​วาง​ มัก​ขโมย​หลานสาว​ไป​ที่​สวน​จื่อถง​อยู่​บ่อยครั้ง​ หลัง​วาง​ไว้​ที่​แท่น​บรรทม​ของ​พระชายา​แล้วก็​บ่นพึมพำ​ว่า​ “เสวี่ยเอ๋อร์​ เจ้าคิด​ว่า​ตอนที่​บุตรสาว​เรา​เกิด​ นาง​งดงาม​และ​น่ารัก​แบบนี้​หรือไม่​ ? ”

ไม่ได้​เกิน​จริง​เลย​ เพราะ​หลังจาก​เสี่ยว​หมี่​ลี่​เติบโต​ขึ้น​มาอีกหน่อย​ ใบหน้า​อัน​งดงาม​ก็​เริ่ม​ปรากฏ​ให้​คนใน​ใต้​หล้า​ได้​รับรู้​ นาง​หนู​ตัว​น้อย​คิ้ว​โค้ง​มน​ ดวงตา​สองชั้น​ ขน​ตา​งอน​ยาว​ ปาก​น้อย​ ๆ ก็​แดง​ระเรื่อ​เหมือน​ตุ๊กตา​ไม่มีผิด​ แถมเจ้าตัว​น้อย​ยัง​เลี้ยง​ง่าย​ นอกจาก​หิว​หรือ​ถ่าย​แล้ว​ถึงจะร้อง​ออกมา​ โดยปกติ​ก็​จะนอนหลับ​อย่าง​ว่าง่าย​เหมือน​ลูก​หมู​น้อย​

“ก็​ต้อง​เหมือน​สิเพคะ​” ห​มิน​หวา​งเฟย​ทอดพระเนตร​หลานสาว​ด้วย​สายตา​อ่อนโยน​ ขณะ​ลูบ​เส้น​ผม​อัน​นุ่มนิ่ม​ของ​หลานสาว​ นาง​ก็​เหมือน​กำลัง​ครุ่นคิด​อะไร​บางอย่าง​…ตอน​อยู่​ท่ามกลาง​สนามรบ​ นาง​ไม่ทัน​ได้​ดู​ให้​ดี​ก็​บอก​ให้​ปิง​เจี๋ย​อุ้ม​บุตร​ออก​ไป​แล้ว​ ตอน​เด็ก​ ๆ หา​นเอ๋อร์​ของ​นาง​ก็​คง​งดงาม​และ​น่ารัก​เหมือน​เสี่ยว​หมี่​ลี่​กระมัง​

ห​มิน​อ๋อง​เห็น​นาง​มีความสุข​จึงตรัส​ว่า​ “เรา​อุ้ม​หลาน​มาเลี้ยง​ที่นี่​ดี​หรือไม่​ ? เจ้าคิดดู​นะ​ บุตรสาว​กับ​บุตร​เขย​ยุ่ง​กัน​ถึงขนาด​นั้น​ ยก​ให้​สาวใช้​ดูแล​แล้​วจะ​วางใจ​ได้​อย่างไร​ จริง​ไหม​ ? ”

“ถ้าไม่กลัว​เสี่ยว​เว่ย​สู้กับ​พระองค์​สุด​ชีวิต​ ก็​ตรัส​ออก​ไป​สิเพคะ​ ! ” ห​มิน​หวา​งเฟย​เอาใจเขามาใส่ใจเรา​ หาก​บุตร​ที่​นาง​ตั้งครรภ์​มากว่า​ 9 เดือน​ต้อง​ถูก​แม่สามีอุ้ม​ไป​ นาง​จะต้อง​หัวเสีย​แน่นอน​

ห​มิน​อ๋อง​ยัง​ตรัส​ด้วย​ความลังเล​ “เรา​ไม่ได้​ทำ​เพื่อ​พวก​นาง​กับ​หลาน​หรอก​หรือ​ ? ถ้าอย่างไร​…ตอนกลางวัน​ให้​มาอยู่​ที่​เรือน​เรา​ แล้ว​ตอนกลางคืน​ก็​อุ้ม​กลับ​ไป​ที่​เรือน​พวก​นาง​ ดี​หรือไม่​ ? ”

ห​มิน​หวา​งเฟยถลึง​ดวง​เนตร​ใส่คนขี้ขลาด​ ตัวเอง​ไม่กล้า​พูด​กับ​เสี่ยว​เว่ย​ แต่​ให้​นาง​ไป​รับบท​ตัว​ร้าย​แทน​ ! ตอน​รับประทาน​อาหารเย็น​ นาง​ตรัส​เรื่อง​นี้​กับ​สอง​สามีภรรยา​ หลิน​เว่ยเว่ย​ไม่ได้​คัดค้าน​ เพราะ​แม้ตอน​อยู่ไฟ​ นาง​ก็​งาน​ยุ่ง​มาก​จริง ๆ​ นอกจาก​ต้อง​ดูแล​เรื่อง​โรงงาน​แปรรูป​เนื้อ​แผ่น​แล้ว​ นาง​ยัง​ต้อง​สร้าง​โรงเรือน​ปลูก​ผัก​ขนาดใหญ่​ขึ้น​มา แม้จะปลูก​จำนวนมาก​ไม่ได้​ แต่​อย่าง​น้อย​ก็​แก้ปัญหา​เรื่อง​ผัก​ใน​ฤดูหนาว​ของ​ครอบครัว​ตนเอง​และ​พวก​ญาติมิตร​ทั้งหลาย​ได้​

ฤดูใบไม้ผลิ​มาเยือน​อีก​ครา​ หลิน​จื่อเหยียน​เดิน​เข้าสู่​สนามสอบ​ด้วย​ความมั่นใจ​เพื่อ​เข้าร่วม​การ​สอบ​ฮุ่ย​ซื่อ​อัน​โหดร้าย​ถึง 9 วัน​ติด​ เขา​โชค​ดีกว่า​เจียง​โม่หา​น​มาก​เพราะ​อากาศ​ดี​ แสงแดด​อบอุ่น​ แผ่น​แปะ​เพิ่ม​ความ​ร้อนที่​หลิน​เว่ยเว่ย​เตรียม​ให้​เขา​จึงไร้ประโยชน์​ขึ้น​มาทันที​

ข้าว​สำเร็จรูป​และ​หม้อไฟ​ถ้วย​ร้อน​กลายเป็น​ของจำเป็น​สำหรับ​ผู้​เข้า​สอบ​ แม้ราคา​ค่อนข้าง​สูง แต่​เพื่อ​ได้​รับประทาน​อาหาร​ร้อน​ ๆ เวลา​สอบ​แล้ว​ หาก​เป็นไป​ตามที่​กฎ​การ​สอบ​กำหนด​ พวก​บัณฑิต​ก็​นำ​เข้าไป​ด้วย​หลาย​ถ้วย​ หนิง​ตง​เซิ่งถึงขั้น​ลงทุน​เช่าร้าน​ใกล้​สนามสอบ​เพื่อ​ขาย​อาหารสำเร็จรูป​เหล่านี้​โดยเฉพาะ​ ไม่ว่า​จะเดินทาง​ไป​ต่างเมือง​หรือ​ออก​ไป​ท่องเที่ยว​ หรือ​พวก​ที่​ไม่อยาก​ก่อ​เตา​ทำอาหาร​เอง​ก็​จะมาซื้อ​อาหาร​ตุน​จากร้าน​นี้​เพื่อ​พกพา​ไว้​รับประทาน​ระหว่างทาง​ หลิน​เว่ยเว่ย​เอง​ก็​พลอย​ได้​เงินก้อน​โต​ไป​ด้วย​

ช่วง​สอง​สามปี​นี้​หนิง​ตง​เซิ่งไม่เพียง​เปิดร้าน​ขนม​สามสาขา​ที่​เมืองหลวง​เท่านั้น​ เขา​ยัง​เปิดร้าน​สาขา​ตาม​หัวเมือง​ต่าง ๆ​ อีกด้วย​ นอกจากนี้​สินค้า​ที่​ผลิต​ใน​โรงงาน​แปรรูป​เนื้อ​แผ่น​แถบ​ชาน​เมืองหลวง​ เช่น​ เนื้อไก่​แผ่น​ เนื้อ​หมูแผ่น​ เนื้อ​กระต่าย​เส้น​ หมู​ฝอย​ เนื้อ​อบ​และ​สินค้า​อื่น​ ๆ ก็​มีเขา​เป็น​ผู้รับผิดชอบ​ใน​การจัดจำหน่าย​

ยัง​ไม่รู้​ว่า​หนิง​ตง​เซิ่งหา​วัว​มาจาก​ที่ใด​อีก​ เขา​เลี้ยง​พวก​มัน​ใน​ฟาร์ม​เพื่อ​รีด​นมวัว​มาแปรรูป​แล้ว​ใช้เป็น​วัตถุดิบ​ใน​การ​ทำ​ขนม​ต่าง ๆ​ หลิน​เว่ยเว่ย​จึงรู้สึก​ว่า​เขา​ดู​พึ่งพา​ได้​มากกว่า​เดิม​เล็กน้อย​

เพราะ​ชื่อเสียง​ของ​องค์​หญิง​เว่ยเว่ย​และ​วิธี​ทำการค้า​ของ​เขา​ แม้หนิง​ตง​เซิ่งจะยัง​อายุ​ไม่มาก​ แต่กลับ​มีชื่อเสียง​ใน​เมืองหลวง​สุด​ ๆ ตอนนี้​แม้แต่​เรือน​หลัก​ของ​ตระกูล​หนิง​ที่​เมือง​เห​อ​โจว​ก็​ให้​ความเคารพ​ยำเกรง​เขา​มากกว่า​เดิม​…หนิง​ตง​เซิ่งไม่ใช่เด็กหนุ่ม​ที่​เพิ่ง​ก้าว​ออกจาก​บ้าน​สาขา​สกุล​หนิง​อีกต่อไป​ ตรงกันข้าม​คือ​บ้าน​สาขา​สกุล​หนิง​ยัง​ต้อง​พึ่งพา​เขา​อีกด้วย​ !

เมื่อ​ผลสอบ​ฮุ่ย​ซื่อ​ถูก​แปะ​ป้ายประกาศ​ หลิน​จื่อเหยียน​ก็​มีรายชื่อ​อยู่​ใน​นั้น​จริง ๆ​ หลัง​ผ่านพ้น​การ​สอบ​หน้า​พระที่นั่ง​ไป​แล้ว​ เขา​ก็​ถูก​ฮ่องเต้​คัดเลือก​ให้​เป็น​ทั่น​ฮวา​ (สอบ​ได้​อันดับ​ที่สาม​) ใช่ว่า​ความรู้​ของ​เขา​จัด​อยู่​ใน​สามอันดับ​แรก​ แต่​เพราะ​ใน​ 10 อันดับ​แรก​มีเพียง​เด็กหนุ่ม​อย่าง​เขา​คนเดียว​ นอกนั้น​เป็น​คน​ที่​อายุ​เกือบจะ​เท่า​แม่ทัพ​หลิน​ได้​อยู่แล้ว​ !

ตอนที่​ขบวนแห่​จอหงวน​เคลื่อน​ไป​ตาม​ถนน​ ขณะ​มอง​หลิน​ทั่น​ฮวา​บน​หลัง​ม้าแล้ว​ ติง​ห​ลิง​เอ๋อร์​ก็​รู้สึก​เสียใจ​เล็กน้อย​ ตอน​สมัย​ยัง​เยาว์​ บาง​ครา​ทั้งสอง​คน​อาจ​มีความรู้สึก​ดี ๆ​ ให้​แก่​กัน​ แต่​หลิน​จื่อเหยียน​ตาม​ไป​ที่​ภาค​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ด้วย​และ​กินเวลา​นาน​กว่า​ 3 ปี​ ตอนที่​เขา​กลับมา​เมืองหลวง​ ทาง​ครอบครัว​ก็ได้​หมั้น​หมาย​นาง​กับ​คนอื่น​ไว้​นาน​แล้ว​ ถ้าตอนนั้น​เขา​มีความกล้า​สักหน่อย​ นาง​เอง​ก็​เด็ดขาด​อีก​นิด​ ทั้งสอง​คน​ก็​อาจ​มีตอนจบ​ที่​แตกต่าง​ออก​ไป​กระมัง​ ?

ทว่า​ชีวิต​ในเวลานี้​ของ​นาง​ก็​ไม่เลว​ สามีเกิด​ใน​ครอบครัว​ชาวนา​ แม่สามีเป็น​คน​อบอุ่น​ใจดี​ สามีก็ช่าง​เอาอกเอาใจ​ สมาชิก​ใน​ครอบครัว​เป็น​คน​เรียบง่าย​ ไม่มีเรื่อง​น่า​ปวดหัว​อะไร​ ทำให้​นาง​มีน้ำหนัก​มากขึ้น​ไม่หยุด​หลัง​คลอด​ แม่สามีและ​สามีกลับ​บอก​นาง​ว่า​เป็น​แบบนี้​ก็​ดีแล้ว​ ดู​มีความ​เปล่งปลั่ง​ดี​ !

หลังจาก​หลิน​จื่อเหยียน​ได้​ตำแหน่ง​ทั่น​ฮวา​มาครอง​แล้วก็​มีเทียบเชิญ​ให้​นาง​หวง​ไป​เข้าร่วม​งานเลี้ยง​ต่าง ๆ​ แม้แต่​แม่ทัพ​หลิน​ก็ได้​รับเชิญ​ตาม​ไป​ด้วย​ สหาย​ที่​ชวน​เขา​ไป​ดื่ม​สังสรรค์​เริ่ม​มีมากขึ้น​กว่า​เดิม​ พวก​นาง​และ​พวกเขา​คิด​จะถามถึงเรื่อง​คู่ครอง​ของ​ทั่น​ฮวา​ เนื่องจาก​อีกไม่นาน​บุตรชายคนโต​ก็​จะเข้า​พิธี​สวม​กวาน​แล้ว​ ดังนั้น​เรื่อง​คู่ครอง​จึงต้อง​ไตร่ตรอง​ไว้​หน่อย​