ตอนที่ 660 ในวัยหกสิบแล้วยังไปฮันนีมูน

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

ตอนที่​ 660 ใน​วัย​หกสิบ​แล้ว​ยัง​ไป​ฮันนีมูน​?

ฮ่องเต้​จิ่งหมิง​ทอดพระเนตร​เจียง​โฉวฝู่​ที่​ยังมี​เส้น​ผม​ดก​ดำ​และ​ใบหน้า​เต็มไปด้วย​เลือดฝาด​ด้วย​สาย​พระ​เนตร​เหนื่อยหน่าย​ แม้อายุ​ได้​ 60 ปี​แล้ว​ยัง​ไม่ดู​แก่​แม้แต่น้อย​ เหตุใด​ถึงกล้า​เอา​ ‘อายุ​มาก​แล้ว​’ มาอ้าง​ ? ดู​อย่าง​รอง​โฉวฝู่​นั่นสิ​ อายุ​เกือบ​ 70 ปี​แล้ว​ยัง​ไม่อยาก​ลง​จาก​ตำแหน่ง​เลย​ แต่​เจ้าอายุ​แค่​ 60 ปี​ก็​อยาก​ลาออก​แล้ว​ คน​ที่​ไม่รู้​ก็​จะคิด​ว่า​เจิ้น​กดขี่​เจ้า !

“เอาเถิด​ ! ความจริง​เพราะ​องค์​หญิง​เว่ยเว่ย​อยาก​ไปเที่ยว​พ่ะย่ะค่ะ​” เจียง​โฉวฝู่​ทูล​ตามตรง​ “ใน​ช่วง​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​นี้​กระหม่อม​ไป​ไหน​ก็​จะมีนาง​ตาม​ไป​ด้วย​ตลอด​ ไม่เคย​ห่าง​กัน​เกิน​ครึ่ง​เดือน​ กระหม่อม​กลัว​ว่า​ถ้าไม่มีกระหม่อม​อยู่​เคียงข้าง​แล้ว​ นาง​จะดูแลตัวเอง​ได้​ไม่ดี​…”

ดังนั้น​…พวก​เจ้าสอง​สามีภรรยา​บอ​กว่า​จะไป​ก็​ไป​กัน​เลย​สิท่า​ ทิ้ง​ให้​เจิ้น​เผชิญหน้า​กับ​ราชกิจ​ที่​แสน​น่าเบื่อ​และ​เหนื่อยหน่าย​คนเดียว​ ? ฮ่องเต้​จิ่งหมิง​ลูบ​พระ​หนุ​ (คาง​) ถ้าอย่างไร​…ทรง​สละ​ราชบัลลังก์​ให้​รัชทายาท​แล้ว​ออก​ไป​ท่องเที่ยว​ชมดินแดน​ที่​ถูก​สร้าง​ขึ้น​โดย​พระองค์​กับ​ฟู่หวง​ดี​หรือไม่​ ?

องค์​รัชทายาท​ที่​กำลัง​ช่วย​ฟู่หวง​สะสางฎีกา​อยู่​ที่​ห้อง​ทรง​พระ​อักษร​พลัน​รู้สึก​เย็นวาบ​และ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​วรกาย​สั่นสะท้าน​ ขันที​ที่​รับใช้​อยู่​จึงรีบ​ไป​หยิบ​เสื้อคลุม​มาให้​ทันที​

ฮ่องเต้​จิ่งหมิง​พระองค์​นี้​ไม่ได้​บอ​กว่า​จะสละ​ก็​สละ​เลย​หรอก​ ทว่า​เจียง​โฉวฝู่​ตัดสินใจ​ลา​ออกจาก​ตำแหน่ง​ให้ได้​ทันที​ ภายใต้​ความ​จนปัญญา​จึงทำให้​ฮ่องเต้​จิ่งหมิง​ต้อง​เขียนหนังสือ​อนุมัติ​ให้​เขา​…ไม่เขียน​ก็​ไม่ได้​ ! เนื่องจาก​องค์​หญิง​เว่ยเว่ย​ยืน​จ้อง​อยู่​ด้าน​ข้าง​พร้อม​ดาบ​ยาว​ 40 หมี่​1 !

หลิน​เว่ยเว่ย​กำลัง​กวัดแกว่ง​กระบอง​เหล็ก​นิล​ประดับ​พู่​แดง​หนัก​หลาย​ร้อยชั่ง​ของ​นาง​เพื่อ​แสดง​กระบวนท่า​หอก​สกุล​จ้าว​ให้​หลาน​ดู​ ! นาง​มีบุตรสาว​หนึ่ง​และ​บุตรชาย​สอง​คน​ เสี่ยว​หมี่​ลี่​บุตรสาว​คนโต​เพิ่ง​ผ่าน​วันเกิด​อายุ​ครบ​ 40 ปี​ ตอนนี้​นาง​ก็ได้​เป็น​ย่า​และ​ยาย​เรียบร้อย​แล้ว​

บุตรชายคนโต​ของ​นาง​อายุ​ 35 ปี​ ตอนนี้​เป็น​ช่างชูกรมโยธาธิการ​ ตอน​เขา​เด็ก​มาก​ ๆ ก็​แสดงความสามารถ​ใน​การ​ลงมือทำ​สิ่งต่าง ๆ​ ออกมา​อย่าง​ชัดเจน​แล้ว​ เมื่อ​โต​ขึ้น​อีกหน่อย​เจียง​โม่หา​น​ที่​ดำรงตำแหน่ง​ช่างชูกรมโยธาธิการ​ในเวลานั้น​ก็​ให้​เขา​คอย​อยู่​ใกล้​ ๆ ตลอด​ สั่งสอน​ด้วยตัวเอง​ เรียก​ว่า​คัดลอก​สำเนา​มาจาก​บิดา​เลย​ก็​ว่า​ได้​

บุตรชาย​คน​เล็ก​อายุ​ 33 ปี​ เขา​ฉายแวว​อัจฉริยะ​ตั้งแต่​อายุ​ 10 ขวบ​คือ​สอบ​ได้​เสี่ยว​ซาน​หยวน​ (ได้​อันดับ​ 1 ทุก​สนาม​ หมายถึง​ เซี่ยน​ซื่อ​ ฝู่ซื่อ​และ​เยวี่ยน​ซื่อ​) พอ​อายุ​ 13 ปี​ก็​สอบ​เซียง​ชื่อ​ได้​อันดับ​หนึ่ง​ เดิมที​ตอน​อายุ​ 15 ปี​จะเข้า​สอบ​ฮุ่ย​ซื่อ​แล้ว​ แต่​โดน​บิดา​ห้าม​ไว้​ก่อน​ โดย​ให้​เลื่อน​ไป​อีก​ 3 ปี​ เขา​จึงไม่ได้​ทำลายสถิติ​สอบ​ได้​อันดับ​หนึ่ง​ 6 สนาม​ติด​

สาเหตุ​ที่​เจียง​โม่หา​น​ไม่ให้​เขา​สอบ​ตอน​อายุ​ 15 ปี​ ใช่เพราะ​กังวล​ใน​ความรู้​ความสามารถ​ของ​เขา​ แต่​กลัว​เรื่อง​จิตใจ​ของ​เขา​แทน​ เพราะ​การ​มีชื่อเสียง​ตั้งแต่​อายุ​น้อย​และ​ถูก​คน​ห้อมล้อม​ มัน​ไม่ใช่เรื่อง​ดี​กับ​อนาคต​ของ​เขา​ หลัง​สอบ​ได้​ตำแหน่ง​จอหงวน​แล้ว​ เจียง​โม่หา​น​ก็​ให้​เขา​ไป​ดำรงตำแหน่ง​นายอำเภอ​อยู่​ทาง​ภาค​ตะวันตกเฉียงใต้​ที่​เพิ่ง​แย่งชิง​มาจาก​แคว้น​หนาน​ซือ​ได้​

เมื่อ​มีต้น​แบบอย่าง​เจียง​โฉวฝู่​และ​น้าชาย​ใหญ่​ของ​เขา​แล้ว​ ใน​ราชสำนัก​ก็​ไม่มีใคร​กล้า​บอก​ว่าการ​ส่งจอหงวน​ออก​ไป​ทำงาน​ต่างเมือง​เป็น​เพราะ​ไม่ได้รับ​ความสำคัญ​อีก​ ดูเถิด​ว่า​บิดา​ของ​เขา​เป็น​ใคร​ ตอนนั้น​ก็​เป็น​จอหงวน​และ​ถูก​ส่งไป​ยัง​อำเภอ​ห่างไกล​ทาง​ภาค​ตะวันตกเฉียงเหนือ​เช่นกัน​ แต่​อายุ​ยัง​เยาว์​ก็ได้​เป็น​โฉวฝู่​แล้ว​ ดู​น้าชาย​ใหญ่​ของ​เขา​นั่น​อีก​ หลิน​ทั่น​ฮวา​ในเวลานั้น​ก็​ถูก​ส่งไป​อยู่​ใน​ป่า​ใน​เขา​ แต่​ตอนนี้​ได้​เป็น​จ่งตู​ (ผู้ตรวจการ​ระดับ​มณฑล​) ของ​ทั้ง​มณฑล​เจียง​ซีและ​เจียงซู​

มีคน​สรุป​เส้นทาง​แห่ง​ชื่อเสียง​ของ​พวกเขา​ไว้​ว่า​…สถานที่​ยากลำบาก​เท่าไร​ก็​ยิ่ง​สร้าง​ศักยภาพ​และ​ผลงาน​ให้​ง่าย​กว่า​ เป็นไป​ตามที่​คาด​ไว้​เพราะ​บุตรชาย​คน​รอง​ผู้​น่าทึ่ง​ของ​เจียง​โฉวฝู่​เพิ่ง​อายุ​ 30 ต้น​ ๆ ก็​ได้รับ​ตำแหน่ง​จ่งตู​ของ​ทั้ง​มณฑล​เจียง​ซีและ​เจียงซู​แล้ว​

สำหรับ​ตระกูล​เจียง​แล้ว​ ฮ่องเต้​ทรง​โปรดปราน​มาก​ เจียง​โฉวฝู่​เป็น​ขุนนาง​ขั้น​หนึ่ง​ไม่ต้องสงสัย​ นอกจากนี้​ยัง​ได้รับแต่งตั้ง​เป็น​ราชครู​ของ​องค์​รัชทายาท​ด้วย​ บุตรชาย​ทั้งสอง​ก็​เป็น​ขุนนาง​ขั้น​สอง​ แม้แต่​น้องชาย​ทั้งสอง​ของ​ภรรยา​ก็ได้​เป็น​ขุนนาง​ขั้น​หนึ่ง​และ​ขั้น​สอง​ ลือ​กัน​ว่า​หลังจาก​เจียง​โฉวฝู่ลง​จาก​ตำแหน่ง​แล้ว​ การ​ลงคะแนนเสียง​เก้า​ใน​สิบ​ส่วน​ของ​การคัดเลือก​ผู้​ดำรงตำแหน่ง​โฉวฝู่คน​ต่อไป​ล้วน​ตก​มาที่​หลิน​จื่อถิง​ เนื่องจาก​น้องชาย​ภรรยา​คน​นี้​มีเจียง​โม่หา​น​สอน​มาก​ับมือ​ สอน​แบบ​ใส่ใจยิ่งกว่า​ลูก​ !

ไม่รู้​ว่า​คำพูด​นี้​ไป​ถึงพระ​กรรณ​ของ​ฮ่องเต้​จิ่งหมิง​ได้​อย่างไร​ ฮ่องเต้​จิ่งหมิง​กลอก​ดวง​เนตร​ทันที​พลาง​นินทา​ใน​หทัย​ว่า​ ‘ถ้าพวก​เจ้ามีความสามารถ​ได้​เหมือน​คน​สกุล​หลิน​และ​สกุล​เจียง​ เจิ้น​ก็​จะโปรดปราน​พวก​เจ้าเหมือนกัน​ ! ’

บุตรชายคนโต​ของ​หลิน​เว่ยเว่ย​มีบุตรชาย​ 2 คน​และ​บุตรสาว​ 2 คน​ บุตรชายคนโต​อายุ​ 16 ปี​และ​สอบ​ได้​จู่เห​ริน​ บัดนี้​กำลัง​เตรียมตัว​สอบ​ฮุ่ย​ซื่อ​ใน​ปีหน้า​ ส่วน​บุตรชาย​คน​รอง​อายุ​ 14 ปี​ แม้จะสอบ​ซิ่ว​ไฉติด​แล้วก็​ไม่ได้​อยาก​เดิน​ต่อ​ใน​เส้นทาง​นี้​ เพราะ​เขา​มีความสนใจ​ด้าน​การค้า​มากกว่า​ เขา​วิ่ง​ไป​ยัง​ร้านค้า​ต่างแดน​เร็ว​ยิ่งกว่า​อะไร​ดี​ !

บิดา​ของ​เขา​โมโห​จน​อยาก​จะคว้า​ไม้มาฟาด​ แต่​โดน​ท่าน​ปู่​หรือ​อดีต​เจียง​โฉวฝู่​ห้าม​ไว้​…ใน​บรรดา​ 360 อาชีพ​ล้วน​มีจอหงวน​ซ่อน​อยู่​ใน​นั้น​ เนื่องจาก​ตอนนี้​ฐานะ​ของ​พ่อค้า​สูงขึ้น​มาก​แล้ว​ ไม่มีกฎเกณฑ์​ห้าม​ลูกหลาน​พ่อค้า​สอบ​รับราชการ​อยู่​อีก​ แล้ว​เหตุใด​ยัง​ต้อง​ไป​บังคับ​ให้​บุตรชาย​คน​รอง​ทำ​ใน​สิ่งที่​ไม่ชอบ​ ? อีก​อย่าง​คือ​ร้านค้า​ต่างแดน​ก็​อยู่​ภายใต้​การ​ดูแล​ของ​กรม​การค้า​ ฝึกฝน​ไป​สัก​สอง​สามปี​แล้ว​อาจ​มีงาน​ในกรม​การค้า​ให้​เขา​ทำ​ก็ได้​ !

บุตรสาว​สอง​คน​เป็น​ฝาแฝด​ เกิด​มาหน้าตา​ดี​ทั้งคู่​ งดงาม​สุด​ ๆ ไป​เลย​ เด็กสาว​ทั้งสอง​ตัว​ติดกับ​ท่าน​ย่า​มาก​ ๆ และ​ยัง​มีพรสวรรค์​ใน​การ​ทำอาหาร​กับ​ขนม​ต่าง ๆ​ หลิน​เว่ยเว่ย​คุย​กับ​สามีรูปงาม​ว่า​ จะยก​ ‘ร้าน​เถียน​มี่ฉือกวง’​ และ​ ‘ร้านอาหาร​ชาววัง​’ ให้​เป็น​สินเดิม​แก่​หลานสาว​ทั้งสอง​

บุตรชาย​คน​รอง​ของ​หลิน​เว่ยเว่ย​แต่งงาน​ช้า บัดนี้​ใน​บ้าน​มีบุตรชาย​สอง​คน​ที่​อายุ​ 9 ขวบ​และ​ 6 ขวบ​ คนโต​ได้ความ​ฉลาด​มาจาก​บิดา​ อายุ​ยัง​น้อย​ก็​อ่าน​สี่ตำรา​ห้า​คัมภีร์​ได้​แล้ว​ ส่วน​เจ้าคน​เล็ก​ได้​พละกำลัง​มหาศาล​มาจาก​ท่าน​ย่า​ เพิ่ง​อายุ​ 6 ขวบ​ก็​เผย​ความสามารถ​ด้าน​การต่อสู้​ออกมา​ ตอนนี้​ห​มิน​อ๋อง​…พี่ชาย​ของ​หลิน​เว่ยเว่ย​ก็​เหมือน​ได้​สมบัติ​ไป​ครอง​ ใน​แต่ละวัน​ให้​คน​มารับ​เจ้าตัว​น้อย​ไป​ที่​ตำหนัก​อ๋อง​เพื่อ​ฝึก​การต่อสู้​กับ​พวก​หลาน​ ๆ ของ​พระองค์​ แม้เจ้าตัว​น้อย​จะมีอายุ​น้อยที่สุด​ใน​กลุ่ม​ แต่​เรียน​ได้​เร็ว​ที่สุด​ ตอนนี้​พวก​ญาติ​ผู้​พี่​อายุ​มากกว่า​เขา​สามสี่ปี​ก็​ไม่ใช่คู่ต่อสู้​ของ​เขา​แล้ว​ !

“ท่าน​ย่า​ ท่าน​พา​ข้า​ไปเที่ยว​นอกเมือง​กับ​ท่าน​และ​ท่าน​ปู่​ได้​ไหม​ขอรับ​ ? ข้า​จะเป็น​คน​คุ้มกัน​ให้​ท่าน​เอง​ ! ” เจ้าตัว​น้อย​ใช้หอก​ของ​ตน​มาร่ายรำ​กระบวนท่า​หอก​สกุล​จ้าว​ ท่าทาง​น่าเกรงขาม​มาก​เลย​ เขา​วาง​หอก​ลง​แล้ว​เช็ด​เหงื่อ​ จากนั้น​วิ่ง​เข้า​มาหา​หลิน​เว่ยเว่ย​ ก่อน​จะฉีก​ยิ้ม​หวาน​เพื่อ​ประจบ​

หลิน​เว่ยเว่ย​ส่าย​นิ้วชี้​ใส่เขา​แล้ว​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ “แน่นอน​ว่าไม่ได้​ ! นี่​คือ​ทริป​ฮันนีมูน​ของ​ย่า​กับ​ท่าน​ปู่​ เจ้าตาม​ไป​ก็​เสีย​เรื่อง​แล้ว​ยัง​ขัดหู​ขัดตา​ย่า​พอดี​ ! อีก​อย่าง​คือ​ย่า​แค่​ใช้นิ้ว​เดียว​ก็​ยก​เจ้าได้​แล้ว​ ใคร​จะปกป้อง​ใคร​กัน​แน่​ ? ”

เจ้าตัว​น้อย​กลอกตา​ ก่อน​จะเข้าไป​เกาะ​แขนนาง​ “ท่าน​ย่า​ ข้า​คิดถึง​ท่าน​พ่อ​กับ​ท่าน​แม่แล้ว​ ท่าน​กับ​ท่าน​ปู่​ไม่ได้​ไป​ที่​กู​ซู (เขตเมือง​เก่า​ของ​ซูโจว​) หรือ​ขอรับ​ ? จะได้​พา​ข้า​ไป​ส่งไว้​ที่นั่น​ ท่าน​วางใจ​ได้​ ข้า​จะไม่รบกวน​โลก​ของ​ท่าน​ทั้งสอง​แน่นอน​ ! ”

“แบบ​นั้น​ก็​ไม่ได้​ ! เจ้าต้อง​เรียน​ต่อสู้​กับ​เสด็จ​ลุง​ทุกวัน​ ! วิชา​ต่อสู้​นี้​ต้อง​ฝึกฝน​อย่าง​ต่อเนื่อง​ ไฉน​จะหยุด​ไป​ดื้อ​ ๆ เช่นนี้​ ? เจ้ายัง​อยาก​เป็น​แม่ทัพ​ใหญ่​หรือไม่​ ? ” หลิน​เว่ยเว่ย​หยิบ​สตรอเบอร์รี่​เข้า​ปาก​…หวาน​มาก​ !

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ! เจ้าเด็ก​นี่​ คำพูด​ที่​เจ้าใช้นั้น​ท่าน​น้า​ของ​เจ้าเคย​ใช้ตอน​เป็น​เด็ก​หมด​แล้ว​ ย่า​ของ​เจ้าชินชา​เช่นกัน​ นาง​ไม่หลงคารม​เจ้าหรอก​ ! ” เสี่ยว​เอ้อร์ฮว๋า…​หลิน​จื่อถิง​หรือ​นักปราชญ์​หลิน​ลูบ​เครา​พลาง​มอง​หลานชาย​พร้อม​รอยยิ้ม​

หลิน​เว่ยเว่ย​เหลือบมอง​เขา​แล้ว​พูด​ด้วย​ความรังเกียจ​ “อายุ​ไม่มาก​แต่กลับ​ไว้หนวด​ไว้​เครา​ แถมยัง​หลง​คิด​ว่า​มัน​สง่างามอยู่​ได้​ทุกวัน​ เจ้าไม่กลัว​ตอน​กินข้าว​อยู่แล้ว​เผลอ​กินเครา​เข้าไป​บ้าง​หรือ​ ? ”

นักปราชญ์​หลิน​ปล่อยมือ​จาก​เครา​ตัวเอง​ด้วย​รอยยิ้ม​อัน​ขมขื่น​ ทั่ว​ทั้ง​ราชสำนัก​มีใคร​ไม่อิจฉา​ที่​เขา​มีเครา​สวย​ ๆ บ้าง​ แต่​พอ​มาอยู่​กับ​พี่​รอง​กลับ​โดน​รังเกียจ​เสียได้​ หลิน​จื่อถิง​หัวเราะ​กลบเกลื่อน​ “พี่​รอง​ ไม่ใช่ทุกคน​จะเหมือน​พี่เขย​รอง​ที่​แก่​แล้ว​ยัง​ดูดี​หรอก​นะ​ พี่เขย​รอง​อายุ​มากกว่า​ข้า​ 9 ปี​ แต่​ยัง​ดู​อ่อนเยาว์​ยิ่งกว่า​ข้า​ ท่าน​บอก​มานะ​ ท่าน​แอบ​ให้​เขา​กิน​ยาอายุวัฒนะ​ใช่หรือไม่​ ? ”

[i]
1 ดาบ​ยาว​ 40 หมี่​ มีที่​มาจาก​สำนักข่าว​เขียน​รายงาน​ข่าว​ผิด​ เดิมที​จะเขียน​ว่า​ดาบ​ยาว​ 40 เซนติเมตร​ ( หลี​หมี่​ ) แต่​เขียน​เป็น​ 40 เมตร​ ( หมี่​ ) ชาว​โซเชียล​จึงหยิบยก​มาเป็น​มุกตลก​