War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2005
ตอนที่ 2,005 : กำไร 1,000,000 คะแนนสะสม!
“ด้วยอัตราเดิมพันของเจ้าเป็น 1 ต่อ 7 เช่นนั้น 200,000 คะแนนสะสมที่เจ้าลงข้างตัวเอง…เป็นอันว่าเจ้าจะได้คะแนนสะสมทั้งสิ้น 1,400,000 หากไม่รวมกับคะแนนสะสมที่เจ้าลงเดิมพัน หมายความว่าเจ้าจะได้รับคะแนนสะสมทั้งสิ้น 1,200,000”
หลังรับบัตรผลึกแก้วของต้วนหลิงเทียนมาแล้ว เนี่ยสุ้ยก็ส่งมันไปให้อาวุโสเพลิงทองแดงที่มีหน้าที่จัดการเรื่องการเดิมพัน ค่อยหันกลับมามองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาลงลึก
“แม้ว่าเจ้าจะต้องมอบคะแนนสะสมให้ข้าตามสัญญาทั้งสิ้น 400,000 คะแนน…แต่วันนี้เจ้าก็ยังทำคะแนนสะสมได้ถึง 1,000,000 คะแนน!”
“ในประวัติศาสตร์ลัทธิบูชาไฟของพวกเรา เจ้าถือเป็นศิษย์ชั้นยอดที่ได้รับคะแนนสะสมถึง 1,000,000คะแนนภายในวันเดียว!”
เนี่ยสุ้ยกล่าวจบ ก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้
“ทั้งหมดล้วนต้องขอบคุณอาวุโสเนี่ยสุ้ยที่ให้ข้าจำนำ…หากไม่มีท่านรับจำนำอย่าว่าแต่ 1,000,000คะแนนสะสมเลย กระทั่ง 10,000 คะแนนสะสมข้าก็ไม่ได้”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกพร้อมรอยยิ้มถ่อมตัว
“เจ้าไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก”
เนี่ยสุ้ยส่ายหัวไปมา “หากเจ้าไม่เอาเกาทัณฑ์คันนั้นมาจำนำกับข้า มีหรือข้าจะหยิบยื่น 200,000 คะแนนสะสมให้เจ้า…ที่ข้าคิดไม่ถึงจริงๆก็คือเรื่องที่เจ้ากลับสามารถเอาชนะหยางเหวินได้จริงๆ”
กล่าวสิ้นคำ เนี่ยสุ้ยก็มองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาซับซ้อนนัก
แม้ตอนที่ต้วนหลิงเทียนนำเกาทัณฑ์มาจำนำมันจะเห็นถึงความมั่นใจของต้วนหลิงเทียน แต่มันก็ไม่ได้ยึดถือเป็นจริงจังอะไร…
แต่มาตอนนี้คล้ายต้วนหลิงเทียนอาจรู้แต่แรกว่าตัวเองต้องชนะ!
ขณะเดียวกัน ไม่เพียงแต่สีหน้าของอาวุโสเพลิงทองแดงทั้ง 3 จะเหยเก กระทั่งใบหน้าของเหล่าศิษย์ชั้นยอดทั้งหลายที่เสียเดิมพันก็ทำหน้าอัปลักษณ์ปั้นยากทั้งสิ้น
ศิษย์ชั้นยอดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์บางคนตอนนี้ถึงกับกำหมัดแน่น ทั่วร่างสั่นเทิ้ม สายตายังราวกับจะถลนออกจากเบ้า
“3,000 คะแนนสะสมของข้า…3,000 คะแนนสะสมของข้าสูญไปง่ายดายเช่นนี้?”
เหล่าศิษย์ชั้นยอดที่เสียเดิมพันบางคนถึงกับทรุดลงกับพื้น ลูกตาสั่นไหวพร่ามัว คนแลคล้ายหมดอาลัยในชีวิต
“ก็แค่ 3,000 คะแนนสะสมเจ้าจะโอดครวญปานหญิงม่ายเสียสามีทำอะไร! บิดาเสียไป 9,000! บัดซบได้ยินหรือไม่ 9,000 คะแนนสะสม ถล่มมารดามันเถอะ!!”
เหล่าศิษย์ชั้นยอดที่อยู่ไม่ไกลกับคนที่ทรุดล้มลงไปโอดครวญโวยวายออกมาเสียงดัง
ขณะเดียวกันสายตาของมันก็หันไปจับจ้องมองร่างไร้ชีวิตของหยางเหวินบนสังเวียนเป็นตาย ก่อนจะคำรามออกด้วยโทสะ “นี่น่ะเหรอศิษย์ที่แท้จริง นี่น่ะเหรอยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์…สัดใส่ข้าวที่ใช้การไม่ได้แท้ๆ! เศษสวะ ขยะเอ๊ย!!”
เมื่อมีศิษย์คนนี้คำรามด่าทอศพของหยางเหวินออกมาเป็นคนแรก ก็คล้ายดั่งการจุดชนวนให้เหล่าศิษย์ชั้นยอดที่เสียเดิมพันทั้งมวล สายตาโกรธเกรี้ยวจำนวนมากหันไปถลึงมองศพหยางเหวินทันที
“ช่างน่าละอายยิ่งนัก! เป็นถึงศิษย์ที่แท้จริงแท้ๆกลับตายตกด้วยน้ำมือศิษย์ชั้นยอด…มองทั้งประวัติศาสตร์ของลัทธิบูชาไฟเรา ไหนเลยจะเคยมีตัวไร้ค่าพรรค์นี้!!”
“มิใช่แค่นั้น กระทั่งในประวัติศาสตร์ของอีก 2 ลัทธิก็มิเคยมีตัวบัดซบที่ใช้การไม่ได้ถึงขั้นนี้!”
“นี่น่ะเหรอบุตรชายคนโตของอาวุโส 5 วังอุดรไพศาล นับว่าเป็นบุตรสารเลวทำให้บิดาเสื่อมเสียนัก!”
“อาศัยพี่น้องทั้งคู่ตกตายคามือต้วนหลิงเทียนก็ยากจะทานทนแล้ว…นี่ถ้าบิดาของมัน หยางชง รู้ว่าที่แท้บุตรตัวเองใช้การไม่ได้ถึงเพียงนี้ มิทราบมันจะกระอักโลหิตออกมากี่ถัง!”
“หยางเหวินเจ้ามันเศษสวะเหลือเดนแท้ๆ…ไฉนเจ้าไม่รีบตายๆไปตั้งแต่แรกหา!?”
…
เหล่าศิษย์ชั้นยอดระเบิดอารมณ์ออกมาดั่งทำนบกั้นน้ำทลายในฉับพลัน ยากจะควบคุม
วาจาด่าทอหยาบคายมากมายหลั่งไหลออกมาดั่งสายฝน ไม่ว่าใครต่อใครที่แทงเสียล้วนถล่มด่าหยางหวินอย่างเกรี้ยวกราด คล้ายจะปลดปล่อยความอัดอั้นและความคับข้องออกมาจนหมดสิ้น!
“ตะ…ต้วนหลิงเทียนกลับชนะจริงๆ?”
นอกจากนี้ยังมีศิษย์ชั้นยอดไม่กี่คน ที่ลองแทงข้างต้วนหลิงเทียนเล่นๆอย่างไม่ได้หวังอะไรมากมาย เมื่อคืนสติจากอาการตะลึงพวกมันแต่ละคนก็ตื่นเต้นยินดีนัก!
“บ้าจริง! หากข้ารู้แต่แรกว่าต้วนหลิงเทียนจะชนะ รู้งี้ข้าพเจ้าแทงข้างต้วนหลิงเทียนให้มากหน่อยก็ดี!”
“ฮาย! อย่าได้โลภมากแล้ว! เพียงพวกเราไม่เสียพนันเหมือนคนอื่นๆก็ดีตั้งเท่าไหร่…เจ้าไม่เห็นพวกลงข้างหยางเหวินรึไร เจ้าพวกนี้ไม่ทราบปวดใจกันเพียงใด!”
…
ศิษย์ชั้นยอดกลุ่มเล็กๆกล่าวจบพวกมันก็รีบแจ้นไปหาอาวุโสเพลิงทองแดงที่โต๊ะเดิมพันเพื่อรับทรัพย์ที่ชนะเดิมพันทันที
“ยินดีด้วยศิษย์น้องหลิงเทียน!”
ซุนเต๋อเหินร่างลงมาจากอัฒจันทร์ ก่อนกล่าวคำแสดงความยินดีกับต้วนหลิงเทียน
“ศิษย์พี่ซุนเต๋อ ท่านไปรับคะแนนสะสมที่ชนะเดิมพันเถอะ”
ต้วนหลิงเทียนยิ้ม
ได้ยินวาจานี้ของต้วนหลิงเทียน ซุนเต๋อก็หน้าม้านไปด้วยความกระอักกระอ่วน
ต้องทราบว่าก่อนที่มันจะลงเดิมพันข้างต้วนหลิงเทียน มันก็คิดจะตอบแทนต้วนหลิงเทียนเรื่องที่มันติดค้างอยู่บ้าง ทว่าตอนนั้นมันกลับเลือกที่จะลงข้างต้วนหลิงเทียนแค่ 100 คะแนนสะสมเท่านั้น
แต่ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าสุดท้ายต้วนหลิงเทียนจะเป็นฝ่ายฆ่าหยางเหวินจนกลายเป็นผู้ชนะ!
กล่าวอีกอย่างคือวันนี้มันได้รับคะแนนสะสมมาเปล่าๆ 600 คะแนน!
“ศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน ศิษย์น้องขอแสดงความยินดีกับท่านด้วย!”
ขณะเดียวกัน กวนซิ่วก็เหินร่างมาหาต้วนหลิงเทียนพร้อมกล่าวแสดงความยินดีด้วยหน้าชื่นตาบาน แก้มยังแดงเปล่งปลั่งราวกับได้พบพานเรื่องราวอันดีในชีวิต
“นับว่าข้าไม่ทำให้เจ้าผิดหวังแล้ว”
ต้วนหลิงเทียนหันไปยิ้มให้กวนซิ่วอย่างเป็นมิตร ค่อยกล่าว “ไปรับรางวัลของเจ้าเสีย…ครั้งนี้เจ้าได้รับไปไม่น้อยเลยนี่!”
“ฮ่าๆๆ ล้วนต้องขอบคุณท่านทั้งสิ้นศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน!”
กวนซิ่วยิ้มอย่างร่าเริง
ตอนนี้ที่มันยินดีมีสุขนักไม่ใช่เพราะแค่มันได้รับคะแนนสะสมกว่า 20,000 คะแนนเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะคนที่มองเหยียดมันก่อนหน้านี้ กำลังมองมันด้วยสายตาอิจฉาเต็มพิกัด
ตอนที่มันลงเดิมพันข้างต้วนหลิงเทียนไปหมดตัว 3,500 คะแนนสะสม ไม่มีใครดูดีมันเลย มีแต่สายตามองเหยียดทั้งวาจากล่าวแขวะราวกับมันเป็นตัวโง่งม
แต่ทว่ามาตอนนี้พอต้วนหลิงเทียนฆ่าหยางเหวินตายตก คนเหล่านั้นก็ทำได้แค่เงียบปากเท่านั้น!
จังหวะนี้มันรู้สึกสะใจทั้งอู้ฟู่เหลือเกิน!!
“ต้วนหลิงเทียน”
ตอนนี้เองอาวุโสคุมวิหารเป็นตาย เนี่ยสุ้ย ก็ยื่นบัตรผลึกแก้วที่รับคืนมาจากอาวุโสเพลิงทองแดงของวิหารเป็นตายส่งคืนให้ต้วนหลิงเทียน “1,000,000คะแนนสะสมอันเป็นรางวัลชัยชนะของเจ้าในวันนี้อยู่นี่แล้ว”
“ขอบคุณท่านมาก อาวุโสเนี่ยสุ้ย”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวขอบคุณ ขณะรับบัตรผลึกแก้วกลับมา
หลังได้รับบัตรผลึกแก้วมาแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ไม่รอช้าจ่ายพลังเซียนสุริยันลงไปยังตัวบัตรทันที ไม่นานตัวเลขก็เริ่มปรากฏขึ้นบนบัตรผลึกแก้วในมือ
1,000,000 คะแนนสะสม!
สำหรับศิษย์ชั้นยอดที่พึ่งเข้าร่วมดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ไม่ทันไรอย่างเขา นับว่า 1,000,000 คะแนนสะสมเป็นความมั่งคั่งอันมหาศาลจริงๆ!
“ละ…ล้านคะแนนสะสม! ต้วนหลิงเทียนมันได้ 1,000,000 คะแนนสะสม!!”
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนรับบัตรผลึกแก้วกลับมาและตรวจสอบ เหล่าศิษย์ชั้นยอดที่เห็นเหตุการณ์ก็อดมองกล่าวด้วยความสะทกสะท้อนเสียไม่ได้
และในแววตาเหล่านี้เจือปนไปด้วยความอิจฉา บ้างก็สิ้นหวัง
“1,000,000 คะแนนสะสม…ในนั้นล้วนเป็นคะแนนสะสมของพวกเราทั้งนั้น…”
ใจของศิษย์เหล่านี้รู้สึกราวกับหลั่งเลือดออกมาแล้วจริงๆ คะแนนสะสมของพวกมันกลับกลายเป็นของคนอื่น! แม้พวกมันยากจะยอมรับได้เพียงใด อนิจจาพวกมันก็ทำอะไรไม่ได้
เพราะสุดท้ายแล้วอีกฝ่ายไม่ได้ปล้นชิงคะแนนสะสมของพวกมัน เป็นพวกมันที่เสมือนประเคนมอบคะแนนสะสมของตัวเองให้อีกฝ่ายไปเอง!
พวกมันทุกคนล้วนมีโอกาสลงเดิมพันข้างต้วนหลิงเทียนทั้งสิ้น!
อนิจจาด้วยความที่พวกมันไม่มีใครสนใจใยดีต้วนหลิงเทียน จึงพลาดโอกาสที่จะคว้าคะแนนสะสมไปเช่นนี้
“ทั้งหมดต้องโทษสารเลวหยางเหวิน! เป็นเพราะมันคนเดียวที่ทำให้พวกเราต้องพบกับความสูญเสียเช่นนี้!!”
ไม่นานเหล่าศิษย์ชั้นยอดที่เจ็บใจก็ได้แต่หันไประบายโทสะใส่ศพหยางเหวินอีกครั้ง
เพราะในสายตาของมัน
เป็นเพราะหยางเหวินคนเดียวที่ดันแพ้พ่ายตกตายคามือต้วนหลิงเทียน หาไม่แล้วพวกมันก็คงไม่ต้องเจ็บหนักอย่างนี้
“ศิษย์น้องหลิงเทียน” ต้วนหลิงเทียนที่พึ่งคืนร่างมนุษย์และหยิบชุดศิษย์ชั้นยอดออกมาสวมใส่เสร็จไม่ทันไรก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านบน ทำให้เขาเงยหน้าหันมองไปตามเสียงทันที
หันไปมองปราดเดียวก็พบว่าหลิวมู่กำลังเหินลงมาจากอัฒจันทร์ พริบตาก็มาหยุดข้างๆเขาแล้ว
“ศิษย์พี่หลิวมู่”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวทักหลิวมู่ด้วยรอยยิ้ม ก่อนหันไปพยักหน้าให้หลิวอวิ๋นด้วยท่าทีเป็นมิตร
“ครั้งนี้ต้องขอบคุณเจ้าแล้ว…”
คราวนี้เมื่อหลิวอวิ๋นเผชิญหน้ากับต้วนหลิงเทียน มันไม่หลงเหลือความหยิ่งและถือดีอันใดอีกต่อไป มองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร กระทั่งเป็นฝ่ายริเริ่มกล่าวขอบคุณต้วนหลิงเทียนก่อน
สำหรับเหตุผลในการขอบคุณก็ไม่มีอะไรมากมาย เพราะวันนี้ต้วนหลิงเทียนทำให้มันได้ลาภก้อนโต!
และเหตุผลที่หลิวอวิ๋นเปลี่ยนท่าทีก็ไม่ใช่ใดอื่น ทั้งหมดเป็นเพราะพลังฝีมือที่ต้วนหลิงเทียนเผยออก!
ตอนที่มันมาถึงวิหารเป็นตายแห่งนี้ครั้งแรก มันก็ไม่ได้สนใจอะไรต้วนหลิงเทียนสักเท่าไหร่ สุดท้ายเพราะทนการรบเร้าของลูกพี่ลูกน้องไม่ไหวจึงลงเดิมพันข้างต้วนหลิงเทียนไปตามใจอีกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนนับว่าทำให้มันตกตะลึงแล้วจริงๆ!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบี่สุดท้ายนั่นของต้วนหลิงเทียนที่กระทั่งมันเองก็ไม่อาจมองเห็นได้แม้แต่เงา!
เรื่องนี้หมายความว่าอะไรมันย่อมรู้ดี!
หมายความว่าหากต้วนหลิงเทียนคิดฆ่ามันที่เป็นเซียนสวรรค์ 2 เปลี่ยน…มันก็ไม่อาจป้องกันอะไรได้เลย!
มันไม่มีความมั่นใจแม้แต่เศษเสี้ยวว่าจะป้องกันกระบี่ไวที่สังหารหยางเหวินได้!
ด้วยเหตุนี้ทัศนคติที่มันมีต่อต้วนหลิงเทียนจึงแปรเปลี่ยนไปปานจะพลิกฟ้าคว่ำดิน
“ข้าลงเดิมพันข้างเจ้าไป 100,000 คะแนนสะสม หมายความว่าคราวนี้ข้าได้กำไรมาถึง 600,000คะแนนสะสม…”
หลิวอวิ๋นมองต้วนหลิงเทียนด้วยรอยยิ้ม ค่อยกล่าวออกด้วยความจริงใจ “เจ้าส่งบัตรผลึกแก้วของเจ้ามาเถอะ ข้าจะโอนคะแนนสะสม 300,000 แต้มให้เจ้า”
มีคำกล่าวว่า ‘ยากจะตบหน้าคนที่กำลังยิ้ม’
นอกจากนั้นหลิวอวิ๋นคนนี้ก็ยังเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลิวมู่ จึงทำให้ต้วนหลิงเทียนจำต้องยิ้มตอบกลับ “ศิษย์พี่หลิวอวิ๋น ท่านอย่าได้มอบคะแนนสะสมให้ข้าเลย เพราะนี่เป็นสิ่งที่ท่านสมควรได้รับแล้ว หากท่านคิดจะขอบคุณท่านขอบคุณศิษย์พี่หลิวมู่เถอะ”
“ข้าคิดว่าหากไม่ใช่เพราะศิษย์พี่หลิวมู่รบเร้า ท่านก็คงไม่ได้ลงเดิมพันข้างข้า”
กล่าวจบต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองหลิวมู่ในเวลาที่เหมาะสม
“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องห่วงไป เดี๋ยวข้าแบ่งคะแนนสะสมอีก 300,000 แต้มที่เหลือให้น้องมู่เอง…ส่วนที่มอบให้เจ้าเพื่อขอบคุณไม่เกี่ยวกับส่วนนี้”
หลิวอวิ๋นกล่าวออกอีกครั้ง
เมื่อได้ยินคำของหลิวอวิ๋น ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกซาบซึ้งน้ำใจของอีกฝ่ายไม่น้อย แต่ยังเลือกจะยืนกรานปฏิเสธความหวังดีของหลิวอวิ๋น “ศิษย์พี่หลิวอวิ๋น วันนี้ข้าได้คะแนนสะสมมาล้านนึงแล้ว…300,000คะแนนสะสมนี้ไม่ได้สำคัญอะไรกับข้ามาก”
“ท่านเอาอย่างนี้เถอะ ใน 600,000 คะแนนสะสมนั่น ท่านก็ให้ศิษย์พี่หลิวมู่ 300,000 ส่วนอีก 300,000ท่านก็เก็บไว้เอง”
สุดท้ายต้วนหลิงเทียนก็ได้แต่กล่าวเสนอออกไปแบบนี้
เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนยืนกรานไม่รับ หลิวอวิ๋นก็ได้แต่ตามใจอีกฝ่าย