ลี่หยูนห่วนขมวดคิ้วแน่น พลางคิดว่าลี่หุยกำลังโกหกอยู่

“คุณหมายความว่าอย่างไร?”

“ฉันพูดอย่างชัดเจนแล้วนะ หมายถึงว่าการจะไปกู้ไม่ต้องใช้ทรัพย์สินส่วนตัวในการค้ำประกัน งั้นก็เอาของคุณออกมาสิ คุณทำงานกับบริษัทลี่ซื่อมาตั้งนาน น่าจะมีไม่น้อยเลยล่ะ อันที่จริงฉันเองก็อยากจะใช้ของฉัน แต่ว่าฉันเพิ่งจะเข้ามาอยู่ที่บริษัทลี่ซื่อไม่นาน จะไปมีทรัพย์สินส่วนตัวได้อย่างไร”

“ดังนั้น ใช้ของคุณน่ะดีที่สุดแล้ว พวกเราสองคนมีตำแหน่งที่มั่นคงในบริษัทลี่ซื่อ จะให้ฉันจ่ายออกไปตลอดไม่ได้ ฉันช่วยบริษัทลี่ซื่อในการทำมาหลายโปรเจคแล้ว”

อันที่จริงลี่หุยไม่พูดก็ว่าไป แต่เมื่อพูดขึ้นมาเขาก็โกรธ ก่อนหน้านี้ที่ลี่จุนถิงจะไปก็เริ่มได้กำไรจากโปรเจคที่เขาทิ้งไว้กลับมาแล้ว สุดท้ายเมื่อให้เขามารวมกันแบบนี้ ไม่เพียงแค่ไม่มีกำไร แต่ยังเหมาะกับเงินทองมากมาย โปรเจคต่อจากนี้เมื่อเทียบกับโปรเจคที่ลี่จุนถิงทำมาแล้ว มันเทียบกันไม่ติดเลย

“ใช้เวลาที่ตอนนี้ลี่จุนถิงยังอยู่ต่างประเทศ ถูกเรื่องของเจียงหยุนเอ๋อหยุดเอาไว้ เลยกลับมาไม่ได้ในตอนนี้ พวกเรายังต้องทำให้ตำแหน่งของพวกเรามั่นคง ไม่อย่างนั้นเมื่อลี่จุนถิงกลับมา พวกเราก็อาจจะสู้กับเขาไม่ได้แล้ว”

ลี่หุยไม่ได้สังเกตว่าสีหน้าของลี่หยูนห่วนดูไม่ดี เลยพูดกับเขาต่อ

“ทำไมคุณไม่ใช้ทรัพย์สินต่างประเทศล่ะ?” ลี่หยูนห่วนเสนอความเห็นกับเขา

เมื่อลี่หุยได้ฟัง ก็รู้ว่าลี่หยูนห่วนนั้นไม่ยินยอม

“ทำไมฉันไม่ไปแตะทรัพย์สินของต่างประเทศนั้นคุณไม่รู้เหรอ?คุณอยู่ที่บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปมาตั้งนาน จะไม่รู้เลยเหรอว่าทรัพย์สินต่างประเทศทั้งหมดนั้นถูกลี่จุนซินควบคุมเอาไว้แล้วน่ะ?”

ตอนแรกลี่หยูนห่วนคิดว่าลี่หุยไม่รู้เรื่องนี้ เหมือนจะใช้เรื่องนี้มาควบคุมเขา แต่คิดไม่ถึงว่าลี่หุยจะรู้เรื่องนี้นานแล้ว การถูกคนมองออกต่อหน้านั้น มันรู้สึกแย่จริงๆ เลย

“หรือไม่ ฉันจะโทรไปถามให้เธอหน่อยละกัน เธอปกป้องบริษัทลี่ซือแทนลี่จุนถิงทั้งนั้น เธอจะไม่มีทางยืนมองบริษัทลี่ซื่อตกอยู่ในวิกฤตแน่นอน”

ลี่หยูนห่วนไม่อยากเอาทรัพย์สินส่วนตัวของตัวเองออกมา เลยพยายามปฏิเสธทุกอย่าง

“ถ้าเกิดบอกกับเธอว่ามันใช้ได้ ฉันจะจัดการให้คนไปจัดการแล้ว”

“แต่ ความสัมพันธ์ของฉันกับเธอ ไม่ได้ดีกว่าความสัมพันธ์ของคุณกับเธอสักหน่อยเหรอ คุณให้ฉันลองหน่อย ถ้าทำไม่ได้ ค่อยมาคุยกัน”

อันที่จริงเมื่อพูดมาถึงตอนนี้ ลี่หยูนห่วนก็ยังไม่พอใจเท่าไหร่ ลี่หุยเองก็รู้ท่าทีของเขา เลยเห็นด้วยกับความเห็นของเขา ถ้าเกิดว่าลี่จุนซินตอบรับแล้ว ถึงจะไม่ตอบรับ ก็ถือว่ายั้งความคิดของลี่หยูนห่วนไว้ได้

ลี่หยูนห่วนเป็นห่วงและจับตามองลี่จุนซิน แต่ไม่รู้เรื่องทั้งหมด และตอนนี้เธอกำลังใช้เวลาอย่างเพลิดเพลินกับเวียร์

ตอนที่ลี่หยูนห่วนโทรหา ก็เป็นเวลาตอนเช้าตรู่ของลี่จุนซินพอดี

เช้าตรู่ มีแสงอาทิตย์อ่อนๆ ส่องเข้ามาในห้องนอน ท้องฟ้าตอนเช้านั้นมันเป็นเวลาที่มีความสุขจริงๆ

เวียร์ตื่น แล้วลืมตาขึ้น แขนของเขามีผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดอย่างลี่จุนซินอยู่ในอ้อมกอด แล้วนอนอย่างสบายใจ ไม่แน่ว่าอารมณ์นั้น มันอาจจะทำให้หวั่นไหวได้

เวียร์พลิกตัวไปด้านหน้า ก่อนจะจูบลงบนริมฝีปากของเธอ จนสุดท้ายมันทำให้เธอตื่นขึ้นมา ขนตาขยับเล็กน้อย ก่อนจะลืมตาขึ้นมา

“ตื่นแล้วเหรอ?”

“ห๊ะ……”

ลี่จุนซินกำลังจะนั่งลง: “ฉันจะไปกินข้าวเช้า”

เวียร์กดร่างกายของเธอลง ก่อนจะยิ้มร้ายๆ : “ไม่ต้องรีบหรอก ตอนเช้าเป็นเวลาที่ดีในการออกกำลังกายเลยนะ……”

ลี่จุนซินหน้าแดงขึ้นมาทันที ด้วยความเขินอาย

มันเป็นเช้าที่มีความสุขมาก

……

แต่ว่าทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่เวียร์จินตนาการ อันที่จริง ตอนที่เวียร์ตื่นขึ้นมาตอนเช้าตรู่นั้น เมื่อคลำที่ด้านข้าง ก็โล่งหมดแล้ว

เมื่อดูนาฬิกา ก็เป็นเวลาเจ็ดโมงแล้ว เวียร์หยิบเสื้อผ้าที่ร่วงอยู่ที่พื้นเมื่อคืน หลังจากเข้าไปในห้องอาบน้ำเสร็จก็รีบออกจากห้องนอน

“เธอไปไหนแล้ว?”

เมื่อผู้ติดตามของโรงแรมเห็นแขกออกมา ก็รีบเข้าไปต้อนรับ “คุณผู้ชาย คุณตื่นแล้วเหรอ คุณหนูลี่ให้ฉันรอคุณอยู่ที่นี่ จากนั้นก็ให้บอกคุณว่าเธอไปที่ฟิตเนส เดี๋ยวจะกลับมาภายในครึ่งชั่วโมง”

ผู้ดูแลพูดไปพลาง ยกแขนขึ้นมาดูนาฬิกา

“ตอนนี้เจ็ดโมงกว่าแล้ว จากเวลาที่ดู อีกไม่นานคุณหนูลี่ก็น่าจะกลับมาแล้ว”

เวียร์กุมขมับ:พลังของผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาเลยล่ะ……ดูๆ ไปแล้วคืนนี้เขาคงต้องแกล้งเธออีกสักหน่อย……

เวียร์พยักหน้าให้ผู้ดูแล “ไปเอาอาหารเช้ามาก่อนเถอะ”

ผู้ดูแลเพิ่งจะเอาอาหารเช้ามาให้ ก่อนจะว่าลงบนโต๊ะ ลี่จุนซินก็ผลักประตูเข้ามา

“เอ้า คุณตื่นแล้วเหรอ”

เวียร์ไม่ได้ตอบลี่จุนซิน เพียงแต่มองเรือนร่างของลี่จุนซินไม่ห่าง ลี่จุนซินนั้นประณีตเป็นอย่างมาก ทำให้เขาคิดถึงเรือนร่างที่อ่อนโยนนี้อยู่ด้านล่างตัวเขามือคืนขึ้นมา

เมื่อคิดถึงฉากนี้ขึ้นมา เวียร์ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็เหงื่อแตกอีกครั้ง ลี่จุนซินเห็นแววตาของเวียร์ ก็รีบเอาผ้าเช็ดเหงื่อของตัวเองโยนไปที่หน้าของเวียร์ ก่อนจะพูดขึ้น “ไอ้บ้า” แล้วก็เดินเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดในห้องทันที

เวียร์ยิ้มก่อนจะดึงผ้าเช็ดตัวมาจากบนหน้าของตัวเอง แล้วโยนให้ผู้ดูแล ก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง

ตอนที่เขาเข้าไป ลี่จุนซินก็เข้าไปในห้องอาบน้ำแล้ว เขาเคาะประตูห้องน้ำ “ที่รัก อยากให้ฉันช่วยคุณไหม”

สุดท้ายการหยอกล้อลี่จุนซินนั้น ก็ได้คำหนึ่งมาจากลี่จุนซินก็คือ “ไปไกลๆ” หลังจากที่เวียร์ได้ยิน ก็หัวเราะขึ้นมา

“ไม่ล้อเล่นกับคุณแล้ว รีบอาบน้ำแล้วไปกินข้าวนะ ฉันรอคุณอยู่”

เมื่อพูดจบ เวียร์ก็เดินออกไป

หลังจากที่ลี่จุนซินอาบน้ำเสร็จ ก็เปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นตอนที่เช็ดผมแล้วเดินออกไป เวียร์กำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ พลางดูข่าวเศรษฐกิจของวันนี้

หลังจากที่เวียร์ได้ยินเสียงขยับ ก่อนจะหันไปยิ้มให้ลี่จุนซิน แล้วตบที่นั่งข้างๆ ตัวเอง เพื่อบอกให้ลี่จุนซินมานั่งลง

หลังจากที่ลี่จุนซินนั่งลง มือของเวียร์ก็วางอยู่ด้านหลังของเธอ ลี่จุนซินหันไปมองiPadในมือของเวียร์ ก่อนจะหยิบแซนด์วิชบนโต๊ะไปกัด

“วันนี้มีข่าวอะไรเหรอ”

ยังไม่ทันจะรอเวียร์ตอบลี่จุนซิน ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของลี่จุนซินดังขึ้น เวียร์เลยลุกขึ้นไปหยิบมาให้เธอ

ตอนที่เวียร์หยิบโทรศัพท์มา ก็เห็นคนที่โทรมา จากนั้นจึงขมวดคิ้ว

“ใครเหรอ?” ลี่จุนซินจิบกาแฟ ก่อนจะวางแก้วลงแล้วถาม เวียร์ส่งโทรศัพท์ให้เธอ

“คุณดูเองก็แล้วกัน”

ลี่จุนซินรับโทรศัพท์ไป เมื่อเห็นคนที่โทรมา ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา บนใบหน้ามีความไม่แยแส ก่อนจะตัดสายไป

หลังจากที่ลี่หยูนห่วนที่อยู่ในประเทศถูกตัดสายไป ก็เสียหน้าเป็นอย่างมาก แต่ว่าเพื่อปกป้องทรัพย์สินส่วนตัวของตัวเอง เลยโทรไปหาลี่จุนซินอีกครั้ง แต่ก็ถูกตัดสายเหมือนเดิม

ลี่หุยมองลี่หยูนห่วนด้วยรอยยิ้ม “คุณดูสิ ฉันว่าวิธีนี้มันใช้ไม่ได้เลยนะ”

ลี่หยูนห่วนหงุดหงิดเป็นอย่างมาก แต่ว่าเขาไม่อยากเอาสินทรัพย์ของตัวเองไปค้ำประกัน เพราะไม่รู้ว่าครั้งนี้จะได้กลับมาเมื่อไหร่ ยิ่งไปกว่านั้น จะเอากลับมาได้หรือเปล่าก็ไม่รู้