ตอนที่ 1309 เผชิญหน้ากับอันตรายอีกครั้ง (3) ตอนที่ 1310

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 1309 เผชิญหน้ากับอันตรายอีกครั้ง (3) / ตอนที่ 1310 เผชิญหน้ากับอันตรายอีกครั้ง (4)
ตอนที่ 1309 เผชิญหน้ากับอันตรายอีกครั้ง (3)

โอกาสที่ได้มาขุด ‘สุสาน’ ของตัวเองแบบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะได้เจอ อย่างน้อยเยี่ยซาและเยี่ยเม่ยก็ไม่สามารถเดาได้เลยว่าในใจของจวินอู๋เย่าคิดอะไรอยู่ ตลอดการเดินทางมาที่นี่ พวกเขาไม่เห็นจวินอู๋เย่าแสดงความไม่พอใจในเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย เขายิ้มมาตลอดทางด้วยซ้ำ

ทั้งสองคนจึงได้แต่นิ่งเงียบ

อย่างไรเสีย…

ตราบใดที่คุณหนูใหญ่ต้องการ ก็ไม่มีอะไรที่นายท่านจะไม่ให้นาง…

หลังจากพักเล็กน้อย ทุกคนก็กลับมามีเรี่ยวแรงเต็มเปี่ยมอีกครั้ง พวกเขาออกเดินทางไปบนเส้นทางสุดท้ายที่นำไปสู่สุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ!

เส้นทางที่พวกเขาเคยมา ครั้งนี้กลานเป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกเขา การระบุตำแหน่งปัจจุบันบนแผนที่ ก็แค่ให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่หลงทางไปจากจุดที่วางแผนไว้ และจะไปถึงจุดหมายปลายทางในที่สุด

เมื่อมีแผนที่คอยบอกทาง จวินอู๋เสียกับสหายของนางก็สามารถหลีกเลี่ยงอันตรายส่วนใหญ่ไปได้ ตลอดการเดินทางมีหมอกพิษอยู่รอบๆ ตัวพวกเขาและความหนาวเย็นที่เย็นจนถึงกระดูก พวกเขากินโอสถแก้พิษและใช้พลังวิญญาณเพียงเล็กน้อยเพื่อรักษาอุณหภูมิร่างกายเอาไว้ ครั้งที่สองนี่ทุกอย่างดูเหมือนจะง่ายขึ้นจริงๆ

แต่ความสะดวกสบายที่พวกเขาได้มานั้นแลกกับชีวิตมากมายนับไม่ถ้วน ซากศพที่กองเป็นภูเขาก็เพื่อรายละเอียดทุกส่วนสัญลักษณ์ทุกอันที่อยู่บนแผนที่นั้น

แผนที่ฉบับสมบูรณ์ที่จวินอู๋เสียถืออยู่ในมือนั้นชุ่มโชกไปด้วยโลหิต

เมื่อพวกเขาออกเดินทาง ก็จะไม่สามารถหยุดพักได้เป็นเวลาหลายวัน จะไม่มีโอกาสให้พวกเขาได้พักเลยสักครั้ง และพวกเขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องอดทนใช้พลังวิญญาณของตัวเอง

ถึงจะมีแผนที่อยู่ในมือ แต่พวกเขาก็จะประมาทไม่ได้

หลังจากเดินอ้อมเพื่อหลีกเลี่ยงสัตว์ประหลาดและข้ามผ่านหนองโคลนมาแล้ว จวินอู๋เสียกับสหายก็มาถึงสถานที่ที่พวกเขาไม่เคยเหยียบย่างเข้ามา

อุณหภูมิในสถานที่นั้นลดลงอีกหลายองศา ลูกบอลเพลิงวิญญาณในมือพวกเขาส่องสว่างในความมืด

มีดวงแสงส่องผ่านหมอกมาจางๆ มันกะพริบผ่านหมอกมาอย่างต่อเนื่อง

“ทำไม…มีแสงอยู่ที่นี่ได้เล่า” เฉียวฉู่ประหลาดใจ แสงที่กะพริบอยู่กระจัดกระจายนั่นเห็นได้อย่างชัดเจน แต่ในหมอกที่มืดมิดไม่มีที่สิ้นสุดนี้ มันยากที่จะเชื่อว่าจะมีแสงสว่างปรากฏขึ้นในนั้นได้

เฉียวฉู่อยากก้าวไปข้างหน้าเพื่อไล่ตามแสงแปลกๆ นั่น แต่ฮวาเหยารีบลากเขากลับมาทันที

“นั่นไม่ใช่แสง” จวินอู๋เสียพูดพลางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองไปยังแสงเล็กๆ เหมือนดวงดาวจำนวนมากที่ซ่อนอยู่ในหมอกลึกลับ นางหรี่ตาลงเล็กน้อย หยิบลูกบอลเพลิงวิญญาณที่มีขนาดเท่าไข่ห่านออกมาจากถุงเอกภพ หลังจากใส่พลังวิญญาณเข้าไปจำนวนมาก นางก็ขว้างมันออกไปสุดแรง

ลูกบอลเพลิงวิญญาณขนาดใหญ่ที่มีเปลวไฟสว่างจ้าลอยละลิ่วผ่านหมอกลึกลับ ทำให้พื้นที่ด้านหน้าพวกเขาสว่างขึ้นทันที

มันเป็นทะเลสาบน้ำแข็งที่ใสราวอัญมณี แท่งน้ำแข็งแหลมคมยื่นออกมาจากพื้นน้ำแข็ง ดูน่ากลัวเหมือนเขี้ยวสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่เต็มไปหมดทั่วทั้งพื้นที่ ลูกบอลเพลิงวิญญาณขนาดเท่าไข่ห่านกลิ้งอยู่ระหว่างแท่งน้ำแข็งขนาดมหึมา เสียงกริ๊งๆ ดังขึ้นทุกครั้งที่ถูกกระแทก

แท่งน้ำแข็งเป็นเหมือนกระจกสะท้อนแสงจากลูกบอลเพลิงวิญญาณ ส่องจากแท่งหนึ่งไปอีกแท่งหนึ่งไม่รู้จบ ทำให้พื้นที่ขนาดใหญ่สว่างขึ้นตรงหน้าพวกเขา…

เสาน้ำแข็งขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างหน้าจวินอู๋เสียและสหายภายในชั้นธารน้ำแข็งสีคราม พวกเขาสามารถเห็นกระดูกสีขาวที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งหนาๆ ได้รางๆ กระดูกมนุษย์สีขาวโพลนกระจัดกระจายอยู่ทุกหนทุกแห่งในน้ำแข็ง ดูแวบแรกเหมือนลวดลายแปลกๆ ที่ทำให้พื้นที่นี้ดูเป็นความงามที่เงียบสงบ

ตอนที่ 1310 เผชิญหน้ากับอันตรายอีกครั้ง (4)

ภายในแท่งน้ำแข็งสีคราม มีรอยโลหิตสีแดงให้เห็น

รอยโลหิตเหล่านั้นถูกทิ้งไว้โดยนักสำรวจทั้งหลาย ที่ใกล้ๆ กับตีนเสาน้ำแข็งที่มีสีแดงเจือปนอยู่ทุกต้นจะเห็นกองกระดูกสีขาวถูกตรึงอยู่ใต้น้ำแข็ง ฉากแปลกๆ พวกนั้นเป็นเหมือนดอกไม้สีแดงที่บานอยู่ใต้ชั้นน้ำแข็ง เสาน้ำแข็งสีแดงดูเหมือนเกสรดอกไม้ เป็นเกสรดอกไม้ที่ดูน่ากลัว

แท่งน้ำแข็งขึ้นหนาแน่น ช่องว่างระหว่างแท่งน้ำแข็งวางเท้าได้แค่ข้างเดียว แท่งน้ำแข็งพวกนั้นแหลมคมเหมือนใบมีด พลาดเล็กน้อยก็เฉือนเข้าเนื้อได้ทันที

เมื่อเทียบกับสถานที่ที่จวินอู๋เสียและสหายของนางผ่านมาแล้วนั้น สถานที่นี้สวยงามเยือกเย็น แต่เป็นความสวยที่ทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

“มีบางอย่างผิดปกติ” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับหรี่ตาลง

“อะไรผิดปกติ จากที่ข้าเห็น ที่นี่ก็ไม่ได้ผ่านยากอะไรนี่ นอกจากแท่งน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วนนั่น เราต้องเดินระวังๆ กันหน่อยก็แค่นั้น” เฉียวฉู่พูดพลางเกาหัว

จวินอู๋เสียส่ายหัวขณะที่จ้องไปยังกองกระดูกด้านล่างน้ำแข็งสีแดง

ข้างใต้แท่งน้ำแข็งสีแดงเกือบทุกอันจะมีกองกระดูกอยู่ด้านล่าง ส่วนอันที่ไม่มีกระดูก ก็จะมีกระดูกอีกชุดอยู่ห่างไปไม่กี่ก้าว ระยะทางสั้นๆ ระหว่างสิ่งเหล่านี้ทำให้จวินอู๋เสียรู้สึกว่าสถานที่นี้มีบางอย่างผิดปกติ

อย่างที่เฉียวฉู่พูด แท่งน้ำแข็งไม่ใช่อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่อะไรขนาดนั้น ถึงจะมีรอยขีดข่วน ก็แค่บาดแผลตื้นๆ แท่งน้ำแข็งทั้งหมดตรงหน้าพวกเขาเมื่อเทียบกับพื้นที่ที่พวกเขาผ่านมาก่อนหน้านี้แล้ว ดูเหมือนจะผ่านง่ายกว่ามาก ไม่น่าจะเป็นอุปสรรคสำหรับผู้บุกรุกมากนัก

จวินอู๋เสียไม่เชื่อว่าคนจากดินแดนเทพมารจะวางแท่งน้ำแข็งที่ไร้ความหมายไว้ที่ด้านล่างของผาสุดขอบฟ้า

“แท่งน้ำแข็งพวกนี้มีบางอย่างผิดปกติ” จวินอู๋เสียก้าวไปข้างหน้าและดึงเข็มเงินออกมาเพื่อเจาะเข้าไปในแท่งน้ำแข็งที่อยู่ใกล้นางมากที่สุด

เข็มเงินถูกดันเข้าไปในน้ำแข็ง ส่วนของเข็มที่อยู่ข้างในเปลี่ยนเป็นสีดำเข้มทันที!

จวินอู๋เสียหรี่ตาลงและพูดเสียงเย็นว่า “มีพิษอยู่ในน้ำแข็ง”

“พะ…พิษหรือ” เฉียวฉู่เบิกตากว้าง ไม่น่าเชื่อว่าในน้ำแข็งใสราวกับอัญมณีนั้นจะซ่อนพิษร้ายแรงเอาไว้

จวินอู๋เสียมองไปที่ทะเลแท่งน้ำแข็งและพูดด้วยเสียงเย็นเยียบว่า “หมอกรอบๆ ตัวเรามีพิษอยู่จำนวนมากและในหมอกก็มีความชื้นสูง มันครอบคลุมแท่งน้ำแข็งพวกนี้ซึ่งก่อตัวเป็นรูปร่างและแข็งตัวไปเรื่อยๆ พิษในหมอกจะรวมตัวกับชั้นน้ำแข็งที่ก่อตัวขึ้น ใครก็ตามที่โดนแท่งน้ำแข็งพวกนี้บาดจะโดนพิษ และผลคือตายทันที”

แท่งน้ำแข็งดูไม่เป็นอันตรายอะไรนัก คนจึงไม่ค่อยระวังมองข้ามพวกมันไปง่ายๆ โดยเฉพาะคนพวกนี้ทุกข์ทรมานจากความเหนื่อยล้าและความกังวลมาเป็นเวลานาน หลายคนจึงลดความระวังลง สำหรับคนที่มาจนถึงที่นี่นั้น ส่วนใหญ่จะรู้สึกไม่ปลอดภัยมาเป็นเวลานานแล้วและเครียดมาก ดังนั้นพวกเขาจะไม่คิดเยอะว่ามีอันตรายซ่อนอยู่ในแท่งน้ำแข็งพวกนี้ และก้าวต่อไปอย่างกล้าหาญ

เมื่อผ่านแท่งน้ำแข็งที่อัดแน่นอยู่ใกล้ๆ กัน ก็จะโดนบาดเอาได้ง่ายๆ แท่งน้ำแข็งพวกนี้แหลมคมมากขนาดที่ต่อให้ใส่เกราะกันมาเต็มที่ ก็ยังเฉือนผ่านเกราะบาดเข้าเนื้อได้อย่างง่ายดาย

แค่โดนเข้ากับโลหิตสักเล็กน้อยเท่านั้น พิษที่ซ่อนอยู่บนแท่งน้ำแข็งก็จะคร่าชีวิตคนผู้นั้นไป

คำพูดของจวินอู๋เสียทำให้เฉียวฉู่อ้าปากค้างด้วยความสยองขวัญ เขาก็เหมือนกับคนที่นอนอยู่ในน้ำแข็งพวกนั้น ไม่เคยคิดเลยว่าความตายจะซ่อนไว้อย่างละเอียดขนาดนี้

“มีทางอื่นให้ไปหรือไม่ แท่งน้ำแข็งรวมตัวกันหนาแน่นขนาดนี้ ยากจะแน่ใจได้ว่าเราจะไม่โดนมันบาดเอา” ฮวาเหยาพูดพลางขมวดคิ้ว ลูกบอลเพลิงวิญญาณที่จวินอู๋เสียขว้างนั้นกลิ้งไปค่อนข้างไกล มันถูกหมอกที่หมุนวนปกคลุม แสงรอบตัวพวกเขาจึงค่อนข้างสลัว