ตอนที่ 1313 เผชิญหน้ากับอันตรายอีกครั้ง (7) / ตอนที่ 1314 เผชิญหน้ากับอันตรายอีกครั้ง (8)
ตอนที่ 1313 เผชิญหน้ากับอันตรายอีกครั้ง (7)
เฉียวฉู่โดนพรรคพวกดูถูก รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเศร้าซึมทันที เขาทำคอตกและไปซ่อนอยู่ข้างหลังฮวาเหยาพลางบ่นพึมพำ
เขาเข้าใจเหตุผลอยู่แล้วล่ะน่า…แต่ที่เขาทำไปทั้งหมดก็เพราะอยากดูเท่ต่อหน้าคนอื่น!
ชิ! เจ้าพวกใจร้าย…ไม่ไว้หน้ากันบ้างเลย!
หลังจากเฉียวฉู่พยายามจะทำเท่แต่จบด้วยการโดนดูถูกแล้ว พรรคพวกคนที่เหลือที่ผลัดกันออกมา พวกเขาควบคุมพลังวิญญาณที่รวบรวมเอาไว้ในมือและพยายามอย่างเต็มที่ที่จะรักษาความกว้างในการโจมตีเอาไว้ที่สามเมตร
พวกฮวาเหยาทุกคนสามารถระเบิดทางไปข้างหน้าได้ประมาณยี่สิบเมตร เมื่อเปรียบเทียบด้านประสิทธิภาพกันแล้ว ความภูมิใจของเฉียวฉู่ก็ถูกบดขยี้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
สิ่งที่ทำให้เขาอับอายไปกว่านั้นก็คือ…ไม่มีใครยกระดับพลังไปที่ขั้นพลังสีม่วงเลยสักคน พวกเขาใช้แค่พลังวิญญาณขั้นสีน้ำเงินเท่านั้น!
พลังวิญญาณขั้นสีม่วงสูบพลังวิญญาณของพวกเขาเร็วเกินไป และในสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่มีใครโง่พอจะใช้พลังวิญญาณอย่างสิ้นเปลืองในสถานที่อันตรายเช่นนี้
นอกจาก…
เจ้าโง่เฉียวฉู่
หลังจากดึงพลังวิญญาณกลับคืนแล้ว ฟ่านจัวก็ถอยกลับไปด้านหลังและเดินทางต่อพร้อมกับกลุ่มสหายพวกเขาเปิดเส้นทางไปได้เกินหนึ่งร้อยเมตรแล้วและเจอลูกบอลเพลิงวิญญาณที่จวินอู๋เสียเขวี้ยงออกมาแล้ว แต่พวกเขายังไม่เห็นสัญญาณใดๆ ว่าจะถึงปลายทางเลย พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากไปต่อ
เยี่ยซาเป็นคนลงมือต่อจากฟ่านจัว ด้วยการโจมตีครั้งเดียว เสียงน้ำแข็งแตกก็ดังต่อเนื่องเป็นชุดยาวเหยียด แท่งน้ำแข็งตั้งแต่ตรงหน้าพวกเขาไปจนถึงสุดสายตาที่ซ่อนอยู่ในหมอกถูกระเบิดหายไป เสียงระเบิดดังกึกก้องอยู่พักหนึ่งถึงได้หยุดลง
เฉียวฉู่ตาโตเป็นไข่ห่าน จ้องมองเยี่ยซาที่ทำหน้าเคร่งขรึมอย่างตกตะลึง
พวกเขาทุกคนรู้ดีว่าเยี่ยซาแข็งแกร่งกว่าพวกเขาทั้งหมด แต่แข็งแกร่งมากขนาดไหนนั้น พวกเขาไม่เคยได้คำตอบที่ชัดเจน แต่ตอนนี้ เมื่อได้เห็นการโจมตีเพียงครั้งเดียวของเยี่ยซา มันก็เปิดเผยให้พวกเขาเห็นช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างพลังของพวกเขาและเยี่ยซา…
แรงกระแทกของพลังวิญญาณ ยิ่งไกลออกไปก็ยิ่งอ่อนแรงลง ระยะทางแต่ละเมตรที่เพิ่มขึ้น ก็ยิ่งอ่อนกำลังลงครึ่งหนึ่ง ดังนั้นพวกของเฉียวฉู่ถึงได้ระยะทางเกือบเท่ากันหมด เนื่องจากพลังของพวกเขาไม่ได้แตกต่างกันมากนัก
แต่การโจมตีจากเยี่ยซานั้น ทิ้งห่างพวกเขาไปไกลมาก!
พวกเฉียวฉู่แทบจะทนรอออกเดินทางไม่ไหว พวกเขาอยากวัดระยะทางว่าเยี่ยซาจะระเบิดทางไปได้ไกลแค่ไหน
ขณะเดินพวกเขาก็นับไปด้วย พวกผู้เยาว์เกือบเป็นลมจากความตกใจ
ห้าร้อยเมตร…
หลังจากได้ผลสรุปแล้ว เฉียวฉู่ก็อยากหนีหน้าไปให้ไกล
พอนึกย้อนกลับไปถึงหลุมใหญ่ที่เขาทำเอาไว้แล้ว และมองดูสิ่งที่พี่เยี่ยซาทำได้…
เขารู้สึกอับอายอย่างถึงที่สุด!
นั่นยังเปิดเผยให้พวกเขาเห็นด้วยว่าพลังของเยี่ยซานั้นแท้จริงแล้วน่ากลัวเพียงใด แต่พวกเขาไม่รู้ว่านั่นไม่ใช่พลังที่แท้จริงของเยี่ยซา ด้วยเหตุผลพิเศษบางอย่าง ทำให้พลังของเยี่ยซาถูกควบคุมเอาไว้ เขาไม่สามารถเรียกพลังทั้งหมดของเขามาได้
ไม่เช่นนั้น เขาจะไม่แพ้ผู้อาวุโสฮุยหรอก
เยี่ยซานิ่งเฉยมาตลอด ไม่ได้แสดงท่าทางพออกพอใจในตัวเองเลยแม้แต่น้อย หลังจากเขาก็ถึงตาเยี่ยเม่ย และผลที่ได้ก็คือการทำลายล้างเช่นเดียวกับเยี่ยซา
การแสดงพลังที่เหนือชั้นของบุรุษทั้งสองคนทำให้กลุ่มผู้เยาว์ตกอยู่ในสภาพน่าสมเพช เมื่อรวมระยะทางที่พวกผู้เยาว์ทำได้ทั้งหมด มันก็แค่หนึ่งในห้าของที่เยี่ยซาหรือเยี่ยเม่ยคนใดคนหนึ่งทำได้…
ความเหลื่อมล้ำนั้นมากเกินไป!
แต่ถ้าพวกของเฉียวฉู่รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเยี่ยซาและเยี่ยเม่ย พวกเขาอาจจะไม่รู้สึกตกใจกับเรื่องนี้
“ท่านด้วยสิ…” จวินอู๋เสียมองจวินอู๋เย่าที่อยู่ข้างๆ คนทั้งกลุ่มมีเพียงจวินอู๋เย่าคนเดียวที่ยังไม่ได้ลงมือ ตามลำดับแล้วตอนนี้มันควรจะเป็นตาของเขา
“เสี่ยวเสียเอ๋อร์อยากให้ข้าทำไกลแค่ไหน” จวินอู๋เย่าถามพร้อมกับก้มหน้าเล็กน้อย มองจวินอู๋เสียด้วยรอยยิ้ม
ตอนที่ 1314 เผชิญหน้ากับอันตรายอีกครั้ง (8)
จวินอู๋เสียมองใบหน้าหล่อเหลาที่จู่ๆ ก็เข้ามาใกล้ และเห็นประกายรื่นเริงในดวงตาของเขา ดวงตาของจวินอู๋เสียก็เป็นประกายวาววับขึ้นมา แล้วนางก็เขย่งปลายเท้าจุมพิตเข้าที่แก้มของจวินอู๋เย่าเบาๆ
จวินอู๋เย่าตัวแข็งทันที
เฉียวฉู่ยืนเอามือปิดหน้าอยู่ด้านข้าง ปวดใจมาก…ตาเขาจะบอดแล้ว!
“ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับยิ้มบางๆ ที่มุมปาก ทันใดนั้นนางก็ค้นพบว่าการที่นางเป็นฝ่ายรุกก่อนดูเหมือนจะทำให้เจ้าปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งมีรอยยิ้มชั่วร้ายอยู่บนใบหน้าตลอดเวลาผู้นี้ถึงกับตกตะลึงทำอะไรไม่ถูกได้ จวินอู๋เสียรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าสนใจมากทีเดียว
การได้เห็นจวินอู๋เย่าผู้ลึกลับและมีรอยยิ้มที่คาดเดาไม่ได้อยู่ตลอดแสดงสีหน้าประหลาดใจแบบนี้ออกมา ในใจของนางก็รู้สึก…พึงพอใจเล็กน้อย
น่าสนใจดี ใช่หรือไม่เล่า
เยี่ยเม่ยกับเยี่ยซาเบนสายตาออกไปอย่างเงียบๆ พวกเขามองออกแล้ว เมื่อก่อนเป็นนายท่านที่หยอกล้อคุณหนูใหญ่จนหน้าแดงหูแดง ตอนนี้…คุณหนูใหญ่เรียนรู้ที่จะโต้กลับแล้ว!
วิธีการหยอกล้อนายท่านของนางยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นทุกที ง่ายดายเหมือนกระดิกนิ้ว
ครู่หนึ่งกว่าจวินอู๋เย่าจะได้สติ ดวงตาของเขามองไปที่จวินอู๋เสีย ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ได้แต่ยืนทื่ออยู่แบบนั้น
เด็กน้อยของเขาติดนิสัยไม่ดีมาเสียแล้ว
แต่…
เขาชอบมันมากเลย!
จวินอู๋เย่าที่ ‘อิ่มอกอิ่มใจ’ อย่างมากก็ลูบหัวจวินอู๋เสียอย่างอ่อนโยน เขาพูดด้วยสีหน้าเอาอกเอาใจว่า “ตามที่เจ้าปรารถนา”
พูดจบเขาก็ก้าวไปข้างหน้า หมอกสีดำค่อยๆ รวมตัวกันหมุนวนอยู่บนฝ่ามือของเขา เขายกแขนขึ้นและลูกบอลหมอกสีดำก็พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วราวสายฟ้า ระเบิดพื้นที่ด้านหน้าพวกเขาทั้งหมด!
พวกเขาเห็นแท่งน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วนถูกระเบิดหายไปจนหมดสิ้นภายใต้หมอกสีดำ ตรงหน้าจวินอู๋เสียและสหายนั้นปรากฏพื้นที่กว้างอย่างน้อยหนึ่งร้อยเมตร ขณะที่เสียงแท่งน้ำแข็งถูกทำลายยังดังต่อเนื่องไม่หยุดเป็นเวลานาน ดังไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด…
ตู้มมม
พวกผู้เยาว์อ้าปากค้างจนขากรรไกรตกลงไปถึงพื้น
เสียงแท่งน้ำแข็งถูกทำลายดังอยู่หนึ่งนาทีเต็มๆ ก่อนจะหายไปกับหมอกหนาทึบ เสียงนั้นเบาลงเรื่อยๆ แต่ไม่ได้มีทีท่าจะหยุดลง มันเหมือน…
เสียงมันอยู่ไกลเกินไปจนพวกเขาไม่ได้ยิน…
เฉียวฉู่แทบจะคุกเข่าลงตรงหน้าจวินอู๋เย่าเลยทีเดียว!
อะไรคือการฆ่าในพริบตา
อะไรคือการทำลายล้างให้เรียบ
เทียบกับจวินอู๋เย่าแล้ว เยี่ยซากับเยี่ยเม่ยก็กลายเป็นคนอ่อนแอไปเลย!
แค่ความกว้างของมันก็ยาวกว่าระยะทางรวมที่เฉียวฉู่กับสหายทำได้เสียอีก
ตอนนั้นเอง พวกเฉียวฉู่ก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างพูดอะไรไม่ออก ทำไมพวกเขาต้องทรมานตัวเองด้วย
ก็น่าจะขอให้จวินอู๋เย่าทำเสียตั้งแต่แรก เขาอาจจะเคลียร์เส้นทางให้ทั้งหมดด้วยการโจมตีแค่ครั้งเดียว!
แถมมันยังกว้างมากด้วย!
“ข้านึกออกประโยคหนึ่ง” จู่ๆ เฟยเยียนก็พูดขึ้น
“อะไร” ฟ่านจัวถามพลางเลิกคิ้ว
“คนเก่งอวดฝีมือเรียกโคตรเทพ คนกระจอกอวดฝีมือเรียกไอ้โง่” เฟยเยียนพูดพร้อมกับเหลือบมองไปที่เฉียวฉู่
“ฮ่าๆๆ!” ฟ่านจัวไม่สามารถยับยั้งเสียงหัวเราะของเขาได้
อะไรคือความแตกต่างแบบสุดขั้ว
นี่ไงเล่า
เฉียวฉู่ส่งเสียงคร่ำครวญและเอามือปิดหน้า แม้ว่าเขาจะอยากซัดเฟยเยียนสักตุบ แต่…ตัวเขาเองก็เห็นด้วยว่าคำพูดนั้นมีเหตุผล แล้วเขาจะทำอะไรได้!
เทียบกับจวินอู๋เย่าแล้ว เขาก็คิดว่าสิ่งที่เขาทำไปก่อนหน้านี้มันช่าง…โง่…มาก…
จวินอู๋เย่าไม่ได้สนใจเสียงร้องอย่างสิ้นหวังของเฉียวฉู่ เขาหันไปหาจวินอู๋เสีย ริมฝีปากโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มชั่วร้าย พร้อมกับถามว่า “พอหรือไม่”
“พอแล้ว…” จวินอู๋เสียอึ้งเล็กน้อย ทำไมนางรู้สึกว่าจวินอู๋เย่าจงใจทำลายแท่งน้ำแข็งเป็นคนสุดท้ายเพื่อสร้างความตื่นตะลึงแบบนี้
แค่กๆๆ นางคงคิดมากเกินไป
ถ้าเยี่ยซากับเยี่ยเม่ยรู้ว่าจวินอู๋เสียคิดอะไร พวกเขาคงบอกนางแน่ๆ ว่า
คุณหนูใหญ่ขอรับ ท่านไม่ได้คิดมากเกินไปเลย!