ตอนที่ 1321 ป่ากร่อนกระดูก (7) ตอนที่ 1322 ป่ากร่อนกระดูก (8)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 1321 ป่ากร่อนกระดูก (7) / ตอนที่ 1322 ป่ากร่อนกระดูก (8)
ตอนที่ 1321 ป่ากร่อนกระดูก (7)

“หมายความว่าอย่างไร ขจัดพิษด้วยพิษ เจ้าคงไม่ได้คิดจะ…ใช้พิษมาจัดการกับต้นกร่อนกระดูกมากมายที่นี่หรอกนะ…” เฉียวฉู่พูดขณะมองจวินอู๋เสียอย่างตกใจ ความคิดนี้คงจะทำได้ยาก ส่วนที่เป็นปัญหาที่สุดก็คือต้นกร่อนกระดูกมีอยู่เยอะมากและแผ่ขยายออกไปกว้างใหญ่ไพศาล ต่อให้จวินอู๋เสียจะมีโอสถพิษอยู่เต็มถุงเอกภพ แต่มันก็ยังไม่พออยู่ดี

“ทำไมจะไม่เล่า” จวินอู๋เสียเลิกคิ้ว นางกำลังคิดกับตัวเองว่านี่เป็นความคิดที่ดีมาก!

แม้ว่านางจะคิดถึงการใช้พลังวิญญาณทำลายเพื่อทำเส้นทางผ่านออกไปและวางเปลือกไม้ของต้นกร่อนกระดูกเอาไว้ใต้เท้าขณะเดินทาง แต่การทำลายต้นกร่อนกระดูกจำนวนมากจะทำให้ยางพิษจำนวนมหาศาลไหลออกมา ความเข้มข้นของพิษในหมอกภายในป่ากร่อนกระดูกก็จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยหลายร้อยเท่า ในสถานการณ์นั้น แม้ว่าทั้งคณะเดินทางจะกินโอสถแก้พิษเอาไว้แล้ว แต่ถ้าต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้นเป็นเวลานาน ก็จะเกิดผลกระทบที่ไม่ดีกับพวกเขาอย่างแน่นอน

นั่นจึงเป็นตัวเลือกสุดท้าย

ถ้ามีวิธีอื่นให้เลือก จวินอู๋เสียก็ไม่อยากลองหรอก

เมื่อพูดถึงพิษ ในบรรดาพิษจากธรรมชาติทั้งหมดที่จวินอู๋เสียพบมา มีเพียงอย่างเดียวที่สามารถเทียบเคียงกับพิษของต้นกร่อนกระดูกได้

“แต่…มันจะต้องใช้พิษมากขนาดไหนกันเล่า” เฉียวฉู่ถาม

จวินอู๋เสียตอบว่า “เรื่องปริมาณไม่ใช่ปัญหา”

“หือ”

จวินอู๋เสียไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติมให้เฉียวฉู่ฟัง นางแค่ก้าวออกไปข้างหน้า แล้วแสงสีแดงก็ส่องประกายจากนิ้วของนาง!

แสงสีแดงนั้นค่อยๆ กระจายออกกลางอากาศจนกินพื้นที่ขนาดใหญ่ แล้วทันใดนั้นมันก็ค่อยๆ รวมตัวกัน ก่อตัวเป็นรูปร่างมนุษย์อย่างช้าๆ

ในโลกนี้มีเพียงสิ่งเดียวที่จวินอู๋เสียรู้ว่าสามารถจัดหาพิษให้ได้อย่างต่อเนื่องไม่มีหมด และพิษของมันก็เทียบเคียงได้กับต้นกร่อนกระดูก

ทันใดนั้น แสงสีแดงก็สลายไป ร่างสูงปรากฏขึ้นต่อสายตาของทุกคน บุรุษหน้าตาดีอย่างร้ายกาจที่มีรอยยิ้มเหยียดหยามชาวโลกเดินกรีดกรายเข้ามา เมื่อสายตาของเขามองไปที่จวินอู๋เสีย เขาก็คุกเข่าลงกับพื้นข้างหนึ่ง ก้มหัวที่หยิ่งยโสของเขาลงเล็กน้อย

“เจ้านาย มีคำสั่งอะไรหรือขอรับ” น้ำเสียงของเขาเกียจคร้านและห้าวเล็กน้อย เขาเงยหน้าขึ้นช้าๆ และมองจวินอู๋เสียด้วยสายตาเคลิ้มลืมตัว ราวกับเขามีสายตาเอาไว้มองนางเพียงผู้เดียว

จวินอู๋เสียกำลังจะอ้าปากพูด ร่างหนึ่งก็เข้ามาอยู่ที่ด้านหลังของนาง และก่อนที่จวินอู๋เสียจะทันได้พูดอะไรออกมา หมอกสีดำสายหนึ่งก็ถูกยิงเข้าใส่อิงซู่ที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น!

อิงซู่ตกใจเล็กน้อย ร่างของเขาถูกห่อหุ้มด้วยหมอกสีดำที่หมุนวน รังสีกดดันรุนแรงทะลักออกมาจากหมอกสีดำที่บีบรัดร่างเขา!

“ถ้าข้าเห็นเจ้ามองนางด้วยสายตาเช่นนั้นอีกครั้งเดียว ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าความหมายของคำว่าขวัญบินวิญญาณกระเจิงมันคืออะไร” เสียงทุ้มที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่ารุนแรงดังขึ้น จวินอู๋เย่าหรี่ตาลงมองอิงซู่ที่ถูกกักขังอยู่ในหมอกสีดำ เจตนาฆ่าที่อยู่ในแววตาเปิดเผยชัดเจน

ทุกคนพากันตกตะลึง

จวินอู๋เสียรีบพูดขึ้นว่า “เขาเป็นภูติวิญญาณของข้า”

จวินอู๋เย่าตอบพร้อมกับหัวเราะเย็นชา “ข้ารู้ ไม่อย่างนั้นมันตายไปแล้ว”

บังอาจมองเสี่ยวเสียเอ๋อร์ของเขาด้วยสายตาเจ้าชู้แบบนั้น จะคนหรือภูติวิญญาณ มันก็ต้องตาย

“เอ่อ…” จวินอู๋เสียพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง แม้ว่านางจะเข้าใจความรู้สึกของนางที่มีต่อจวินอู๋เย่าแล้ว แต่สำหรับอารมณ์ ‘หึงหวง’ นี้ มันยังแปลกสำหรับนางอยู่ นางไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ จวินอู๋เย่าถึงมีเจตนาฆ่าฟันรุนแรงถึงขนาดนี้

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอกับอิงซู่ใช่หรือไม่

แล้วอิงซู่ก็ทำให้เขาโกรธแล้วหรือ

ตอนที่ 1322 ป่ากร่อนกระดูก (8)

อิงซู่หน้าซีดเผือด ภูติวิญญาณเป็นร่างวิญญาณและสามารถหลบอันตรายทางร่างกายได้หลายรูปแบบ เมื่อเผชิญกับวิกฤต พวกเขาสามารถเปลี่ยนร่างเป็นร่างวิญญาณเพื่อกลับไปซ่อนตัวในแหวนได้ แต่หมอกสีดำนี้ดูเหมือนจะลบล้างความสามารถพวกนั้นไปหมดและกักขังวิญญาณของเขาเอาไว้ในหมอกได้ ทำให้เขาไม่มีโอกาสหนีออกมาได้เลย

ความรู้สึกที่ถูกทรมานทั้งวิญญาณทำให้อิงซู่เจ็บปวดอย่างถึงที่สุด

เขามองจวินอู๋เย่าที่ยืนอยู่ข้างหลังจวินอู๋เสีย บุรุษที่ทั่วร่างเปล่งรังสีอันตรายทำให้เขารู้สึกหวาดกลัว

“เข้าใจแล้ว…มันจะไม่…เกิดขึ้นอีก…” อิงซู่มั่นใจว่าบุรุษคนนั้นไม่ได้ล้อเล่น ถ้าเขาแสดงท่าทางต่อต้านแม้เพียงเล็กน้อยละก็ บุรุษคนนั้นคงไม่ลังเลที่จะทำลายเขาให้สิ้นซากอย่างแน่นอน!

จวินอู๋เย่าส่งเสียงฮึอย่างดูถูกเหยียดหยาม เขาโบกมือครั้งหนึ่ง หมอกสีดำก็สลายไป

อิงซู่ล้มลงคุกเข่าหมดสภาพ

ครั้งนี้สายตาของเขาหนักแน่นมั่นคง ไม่กล้าล้อเล่นหรือโปรยเสน่ห์อีกเลย

ความจริงก็ไม่อาจตำหนิอิงซู่ได้หรอก ธรรมชาติของอิงซู่หรือฝิ่นคือสิ่งที่ทำให้คนหลงมัวเมาเสพติดอยู่แล้ว ออร่าที่ปล่อยออกมาจากร่างเขาก็เป็นแค่ธรรมชาติที่ทำให้เขาเป็นเช่นนั้น แต่เมื่อเจอกับพลังกดดันที่แข็งแกร่ง ต่อให้เป็นธรรมชาติโดยกำเนิดของเขา เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยับยั้งตัวเองเอาไว้

เขาไม่อยากตายอย่างน่าอนาถ

จวินอู๋เย่าลงมือโจมตีอย่างรวดเร็วราวสายฟ้า และตลอดเวลาพวกเฉียวฉู่ก็มัวแต่ยืนตะลึง ผ่านไปพักใหญ่ถึงจะได้สติกัน

จวินอู๋เย่าสังเกตปฏิกิริยาของอิงซู่อย่างพอใจ เจตนาฆ่าจึงค่อยๆ จางหายไปจากแววตาของเขา เขาก้มหัวมองสีหน้าแปลกใจของจวินอู๋เสีย แล้วรอยยิ้มที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นในแววตาของเขาราวกับเมื่อสักครู่ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นเลย

“ข้ายังไม่ได้แสดงความยินดีกับเจ้าที่ได้ภูติวิญญาณมาอีกตนเลย”

จวินอู๋เสียมองจวินอู๋เย่าที่ยิ้มเต็มใบหน้า แล้วรู้สึกว่าวิธี ‘แสดงความยินดี’ ของเขาช่าง ‘งดงามไม่ธรรมดา’

“แต่ในบรรดาภูติก็มีพวกที่ไม่ดีอยู่เยอะ พวกภูติไม่ดีพวกนั้น ไม่มีเสียยังจะดีกว่า ไปหาภูติตนอื่นเอาวันหน้าก็ได้” จวินอู๋เย่าพูดด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนมาก น้ำเสียงก็ละมุนน่าฟัง แต่คำพวกนั้นเมื่ออิงซู่ได้ยินเข้า เขาก็เย็นวาบไปทั้งหลัง

คำพวกนั้นจงใจพูดให้เขาฟังใช่หรือไม่

อิงซู่ที่ไม่ได้เจอหน้าเจ้านายคนใหม่ของเขามานาน ได้แต่ร้องไห้แบบไม่มีน้ำตาอยู่ในใจ ดูเหมือนว่าที่ข้างกายของเจ้านายใหม่ของเขา จะมีคนที่ไม่ธรรมดามากๆ อยู่

จวินอู๋เสียถอนหายใจแล้วพูดว่า “หยุดเล่นได้แล้ว จัดการเรื่องให้เสร็จก่อน”

ใช่แล้ว…

ในสายตาของจวินอู๋เสีย การกระทำของจวินอู๋เย่าก็เหมือนเด็กอาละวาดเอาแต่ใจ นางไม่ได้คิดไปถึงว่าจวินอู๋เย่ากำลังหึงหรืออะไรเลย

จวินอู๋เย่ายักไหล่เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาเต็มใจจะร่วมมือ

เมื่อมีจวินอู๋เย่าตั้งป้อมอยู่ อิงซู่ก็ไม่กล้าเล่นอะไรอีก ได้แต่ทำหน้าจงรักภักดีและคุกเข่าลงตรงหน้าจวินอู๋เสีย

จวินอู๋เสียเรียกอิงซู่มาก็เพราะต้องการยืมพิษของอิงซู่จัดการกับพิษของต้นกร่อนกระดูก เพื่อให้พิษร้ายแรงสองชนิดต่อต้านกันและกำจัดพิษส่วนใหญ่ของกันและกัน ด้วยวิธีนั้น ทุกคนก็จะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระภายในป่ากร่อนกระดูก

“ถ้าไม่ได้ต้านพิษของต้นกร่อนกระดูกในพื้นที่ใหญ่มาก ข้าก็น่าจะทำได้” อิงซู่พูดด้วยความจริงจังที่หาได้ยาก

การใช้พิษของอิงซู่เพื่อเดินทางผ่านป่ากร่อนกระดูกไม่ใช่งานที่ซับซ้อน พวกเขาแค่ต้องให้อิงซู่ปล่อยกลิ่นของเขาให้แพร่กระจายออกไป แม้ว่าจะมีใครถูกต้นกร่อนกระดูกข่วนเอา ผลกัดกร่อนก็ไม่ได้เกิดขึ้นในทันที พิษที่อยู่บนบาดแผลก็จะปะทะกับพิษของอิงซู่ ซึ่งจะช่วยกำจัดพิษส่วนมากไป มันก็จะไม่อันตรายถึงตายอีก