เช้าวันที่สอง เพราะลี่จุนถิงมีเรื่องที่ต้องจัดการกับบริษัทต่างชาติ เลยบอกกับเจียงหยุนเอ๋อกับโม่เสี่ยวฮุ่ย ก่อนจะรีบออกไป ก่อนจะออกไปยังหาคนดูแลมาเพิ่มให้พวกเธอด้วย
“หยุนเอ๋อ ฉันไปก่อนนะ คุณพักผ่อนที่บ้านดีๆ นะ เดี๋ยวฉันจัดการเสร็จจะรีบกลับมา ดูแลตัวเองให้ดีๆ นะ ฉันเตรียมคนมาดูแลความปลอดภัยให้พวกคุณแล้ว”
“ช่วงนี้ คุณกับแม่อย่าเพิ่งออกไปไหนนะ มีเรื่องอะไรก็บอกลู่ฉวินได้เลย”
เมื่อบอกเสร็จ ลี่จุนถิงก็ออกไป
ช่วงบ่ายของวันที่ลี่จุนถิงออกไป เจียงหยุนเอ๋อก็ไม่สบาย อีกอย่างยังไม่สบายอย่างหนักมาก จนเจียงหยุนเอ๋อไม่กล้าให้นมกุ่นกุ่นเลยด้วยซ้ำ
โม่เสี่ยวฮุ่ยกับซูม่านลีเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อไอและมีน้ำมูก แถมยังมีไข้เล็กน้อยด้วย เลยร้อนใจเป็นอย่างมาก
“อั้ยหยา ทำไมจู่ๆ ถึงได้ไม่สบายหนักล่ะ?”
“แม่ ฉันไม่เป็นไร น่าจะเป็นเพราะเมื่อคืนวานออกไปจนดึก ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าให้พอ เลยไม่สบาย แต่ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวฉันกินยานิดหน่อยก็หายแล้ว”
ลู่ฉวินฟังอยู่ข้างๆ เพราะเมื่อคืนวานโดนลมจนป่วย เลยรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก
“พี่สะใภ้ ขอโทษนะ เมื่อคืนวานทำให้คุณกับพี่ใหญ่ต้องลำบาก”
“ไม่เป็นไร เกรงใจอะไรเล่า มันควรจะทำอยู่แล้ว” เจียงหยุนเอ๋อเลยยิ้มให้ลู่ฉวินด้วยความอ่อนแรง ลู่ฉวินเลยรู้สึกผิดมากกว่าเดิม
ตอนบ่าย หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อกินและฉีดยาเสร็จแล้ว ก็นอน ขนาดถวนจื่อยังไม่กล้าไปรบกวน แน่นอนว่าเรื่องนี้ เจียงหยุนเอ๋อเองก็ไม่ให้พวกเธอบอกลี่จุนถิง
หลังจากที่บอกแล้ว ลี่จุนถิงจะต้องรีบกลับมาอย่างแน่นอน เจียงหยุนเอ๋อไม่อยากรบกวนเวลาทำงานของเขา
ผ่านไปคืนหนึ่ง เจียงหยุนเอ๋อดีขึ้นมาก ตอนเที่ยง ลี่จุนถิงเลยโทรไปบอกเขาว่าวันนี้อาจจะกลับมา แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ อีกอย่างตอนกลางคืนอาจจะมีนัดกินข้าว ดังนั้นเลยบอกให้เธอไม่ต้องรอเขาตอนดึกแล้ว
นัดของลี่จุนถิงคงจะต้องทนอยู่จนดึกแน่นอน หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อกินข้าวเย็นจนเสร็จ ก็กลับไปที่ห้องเพื่ออาบน้ำกินยาก่อนจะนอนบนเตียง ด้วยความปวดหัว และคัดจมูกเป็นอย่างมาก เธออยากนอนให้เร็วหน่อยแต่กลับนอนไม่หลับสักที
เมื่อนอนไปได้สักพัก ก็คิดว่าอุณหภูมิในห้องมันต่ำเกิน เลยปิดแอร์ ผ่านไปสักพักก็รู้สึกร้อนขึ้นมา เลยเปิดแอร์ ตอนที่เธอกำลังถือรีโมทพลางลังเลอยู่นั้น เธอก็ได้ยินเสียงปลดล็อก หลังจากที่อึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะโยนรีโมททิ้งแล้วรีบเอาผ้าห่มคลุมโปงเพื่อแกล้งหลับ
ตอนที่โทรศัพท์ในวันนี้ เจียงหยุนเอ๋อยังไม่ได้บอกลี่จุนถิงว่าเธอป่วย ดังนั้นเลยกลัวเขาจับได้ จึงแกล้งหลับ
เสียงฝีก้าวมันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จากนั้นประตูของห้องนอนก็มีเสียงเปิดออก สุดท้ายก็มีเสียงอาบน้ำจากห้องน้ำ เจียงหยุนเอ๋อเลยลืมตาขึ้นมา เพียงไม่นานประตูห้องน้ำก็เปิดออก เธอเลยแกล้งหลับตาอีกครั้ง
เธอรู้สึกว่ามีเงาดำใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และมีกลิ่นหอมๆ จากการอาบน้ำลอยมาด้วย แต่จากนั้น ก็ไม่มีการขยับอะไรอีก เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกแปลกๆ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ จากบนหัว
เธอเลยอดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นเพื่อมองเขาด้วยความโกรธ ลี่จุนถิงอยู่ด้านบนของเธอ พลางทำท่าทีอิดออด “ไม่แกล้งแล้วเหรอ?”
เจียงหยุนเอ๋อหันหน้าไปอีกด้าน ก่อนจะเบ้ปากแล้วพูดว่า “เชอะ”
ลี่จุนถิงเองก็เบะปากเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร
สุดท้ายเจียงหยุนเอ๋อก็หันหน้ามา “คุณบอกว่าไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ไม่ใช่เหรอ ทำไมกลับมาตอนนี้ล่ะ?”
เขาตาหยาดเยิ้ม นอกจากหว่างคิ้วบางๆ แล้ว ก็ดูไม่ได้เมาเลย “เพิ่งมาถึงตอนค่ำๆ น่ะ”
“ครั้งนี้ได้เงินก้อนใหญ่อีกหรือเปล่า?”
นิ้วยาวๆ ของเขาจับใบหน้าของเธอเบาๆ “คุณคิดว่าสามีของคุณจนถึงขนาดที่จะดีใจที่ได้เงินก้อนเล็กๆ งั้นเหรอ?ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะมีแค่เงินก้อนเล็กๆ ก็ตาม”
เจียงหยุนเอ๋อพูดคำว่า “เชอะ” ออกมาอีกครั้งอย่างไม่ลังเล
ลี่จุนถิงมอง ตอนแรกตอนบ่ายเจียงหยุนเอ๋อยังอืดอาดยืดยาด เลยทำให้ลี่จุนถิงหยอกล้อ สุดท้ายเลยมีสติขึ้นมามาก เลยหัวเราะขึ้นมา จากนั้นดวงตาทั้งสองข้างก็มีแววขึ้นมา แววตาเขาดูเข้มมากกว่าเดิม สุดท้ายเลยนิ้วมือก็มาหยุดอยู่ตรงคางของเธอ จากนั้นก็โน้มเข้ามาใกล้ปากของเธอ
เธอรีบหลบอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอามือมาปิดปาก แล้วหายใจทางจมูกฟุดฟิด “ประธานลี่ ฉันป่วยหนัก ช่วงบ่ายที่คุณออกไปนั่นแหละ โชคไม่ดีเลยจริงๆ”
“ฉันรู้ คุณยังอยากจะปิดบังฉันด้วย แต่ลู่ฉวินบอกฉันแล้ว”
“คุณรู้แล้วทำไมคุณยังไม่บอกฉัน?”
ลี่จุนถิงหัวเราะเบาๆ ก่อนจะกดตัวเธอเอาไว้ แล้วกดมือของเธอเอาไว้ข้างกาย แล้วก็เอาปากกัดหูของเธอเบาๆ ก่อนจะกัดพลางพูดด้วยน้ำเสียงคลุมเครือ “คุณไม่อยากให้ฉันรู้ไม่ใช่เหรอ ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันช่วยคุณรักษา……”
จู่ๆ เจียงหยุนเอ๋อก็เริ่มคุมตัวเองไม่ได้ นี่เขากล้ามาตั้งใจเป่าลมใส่หูเธอเลยเหรอ!
ทุกอย่างหลังจากนั้นมันก็ราบรื่น ตอนแรกเขายังใส่ชุดอาบน้ำอยู่ เธอเองก็ใส่ชุดนอน แต่ว่าตอนนี้ไม่รู้ว่าไปไหนแล้ว
เมื่อเธอหลุดพ้นจากความสว่างไสวงดงามตระการตาแล้ว ก็เหนื่อยจนไม่อยากจะขยับนิ้วมือ ก่อนจะนอกอยู่ในอ้อมกอดของลี่จุนถิง ก็จำได้เพียงว่าลี่จุนถิงอุ้มเธอไปอาบน้ำ แล้วจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้แล้ว ก่อนจะหลับไป
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเมื่อคืนเหงื่อออกเพราะใช้แรงมาก วันที่สองที่เจียงหยุนเอ๋อตื่นขึ้นมา เลยหายใจสะดวกแล้ว หัวก็ไม่ได้ปวดเท่าไหร่แล้ว เธอกำลังหายใจเพื่อพิสูจน์นั้น ลี่จุนถิงก็ลืมตาขึ้นมามองเธอเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ หลับตาลง โดยที่มุมปากก็ยิ้มขึ้นเล็กน้อย
เจียงหยุนเอ๋อคิดถึงคำพูดของเขาเมื่อคืนวานขึ้นมาได้ หน้าเลยแดงก่ำ มันสามารถช่วยรักษาไข้หวัดได้จริงๆ เหรอ?
ตอนที่ตื่นขึ้นมาก็ตั้งใจลงมาจากเตียงทางด้านซ้าย ก่อนจะเหยียบเขาไปเต็มแรง ลี่จุนถิงลืมตาขึ้นมามองเธออย่างไร้อารมณ์ เหมือนรอให้เธออธิบาย เขามีแววตาที่สุกใส ไม่เหมือนคนที่เพิ่งตื่นนอน
เจียงหยุนเอ๋อยิ้มแย้มสวยงาม “ฝั่งคุณอยู่ใกล้ห้องน้ำไง”
พูดจบก็ไม่รอให้เขาตอบอะไรก่อนจะวิ่งไปที่ห้องอาบน้ำ
ระหว่างที่เถียงกัน เจียงหยุนเอ๋อไม่เคยดูถูกอะไรลี่จุนถิงเลย ก่อนหน้านี้เองก็ชนะไปหลายครั้ง แต่ว่าก็เป็นเพราะลี่จุนถิงยอมเธอต่างหาก
ลี่จุนซินหยิบนิตยสารมาอ่านให้เธอฟัง มีนักวิจารณ์ปากร้ายคนหนึ่งวิจารณ์ลี่จุนถิง แต่กลับชมขึ้นมา บอกว่าเขามองการตลาดขาด การปฏิบัติก็เฉียบแหลม ทำสิ่งต่างๆ ได้รวดเร็ว และดีงามไร้ที่ติ
หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อได้ยินดังนั้น ก็คิดว่านักวิจารณ์คนนี้พูดถูก ถึงแม้ว่าปกติลี่จุนถิงจะอ่อนโยนกับเธอ แต่ว่าการพูดนั้น ลี่จุนถิงอ่อนโยนกับเธอกว่านี้อีกหน่อยคงจะดี
หลังจากที่ทั้งสองคนเก็บของเสร็จ ก็ลงมากินข้าวด้วยกัน พวกโม่เสี่ยวฮุ่ยกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่แล้ว
เมื่อเห็นพวกเขาลงมา โม่เสี่ยวฮุ่ยก็รีบถามว่าตอนนี้เธอรู้สึกอย่างไรบ้าง อาการดีขึ้นหรือยัง เมื่อเธอพูดขึ้นมา เจียงหยุนเอ๋อก็หน้าแดงอย่างควบคุมไม่ได้ ลี่จุนถิงเองก็ยิ้มอยู่ทางด้านข้าง
โม่เสี่ยวฮุ่ยเห็นท่าทีของพวกเขาดังนั้น ก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น และก็ไม่ได้ถามต่อ