War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 2018
ตอนที่ 2,018 : สยบเวินเยี่ยน!

“หาที่ตาย!!”

เผชิญกับการยั่วยุครั้งแล้วครั้งเล่าของต้วนหลิงเทียน ในที่สุดเวินเยี่ยนก็มิอาจทนไหวสืบไป พลังทั่วร่างระเบิดปะทุออกมาดั่งเพลิงไฟ!

กลิ่นอายพลังเข้มแข็งของขอบเขตเซียนสวรรค์ 2เปลี่ยน แผ่พุ่งออกจากร่างเวินเยี่ยนมากดดันในบรรยากาศ พิสูจน์ให้ทุกคนรู้ ว่ามันร้ายกาจเพียงใด!

“ปฐมเวทย์กลืนกิน!”

แทบจะพร้อมๆกันกับที่พลังเวินเยี่ยนปะทุออก ต้วนหลิงเทียนก็ใช้เวทย์พลังสนับสนุนของเขาออกมาทันที

เพียงเวลาชั่วพริบตาวังวนที่อุบัติขึ้นรอบกายก็สูบกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบจนเหี้ยน!

“ปีกอีกาทองคำ!”

ต้วนหลิงเทียนไม่ลังเลไม่รอช้า ยามเมื่อพลังเซียนสุริยันทั่วร่างถูกยกระดับถึงขีดสุดด้วยปฐมเวทย์กลืนกิน เขาก็สำแดงเวทย์พลังเสริมท่าร่างออกมาอย่างต่อเนื่อง!

ปีกคู่หนึ่งอันลุกโชนไปด้วยเพลงไฟปรากฏขึ้นด้านหลังต้วนหลิงเทียนฉับไวปานอัสนีวาบลั่น!

และพริบตาดุจละอองไฟวาบ ปีกเพลิงคู่ดังกล่าวก็สะบัดลงอย่างแรง!

ทันใดนั้น!

ปง! ปง! ปง! ปง!

เสียงแตกระเบิดของอากาศดังขึ้นถี่ยิบ! ร่างต้วนหลิงเทียนพุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วอันน่ากลัว!!

แทบจะพร้อมกันกับที่เห็นต้วนหลิงเทียนทะยานออกมาด้วยความเร็วสูง เวินเยี่ยนก็พลิกข้อมือเล็กเรียกกระบี่ร้อยอาคมเซียนออกมากระชับถือไว้ เสือกกระบี่แทงจี้เข้าใส่ต้วนหลิงเทียนอย่างอำมหิต!

วู้มมม!!

ทันใดนั้นคนกระบี่คล้ายลำแสงเส้นหนึ่ง พุ่งทะยานแหวกฟ้าผ่าอากาศออกไปฉับไว คล้ายไม่ว่าปลายกระบี่ทะลวงผ่านที่ใดกระทั่งแรงต้านทานของอากาศก็ถูกเพิกเฉย! ความเร็วของการพุ่งทะลวงแทงครานี้ยังฉับไวยิ่งกว่าความเร็วในการพุ่งทะยานมาของต้วนหลิงเทียนเสียอีก!!

ในสายตาของศิษย์ชั้นยอดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ต้วนหลิงเทียนกับเวินเยี่ยนแทบจะคล้ายเป็นเงาเลือน!

อย่างไรก็ตามพวกมันยังพอสังเกตได้ว่าเวินเยี่ยนรวดเร็วกว่า!!

‘พลังฝีมือเวินเยี่ยนร้ายกาจจริงๆ!’

จังหวะนี้อดไม่ได้ที่เหล่าศิษย์ชั้นยอดจะลอบกล่าวอย่างลับๆ

“ด้วยพลังเพียงเท่านี้ เจ้ายังกล้าท้าข้าประลองเป็นตายงั้นหรือ!!”

เมื่อเห็นว่ากระบวนท่าของนางไวกว่าต้วนหลิงเทียน และกำลังจะเสือกกระบี่แทงอีกฝ่ายได้สำเร็จ เวินเยี่ยนก็อดยิ้มเย้ยกล่าวเยาะออกมาเสียไม่ได้

“กับพลังเพียงเท่านี้ แต่เจ้าไม่กล้ารับคำท้าประลองเป็นตายของข้างั้นเหรอ?”

ได้ยินวาจาของเวินเยี่ยน ต้วนหลิงเทียนพลันตอบโต้กลับไป ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความดูถูกรังเกียจ

“หาที่ตาย!!”

วาจาตอบคำของต้วนหลิงเทียน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแทบไม่ต่างอะไรจากราดรดน้ำมันลงกองไฟ! พาลให้เวินเยี่ยนยิ่งมีโมโหไปกันใหญ่ ชั่วพริบตาความเร็วในการทะลวงแทงกระบี่ร้อยอาคมเซียนของนางก็คล้ายจะเพิ่มพูนขึ้นเล็กน้อย!!

‘ได้เวลาจบเรื่องแล้ว…’

ในขณะที่กระบี่ร้อยอาคมเซียนในมือของเวินเยี่ยนเจียนบรรลุถึงตัว ต้วนหลิงเทียนก็ตัดสินใจลงมือ สองตาหดหยี ประกายเย็นเยือกแผ่พุ่งวูบวาบ

ฟั่ฟฟฟ!!

เสียงกระบี่ตวัดฉับไวปานหงส์ฟ้าทะยานผ่านนภาดังขึ้น!

สำหรับผู้ชมทั้งหมดที่อยู่ด้านล่าง พวกมันเพียงได้ยินเพียงเสียงกระบี่แหวกฝ่าอากาศ หากแต่ไม่เห็นว่าตวัดกระบี่อย่างไร

และแทบจะพร้อมกันกับที่เสียงตวัดกระบี่ดังขึ้น ร่างต้วนหลิงเทียนที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง ก็ชะงักหยุดลงทันที

“อ๊าาา…!”

แทบจะพร้อมกันกับที่ต้วนหลิงเทียนหยุดลง เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดพลันดังขึ้น มันโหยหวนกวนใจของทุกคนให้ประหลาดใจนัก!

เคร๊ง!

ขณะเดียวกัน พลันมีเสียงโลหะตกกระทบพื้นดังขึ้นสนั่น ดึงสติของทุกคนให้กลับมาเข้าร่างอีกครั้ง ต่างหันมองไปยังแหล่งกำเนิดเสียงทันที

“เฮ่ย! นะ…นั่นมันกระบี่ร้อยอาคมเซียนของศิษย์พี่หญิงเวินเยี่ยนนี่!!”

มองปราดเดียวเหล่าศิษย์ชั้นยอดที่อยู่ใกล้ๆจุดตกของวัตถุดังกล่าว ก็จดจำได้ทันทีว่ามันเป็นกระบี่ร้อยอาคมเซียนของเวินเยี่ยน!

ติ๋ง! ติ๋ง!

และทุกคนยังอดตกใจไม่ได้ เพราะข้างๆกระบี่ของเวินเยี่ยนยามนี้มันชุ่มโชกไปด้วยวงเลือดปานบุปผาเบ่งบาน

เมื่อเห็นฉากนี้สองตาทุกคนพลันเบิกกว้างขึ้นมาทันใด ทั้งหมดเร่งแหงนคอมองขึ้นไปยังร่างเวินเยี่ยนบนฟ้าทันที

เวินเยี่ยนลอยร่างอยู่ตรงนั้น ใบหน้าของนางซีดราวกระดาษ สองตาเผยประกายหวาดกลัวออกมาให้เห็นเด่นชัด

ตอนนี้เวินเยี่ยนคล้ายกระทั่งลืมเลือนที่จะหยุดเลือด

และตอนนี้มือข้างที่ถือกระบี่ของเวินเยี่ยน ก็ปรากฏรอยฟันอำมหิตลากยาวไปตามแนวเส้นเอ็นจากข้อมือไปถึงไหล่! แขนเสื้อตั้งแต่ปลายจนถึงไหลฉีกเผยแนวโลหิตอันสยดสยอง เห็นได้ชัดว่าบาดแผลนี้ลึกนัก ทั้งน่ากลัวนัก มันแทบจะผ่าแขนเวินเยี่ยนออกเป็น 2 ส่วน ทว่ากลับลงมืออย่างแยบคายถึงที่สุดเพียงทำร้ายจนสาหัสแต่ไม่ทำร้ายนางถึงพิการ!!

ชุดขาวบัดนี้ถูกโลหิตย้อมให้แดงฉาน! เลือดยังทะลักไหลร่วงตกฟ้าปานสายน้ำตก!!

ด้วยความเจ็บปวดเวินเยี่ยนในที่สุดก็ดึงสติกลับมาได้ มองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาหวาดผวา เร่งโคจรพลังห้ามเลือดยกใหญ่

ตอนนี้ในใจของนางเหลือเพียงความคิดเดียวเท่านั้น

โชคดีที่นางไม่ตอบรับคำท้าประลองเป็นตายของต้วนหลิงเทียนก่อนหน้า!

เพราะกระบี่เมื่อครู่ มันฉับไวเสียจนกระทั่งนางก็ไม่อาจมองเห็นอะไรได้เลย!

เป็นกระบี่ที่ว่องไวเหลือเชื่อ!

กระบี่นั่นไม่เพียงแต่จะสยบทำลายสภาวะเกรี้ยวกราดของกระบี่ร้อยอาคมเซียนของนางได้อย่างหมดจด ยังฟันแขนขวาของนางแทบจะแยกเป็นสองเสี่ยง ทิ้งรอยแผลลึกอันสยดสยองเอาไว้!

‘หากนี่เป็นการประลองเป็นตาย…กระบี่นั่นของมันคงฆ่าข้าไปแล้ว!’

เรื่องนี้เวินเยี่ยนไม่คิดจะสงสัยแม้แต่น้อย

กระบี่นั่นว่องไวเกินไป ว่องไวถึงขั้นนางไม่อาจเห็นแม้แต่เงากระบี่ด้วยซ้ำ!

กระบี่เมื่อครู่…เป็นอะไรที่นางไร้ซึ่งหนทางต่อต้านอย่างสิ้นเชิง!

อย่างน้อยๆก็ไม่ใช่อะไรที่ตัวนางในตอนนี้จะต้านทานได้!

ด้วยเหตุนี้ทำให้เวินเยี่ยนดีใจหนักหนา ที่ไม่ตอบรับคำทาประลองเป็นตายของต้วนหลิงเทียน!!

เพราะหากที่นี่เป็นสังเวียนเป็นตายล่ะก็ ต้วนหลิงเทียนคงไม่ลงมือเพียงแค่ฟันแขนนางจนบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้แน่ เพราะขอแค่กระบี่ตวัดลากยาวไปอีกสักฉื่อ ไม่ว่าจะลำคอหรือทรวงอกล้วนสามารถสับสะบั้นได้อย่างง่ายดาย!

ยิ่งนึกถึงกระบี่เมื่อครู่มากเท่าไหร่ เวินเยี่ยนก็ยิ่งหวาดกลัวมากเท่านั้น! เหงื่อเย็นไหลออกท่วมร่างสายตาที่มองต้วนหลิงเทียนแฝงไว้ด้วยความหวาดกลัวระคนดีใจ!!

“อะไร? เจ้ากำลังคิดอยู่หรือ…ว่าโชคดีแล้วที่ไม่ยอมรับคำท้าประลองเป็นตายของข้า?”

ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะแสยะยิ้มเย็น กล่าวออกด้วยน้ำเสียงค่อนแคะเมื่อเห็นสีหน้าแววตาของเวินเยี่ยน

หากได้ยินวาจาประโยคนี้ก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะฟันกระบี่เมื่อครู่ เวินเยี่ยนคงมีโทสะนัก กระทั่งอาจจะบันดาลโทสะลงมือไปอย่างไม่ยั้งคิด

แต่ทว่าตอนนี้นางปิดปากแน่น กระทั่งมีลมยังไม่กล้าผาย!

อย่างไรก็ตามลึกลงไปในแววตาของนาง ความเกลียดชังพลันลุกโชนขึ้นมาดั่งเพลิงไฟ เพียงแค่นางพยายามระงับมันเอาไว้เต็มกลืน!

ถึงแม้นางจะรู้ตัวดีว่าตอนนี้นางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของต้วนหลิงเทียน แต่นางไม่มีวันเลิกรากับต้วนหลิงเทียนแน่! ความอัปยศที่ต้วนหลิงเทียนยัดเยียดให้นางวันนี้ ต่อให้ตายนางก็ไม่มีวันลืม!!

ทน!

ตอนนี้นางต้องทนไว้! อย่างไรก็ต้องกล้ำกลืนฝืนทนเอาไว้ให้ได้!!

ฟุ่บ!

ภายใต้สายตาของทุกคน ร่างต้วนหลิงเทียนที่หยุดลอยอยู่เมื่อครู่พลันไหววูบ คนบรรลุถึงเบื้องหน้าเวินเยี่ยนในพริบตา!

ทันใดนั้นสีหน้าของเวินเยี่ยนก็เปลี่ยนไปทันที แต่นางไม่กล้าทำอะไรสืบต่อ

ใครจะไปรู้…หากนางเกิดเคลื่อนไหวต่อต้านอะไร ต้วนหลิงเทียนใช่จะยิ่งทุบตีทำร้ายทรมานนางหรือไม่? แม้ในลัทธิบูชาไฟจะมีกฏห้ามฆ่าหรือทำให้พิการ แต่ไม่ได้ห้ามทุบตีให้เจียนตาย!

“ไม่ใช่เมื่อครู่เจ้าบอกว่าจะค่อยๆทรมานข้าอย่างช้าๆหรอกหรือ?”

ต้วนหลิงเทียนมองเวินเยี่ยนด้วยสายตาไร้อารมณ์ กล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงเฉยเมยราวกับกล่าวเรื่องดินฟ้าอากาศ

สีหน้าเวินเยี่ยนเปลี่ยนไปอย่างหนัก แต่นางก็ไม่ตอบคำใด

เพี๊ยะ!!

เสียงตบถนัดถนี่ดังชัด! รอยมือแดงจ้ำช้ำเลือดพลันปรากฏขึ้น! เป็นต้วนหลิงเทียนที่เห็นเวินเยี่ยนเงียบไปไม่ตอบคำ เลือกที่จะตบหน้านางอีกข้าง พาลให้แก้มอีกข้างที่ยังอยู่ดี มีสภาพเหมือนกันกับอีกข้าง!!

ฟืด! ฟืด! ฟืด! ฟืด!

……

เห็นฉากดังกล่าวเหล่าศิษย์ชั้นยอดไม่เว้นอาวุโสเพลิงทองแดง ถึงกับสูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บ! พวกมันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าต้วนหลิงเทียนจะดุร้ายทั้งโหดเหี้ยมขนาดนี้ กล้าตบหน้าเวินเยี่ยนซ้ำ!!

อยู่ๆก็ถูกตบจนหน้าสั่นอีกรอบ เวินเยี่ยนยังรู้สึกสมองอื้ออึงไปบ้าง

เมื่อนางดึงสติกลับมา แววตาที่ใช้มองต้วนหลิงเทียนก็ทวีความเกลียดแค้นชิงชังถึงที่สุด สองตาจ้องมองต้วนหลิงเทียนอย่างเยียบเย็น

หากสายตาสามารถฆ่าคนได้ ไม่ทราบต้วนหลิงเทียนจะถูกเวินเยี่ยนฆ่าตายไปแล้วกี่รอบ

“อะไร ไม่พอใจงั้นเหรอ?”

สายตาของเวินเยี่ยนที่มองมานับว่าขัดหูขัดตาต้วนหลิงเทียนนัก โดยเฉพาะเมื่อเขานึกถึงเรื่องที่นางเป็นต้นเหตุทำให้ลูกเมียเขาถูกหอคุมกฏจับขัง ต้วนหลิงเทียนก็โมโหขึ้นมาไม่น้อย

ผัวะ!

คราวนี้ต้วนหลิงเทียนกล่าวไม่ทันขาดคำ ยังไม่รอให้เวินเยี่ยนตอบอะไร! เขาพลันสะบัดหลังมือฟาดหน้าเวินเยี่ยนอีกครั้ง จนหน้านางสะบัดไปอย่างแรง คอแทบหัก!

“ต้วนหลิงเทียน…เจ้าต้องเสียใจ! ข้ารับรองได้เลย!ว่าเจ้าต้องเสียใจกับเรื่องนี้!!”

ภายใต้สายตาของผู้คนกว่าพันในจัตุรัสกลาง เวินเยี่ยนที่ถูกต้วนหลิงเทียนหวดตบจนหน้าหันสองครั้งติดๆ รู้สึกเสมือนได้รับความอัปยศอดสูถึงที่สุด อับอายขายขี้หน้าถึงที่สุด! ราวกับโลกใบนี้ไม่มีอะไรทำให้นางต้องขายหน้ามากกว่านีอีกแล้ว! อดไม่ได้ที่จะคำรามออกมาด้วยน้ำเสียงเล็ดรอดไรฟัน!!

“เสียใจ? ทำไมข้าต้องเสียใจ?”

เพี๊ยะ!!

ต้วนหลิงเทียนแสยะยิ้มอำมหิต ก่อนที่จะสะบัดมือฉับไวตบหน้าเวินเยี่ยนจนหันไปอีกครั้ง!

ทว่าครั้งนี้คล้ายเวินเยี่ยนคล้ายได้รับบทเรียนจนรู้แจ้ง นางเลือกที่จะไม่หันหน้ากลับมาและค้างอยู่เช่นนั้น

แน่นอนหากใครสังเกตุให้ดีจะพบว่า…

ตอนนี้สองตาของเวินเยี่ยนฉายแววเกลียดชังอันไร้สินสุด ลูกตาของนางแทบจะถลนออกเบ้า ร่างบางแข็งเกร็งสะท้าน สั่นระริกไปทั้งตัว!

แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะเคียดแค้นชิงชังและมีโมโหมากมายเพียงใด เวินเยี่ยนก็ได้แต่ฝืนทนกล้ำกลืนเอาไว้

เพราะนางไม่อยากถูกตบอีกแล้ว!

“ไสหัวไป!!”

เมื่อเห็นเวินเยี่ยนถูกสยบจนไม่กล้าหืออืออะไรแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกขัดหูตานางเป็นที่สุด ถึงขั้นคร้านจะมองนางสืบต่อแม้วินาทีเดียว! ตวาดขับไล่นางออกไปเสียงเย็น เตรียมเหินร่างไปให้พ้นๆ

ท่ามกลางสายตาของผู้คน เมื่อได้ยินเสียงตวาดขับไล่ราวเห็นนางเป็นหมูหมาของต้วนหลิงเทียน เวินเยี่ยนก็ทำได้แค่กัดฟันจนหลั่งเลือด นิ่งเงียบไปไม่ตอบโต้

“อันดับ 9 ทำเนียบยอดฝีมือศิษย์ที่แท้จริง มันก็แค่นั้น!”

ก่อนเหินร่างจากไป ต้วนหลิงเทียนกล่าวคำเหยียดหยามอีกครั้งเป็นการทิ้งท้าย

ร่างเวินเยี่ยนแข็งเกร็งทั้งสะท้านขึ้นอีกครั้งทันใด

จนเมื่อต้วนหลิงเทียนเหินร่างจากไปสักพักแล้ว นางถึงได้ลงไปเก็บกระบี่ร้อยอาคมเซียนที่ตกอยู่ด้านล่างกลับมา ก่อนที่จะเร่งรุดจากไปทันที! ทุกขั้นตอนไม่แม้แต่จะมองหน้าสบตาใคร!!

อับอายขายขี้หน้าถึงเพียงนี้ นางจะยังสู้หน้าใครได้?ยังไม่อยากอยู่ที่นี่สืบต่อแม้วินาทีเดียว!

‘ต้วนหลิงเทียนข้าไม่มีวันปล่อยเจ้าไป! ไม่มีวัน! ข้าเวินเยี่ยนขอสาบาน หากไม่ฆ่าเจ้าให้ตายเยี่ยงสุนัขข้าไม่ขออยู่เป็นคน!!’

ขณะเหินร่างจากไป เวินเยี่ยนก็ได้แต่ตะโกนกู่ร้องในใจอย่างคับแค้น

หลังเวินเยี่ยนกับต้วนหลิงเทียนจากไปสักพัก ในที่สุดเหล่าศิษย์ชั้นยอดทั้งหลายก็คืนสติ ทุกผู้คนต่างหันมองสบตากัน ค่อยเห็นความประหวั่นพรั่นกลัวทั้งเหลือเชื่อในแววตาอีกฝ่าย

“พลังฝีมือของต้วนหลิงเทียน…มันร้ายกาจขนาดนี้เชียวหรือ?”

“ช่างน่ากลัวนัก! แค่กระบวนเดียวกลับปัดกระบี่ร้อยอาคมเซียนของเวินเยี่ยนจนกระเด็น กระทั่งทำให้นางได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนั้น”

“หากกระบี่เล่มนั้นไม่จงใจเล็งฟันไปที่แขนของเวินเยี่ยน แต่เปลี่ยนเป็นลำคอหรือทรวงอกขึ้นมาล่ะก็…นางได้ตายแน่!”

เหล่าศิษย์ชั้นยอดทั้งอาวุโสเพลิงทองแดงอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนกกับพลังฝีมือและความดุร้ายของต้วนหลิงเทียน

“ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ช่างโหดนัก! ไม่คิดเลยว่าจะกล้าตบหน้าเวินเยี่ยนซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนั้น หรือมันไม่รู้จริงๆว่าอาจารย์และศิษย์พี่ของเวินเยี่ยนคือใคร?”

ศิษย์ชั้นยอดบางคนกล่าวออกมาด้วยสีหน้าตื่นๆ